ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 185 กำเริบ
ตอนที่ 185 กำเริบ
เว่ยเชียงนัยน์ตาขรึมลงทันทีที่ได้ยินคำพูดของชุ่ยหง
ยาที่กินหลังจากปรนนิบัติเขาทุกครั้ง?
“อวี้เหนียง นี่คือยาอะไร” เว่ยเชียงมองสตรีที่สีหน้าขาวซีด ถามด้วยเสียงราบเรียบ
เฉาฮวาคุกเข่าลง เล็บจิกฝ่ามือแน่น
เว่ยเชียงหลุบตามองลำคอยาวระหงของนาง
เปราะบางเช่นนั้น ราวกับแค่บีบเบาๆ ก็หักได้
“คือยาอะไรกันแน่” การที่เฉาฮวาไม่พูดยิ่งทำให้น้ำเสียงเว่ยเชียงเย็นชา
ไม่รู้ผ่านไปนานเพียงใดก็ได้ยินสตรีที่หมอบกับพื้นพูดเสียงเบาว่า “ยาห้ามครรภ์เพคะ”
ทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้น เสียงอุทานก็ดังจากทั่วสารทิศ ชุ่ยหงเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นางคิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องส่งให้หมอหลวงตรวจสอบก่อน ทำให้อวี้เสวี่ยนซื่อโต้เถียงไม่ได้
คิดไม่ถึงเลยว่าอวี้เสวี่ยนซื่อจะยอมรับง่ายๆ เช่นนี้
เฉาฮวาคุกเข่าบนพื้นที่เย็นยะเยือก ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
นางแอบกินยาห้ามครรภ์จนถูกชุ่ยหงจับได้ รัชทายาทเองก็อยู่ตรงหน้า
หากไม่ยอมรับ รัชทายาทเรียกหมอหลวงมาตรวจ รู้ความจริงแล้วมีแต่จะยิ่งโมโหกว่าเดิม
แทนที่จะเป็นเช่นนี้ สู้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า อย่างน้อยก็มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า
หลังจากที่เว่ยเชียงได้ยินคำว่า ‘ยาห้ามครรภ์’ เพลิงแห่งความเดือดดาลก็ลุกโชน ทำเอาเขาปวดศีรษะแทบจะระเบิด
เขาเดินไปข้างหน้าเฉาฮวา คว้านางขึ้นมา เค้นถามเสียงเข้มว่า “ยาห้ามครรภ์รึ เหตุใดเจ้าต้องกินยาห้ามครรภ์ด้วย”
เฉาฮวาก้มหน้าไม่พูดจา
บ่าวรับใช้ที่นี่มีประมาณสิบกว่าคน บัดนี้ล้วนตื่นตระหนก
เว่ยเชียงมองพวกเขาด้วยสายตาเยือกเย็น ตะคอกว่า “พวกเจ้าออกไปให้หมด!”
บ่าวรับใช้ทุกคนออกไปอย่างรวดเร็ว ในห้องเหลือเพียงสองคน
“เหตุใดเจ้าจึงกินยาห้ามครรภ์” เส้นเลือดข้างขมับของเว่ยเชียงปูดนูน เขากัดฟันถาม
หลายปีมานี้ เขาเฝ้ารอคอยที่จะได้มีลูกกับอวี้เหนียง
อวี้เหนียงคือหนึ่งในสาวใช้ที่ลั่วเอ๋อร์ชอบมากที่สุด ลูกของนางลั่วเอ๋อร์จะต้องชอบแน่นอน
แต่ว่าหญิงผู้นี้กลับกินยาห้ามครรภ์!
เว่ยเชียงยิ่งคิดยิ่งโมโห บีบข้อมือของเฉาฮวาแน่นจนนางเจ็บ
เฉาฮวาน้ำตาไหล ในที่สุดก็เอ่ยปาก “หม่อมฉันกลัวท่านหญิงจะกล่าวโทษหม่อมฉัน… ”
เว่ยเชียงม่านตาหดเล็กลง “เจ้าหมายความว่าลั่วเอ๋อร์โกรธแค้นข้ารึ”
เฉาฮวาเงียบ
“พูดมาสิ ลั่วเอ๋อร์เกลียดข้าใช่หรือไม่ เจ้าก็เลยไม่อยากมีลูกกับข้า” เว่ยเชียงบีบคั้นคำตอบจากหญิงสาวร่างกายอ่อนแอสีหน้าซีดขาวอย่างโมโห ลืมความรักใคร่ไปจนหมดสิ้น
บัดนี้เขารู้สึกเพียงโมโหและหวาดกลัว
เขาโมโหที่หญิงคนนี้หลอกลวงตน หวาดกลัวว่าลั่วเอ๋อร์จะไม่อภัยให้เขา
“ลั่วเอ๋อร์เคยเข้าฝันเจ้าใช่หรือไม่ บอกว่าห้ามเจ้ามีลูกกับข้า”
หากเป็นเช่นนี้ ในขณะที่ลั่วเอ๋อร์เกลียดเขาก็คงใส่ใจเขาเช่นกันสินะ
เฉาฮวาปิดหน้า ร้องไห้พูดว่า “เปล่าเพคะ ท่านหญิงไม่เคยเข้าฝันหม่อมฉัน หม่อมฉันแค่คิดว่าท่านหญิงกำลังโทษหม่อมฉัน…”
“พอแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดอีก! พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าย้ายออกจากอวี้หลังไจเสีย” เว่ยเชียงทนฟังต่อไปไม่ได้อีก เขาผลักเฉาฮวาออกไป เดินจ้ำอ้าวออกไปข้างนอก
บ่าวรับใช้คุกเข่าอยู่นอกประตู หวาดกลัวจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆ
เว่ยเชียงกวาดตามอง สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดที่ร่างชุ่ยหง
ชุ่ยหงก้มหน้า เรียกเสียงสั่น “ฝ่าบาท…”
เว่ยเชียงถีบเข้าที่หน้าอกของนางก่อนจะเดินจ้ำอ้าวจากไป
ข่าวรัชทายาทลงโทษอวี้เสวี่ยนซื่อและสั่งให้ออกจากอวี้หลังไจแพร่สะพัดไปทั่ววังบูรพาอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก
บรรดาท่านอาที่ดูแลกิจการภายในของวังบูรพาเชิญเฉาฮวาออกจากอวี้หลังไจแต่เช้าตรู่ ส่งนางไปยังที่ที่ห่างไกลไม่ขัดหูขัดตาองค์รัชทายาท
ส่วนบ่าวรับใช้ของอวี้หลังไจก็เหลือสองสามคนไว้เฝ้าเรือน ที่เหลือถูกจัดสรรหน้าที่ใหม่
“อะไรนะ ให้ข้ารับใช้อวี้เสวี่ยนซื่อต่อไปหรือ” เมื่อได้ยินข่าวนี้ ชุ่ยหงตะลึงจนปวดหัวใจ
แรงถีบของรัชทายาทเมื่อคืนไม่เบาเลย
นางกำนัลที่มาส่งข่าวปลอบใจเบาๆ “เจ้าเปิดโปงอวี้เสวี่ยนซื่อ ครานี้ฝ่าบาทย่อมโมโหเจ้าไปด้วย หากพระชายาจัดแจงให้เจ้าไปรับใช้ฝ่าบาท เกรงว่าจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม”
ชุ่ยหงได้ยินดังนั้นก็ร้อนรน “แต่ว่า…”
“ไม่ต้องแต่แล้ว พระชายาบอกแล้วว่าเจ้ารับใช้อวี้เสวี่ยนซื่อไปก่อน เมื่อรัชทายาทหายโกรธแล้วจะจัดการให้เจ้าเอง”
“แต่ข้าเปิดโปงอวี้เสวี่ยนซื่อแล้วจะรับใช้นางต่อไปได้อย่างไร”
นางกำนัลยิ้ม “เพราะเป็นเช่นนี้ เจ้าจึงเหมาะสมอย่างไรเล่า อย่าลืมสิ อวี้เสวี่ยนซื่อในตอนนี้ไม่ใช่อวี้เสวี่ยนซื่อในอดีตแล้ว”
ชุ่ยหงชะงัก
นางกำนัลชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หูของชุ่ยหงแล้วเอ่ยกระซิบว่า “อวี้เสวี่ยนซื่อร่างกายอ่อนแอ แต่ใฝ่สูงทนถูกรังแกไม่ได้ หากเจ้าฉวยโอกาสนี้… ความรุ่งโรจน์และความร่ำรวยย่อมเป็นของเจ้าแน่นอน”
ชุ่ยหงใจเต้นแรง พยักหน้าช้าๆ
นางสร้างความบาดหมางอย่างรุนแรงกับอวี้เสวี่ยนซื่อ แม้พระชายาจะไม่ได้บอกใบ้ นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
นางต้องตาย ข้าถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อได้
เมื่อพระชายาทราบข่าวก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ “หมายความว่านางกำนัลที่รับใช้อวี้เสวี่ยนซื่อเหลือเพียงสองคนหรือ”
หมัวหมัวผู้ภักดีตอบ “เพคะ คนหนึ่งคือชุ่ยหง อีกคนชื่อชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์คนนั้นดูภักดีต่ออวี้เสวี่ยนซื่อมากทีเดียว”
พระชายายิ้มหยัน “ความภักดีนั้นอยู่ได้ไม่นาน มิหนำซ้ำนางจะอยู่ถึงความภักดีหมดไปหรือไม่ยังพูดยาก”
เมื่อสูญเสียความรักจากรัชทายาท อวี้เสวี่ยนซื่อก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
คำพูดแย่ๆ ก็ราวกับคมมีด
นังสารเลวที่แค่ลมพัดก็ล้มนั่น มีสาวใช้ชั่วร้ายอย่างชุ่ยหงคอยทรมาน หากนางมีชีวิตอยู่จนถึงฤดูใบไม้ร่วงได้ก็โชคดีแล้ว
พระชายารู้สึกว่าในที่สุดความอัดอั้นในใจก็ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุด นางจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย ก้าวเท้าไปยังที่พักใหม่ของเฉาฮวา
เรือนหลังเล็กที่อยู่ห่างไกลหลังนี้ ชายคาบ้านต่ำ ยากที่จะได้พบเจอแสงแดด
ชุ่ยหงและชิงเอ๋อร์กำลังทะเลาะกัน
“เหตุใดเจ้าต้องเปิดโปงเสวี่ยนซื่อด้วย ตอนนี้สิดี เสวี่ยนซื่อตกระกำลำบากแล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อะไร!”
“ชิงเอ๋อร์ เจ้าพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก เรารับใช้เสวี่ยนซื่อเพราะนางเป็นคนขององค์ชาย เจ้านายที่แท้จริงของเราคือรัชทายาทและพระชายา เสวี่ยนซื่อสังหารเลือดเนื้อของเชื้อพระวงศ์เป็นบาปใหญ่หลวง หรือว่าเจ้าจะให้ข้าปกป้องนาง กระทำความผิดไปด้วย”
“เจ้า…” ชิงเอ๋อร์โมโห แต่เถียงกลับไม่ได้
เสียงกระแอมไอเสียงหนึ่งดังขึ้น
“พวกเจ้าสองคนทะเลาะอะไรกัน ยังไม่ถวายพระพรพระชายาอีก”
ทั้งสองหันไปพร้อมกัน ย่อเข่าให้พระชายาที่เดินเข้ามา
“อวี้เสวี่ยนซื่อเล่า”
“ทูลพระชายา เสวี่ยนซื่ออยู่ในห้องเพคะ หม่อมฉันจะไปเรียก…”
“ไม่เป็นไร” พระชายาส่งสัญญาณให้ชุ่ยหงและชิงเอ๋อร์อยู่ข้างนอก ส่วนนางพานางกำนัลสองคนเดินเข้าไป
ในห้องมืดสลัว บรรยากาศหนักอึ้งไร้ชีวิตชีวา
พระชายาพึงพอใจกับบรรยากาศเช่นนี้มาก
ในอดีตอวี้เสวี่ยนซื่อใช้ชีวิตสุขสบายกว่านางซึ่งเป็นพระชายารัชทายาทผู้นี้เสียอีก
เป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่งไม่กลัวอายุสั้นหรืออย่างไร
“ถวายพระพรพระชายาเพคะ” เฉาฮวาย่อเข่าคารวะ
พระชายามองเฉาฮวาครู่หนึ่งแล้วยิ้มหยัน “อวี้เสวี่ยนซื่อ เจ้าสังหารเลือดเนื้อขององค์รัชทายาท รู้หรือไม่ว่ามีโทษประหาร”
เฉาฮวาเปลี่ยนจากย่อเข่าเป็นคุกเข่าลง พูดด้วยน้ำเสียงถ่อมตัว “หม่อมฉันมีความผิด”
พระชายาหรี่ตาลงเล็กน้อย
ถึงขั้นนี้แล้ว นังสารเลวนี่ยังอดกลั้นได้อีก
สาวใช้ไม่เหมือนสาวใช้ ท่านหญิงชิงหยางสั่งสอนมาอย่างไรกันนะ
พระชายายกเท้าขึ้น เชิดคางของเฉาฮวาขึ้นด้วยรองเท้าปักประดับไข่มุกพลางหัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “อวี้เสวี่ยนซื่อคือคนในดวงใจของฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่ประสงค์ลงโทษ ข้าผู้เป็นพระชายาย่อมไม่ลงโทษ อวี้เสวี่ยนซื่อวางใจเถิด”