ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 244 ข้ามีประสบการณ์
ตอนที่ 244 ข้ามีประสบการณ์
เว่ยหานอุ้มลั่วเฉินด้วยความระมัดระวัง
บนพื้นมีรอยเลือดอยู่เล็กน้อย เมื่ออยู่บนพื้นหินที่มีแสงจันทร์สาดส่องจึงดูน่าตกใจไม่น้อย
หลายคนมองหาจุดที่เลือดออก เห็นว่ามีกิ่งไม้เสียบอยู่ที่ก้นของเด็กหนุ่มจึงพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทิ่มโดนที่ก้นก็ยังดี ที่ก้นมีเนื้อหนา อย่างมากก็แค่มีรอยแผลเป็น ต่อไปนอกจากภรรยาแล้วก็คงไม่มีคนเห็น
หากเกิดไปทิ่มถูกเอว… ผลที่ตามมาคงยากจะคาดเดา
แต่ลั่วเฉินหมดสติไปแล้ว ที่น่ากลัวคือบาดเจ็บถึงศีรษะ ลั่วเซิงเลยตัดสินใจไปเชิญหมอเทวดาหลี่ด้วยตนเอง
โมงยามนี้ ข้อดีของการมีโรงหมอมาเปิดอยู่ตรงข้ามหอสุราเป็นเช่นไร นางรับรู้ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว
ลั่วเซิงเดินไปฝั่งตรงข้าม ยกมือเคาะประตู
แต่นานฝูหลิงที่เป็นเด็กเฝ้าประตูก็มาเปิด เขาถามด้วยความรำคาญว่า “ใครน่ะ”
เมื่อได้เห็นใบหน้าที่สลักลึกอยู่ในความทรงจำ เด็กเฝ้าประตูก็ตาสว่างทันที เขาเอ่ยเสียงหลงว่า “คุณหนูลั่ว?”
“หมอเทวดาอยู่หรือไม่” ลั่วเซิงไม่มีแก่ใจจะพูดอะไรที่ไม่จำเป็น นางเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เอ่อ อยู่…”
ไม่รอให้เด็กเฝ้าประตูพูดจบ ลั่วเซิงยกเท้าเดินเข้าไปทันที
นี่ก็ไม่เกรงใจกันไปหน่อยกระมัง
ฝูหลิงมองแผ่นหลังเด็กสาวแล้วได้แต่ทำแก้มป่องด้วยความโกรธ แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร
หมอหวังกำลังนั่งจัดการสมุนไพรอยู่ที่โต๊ะยา พอได้ยินเสียงจึงเงยหน้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นลั่วเซิงก็ถึงกับตาค้าง “คุณ คุณหนูลั่ว?”
นี่ไม่ใช่คนที่เล่นงานเขาจนถูกคนล้อมจะสังหาร สุดท้ายต้องมาตกเป็นกุลีใช้แรงงานให้หมอเทวดาอยู่ที่นี่หรอกหรือ!
“หมอหวังก็อยู่ด้วยหรือนี่” ลั่วเซิงกวาดมองไปรอบๆ พลามถามว่า “หมอเทวดาเล่า”
“หมอเทวดาอยู่ที่ห้องปรุงยา”
“รบกวนหมอหวังไปเชิญหมอเทวดามาให้ข้าที”
“คือ…” หมอหวังดูลังเล
ตอนหมอเทวดาอยู่ในห้องปรุงยา เขาไม่ชอบให้คนไปรบกวนที่สุดแล้ว
ตอนเขายังไม่รู้นิสัยของหมอเทวดา เคยเข้าไปรบกวนครั้งหนึ่ง เลยถูกลงโทษให้บดยาเม็ดไปสองวันสองคืนเลยทีเดียว
ช่างน่าสงสารเขาที่อายุปูนนี้แล้ว ต้องมามีกลิ่นยาติดตัวล้างอย่างไรก็ล้างไม่ออก เล่นเอาเขาสงสัยว่าตนกลายเป็นกระสายยาไปเลยทีเดียว
“แม่นางน้อยมีเรื่องอะไรหรือ” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังประตู หมอเทวดาหลี่เดินเอามือไพล่หลังออกมา
ลั่วเซิงรีบย่อเข่าลง “น้องชายข้าถูกกระแทกจนหมดสติไปจึงกลัวว่าจะบาดเจ็บถึงศีรษะ รบกวนหมอเทวดาช่วยไปดูให้ทีเถิดเจ้าค่ะ”
หมอหวังได้ยินก็ลอบส่ายหน้า
เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ถึงกับมาเชิญหมอเทวดาเชียวหรือ
แม่นางน้อยอย่างไรก็อายุยังน้อย ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำสินะ
เด็กเฝ้าประตูก็ลอบเบ้ปากเช่นกัน
คิดว่าเชิญหมอเทวดาไปได้สองครั้งแล้วจะสามารถเรียกใช้เป็นหมอประจำได้จริงๆ น่ะหรือ
ถ้าจะเสียเวลากับเรื่องนี้ สู้เชิญหมอหวังไปเลยยังจะดีกว่า
“ไปเถิด เสี่ยวหวัง เอาหีบยาข้าไปด้วย”
หมอหวังที่ถูกเรียกว่า ‘เสี่ยวหวัง’ ถึงกับตาโตอ้าปากค้าง
เรียกตนว่าเสี่ยวหวังตนชินเสียแล้ว แต่ที่ตกใจก็คือหมอเทวดาถึงขั้นรับปากเร็วเพียงนี้
รับปากแล้ว!
ไม่ได้มีแรงงานอย่างเขาให้เรียกใช้หรอกหรือ หมอเทวดาทำเช่นนี้ไม่ถือตัวเอาเสียเลย
เด็กเฝ้าประตูก็ตาค้างไปเหมือนกัน
คุณหนูลั่วคงไม่ใช่หลานสาวแท้ๆ ของหมอเทวดาที่พลัดพรากกันไปหลายปีหรอกกระมัง
ไม่สิ หมอเทวดาเคยบอกว่าให้หมอหวังเป็นหลานเขายังนับว่าอายุน้อยไปอยู่เลย
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่หลังจากนี้แค่จำไว้ว่าห้ามมีเรื่องกับคุณหนูลั่วก็พอ
ลั่วเซิงพาหมอเทวดาหลี่เข้าหอสุราทางประตูหลัง
ระหว่างทางหมอเทวดาหลี่ถามว่า “ถูกอะไรกระแทกเข้าล่ะ”
“สหายนะเจ้าค่ะ”
“หือ?” หมอเทวดาหลี่คิดว่าฟังผิดไป
ลั่วเซิงอธิบายว่า “ก็คือเสี่ยวชีที่ท่านเจอในห้องโถงเมื่อครู่นั่นแหละ เขาตกลงมาจากต้นไม้ มาทับถูกน้องชายข้าเข้า…”
ได้ยินลั่วเซิงเล่าที่มาที่ไปให้ฟังจนจบ หมอเทวดาหลี่ก็รู้สึกดีต่อเด็กหนุ่มผิวขาวราวกับหยกผู้นั้นขึ้นมาหลายส่วน
คนอายุเท่าเขา พบเจอคนมามากเกินไป พบเจอเรื่องราวมายิ่งมากกว่า มีหลายสิ่งที่เห็นจนชาชินเสียแล้ว และยังคงเห็นคุณค่ากับสิ่งเรียบง่าย นั่นก็คือคุณภาพที่งดงาม
เช่นนั้นพอยิ่งอายุมาก ยิ่งรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมสิ่งล้ำค่าให้มากขึ้น
ลั่วเฉินถูกพาไปยังห้องทางตะวันตกแล้ว เวลานี้ทั้งในห้องนอกห้องมีคนอยู่หลายคน บรรยากาศดูตึงเครียด
“ลั่วเฉินได้สติหรือไม่” พอเห็นหน้าเว่ยหาน ลั่วเซิงก็หลุดปากถามออกไปทันที
“ยังเลย” เว่ยหานเบี่ยงตัวแล้วสละที่ของตนให้
หมอเทวดาหลี่เข้ามาตรวจดูแล้วสั่งหมอหวังให้เปิดหีบยาแล้วกางเข็มเงินออก
หนึ่งเข็มฝังลงไป เด็กหนุ่มค่อยๆ รู้สึกตัว
พอได้สติก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่โจมตีไปทั่วร่าง เนื้อตัวของเขาคล้ายถูกล้อรถบดทับมา
เหงื่อจากความเจ็บปวดไหลลงมาจากหน้าผาก สีหน้าซีดขาวยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“เจ็บศีรษะหรือไม่” หมอเทวดาหลี่ถาม
ลั่วเฉินขมวดคิ้วสำรวจตัวเองอยู่พักหนึ่งก็ส่ายหน้า “ศีรษะไม่เจ็บ แค่มึนๆ เล็กน้อย”
เขารู้สึกเจ็บที่ก้น แต่กระนั้นก็ไม่กล้าพูดออกไป
“พูดจาลื่นไหล สติแจ่มชัด เวลานี้ดูแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร” หมอเทวดาหลี่หันไปบอกลั่วเซิงแล้วจึงเอ่ยเรียบๆ ว่า “เสี่ยวหวัง ไอ้ที่เสียบอยู่ตรงก้นคุณชายลั่ว เจ้ามาดึงออกแล้วทำแผลที”
หมอหวังก้มหน้าตอบรับแล้วก้าวเข้าไป
“ช้าก่อน…” ลั่วเฉินตะโกนขึ้นมา อดหันไปมองลั่วเซิงไม่ได้
ลั่วเซิงปลอบเขาว่า “ไม่ต้องกลัว ตรงนั้นของเจ้ามีกิ่งไม้ทิ่มอยู่ ดึงออกมาทำแผลก็ไม่เป็นไรแล้ว”
ลั่วเฉินไม่รู้สึกได้รับการปลอบโยนสักนิด
เขากลัวงั้นหรือ
เขารู้สึกขายหน้าต่างหาก!
มิน่าเล่าถึงรู้สึกเจ็บที่ก้น มิน่าเล่าเขาตื่นมาแล้วถึงรู้ว่าตนนอนคว่ำอยู่
ลั่วเฉินถลึงตาดุมองหมอหวังที่ขยับเข้ามาใกล้
จะให้ตาแก่ที่ไม่รู้จักนี่มาเห็นก้นของเขาหรือ
“เอาล่ะ คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมดเถิด” หมอเทวดาหลี่เดินนำออกไปข้างนอกก่อน
เรื่องทำแผลภายนอกเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ไม่ต้องให้เขาลงมือเอง อย่างมากแค่ทิ้งยาชั้นดีไว้ให้เพราะเห็นแก่หน้านังหนูลั่วก็พอ
พอเห็นว่าคนยังไม่ทันเดินออกไปหมด หมอหวังก็ยื่นกรงเล็บมารมาแล้ว ลั่วเฉินเลยรีบเรียกออกไปว่า “ท่านพี่!”
ลั่วเซิงพลันหยุดเดิน หันกลับมาถามว่า “มีอะไรหรือ”
เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก ใบหูแดงเล็กน้อย “ข้าไม่อยากให้เขาทำแผลให้ข้า”
ลั่วเซิงยกมือลูบศีรษะเด็กหนุ่มพลางทำหน้าจริงจัง “ลั่วเฉิน ไม่ทำตามที่หมอบอกไม่ได้นะ”
เด็กหนุ่มหันหน้าหนี ฉายแววดื้อรั้นหลายส่วน “ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อยาก”
นั่นใช่ที่อื่นหรือ นั่นเป็นก้นของเขาเชียวนะ จะให้ใครก็ได้มาเห็นได้อย่างไร!
เมื่อคิดถึงความมีน้ำใจที่เด็กหนุ่มมีให้ ซ้ำร่างกายอีกฝ่ายยังรู้สึกไม่สบายตัวจริงๆ ลั่วเซิงคิดแล้วจึงเอ่ยอย่างใจดีว่า “หรือให้ข้าทำให้”
เมื่อเอ่ยออกไปเช่นนี้ สายตาหลายคู่จึงมองมาทันที
หนึ่งในนั้นสายตาของเว่ยหานดูล้ำลึกที่สุด
ถึงแม้จะรู้ว่าคุณหนูลั่วไม่เคร่งครัดในเรื่องเล็กน้อย แต่การจะเห็นก้นเด็กหนุ่ม…จะไม่ค่อยดีหรือไม่
เมื่อคิดเช่นนี้ เว่ยหานเลยหันไปมองเสี่ยวชี
เขาจำได้ว่าคุณหนูลั่วยังเคยเห็นก้นของเสี่ยวชีด้วย
ยิ่งเขาคิดสายตาก็ยิ่งล้ำลึกจนคล้ายมีคลื่นสีดำก่อตัวขึ้นมา
ลั่วเฉินพลันหน้าแดงก่ำ เอ่ยอย่างหัวเสียว่า “เป็นท่านจะได้อย่างไร!”
ลั่วเซิงซื่อบื้อหรือไร พูดเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนตั้งมากได้อย่างไร!
พวกเขาถึงแม้จะเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ถึงอย่างไรชายหญิงก็ต่างกัน นางไม่สนใจชื่อเสียงเลยหรือไร
“เช่นนั้นเจ้าจะเอาอย่างไร” สีหน้าลั่วเซิงเริ่มดุขึ้น
ถึงแม้เมื่อครู่เจ้าเด็กคนนี้จะทำเรื่องดีไป แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เขาทำตัวเหลวไหลได้
“ให้ฝูซงจัดการก็พอ”
ฝูซงคือบ่าวชายที่คอยตามลั่วเฉินตอนอยู่จินซา ตอนลั่วเฉินกลับเมืองหลวง ฮูหยินใหญ่จวนเซิ่งตั้งใจเอาสัญญาขายตัวของฝูซงมาให้เขา
บอกได้ว่าหากเทียบกับบ่าวในจวนลั่วแล้ว ลั่วเฉินใกล้ชิดกับฝูซงที่รับใช้เขามาตั้งแต่เล็กมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ลั่วเซิงกลับไม่เห็นด้วย “ฝูซงไม่เคยทำแผลมาก่อน”
ในตอนนั้นเสี่ยวชีเอ่ยอย่างใจกล้าว่า “ข้ามีประสบการณ์ ให้ข้าทำได้หรือไม่”