ปล้นสวรรค์ - 121 ผีชุดขาว
SPHะบทที่ 121 ผีชุดขาว
ผู้คนนับล้านที่กําลังนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขาต่างใจเต้น บางคนหลับตาแน่นไม่กล้าที่จะดูฉากนองเลือดที่กําลังจะตามมา
“โอ้พระเจ้า! ผีปรากฏขึ้นได้นั้นมาจากการดูดซับความกลัวของมนุษย์! ไม่แปลกใจเลยที่นี่จะทําให้ผู้คนกลัว”
“เห้อ! ถ้าอาเข่อ(อาเคย์)ไม่กลัวผีตั้งแต่แรก ผีตัวนั้นคงทําอะไรเธอไม่ได้!”
“ฟิ้ว! งั้นถ้าคนนั้นไม่กลัวผี จากนั้นผีก็จะไม่สามารถทําร้ายมนุษย์ได้ต่อไป?”
“ชิ! เผชิญหน้ากับผี ใครมันจะไม่กลัวกัน! ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะไปรู้ว่าผีมันจะมีอุบายอย่างอื่นอีก!”
“เอาอะไรมาพูดเนี่ย? พระเจ้า อาเข่อเป็นลม! ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ!”
ในวีดิโอ ผีคอยาวบิดคออย่างกับไส้เดือน ปากใหญ่เท่าอ่างล้างหน้า มันเผชิญอยู่กับอาเข่อราวกับว่าเล็งจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
เมื่อเวลาผ่านไป เสียงตะโกนดังของชุดขาวก็หยุดลง
“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”
คนที่เข้ามานั้นก็คือ เย่หยู
เมื่อเย่หยูขับรถมาถึงเชิงเขา เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาแว่วๆ แต่หลังจากนั้นในไม่ช้า ก็ไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกต่อไป
กลัวว่าจะเกิดบางอย่างกับอาเข่อ เย่หยูออกจากรถและใช้ความสามารถโดยเงาเคลื่อนที่มาถึงวิลล่าที่เชิงเขาทันที
เมื่อเห็นผีชุดขาวที่กําลังกลืนกินอาเข่อ เย่หยูก็ตะโกนออกไปอย่างตื่นตระหนก
“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”
“ปีศาจ?”
ผีชุดขาวหยุดกลืนกินอาเข่อ แต่กลับมองไปยังเย่หยูอย่างสนุก
“ปีศาจ? แกพูดถูก ฉันเป็นผี!”
เย่หยูมองไปที่ผีชุดขาว ฉายแววตาเย็นชาขณะพูดอย่างเยือกเย็น
“มนุษย์กับผีแตกต่างกัน ถ้าแกปล่อยผู้หญิงไป ทุกอย่างจะโอเค ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวไปเกิดใหม่ได้เลย! ”
“ฮิฮิ ฮิฮิ… เจ้าเด็กน้อย! แกจะอวดดีมากไปแล้วนะ!”
ออร่ารอบๆผีชุดขาวเริ่มเย็นยะเยือก ทําให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ําน้ําแข็ง
“แกอยากให้ฉันไปเกิดใหม่งั้นหรอ?”
ผีชุดขาวจ้องเย่หยูอย่างดุร้าย ตาทรงสามเหลี่ยมคู่นั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความโลภ
“งั้น ฉันจะกลืนแกลงไปก่อนละกัน!”
หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ ร่างของเธอก็หายแว้บไปแล้วไปปรากฏอยู่ตรงหน้าเย่หยู เธออ้าปากกว้างกัดไปที่หัวเย่หยู
เย่หยูถอยหลังออกมา แยกขาออกเล็กน้อยเขากําหมัดแน่นตรงเอวของเขา ผีชุดขาวหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“ฮิฮิ มันเปล่าประโยชน์ การโจมตีด้วยร่างกายของแกมันไร้ประโยชน์ในการสู้กับฉัน!”
เมื่อเย่หยูปรากฏขึ้น ผู้ชมนับล้านต่างพากันตกตะลึงสักพักก่อนที่จะส่งเสียงเชียร์
” หวา! มีบางคนมาถึงแล้ว! รีบไปช่วยอาเข่อเร็ว!”
” ช่วยฉัน?! ยังมีอีกคนที่มาที่นี่เพื่อมาหาที่ตาย!”
“ใช่แล้ว! ถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงมุมข้างหลัง มันชัดเจนมากว่าเขาเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เธอสวมชุดนักเรี ยนด้วยซ้ํา!”
“เฮ้อ! ยิ่งหวังมากขึ้น ก็ยิ่งพบกับความผิดหวังมากขึ้น! ฉันสงสัยว่าถ้าสามารถเข้าพระลัทธิเต๋ได้ทันเวลา ”
เมื่อเห็นเย่หยูกําหมัดแน่นเพื่อที่จะสู้กับผี ผู้ชมที่อยู่หน้าจอทั้งหมดก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง
“เฮ้อ! เด็กหนุ่มนี้กําลังจะตายตั้งแต่อายุยังน้อย!”
” การแสดงที่ยอดเยี่ยมของฮีโร่ที่กําลังจะไปช่วยสาวงาม แต่กลับลงเอยด้วยการลงนรกไปพร้อมกัน!”
“ถึงแม้ว่าชะตากรรมของเด็กหนุ่มคนนี้จะถูกตัดสินแล้ว ฉันก็ยังจะอยากพูดอะไรบางอย่าง พ่อหนุ่มฮีโร่ นายทําดีมาก!”
ผีชุดขาวไม่ได้ดูเหมือนผิดหวังเลย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความหยอกล้อเหมือนกับหนูและแมว
” ครั้งนี้ ฉันจะกลืนแกลงไป!”
หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ เธอยืดคอออกมาข้างหน้าเพื่อกัดเย่หยูอีกครั้ง
เย่หยูกําหมัดแน่นไว้ที่เอวของเขาแล้วหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นผีชุดขาวกําลังเข้ามาที่ปราศจากความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาอ้าปากกว้างแล้วค่อยๆตะโกนออกมา
“แก่นแท้พลังวิญญาณแปด พังมันซะ!”
ตู๊ม!
โฮก!
ออกมาดั่งคลื่นพายุ
พลังชีวิตและเลือดของเย่หยูระเบิดออกมาทันที เสียงของพลังชีวิตและเลือดทที่ไหลพล่านเลือดแดงมังกรออกมาจากร่างเย่หยู หมุนวนขึ้นแล้วเปล่งเสียงคํารามของมังกรออกมา
หมัดของเย่หยูซัดไปที่ผีชุดขาวตรงๆ
“อ๊าา!”
ผีชุดขาวส่งเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองออกมา หมอกสีขาวมรณะที่ออกมาจากร่างก่อนที่จะลอยหายไปเข้าไปในความมืด ไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว
ฉากที่กําลังถ่ายทอดสดบนโทรศัพท์อาเข่อที่ไร้คนถ่าย
ผู้ชมที่กําลังนั่งชมฉากนี้อยู่ต่างพากันตกตะลึง ตาพวกเขาเบิกกว้างขณะจ้องไปยังหน้าจออย่างไม่
“ลูกตาฉันหลอกอะไรรึเปล่าเนี่ย? ฉันเหมือนกับเพิ่งเห็นมังกรเลือด?”
“เหี้ยเอ้ย! ผีชุดขาวถูกเด็กหนุ่มคนนี้จัดการจนบินไปไกลแล้ว?”
“เหี้ย!”
“ด้วยหมัดเดียวทําให้เกิดผลที่พิเศษเป็นแน่?”
“สุดยอด! หมัดนี้มันมีผลกระทบพิเศษอะไรนะ?”
“มันคืออะไร?” สุดยอดจรวดซึ่งเป็นชายร่างใหญ่กําลังพึมพํากับตัวเอง?”
“สุดยอดจรวด 99 ฉันรู้! นี่มันนักต่อสู้! บอดี้การ์ดของฉันเป็นนักต่อสู้ แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมังกรเลือดแดงเช่นกัน”
เย่หยูกําจัดผีชุดขาวออกไปได้ด้วยหมัดเดียว หลังจากเฝ้าระวังสักครู่ เขาก็พบว่าผีชุดขาวหยุดเคลื่อนไหวแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มมองดูสถานการณ์ของอาเข่อ
ขณะนี้ ตาของอาเข่อปิดแน่น ใบหน้าของเธอซีดและไม่เหลือรอยเลือดให้เห็น เธอดูเหมือนจะหวาดกลัวมากๆ
เย่หยูยื่นแขนออกไปแล้วปัดใต้จมูกอาเข่อ เมื่อเขาพบว่าอาเข่อยังหายใจและเพิ่งจะเป็นลม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เย่หยูพยายามเขย่าไหล่อาเข่อแล้วตะโกน
“อาเข่อ ตื่น!”
“ผี! มันเป็นผี!”
อาเข่อยืนขึ้นทันที กรีดร้องแล้วหันหลังและกําลังจะวิ่งหนี
เย่หยูดึงอาเข่อกลับมาแล้วตะโกน
“ฉันเอง! ผีหนีไปเพราะฉันแล้ว!”
” พวกมันหนีไปแล้วหรอ?”
อาเข่อค่อยๆมองไปรอบๆแล้วพบว่าไม่มีร่องรอยของผีชุดขาว น้ําตาของเธอก็ไหลลงมาทันทีขณะพยายามเคนเสียง ที่สะอื้นแล้วพูดออกมาว่า
“วะอา… นั่นมันดีมาก! ในที่สุดพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว!”
อาเข่อเงยหน้าขึ้นแล้วมองเย่หยู เธอปาดน้ําตาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า
” ขอบคุณนายมาก! ถ้านายมาไม่ทันเวลา ฉันคงจะตายแน่ๆ”
เย่หยูมองอาเข่อที่กําลังร้องไห้ด้วยความดีใจอยู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ถ้าเจอผี ไม่ต้องโทรหาตํารวจ แต่ให้โทรหาฉันแทน สมกับเป็นเธอจริงๆ!”
อาเข่อเขินเล็กน้อยตอนที่มองเย่หยูพูด เธอกระซิบ
“ฉันกลัว นอกจากสมุดจดรายชื่อเบอร์โทรแล้ว รายชื่อของคุณขึ้นต้นด้วยเอ งั้นคุณก็ควรจะอยู่ระดับต้นๆ”
เย่หูตกใจและถามอย่างงงวย
“ขึ้นต้นด้วย A? มันต้องขึ้นต้นด้วย Y ไม่ใช่หรอ?”
อาเข่อรู้สึกตะลึงสักพัก ใบหน้าของเธอค่อยๆแดงและแววตาก็เหมือนกับเลื่อนลอย
“อั้ยหยา! ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น รีบลุกแล้วรีบไปได้แล้ว ที่นี่มันประหลาดเกินไป!”
เย่หยูพยักหน้า มันเป็นที่ที่ไม่ดีที่จะอยู่จริงๆ เขาหันหลังกลับและเดินจากอาเข่อไป
“จุ๊จุ๊จุ๊ ไปกันเถอะหรอ? นายจะไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะได้ออกไป!”
เสียงน่ากลัวเปล่งออกมาจากข้างหลังเย่หยู
เย่หยูหันหลังกลับทันที แล้วพบเพียงผีชุดขาวที่กําลังกลับมา
“อ๊าา!”
อาเข่อกรีดร้องขณะหลบอยู่ข้างหลังเย่หยู ร่างอันบอบบางที่กําลังสั่นเทาและไม่กล้ามองไปที่ผีชุดขาว
เสียงพึมพําที่ลอยขึ้นมาทําให้ผู้ชมนับล้านที่กําลังดูอยู่ห้องถ่ายทอดสดที่เห็นผีชุดขาวกลับมา
” บ้าเอ้ย! ผีตัวนี้นี่มันสู้ยากจริงๆ! ทําไมไม่ฆ่ามันด้วยหมัดโหดไปเลยหละ? ”
“นั้นมันไม่ถูก! ดูสิ ผีตัวนั้นเหมือนกับกลายร่าง”
“ใช่แล้ว! มันเป็นผีชุดขาวก่อนหน้านั้น แต่ตอนนี้ผีชุดขาวเปล่งแสงสีแดงเลือด!”
“อย่าบอกนะว่ามันกลายเป็นปีศาจชุดแดง? มีคนเคยกล่าวไว้ว่าผีที่ดุร้ายที่สุดก็คือปีศาจชุดแดง!”
เย่หยูมองไปยังผีชุดขาว เขาแสดงอาการนิ่งเฉยขณะพูดอย่างไม่แยแสว่า
“โย่ว! ไม่เลวนี่ นายดูหล่อขึ้นเยอะหลังจากเปลี่ยนชุดนะ”
ผีชุดขาวรู้สึกประหลาดใจชั่วขณะ จากนั้นแววตาที่โกรธก็ฉายขึ้นมาในพริบตาและพูดอย่างชั่วร้ายว่า
“ไอ้นักสู้เวรเอ้ย! ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากประสานมุกโลหิตดําก่อนเวลา เพื่อเป็นการชดเชย
คราวนี้ ฉันต้องกลืนกินพลังงานชีวิตและเลือดทั้งหมดของแกให้ได้”
“มุกกระหายโลหิต? ปีศาจชุดแดง?”
เย่หยูเลิกคิ้วและเงยหน้ามองผีชุดขาวแล้วถาม
“มันทําให้แกดูมั่นใจว่าจะต้านหมัดฉันได้อย่างงั้นหรอ?”
ผีชุดขาวพูดพร้อมหัวเราะเยาะ
“ดูเหมือนว่าแกจะไม่รู้เกี่ยวกับวิญญาณปีศาจสินะ! นักสู้ชั้นต่ําอย่างแกจะมาสู้กับวิญญาณปีศาจชุดแดง!”
“หึม! แกยังไม่ใช่ปีศาจชุดแดง แกจะพ้นคําโอ้อวดไปเพื่อ!”
เบื้องหลังเย่หยู อาเข่อยื่นหัวออกมาอย่างไม่รู้เวลาและเปล่าลมออกจากจมูกอย่างแรงใส่ผีชุดขาว
ผีชุดขาวตะลึงในคราแรก แล้วจากนั้นลมหนาวก็พัดกรรโชกราวกับเขาโกรธอย่างมาก เขาร้อง
โหยหวนขึ้นบนฟ้า
“บ้าเอ้ย! นี่มันความผิดของแก!”
เย่หยูมองผีชุดขาวที่กําลังบ้าไปแล้ว แล้วกระซิบกับอาเข่อว่า
“อาเข่อ ถอยหลังไป ปล่อยให้ฉันจัดการมัน!”
อาเข่อพยักหน้า เธอรู้ว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ เธอถอยหลังและสั่งโดรนให้กล้องหันไปที่ผีชุดขาว