ปล้นสวรรค์ - 11 เจ้าหน้าที่สาว ชุยอิง
SPH:บทที่ 11 เจ้าหน้าที่สาว ชุยอิง
เมื่อท้องฟ้าค่อยๆมืดลง เย่หยูฝืนเดินกลับบ้านเนื่องจากเขาพลาดรถบัสเที่ยวสุดท้าย เขาคิดกับ
ตัวเองด้วยบทเรียนนี้ โอวหยางหยูควรจะพักเป็นเวลาสักพัก
ขณะเดินอยู่บนถนน แสงของยานพาหนะเคลื่อนไหลไปตามถนนไม่ขาดสาย ผสมผสนเข้ากัน
กับตาข่ายอันใหญ่ที่เหมือนถักทอเมืองกลางคืนที่แสนคึกคัก
“ครับ ผมรู้ วันนี้ผมกลับบ้านช้าหลังจากโรงเรียนเลิก”
ณ ตอนนี้ เมื่อเย่หยูได้รับสายจากปู่ของเขา ทันใดนั้นหูของเขาก็เสียวแปลบในขณะที่เขาหันไป
จ้องถนนด้านข้าง
“โอเค ปู่เดี๋ยววางก่อนนะครับ “
เขาเก็บมือถือ เย่หยูหันหลังกลับแล้วเดินเข้าไปในซอย
หลังจากที่ร่างกายเย่หยูเกิดใหม่อย่างสมบูรณ์ การได้ยินของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก และ
เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงอ่อนแรงของบางคนที่กำลังร้องให้ช่วยมาจากข้างในซอย
ในซอยที่มืดมน แสงไฟสีเหลืองสลัวๆจากหลอดไฟข้างถนนส่องสว่างทั่วบริเวณ
หญิงสาวรูปร่างดีกำลังถูกขู่บังคับจากอันธพาลสองคนที่ถือมีดสั้นอยู่ในมือ ภายใต้อ้อมแขนมีหญิงสาวผมสั้นใบหน้าที่สวยงาม กำลังเผชิญกับมีดสั้นที่แพรวพราวอยู่ตรงหน้า เธอช่างดูอ่อนแอ
“ช่วยด้วย! อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ!”
หญิงสาวกรีดร้องแล้วค่อยถอยหลัง แกว่งกระเป๋าถือใบเล็กของเธอไปมา อันธพาลร่างหนาสอง
คนหัวเราะเมื่อเขาได้ยินหญิงสาวตะโกน
“อย่าร้อง มาเล่นกับพี่ชายเถอะ พวกเราจะทำให้เธอรู้สึกดี! “
ตาอันธพาลผอมแห้งและสูงอีกคนหนึ่งเป็นประกาย เขาเล่นมีดที่อยู่ในมือไปมาแล้วก็ชี้ไปยัง
หญิงสาว “สาวสวย หากเธอเตะโกนอีกครั้ง มีดที่อยู่ในมือฉัน จะทำให้เธอไม่มีตาไว้มอง !”
“คนที่ไม่มีตาก็คือแก! ไอบ้ากาม?”
“แกกล้ามากเลยนะ!”
เสียงชัดแจ๋วดังมาจากทางซอย ขัดจังหวะการหัวเราะของสองอันธพาล
“แกเป็นใคร!”
อันธพาลทั้งสองคนช็อค พวกเขาหันหลังกลับไปมองยังทางเข้าซอยทันที
ภายใต้แสงไฟสลัว ใบหน้าอันพร่ามัว เห็นเพียงร่างสูงที่กำลังพิงอยู่ตรงกำแพง
อันธพาลอ้วนเตี้ยหรี่ตาของเขา หลังจากที่มองดูสักพัก ในที่สุดเขาก็มองเห็นผู้มาเยือน
“นักเรียน?”
อันธพาลสูงผอมอีกคนก็เห็นเย่หยู คนที่สวมชุดนักเรียน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เด็กนักเรียนมัธยมอยากจะเป็นฮีโร่เพื่อช่วยสาวสวยงั้นสิ?”
อันธพาลคนที่สูงผอมหัวเราะ แล้วหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็หมองลง ปากของเขากระตุกแล้ว
พูดอย่างโหดร้ายว่า “ถ้าแกอยากตาย ก็ร้องสิ! “
“อย่ามาวุ่นวายกับเรื่องของฉัน!”
ข้างกายอันธพาลสองคน หญิงสาวหยุดร้อง เธอดูไม่เอะอะโวยวายแล้ว แต่แววตาใสแจ๋วยังคง
มองเย่หยูอย่างสงสัยและอยากรู้ว่านักเรียนคนนี้นะหรือที่จะช่วยสาวสวย
“ฉันแนะนำแกให้ยอมแพ้ซะหรืออย่าหาว่าฉันไม่เตือน!” เย่หยูจับขยับมือของเขาและส่งเสียงออกมาเบาๆ
“เดี๋ยว พี่ชาย!”
“ทำให้มันพิการซะ!”
สายตาของอันธพาลผอมสูงมองตามไปอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็ตะโกนออกมา เขากำมีดสั้นของเขาแน่นและก็รีบดึงออกมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น แววตาของอันธพาลอ้วนเตี้ยเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย คมมีดของเขาพุ่งตรงไป
ยังเย่หยู
เฟี้ยว! ดิ้ง แด้ง!
“อ้า…..”
อันธพาลทั้งสองหยุดก้าวทันที แล้วมีดสั้นของพวกเขาก็ตกลงไปบนพื้นในขณะที่ทั้งสองกรีด
ร้องด้วยความทุกข์ทรมาน
“มือฉัน!”
ไพ่โป๊กเกอร์ใหม่เอี่ยมสองใบทิ่มเข้าไปยังหลังมือของอันธพาลทั้งสอง โดยทิ่มผ่านฝ่ามือของ
พวกเขาโดยตรง เลือดสดๆไหลลงมาตามไพ่ แล้วค่อยๆหยดลงบนพื้น
แววตาของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังของเขาทั้งสองเปล่งประกาย เธอมองไปยังไพ่โป๊กเกอร์ที่อยู่
ด้านหลังของอันธพาลทั้งสองอย่างรู้สึกตกตะลึง อะไรมันจะคมได้ขนาดนี้!
“เชี่ยเอ้ย ฉันจะสู้กับแก! “
ด้วยความเจ็บปวด อันธพาลสองคนเลยจู่โจมไปยังเย่หยูด้วยสายตาที่แดงก่ำ
ปัง!ปัง!
เย่หยูใช้ขาที่ยาวของเขาเตะไปยังอันธพาลทั้งสองลงพื้น เพื่อไม่ให้ลุกขึ้นมาสักพัก
พวกเขาทั้งสองนอนอยู่บนพื้นแล้วก็เริ่มหวาดกลัวเมื่อเห็นเย่หยูเข้ามาใกล้ เด็กมัธยมที่เจอวันนี้ทำไม มันโหดจังวะ?
“อย่าเข้ามาใกล้! แกเจตนาทำร้าย ฉันจะโทรหาตำรวจ!” ชายอันธพาลร่างผอมสูงกลอกตาและ
กรีดร้องออกมา
“ใช่ ใช่! ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
พวกเขากลัวว่าเย่หยูจะมาทำร้ายอีกครั้ง อันธพาลทั้งสองรีบตะโกนทันที แจ้งตำรวจงั้น
หรอ? เย่หยูเกือบจะหัวเราะออกมา
“ไม่ต้องโทรหาตำรวจหรอก ฉันนี้แหละ ตำรวจ!”
มีเสียงจากหญิงสาวเสียงดังมาจากข้างหลังอันธพาลทั้งสอง เป็นเหตุให้พวกเขาทั้งสองต้องตะลึง ณ จุดจุดนี้
เย่หยูก็ตกตะลึงสักพักก่อนจะโต้ตอบ แววตาเขาเปล่งประกาย เช่นนั้นแล้วยังไงต่อละ ไม่น่า
แปลกที่หญิงสาวคนนี้จะสงบเสงี่ยมผิดปกติ
“คุณเป็นตำรวจหรอ? แล้วทำไมคุณถึงไม่ปราบพวกนี้ตรงๆละ” เย่หยูมองไปยังตำรวจสาวสวย
และถาม
“นายอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมฉันต้องวางแผนจับพวกมัน?” ตำรวจสาวพูด เธอพึงสังเกตข้อสงสัยของ
เย่หยู
เย่หยูพยักหน้าเห็นด้วยและเหลือบไปมองชายทั้งสองที่นอนอยู่บนพื้น “ใช่แล้วหละ ถ้าอันธพาลสองคนนี้เป็นอันธพาลธรมดาๆ คงไม่ต้องใช้คุณเป็นเหยื่อล่อหรอก ถูกมั้ย?”
เมื่อได้ยิน แววตาของตำรวจสาวเปล่งประกายแล้วรอยยิ้มก็ค่อยเกิดบนใบหน้าแสนบอบบางของ
เธอ “คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มอย่างเธอจะมีไหวพริบมากขนาดนี้”
เย่หยูบุ้ยปาก และพูดด้วยเสียงโทนเศร้าๆว่า “นี่ผมดูตัวเล็กขนาดนั้นเลยหรอ?”
“แน่นอนสิ!” ตำรวจสาวหัวเราะ “เทียบกับน้องสาวฉันแล้ว เธอนะ แย่กว่ามาก!”
“ฉันชื่อชุยอิง ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจากเมืองหมิงโจว ยินดีที่ได้รู้จัก เด็กน้อย” ชุยอิงยื่นมือ
ของเธอออกมาข้างหน้าเย่หยู
เย่หยูยื่นมือของเขาออกมาและเช็คแฮนด์กับมือขาวๆของชุยอิง “ผม เย่หยู นักเรียนจากโรงเรียน
มัธยมต้นเซียงหยู ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันนะครับ พี่สาว!”
ชุยอิงนำกุญแจมือออกมาและใส่กุญแจมืออันธพาลทั้งสองที่อยู่บนพื้น จากนั้นก็พูดกับเย่หยูว่า
“มีอีกหลายอย่างที่ยังไม่เรียบร้อย ไม่นานมานี้มีเด็กสาวอายุพอๆกับนายหายไปอย่างลึกลับ ทีม
ตำรวจกำลังวางแผนจับกุมแต่ ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะจ้างมือปืนมา “
เย่หยูพยักหน้า และมองไปยังอันธพาลทั้งสองที่อยากจะร้องแต่ไม่มีน้ำตา “มันเป็นพวกเขา”
“พวกเราไม่ได้ทำ!”
“คุณตำรวจ “
“พวกเราแพ้ราบคาบขนาดนี้ พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย!”
สองอันธพาลรีบตะโกนออกมา รู้สึกผิดเล็กน้อยอยู่ในใจ พวกเขาไม่มีทางตำหนิผู้อื่นได้แน่นอน
“พวกแกจะตะโกนหาอะไร! พวกแกกลัวถูกกล่าวหาผิดๆใช่มั้ยละ!” ชุยอิงตะคอกใส่
เย่หยูไม่ถามต่อเพราะน่าจะเป็นความลับของตำรวจ และแน่นอนเธอไม่บอกเขาหรอก
แม้ชุยอิงจะรู้ว่านักเลงสองคนนี้ไม่ใช่คนที่ตามหา แต่เธอก็คิดว่าพวกเขาสมควรโดน หากเธอเป็น
ผู้หญิงธรรมดาๆ มันจะไม่กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าหรอ?
“ใช่แล้ว เย่หยู ทักษะของนายค่อนข้างดีนี่ โดยเฉพาะไพ่บินนั้น มันทรงพลังมาก”
ชุยอิงจำไพ่โป๊กเกอร์ที่เย่หยูปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ได้ เร็วยังกับแสง มันทิ่มเข้าไปผ่านหลัง
มือ พลังของมันน่าประหลาดใจ!
“เอ่อ มันอาจจะเป็นเพราะว่าฝึกมาเยอะก็ได้” หากเขาบอกชุยอิงเธอคงไม่ได้อะไรจากมัน เธอจะ
ไม่กลัวเอาหรอ
“ติ๊ด! ขอแสดงความยินดีที่สามรถช่วยเหลือสาวงามในฐานะฮีโร่ คุณได้จับรางวัลหนึ่งครั้ง “
เย่หยูตะลึงงันทันที เสียงของระบบดังขึ้นในหัวเขา นี้มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง!
“เย่หยู เป็นอะไรไป?”
ชุยอิงสังเกตเห็นเย่หยูตะลึงนิ่งและไม่พูดอะไร ดังนั้นเธอจึงถามด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียง
ชุยอิง เย่หยูจึงได้สติกลับมา นี่มันไม่ใช่สถานที่ที่จะจับรางวัล “โอ้ ไม่มีอะไรหรอก ผมคิดว่ามันสายมากแล้ว ผมแค่กังวลว่าจะทำให้ปู่ผมวิตก “
“เอาหละ น้องชาย กลับบ้านเร็ว”
ชุยอิงพูดกับเย่หยู หลังจากนั้นเธอหยิบกระดาษออกมาหนึ่งใบออกจากกระเป๋าของเธอ แล้ว
เขียนเบอร์และยื่นให้กับเย่หยู “จำเบอร์ฉันไว้ หากต้องการอะไร ติดต่อฉันมาได้”
เย่หยูเก็บโน้ตกระดาษไว้และโบกมือลาชุยอิง “บ่าย พี่สาว “
เมื่อเห็นเย่หยูเดินไกลออกไป ชุยอิงกดนิ้วไปที่หูของเธอแล้วกระซิบ “หลิวน้อย รวมทีม!”
หลังจากนั้นสักพัก กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจหกหรือเจ็ดคนในชุดพลเรือนก็ออกมาจากซอย หัวหน้า
เจ้าหน้าที่หลิวเว่ย ถามชุยอิง “กัปตัน สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
ชุยอิงชี้ไปยังอันธพาลทั้งสอง “ฉันจับปลาตัวใหญ่ไม่ได้ จับได้แค่ปลาเล็กสองตัว “
หลิวเว่ยหันหลังกลับไปและมองไปยังอันธพาลทั้งสอง แล้วมองไปยังไพ่โป๊กเกอร์ที่อยู่หลังมือ
ของพวกเขา เขาถามด้วยความประหลาดใจ “กัปตัน!”
“คุณไม่ได้ฝึกซิงยี่หรอ? แล้วทำไมถึงเล่นไพ่”
“ไม่ใช่ฉันที่ทำ คนทำคือเด็กมัธยมที่ชักไพ่ออกมาเพื่อช่วยฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของชุยอิง หลิวเว่ยรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น “เด็กมัธยม? นี่มันไพ่อะไรที่มี
พลังขนาดนี้? แสดงว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา!”
ชุยอิงจำเหตุการณ์นี้ได้ตอนที่เย่หยูขยับตัวเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง
“จากเทคนิคนี้ เขาไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ”
“ทุกวันนี้เด็กหนุ่มสาวทุกคนมีพลังอะไรแบบนี้ไหมเนี่ย” หลิวเว่ยถามอย่างลวกๆ “เขาหน้าตาเป็นอย่างไง?”
“หล่อเหลา!”