ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 184 เหตุเกิด
ตอนที่ 184 เหตุเกิด
เว่ยเชียงเดินไปตามระเบียงทางเดินจนถึงที่พักของเฉาฮวา ยังคงถูกฝนที่สาดเฉียงเข้ามาทำให้ชายเสื้อเปียกชื้น
เมื่อเห็นเว่ยเชียงเดินตัวเปียกเข้ามา เฉาฮวาก็ตกใจ
“เหตุใดองค์ชายจึงมาตอนฝนตกเล่าเพคะ”
เว่ยเชียงจับมือของนาง รู้สึกเพียงว่ามือที่เล็กและบอบบางเย็นกว่าเม็ดฝนที่สาดกระทบใบหน้า
“ไม่อยากให้ข้ามาหรือ”
เฉาฮวารู้สึกได้ทันทีว่าชายคนนี้อารมณ์ไม่ดี นางยิ้มอ่อนโยน “มิใช่เพคะ แค่คิดไม่ถึงว่าองค์ชายจะมา”
นางพูดพลางช่วยเว่ยเชียงถอดชอดคลุมออกและส่งให้นางกำนัลคนหนึ่ง
นางกำนัลคนนั้นก็คือชุ่ยหง
นางกอดชุดคลุมที่เปียกชื้นไว้มองเว่ยเชียงจูงมือเฉาฮวาเข้าไปในห้อง ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอิจฉา
องค์รัชทายาทช่างโปรดปรานอวี้เสวี่ยนซื่อเสียจริง
อวี้เสวี่ยนซื่อมีดีตรงไหนกัน
แม้อวี้เสวี่ยนซื่อคือคนเก่าของจวนอ๋อง หน้าตางดงาม แต่นางก็อายุไม่น้อยแล้ว
วันนี้ชิงเอ๋อร์หวีผมให้อวี้เสวี่ยนซื่อยังดึงผมหงอกออกมาสองเส้น
หญิงอายุใกล้สามสิบ หากเป็นครอบครัวทั่วไปก็เป็นเวลาออกเรือนแล้ว แต่อวี้เสวี่ยนซื่อกลับได้ปรนนิบัติองค์ชายมากกว่าสนมคนใหม่เสียอีก ช่างไม่รู้จักอายจริงๆ
ชุ่ยหงยิ่งคิดก็ยิ่งอิจฉา
นางหน้าตางดงามโดดเด่น แม้จะด้อยกว่าอวี้เสวี่ยนซื่อเล็กน้อย แต่เรื่องอายุก็เพียงพอที่จะชดเชยได้
มิหนำซ้ำรูปร่างของนางและอวี้เสวี่ยนซื่อใกล้เคียงกัน เมื่อคิดถึงความโปรดปรานของรัชทายาท นางจึงยอมอดอาหารจนอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง
แต่มีอวี้เสวี่ยนซื่ออยู่ รัชทายาทไม่เคยมองนางเลย
ชุ่ยหงคิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็อดกอดชุดคลุมที่เปียกชื้นไม่ได้
“ชุ่ยหง ยืนเหม่ออยู่ทำไม”
ชุ่ยหงตั้งสติได้ก่อนส่งยิ้มให้ชิงเอ๋อร์ “ไม่มีอะไร แค่คิดไม่ถึงว่าข้างนอกฝนตกหนักขนาดนี้ องค์ชายยังเสด็จมา”
ชิงเอ๋อร์ยิ้มพูดว่า “มีอะไรน่าประหลาดใจกัน ใครให้เสวี่ยนซื่อของเราได้รับความโปรดปรานเล่า”
นายหญิงได้รับความโปรดปราน คนรอบตัวย่อมมีชีวิตสุขสบายไปด้วย
ไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่เรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ดีกว่านางสนมคนอื่นๆ เท่าไรไม่รู้
“นั่นน่ะสิ ได้รับความโปรดปรานนี่ดีจริงๆ” ชุ่ยหงพึมพำเสียงเบา
พวกนางมีพื้นเพต่ำต้อย อวี้เสวี่ยนซื่อกลับได้ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติและมั่งคั่ง ส่วนนางกลับต้องรับใช้เสวี่ยนซื่อที่เป็นสาวใช้คนหนึ่งอย่างระมัดระวัง ยังต้องกังวลว่าวันใดทำพลาดไปจะถูกลงโทษ
เป็นแค่คนรับใช้จะมีวันสบายใจที่ไหนกัน
นางไม่ได้ร้องขอความโปรดปรานอย่างอวี้เสวี่ยนซื่อ ขอแค่รัชทายาทยอมรับนางไว้ ให้นางมีคนคอยรับใช้เช่นนางสนมคนอื่นๆ ก็พอแล้ว
สวรรค์มอบหน้าตางดงามให้แก่นาง ความคิดเช่นนี้คงไม่มากเกินไปหรอกกระมัง
ชุ่ยหงเก็บชุดคลุมเสร็จ ก็ลูบแก้มเนียนขาวของตนเองเบาๆ
ข้างนอกพายุโหมกระหน่ำฝนสาดเทลงมา หัวใจล่องลอย บรรยากาศภายในห้องกลับอบอุ่นอย่างยิ่ง
อย่างน้อยเว่ยเชียงก็รู้สึกเช่นนี้
เขาสวมเพียงชุดซับในสีขาว หนุนศีรษะบนตักของเฉาฮวา ปล่อยให้มือของนางนวดคลึงศีรษะของเขา
น้ำหนักมือที่กำลังพอดีทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลาย เขาถอนหายใจพูดว่า “อาการปวดศีรษะของข้ายิ่งเป็นบ่อยขึ้นทุกที”
“ฝ่าบาทต้องดูแลสุขภาพด้วยนะเพคะ”
เว่ยเชียงไม่ได้ยินคำพูดเอาใจใส่มากมายนัก แต่กลับชินกับเฉาฮวาที่เป็นเช่นนี้แล้ว
ในใจของเขารู้ดีกว่าใครว่าคนที่เขาคิดถึงนั้นคือใคร
สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรักของเฉาฮวา แต่คือการอยู่เคียงข้างของนาง
หากเฉาฮวาลืมลั่วเอ๋อร์ไปแล้วจริงๆ กลายเป็นสตรีที่ชอบแก่งแย่งชิงดีคนหนึ่ง สำหรับเขาแล้วนางก็คงไม่ได้ต่างจากสตรีคนอื่น
“อวี้เหนียง”
เฉาฮวาขานรับ
“ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจึงจะรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง”
“เป็นเกียรติของหม่อมฉันเพคะ” เฉาฮวาหลุบตาลง นิ้วของนางเลื่อนจากหน้าผากลงไปที่ไหล่ และเริ่มนวดไหล่ของเขาเบาๆ
หากเลื่อนมือเข้าไปด้านในอีกก็จะสามารถจับถึงลำคอได้
ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่นางคิดว่าหากใช้แรงทั้งหมดที่มีจะสามารถบีบคอคนๆ นี้จนตายได้หรือไม่
แต่ว่าสุดท้ายก็ทำได้เพียงคิด
สายตาของเฉาฮวาหยุดอยู่ที่กำไลทองฝังอัญมณีเจ็ดสีบนข้อมือ
ขณะที่ข้อมือของนางขยับ กำไลของนางก็แกว่งไกวเล็กน้อย
นางโค้งริมฝีปากขึ้น รอยยิ้มขมขื่น
นางเฝ้าดูแลกำไลวงนี้ กำไลวงนี้เองก็กักขังนางไว้
ทำให้นางต้องตกอยู่ในนรก ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
หากซิ่วเย่ว์อยู่ที่มีหอสุราจริงๆ บางทีนางอาจจะหาโอกาสส่งกำไลให้ซิ่วเย่ว์
นางเฝ้ารักษามันมาสิบสองปีแล้ว เหนื่อยมากจริงๆ ให้น้องซิ่วเย่ว์รับหน้าที่ต่อจากนางเถอะ
ถึงครานั้น นางจะลองดูว่าจะสามารถพาชายคนนี้ไปด้วยได้หรือไม่ ลากเขาไปลงนรกเพื่อชดใช้กรรมต่อหน้าท่านหญิง
ชายที่นอนบนตักของนางนั้นรูปโฉมหล่อเหลาอย่างไม่ต้องสงสัย คิ้วคมราวกระบี่ดวงตาเปล่งกระกายราวกับดวงดารา
แต่ถึงเนื้อหนังจะดูดีอย่างไรก็ไม่สามารถปกปิดการกระทำอันน่าขยะแขยงได้
หากรักท่านหญิงขนาดนั้นจริงๆ เหตุใดจึงทำเรื่องไร้หัวใจเช่นนั้นลงไปได้
ในเมื่อทำเรื่องเช่นนั้นลงไป แล้วเหตุใดต้องทำท่าทางแสดงความรักเช่นนั้น
ขณะที่เฉาฮวาคิดเรื่องเหล่านี้ จู่ๆ น้ำหนักมือก็ลงหนัก
มือใหญ่ข้างหนึ่งจับมือของนางเอาไว้
“ฝ่าบาท?”
เว่ยเชียงไม่ได้พูดอะไร ดึงนางนอนลงมา
ไม่รู้ผ่านไปนานเพียงใด เสียงลมและฝนข้างนอกยังคงไม่หยุด เฉาฮวาเอ่ยเสียงเบา “ฝ่าบาท พระองค์ควรกลับไปพักผ่อนได้แล้วเพคะ”
เว่ยเชียงลืมตา เอ่ยอย่างเกียจคร้าน “คืนนี้ไม่ไปแล้ว”
เฉาฮวาหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
ไม่มีกฎห้ามรัชทายาทค้างคืนกับนางสนม แต่หลายปีมานี้ รัชทายาทไม่ค่อยค้างคืนที่นี่
บางครั้งนางถึงกับอดสงสัยไม่ได้ว่า ชายคนนี้คงไม่ได้จับได้ว่านางมีเจตนาฆ่าเขาจึงไม่กล้าค้างคืนหรอกนะ
“เช่นนั้นหม่อมฉันไปอาบน้ำนะเพคะ”
เว่ยเชียงพยักหน้า เหมือนกับว่าเหนื่อยแล้ว เขาจึงไม่ได้ลืมตา
เฉาฮวาเดินไปห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แช่น้ำในถังไม้พักใหญ่ก่อนจะกลับมา
เมื่อกลับมา ชายคนนั้นก็หลับลึกไปแล้ว เสียงลมหายใจดังยาวและมั่นคง
เฉาฮวานั่งลง มองเขาเงียบๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเว่ยเชียงหลับไปแล้วจริงๆ นางก็ดึงช่องลับที่หัวเตียงออกมา หยิบขวดกระเบื้องขนาดเล็กขวดหนึ่งออกมาอย่างเบามือ
ขวดกระเบื้องขนาดเล็กเรืองแสงเยือกเย็นภายใต้แสงเทียน แต่กลับเย็นไม่เท่าหัวใจของนาง
นางไม่กล้าเดิมพันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สิบสองปีมานี้ อันที่จริงนางเคยตั้งครรภ์ครั้งหนึ่ง
ครานั้นนางยังไม่ค่อยรู้ความ รู้แต่ว่าต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ก็ยังมีครรภ์อยู่ดี จนเมื่อระดูมาช้าไปสิบกว่าวันถึงตรวจรู้
นางยังจำความตื่นเต้นดีใจของชายคนนั้นได้
เขาลูบท้องของนาง เต็มไปด้วยความยินดีปรีดา
นางรู้ว่าเขายินดีเรื่องอะไร
ชายที่หลอกลวงตนเองและผู้อื่นผู้นี้เห็นลูกในท้องของนางเป็นลูกของเขาและท่านหญิง
ฝันไปเถอะ!
ลับหลังผู้อื่นนางพยายามทุบตีท้องตนสุดชีวิต ทำให้ตนเองแท้งทั้งอย่างนั้น นางต้องนอนบนเตียงหลายเดือนกว่าร่างกายจะฟื้นตัว
นางเจ็บใจ นางมีบาป
นางจะปล่อยให้ตนเองตั้งครรภ์อีกครั้งไม่ได้
เฉาฮวาเทยาเม็ดสองเม็ดออกมาและกลืนลงไป
เสียงร้องอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้น “เสวี่ยนซื่อ ท่านทำอะไรเจ้าคะ”
เฉาฮวารู้สึกเพียงเลือดสูบฉีดขึ้นมา หันมองไปตามเสียงด้วยร่างกายแข็งทื่อ
ชุ่ยหงโถมตัวเข้ามา จับมือของเฉาฮวาแน่น อุทานว่า “เสวี่ยนซื่อ ท่านกินยาซี้ซั้วได้อย่างไร!”
เสียงดังขนาดนี้ แม้แต่ชิงเอ๋อร์นางกำนัลอีกคนยังได้ยิน นางจึงรีบวิ่งเข้ามา
คนที่ตามหลังชิงเอ๋อร์มาคือคนรับใช้จำนวนหนึ่ง
เว่ยเชียงพลิกตัวขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วมองเฉาฮวาและชุ่ยหง น้ำเสียงเยือกเย็นจนน่ากลัว “เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ”
ชุ่ยหงคุกเข่าลงดังตุบ ชูขวดกระเบื้องที่แย่งมาจากมือของเฉาฮวา พูดเสียงดังว่า “ฝ่าบาท บ่าวเห็นว่าเสวี่ยนซื่อกำลังทานยา…”
เว่ยเชียงตัดบทนางอย่างไม่พอใจ “เสวี่ยนซื่อร่างกายอ่อนแอ แค่ทานยาบำรุงร่างกาย สาวใช้เยี่ยงเจ้าจะทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปทำไม”
“ฝ่าบาท เสวี่ยนซื่อทานยาตัวนี้ทุกครั้งหลังจากที่ปรนนิบัติพระองค์เพคะ!”