ปล้นสวรรค์ - 15 ผลของน้ำยาสัตย์จริง
SPH:บทที่ 15 ผลของน้ำยาสัตย์จริง
เย่หยูปลายตาไปมองที่โอวหยางหยู ทักทายเขาด้วยสายตาที่ชั่วร้ายและไร้ซึ่งความกังวล เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า
“ไม่มีอะไรจะพูด!”
โอวหยาวหยูกัดฟันในขณะที่เขาไม่พอใจอยู่ในใจที่เย่หยูยังคงแสดงอาการไม่แยแสอะไร ใจของเขาเริ่มโกรธมากกว่าเดิมในขณะที่สาบานกับตัวเองว่าจะฉีกหน้าปลอมๆของเย่หยูให้ได้!
“แน่นอน นายตอบไม่ได้หรอก เพราะเวลานั้นนายอยู่ในห้องทำงาน กำลังเปลี่ยนกระดาษข้อสอบอยู่ยังไงหละ!”
นักเรียนโดยรอบมองไปยังเย่หยูด้วยความไม่เชื่อที่เต็มไปด้วยความตกใจและปรามาสเขา
“เป็นไปได้ยังไง!? มันต้องมีบางอย่างผิดเย่หยูไม่มีทางโกง!”
เมื่อฮันเสวี่ยได้ยิน หน้าของเธอเริ่มซีดและร่างกายเริ่มโอนเอน
“ใจเย็น!”
เย่หยูวางมือบนไหล่บางๆของฮันเสวี่ย ปลอบโยนเธออย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ยังไม่ถูกตัดสิน!”
อาการของฮันเสวี่ยกลับมาดีขึ้น เธอพยักหน้าและยังคงเชื่อมั่นในตัวเย่หยูว่าเขาไม่ได้โกง!
โอวหยางหยูมองไปยังเย่หยูและฮันเสวี่ย เขาโกรธที่เย่หยูยังคงแสดงอาการไม่แยแสและยิ่งโกรธเข้าไปอีกเมื่อเห็นฮันเสวี่ยแสดงออกถึงความกังวลและเชื่อใจในตัวเย่หยู
“เย่หยู หลักฐานมันก็ครอบคลุมขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่ยอมรับอีก!”
โอวหยางหยูชี้ไปยังเย่หยูและตะโกนใส่เขา
เย่หยูไม่ได้สนใจโอวหยางหยูที่ตอนนี้เหมือนหมาบ้า เขาเงยหน้ามองไปยังอู่ซูซุนแทน
“อาจารย์อู่ครับ อาจารย์ก็คิดแบบนั้นหรอครับ?”
อู่ซูซุนมองไปยังเย่หยูด้วยอาการสับสน ก่อนจะพูดว่า
“ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าเธอจะโกง แต่ความจริงมันเป็นแบบนี้แล้ว เย่หยู มีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า?”
“เห่อ ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อผมเลยนะครับ”
สายตาของเย่หยูดูไม่แยแสนิดๆ และเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า
“ผมไม่ได้โกง!”
“โกง? ใครโกง?”
ทุกคนหันหน้ากลับไปมองและก็พบกับชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยที่ยืนกอดอกอยู่ทางเข้า ผมเส้นบางที่นอนเรียงรายอยู่บนหัวมันๆหัวของเขา มันดูตลกโดยเฉพาะตอนที่เปิดหน้าผาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีไครกล้าหัวเราะเพราะสถานะของเขาที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการศึกษาเขาคือ จูเหลียง
“ผู้อำนวยการจูเหลียง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ครับ?”
อู่ซูชุนแสดงการต้อนรับเขา
“ผู้อำนวยการจู…”
มีนักเรียนไม่กี่คนยืนเพื่อต้อนรับหัวหน้าสำนักงานการศึกษาที่แสดงถึงการมีอำนาจผู้นี้
“ฉันได้ยินมาว่ามีบางคนโกง? เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
จูเหลียงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และจับไปที่คอเป็ดของเขา
“คุณลุงผู้อำนวยการจู มันเป็นอย่างนี้ครับ เย่หยูเขาโกงข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ เขา…”
โอวหยางหยูมองจูเหลียงที่เดินเข้ามาและรีบมาตรงหน้าและชี้ไปยังเย่หยูในขณะที่เขาพูด
จูเหลียงกระพริบตาขนาดเท่าถั่วของเขา เขาหันกลับไปมองยังเย่หยูด้วยสายตาที่เย้ยหยันที่ซ่อนอยู่
“นักเรียนเย่หยู นี่คือความผิดของคุณ เนื่องจากคุณกล้าที่จะโกง คุณก็ต้องกล้ายอมรับ!”
“เฮ เจ้าหมู!”
“คณบดี ผมจะยอมรับได้ยังไงในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไร?”
ปากของเย่หยูเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ไม่แยแสและมองไปยังจูเหลียง ตัวละครตัวสุดท้ายมาถึงแล้วเรื่องตลกเรื่องนี้จะได้จบสักที!
“หื้มมม?”
จูเหลียงครางและร้องออกมาเสียงแหลมว่า
“เย่หยู พูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง! เธอรู้รึเปล่าว่าความผิดของเธอมีหลักฐานมัดตัวเธอแล้ว! ไม่คิดบ้างหรอ? ว่าโรงเรียนมัธยมเซียงหยูของเราควรจะกำจัดม้าร้ายอย่างเธอ!”
“นี่…”
อู่ซูชุนลังเลสักพักก่อนที่จะกระซิบถามจูเหลียงข้างๆ
“ผู้อำนวยการจู ลงโทษเย่หยูโดยการไล่เขาออกมันไม่ดูหนักไปหน่อยหรอครับ?”
“หนัก? หนักอะไร?”
จูเหลียงยังคงส่งเสียงดังต่อไป
“คนประเภทนี้ต้องลงโทษหนักแบบนี้แหละ!”
ไล่ออกจากโรงเรียน? ฮันเสวี่ยพึมพำอยู่ในหัวสักพัก หากเขาเตะเย่หยูออกจากโรงเรียน จากนั้นแล้วอนาคตของเขาก็ต้องจบนะสิ!
มันน่าตกใจ ฮันเสวี่ยจำแขนเสื้อของเย่หยูแน่นในขณะที่เธอมองไปรอบๆอย่างร้อนรน เหมือนต้องการจะปกป้องเย่หยู
เย่หยูรู้สึกถึงความกลัวในหัวใจของฮันเสวี่ยและหัวใจของเธอนั้นช่างอบอุ่น เขายื่นมือไปจับมือเล็กๆของเธอที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อและปลอบเธออย่างอ่อนโยน
“ฮันเสวี่ย เธอยังมีฉันนะ!”
ฮิฮิ อยากจะเตะฉันออกจากโรงเรียนมัธยมเซียงหยูงั้นหรอ? เย่หยูกวาดสายตาไปมองโอวหยางหยูที่กำลังทะนงตนและจูเหลียงที่กำลังโกรธ นี้คือจุดประสงค์ของแกสินะ? ช่างเหมือนเด็กอะไรขนาดนี้!
“ขยะที่น่ารังเกียจแบบนี้ก็ควรถูกกำจัดออกจากโรงเรียนนี้นานแล้ว”
โอวหยางหยูมองไปยังเย่หยู สายตาของเขาเต็มไปด้วยความพอในที่ได้แก้แค้น!
เย่หยู! เช่นนี้แล้วจะเป็นยังไงถ้าหากสู้ละ? ยังไงก็ยังคงถูกเตะออกจากโรงเรียนมัธยมเซียงหยูแห่งนี้อยู่ดี!
ณ เวลานี้ โอวหยางหยูภูมิใจในตัวเองแป็นที่สุด เขายืนกอดอกแล้วมองไปยังเย่หยูด้วยสายตาปรามาส เขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นเย่หยูร้องไห้และร้องขอชีวิต!
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาดูถูกของโอวหยางหยู การดูถูกเหยียดหยามของจูเหลียงและสายตาของเพื่อนในชั้นเรียน เย่หยูไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวออกมาให้เห็นอย่างที่เย่หยูคาดไว้
ตอนนี้ เย่หยูไม่ได้รู้สึกปั่นป่วนสักนิด แต่กลับยกมือขึ้นดันแว่นที่อยู่บนสันจมูกของเขาอย่างไม่แยแส
หยดน้ำระยิบระยับหยดตามเย่หยูในขณะที่เขายกข้อมือขึ้น กระจัดกระจายทั่วร่างของจูเหลียงนอกเหนือจากเย่หยูก็ไม่มีใครสังเกตเห็น
เมื่อเห็นหยดน้ำตกลงบนร่างของจูเหลียงและกลืนหายไปกับผิวของจูเหลียงอย่างรวดเร็ว มุมปาก
ของเย่หยูยกขึ้นยิ้ม
“หากผมโกงจริงๆ คุณก็ไม่ต้องรีบให้ผมออกจากโรงเรียนขนาดนี้ แต่ถ้าผมไม่ได้โกงหละ?”
เย่หยูนั่งลงอย่างใจเย็นในขณะที่เขามองไปยังโอวหยางหยูที่ยังคงนิ่ง
“ต่อต้านหัวชนฝา”
เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขา
“หึ หึ หากแกไม่ได้โกง ฉันก็จะกินกระดาษพวกนี้ให้หมด!”
เย่หยูชำเหลืองไปยังกองเอกสารข้อสอบบนโต๊ะ แล้วยิ้มบางๆ
“ขอให้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดีนะ!”
“แก!”
โอวหยางหยูชี้ไปที่เย่หยู ใบหน้าของเขาเริ่มซีดจากการที่เขาโกรธ และก็ไม่พูดอะไรต่อสักคำ
เย่หยูเมินเฉยต่ออาการโกรธของโอวหยางหยู เขาถามจูเหลียงตรงๆ
“ผมโกงจริงๆหรอครับ?”
จูเหลียงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แสนเยือกเย็นในขณะที่แววตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้น
“แน่นอน ไม่ได้โกง!”
หวา…
นักเรียนรอบๆที่กำลังดูการแสดงที่น่าตะลึงสักพักก่อนที่พวกเขาจะเริ่มคุยกัน
“เมื่อกี้ผู้อำนวยการจูเพิ่งพูดไปว่าเย่หยูไม่ได้โกงใช่ไหม?”
“ถูกต้อง เขาพูดอะไรผิดไปรึเปล่า?”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ร่างกายโอวหยางหยูสั่นเทาในขณะที่เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วคว้าไปยังแขนของจูเหลียงและกระซิบว่า
“ลุง! รู้รึเปล่าเนี่ยว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”
เมื่อนั้นจูเหลียงจึงตระหนักได้ในสิ่งที่เขาพูด เขาแสดงอาการตื่นตระหนก และรีบพูดต่อทันที
“เธอไม่ได้โกงจริงๆ!”
แววตาของจูเหลียวเต็มไปด้วยความกลัว เกิดอะไรขึ้น? นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในใจหนิ!
ทำไมเขาถึงพูดความจริง!
“เย่หยูไม่ได้โกง!”
“ไม่ได้โกง”
จูเหลียงพูดซ้ำอีกสองสามรอบ แต่คำที่เขาพูดออกมายังเหมือนเดิม เมื่อเห็นสายตาที่น่าสงสัยจ้องมาจากนักเรียนรอบๆ เช่นเดียวกับที่ตอนนี้สายตาของเย่หยูกลับสดใสและเหมือนกับน้ำลึก จูเหลียงเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี
“นี่ นี่ นี่…”
หน้าของจูเหลียงแดงด้วยความวิตกกังวลและไม่กล้าพูด เมื่อกี้ ตอนที่เย่หยูยกข้อมือขึ้น เขาได้พรมน้ำยาสัตย์จริงไปยังร่างของจูเหลียง
ก่อนหน้านี้เย่หยูมั่นใจว่านี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนของโอวหยางหยูและจูเหลียง ตอนนี้เขาได้ใช้น้ำยาสัตย์จริงกับจูเหลียง เย่หยูอยากให้เขาพูดทุกอย่าง!
สายตาที่กวาดมองอย่างสงสัยและใบหน้าที่เคลือบแคลงใจของเพื่อนร่วมชั้น เย่หยูปล่อยออร่าที่รุนแรงออกมาจากร่างกายเขา กดดันให้พวกเขาก้มหน้าลง
“บอกผมมา! เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!?”
เย่หยูหยุดยั้งออร่าที่ไปสู่จูเหลียงและถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
จูเหลียงอยากจะหุบปาก แต่พลังของน้ำยาสัตย์จริงทำให้เขาพูดทุกอย่างออกไป
“เธอไม่ได้โกง มีบางคนสลับกระดาษของเธอกับของคนอื่น!”
“เขาเป็นใคร?”
เย่หยูถามต่อทันทีโดยไม่ปล่อยโอกาสให้จูเหลียงและโอวหยางหยูโต้ตอบ
“คือฉัน!”
เมื่อได้ยินคำตอบของจูเหลียง นักเรียนรอบๆเริ่มเดือดพลานและเริ่มรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้พวกเขายังคงมองเย่หยูด้วยสายตาดูถูก เพียงเพื่อค้นพบว่าพวกเขาเข้าใจเขาผิด แววตาของเย่หยูฉายให้เห็นถึงความเย็นชาและมองไปยังจูเหลียง
“บอกผมมา ว่าทำไมถึงทำแบบนี้?”
“อย่า…”
โอวหยางหยูยื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยุดจูเหลียงไม่ให้พูดต่อ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
“เพราะหลานชายฉัน โอวหยางหยูต้องการใส่ร้ายและแก้แค้นเธอ!”
“ฉันต้องการเฉดหัวเธอออกไปจากโรงเรียนมัธยมเซียงหยู นั้นเพราะจะได้ควบคุมฮันเสวี่ยได้ นั้นเป็นเหตุผลที่ฉันทำมัน!”
“มันจบแล้ว…”
โอวหยางหยูนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ใบหน้าของเขาซีดเผือด เขาพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชจริงๆ!
ตอนนี้หน้าผากของจูเหลียงชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขากุมปากของเขาด้วยมือทั้งสอง และหน้าที่แดงก่ำด้วยความโกรธ เห็นความหวาดกลัวและช็อคในแววตาของเขา
“หึ หึ ตอนนี้ความจริงก็ได้เผยออกมาแล้ว ผู้อำนวยการจูได้โปรดบอกผมได้ไหม ว่าผมถูกจริงๆ!”
“กระดาษอยู่ไหน?”
เย่หยูมองไปยังจูเหลียงที่กำลังหวาดกลัวและพูดต่อว่า
“มันอยู่ในลิ้นชักที่ออฟฟิซ อู่…”
แม้จูเหลียงจะกุมปากไว้ด้วยมือทั้งสอง เขาก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะตอบคำถามของเย่หยู
นาทีต่อมา ร่างกายของจูเหลียงสันเทาในขณะที่เขารับรู้ได้ทันทีว่าเขาสามารถควบคุมตัวเองได้
แล้ว เขาปล่อยมือที่กุมปากอยู่ออกและหายใจลึกๆสองสามครั้ง
“ปีศาจ แกเป็นปีศาจ!” จูเหลียงบ่นพึมพำในลำคอ เขาหันหลังกลับและวิ่งออกจากห้องเรียนไป