ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 179 จิตสังหาร
ตอนที่ 179 จิตสังหาร
พระชายาปฏิเสธในใจอย่างบ้างคลั่ง ทว่าสีหน้ากลับสงบนิ่ง “เหตุใดฝ่าบาทจึงอยากเชิญคุณหนูลั่วเข้าวังเล่าเพคะ”
คงไม่ใช่เพราะฝ่าบาทชอบคุณหนูลั่วหรอกนะ
พระชายารไม่กังวลเรื่องนี้แม้แต่น้อย
ในใจขององค์รัชทายาทมีเพียงท่านหญิงชิงหยางคนอายุสั้นผู้นั้น หากจะบอกว่าเขาเปลี่ยนใจไปรักสาวใช้ของท่านหญิงชิงหยางนางเชื่อ แต่การที่เขาจะชอบคุณหนูลั่วนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน
“ข้าขอให้คุณหนูลั่วช่วยข้าเรื่องหนึ่ง นาง…” เว่ยเชียงรู้สึกยากจะเอ่ยปาก “นางอยากเห็นว่าอวี้เสวี่ยนซื่อหน้าตาเป็นอย่างไร”
พระชายาตะลึง
ไม่รู้ว่าเพราะนอนไม่ค่อยดี สมองนางจึงตามไม่ทันหรือไม่
สองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันด้วยหรือ
เว่ยเชียงเห็นสีหน้ำพระชายาก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไร เขานึกหงุดหงิดในใจ
เขาเองก็รู้ว่ามันไร้สาระ แต่นั่นคือคุณหนูลั่วที่แม้แต่นายบำเรอก็เลี้ยง จะคาดเดาตามหลักการปกติไม่ได้ พระชายาช่วยเข้าใจหน่อยไม่ได้หรือ
เว่ยเชียงสีหน้าเคร่งขรึม พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พระชายาจำไว้ว่าต้องเชิญคุณหนูลั่วเข้าวังก็พอ ถึงครานั้นเรียกอวี้เสวี่ยนซื่อมาด้วย ให้คุณหนูลั่วได้เห็นก็ได้แล้ว”
“แต่เหตุใดคุณหนูลั่วจึงอยากเจออวี้เสวี่ยนซื่อเล่าเพคะ” พระชายาดูออกว่าเว่ยเชียงไม่อยากพูด แต่นางหักห้ามความอยากรู้ของตนไม่ได้
บางครั้งบางคราวไม่ปล่อยตามใจรัชทายาทบ้างก็ไม่เป็นไร
เว่ยเชียงหน้าขรึม คิดไม่ถึงว่าพระชายาจะไม่รู้ประสาเช่นนี้
แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่า แม้เขาจะไม่พูดตอนนี้ เมื่อคุณหนูลั่วและพระชายาพบหน้ากันแล้วเกรงว่าก็จะขุดออกมาพูดให้ได้อยู่ดี เช่นนั้นก็บอกไปเลยแล้วกัน
“คุณหนูลั่วชอบกำไลของเว่ยเหวิน ได้ยินว่ายังมีอีกวงหนึ่งที่อวี้เสวี่ยนซื่อก็เลยอยากมาเจอน่ะ”
“คุณหนูลั่วอยากขอกำไลวงนั้นต่อหน้าอวี้เสวี่ยนซื่อหรือเพคะ” พระชายาตกตะลึง
เว่ยเชียงเองก็ตะลึงไป
คุณหนูลั่วตั้งใจจะทำเช่นนี้หรอกหรือ
คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกกระมัง
เมื่อสงบอารมณ์ลง เว่ยเชียงก็ฝืนยิ้มกล่าว “พระชายาเข้าใจผิดแล้ว คุณหนูลั่วแค่ได้ยินว่ากำไลอีกวงหนึ่งอยู่ที่อวี้เสวี่ยนซื่อ นางแปลกใจจึงขอพบอวี้เสวี่ยนซื่อเท่านั้น”
“อย่างนี้นี่เอง” ใบหน้าพระชายาสงบนิ่ง ในใจกลับยิ้มหยัน
ทำไมรึ อยากเห็นหน้าอวี้เสวี่ยนซื่อว่างดงามเพียงใดถึงทำให้องค์รัชทายาทหลงใหลหรือ
สิ่งที่ต้องพูดก็พูดไปหมดแล้ว ตั๋วเงินก็ได้รับแล้ว เว่ยเชียงลุกขึ้น “ข้ายังมีธุระ พระชายาก็ทำธุระเถิด”
“น้อมส่งองค์ชาย” พระชายายอบเข่าลงเล็กน้อย
เมื่อเว่ยเชียงจากไป พระชายาก็เอนพิงฉากกั้น ไม่สามารถสงบอารมณ์ลงได้
อวี้เสวี่ยนซื่อ อวี้เสวี่ยนซื่ออีกแล้ว
องค์รัชทายาทมาหานาง สุดท้ายแล้วก็เพราะอวี้เสวี่ยนซื่อ
กระทั่งแม้แต่คุณหนูลั่วนั่นยังอยากเจออวี้เสวี่ยนซื่อ ต้องขอเข้าวังมาดูด้วยตนเอง
นี่มันมาดูอวี้เสวี่ยนซื่อที่ไหนกัน นี่มันตบหน้านางชัดๆ
ข่าวอวี้เสวี่ยนซื่อได้รับความโปรดปรานแพร่กระจายไปนอกวังแล้ว ทำให้นางผู้เป็นพระชายากลายเป็นตัวตลก
สาวใช้คนหนึ่งของท่านหญิงชิงหยางบังอาจเหยียบขึ้นศีรษะของนางผู้เป็นพระชายา…
พระชายายิ่งคิดยิ่งโมโห
ไม่รู้ผ่านไปนานเพียงใด หมัวหมัวผู้ภักดีมารายงานว่า “พระชายาเพคะ ทางหมอหลวงหวังมีข่าวแล้วเพคะ”
“เป็นอย่างไรบ้าง” พระชายากลับมามีสีหน้าดังเดิม ในใจทั้งประหม่าและคาดหวัง
จะว่าไปแล้ว หลายปีมานี้อวี้เสวี่ยนซื่อรู้จักวางตัวสำรวมตนเองดี ไม่ได้กำเริบเสิบสานต่อนาง
เดิมนางจะเมินเฉยต่อไปก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าช่วงนี้องค์รัชทายาทจะปฏิบัติต่ออวี้เสวี่ยนซื่ออย่างดีจนผิดปกติ
นอกจากนางซึ่งเป็นพระชายาและอวี้เสวี่ยนซื่อแล้ว รัชทายาทยังมีนางสนมอีกจำนวนหนึ่งที่ทยอยรับเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีนี้ ทั้งอายุน้อยและยังงดงาม
แต่หากจะให้พูดถึงความพิเศษของอวี้เสวี่ยนซื่อ หลายปีที่ผ่านมาองค์รัชทายาทต้องไปหานางทุกๆเดือน ไม่เหมือนนางสนมคนอื่นๆ ที่หลังจากผ่านช่วงแปลกใหม่ไปแล้วก็จะถูกทิ้งขว้าง
ทว่าช่วงนี้กลับไม่เหมือนเดิม นอกจากจู่ๆ จำนวนครั้งที่รัชทายาทไปหาอวี้เสวี่ยนซื่อจะเพิ่มมากขึ้นแล้ว แม้กระทั่งวันขึ้นหนึ่งค่ำยังต้องไปหา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อคืนที่เขาตั้งใจนำอาหารที่อวี้เสวี่ยนซื่อชอบจากนอกวังกลับมาให้
นี่คือรัชทายาท ไม่ใช่ผู้ชายทั่วไป
ตั้งใจเอาอกเอาใจสนมคนหนึ่งเช่นนี้ หากบอกว่าไม่ได้หวั่นไหวนางไม่เชื่อ
พระชายายื่นมือไปคลำหน้าท้องที่เรียบแบนของตน
แต่งงานกับรัชทายาทมาใกล้จะเข้าปีที่หกแล้ว นางมีเพียงหว่านเอ๋อร์บุตรสาวเพียงคนเดียว จากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดอีก
หากรัชทยาทหวั่นไหวกับอวี้เสวี่ยนซื่อจริงๆ เมื่ออวี้เสวี่ยนซื่อคลอดโอรสออกมานางก็ไม่คิดว่าตำแหน่งพระชายาจะมั่นคงอีกต่อไป
ไม่ หากรัชทายาทยังคงเป็นรัชทายาท ตำแหน่งพระชายาจะยังมั่นคงต่อไป แต่หลังจากรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์เล่า
พระชายาครุ่นคิดเช่นนี้ หัวใจดวงหนึ่งเหมือนกับจมอยู่ในสระน้ำเย็น
แต่คำพูดของหมัวหมัวผู้ภักดีกลับทำให้นางประหลาดใจมาก
“ทูลพระชายา หมอหลวงหวังบอกว่ายาเม็ดนั้นมีสรรพคุณห้ามครรภ์เพคะ” กุ้ยหมัวหมัวพูดเสร็จก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
อวี้เสวี่ยนซื่อเสียสติไปแล้วหรือ ด้วยความโปรดปรานขององค์รัชทายาท นางกลับคุมกำเนิด
“เหตุใดนาง… นางจึงทำเช่นนี้” พระชายาพึมพำ
กุ้ยหมัวหมัวให้คำตอบไม่ได้
ใครจะไปเข้าใจได้เล่า
เมื่อแก่ชราลงความรักก็ลดน้อยลง สตรีอาศัยลูกเพื่อสร้างความมั่นคง
สตรีที่ไม่มีลูก คิดว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่โดยอาศัยความโปรดปรานขององค์ชายไปตลอดชีวิตหรือ
“พระชายาเพคะ ทางชุ่ยหงนั่นล้มเลิกไปดีหรือไม่…”
สำหรับกุ้ยหมัวหมัวแล้ว สนมที่ไม่กำเนิดบุตร ไม่จำเป็นต้องกังวล
“ข้าขอคิดก่อน” พระชายาพิงฉากกั้น นวดหว่างคิ้วเบาๆ
ข่าวที่ได้รับมาจากหมอหลวงหวังทำให้แผนการของนางเละเทะไปหมด
เมื่อก่อน นางคิดว่าอวี้เสวี่ยนซื่อร่างกายอ่อนแอหรือไม่ก็เพราะสวรรค์มีตา ทำให้สตรีที่ได้รับความโปรดปรานจากรัชทายาทไม่สามารถมีบุตรได้
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะกินยาห้ามครรภ์
สิ่งที่นางเฝ้ารอคอยคือสิ่งที่นางสนมตัวน้อยๆ ไม่ต้องการ
ความคิดนี้ทำให้พระชายายิ่งโมโห ความโกรธของนางทวีคูณราวกับวัชพืชในฤดูใบไม้ผลิ ปกคลุมหัวใจของนางจนมืดมิด
ผ่านไปนาน พระชายาก็เอ่ยขึ้นทีละคำว่า “ไม่ ข้าจะฉวยโอกาสนี้กำจัดอี้เสวี่ยนซื่อเสีย!”
ความคิดของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อก่อนนางไม่เห็นอวี้เสวี่ยนซื่ออยู่ในสายตา แต่ตอนนี้กลับเกิดใจคิดสังหาร
ส่วนอวี้เสวี่ยนซื่อ ตอนนี้ไม่อยากมีลูก แต่ใครจะล่วงรู้อนาคตเล่า
สตรีเช่นนี้เมื่อเกิดความคิดที่จะแย่งชิงมักจะน่ากลัวนัก
แทนที่จะเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ สู้ฉวยโอกาสตอนนี้ขจัดอันตรายดีกว่า
“กุ้ยหมัวหมัว ให้คนไปบอกชุ่ยหงว่า…”
กุ้ยหมัวหมัวพยักหน้าไม่หยุด รับคำสั่งและจากไป
ยังคงเป็นข้างๆ ภูเขาจำลองลูกนั้น
ชุ่ยหงได้ยินคำสั่งของพระชายาจากนางกำนัล สีหน้าพลันหวาดวิตก “ให้… ให้ข้าเปิดโปงเสวี่ยนซื่อหรือ”
นางกำนัลยิ้มน้อยๆ “ยังมีใครเหมาะสมไปกว่าเจ้าอีกเล่า อวี้เสวี่ยนซื่อแอบกินยาห้ามครรภ์ สังหารเลือดเนื้อของเชื้อพระวงศ์เป็นบาปหนัก เจ้าเปิดโปงอวี้เสวี่ยนซื่อคือการสร้างความดีความชอบ สำหรับผู้มีความชอบแล้ว นายหญิงมีรางวัลให้แน่นอน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางกำนัลก็กดเสียงให้เบาลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหลอกล่อหลายส่วน “ชุ่ยหง เจ้าไม่อิจฉาอวี้เสวี่ยนซื่อหรือ จะว่าไปแล้ว ภูมิหลังของอวี้เสวี่ยนซื่อก็ไม่ได้สูงไปกว่าพวกเรา…”
ชุ่ยหงตื่นเต้นจนเสียงสั่น “เจ้าหมายความว่า พระชายาจะ จะ…”
นางกำนัลใช้นิ้วชี้ทาบลงบนปากของชุ่ยหง ส่ายศีรษะพูดว่า “อย่าเอ่ยถึงท่าน…”
ชุ่ยหงพยักหน้าหงึกๆ “ข้ารู้ ข้ารู้”
นางเด็กกว่าอวี้เสวี่ยนซื่อ อ่อนโยนและใส่ใจกว่าอวี้เสวี่ยนซื่อ หากมีโอกาส เหตุใดจะเป็นอวี้เสวี่ยนซื่อคนที่สองไม่ได้เล่า
นางกำนัลยิ้ม “ในเมื่อรู้แล้วก็รีบกลับไปเถอะ ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า”