ปล้นสวรรค์ - 18 นักสู้ระดับ 2 กลั่นโลหิต
SPH:บทที่ 18 นักสู้ระดับ 2 กลั่นโลหิต
เย่หยูมองไปยังหญิงสาวหยานเฟิงวู และรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ผิวที่ดูสีสุขภาพดูเหมือนข้าวสาลีไม่ได้ลดคะแนนของเธอลงไปเลย กลับเพิ่มความสวยแบบธรรมชาติเข้าไปอีก
ภายใต้คิ้วอันอบบางซึ่งคมราวใบมีด มีดวงตาที่กำลังลุกโชนอยู่ มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อยในขณะที่มองไปยังเย่หยูด้วยออร่าที่เย่อหยิ่ง
“นี่อะไร? นายไม่กล้าหรอก?”
หยานเฟิงวูถามยั่วอารมณ์เมื่อเห็นเย่หยูไม่ตอบ
เย่หยูมองไปยังสาวที่สวยอย่างธรรมชาติแล้วหัวเราะ
“แล้วทำไมฉันจะไม่กล้า!”
บนลู่วิ่งที่ปูด้วยพลาสติก เย่หยูและหยานเฟิงวูยืนข้างกัน พวกเขามองกันและกัน สบตากันราวกับสายฟ้าแลบ
“เตรียมพร้อม!”
พวกเขาทั้งคู่ก้มโค้งเตรียมความพร้อม
“ไป!”
เย่หยูและหยานเฟิงวูทั้งคู่เหมือนลูกศรที่เพิ่งปล่อยออกมาจากสายธนูในขณะที่พวกเขาพุ่งไปยังข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เย่หยูมองกวาดไปยังหยานเฟิงวูที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วที่ราวกับบินได้ โดยจงใจไม่มองน่าอกที่ขึ้นๆลงๆและรู้สึกประหลาดใจกับหัวใจของเธอ
“10.5 เมตรต่อวินาที แม้จะเทียบกับเขาไม่ได้ แต่เธอก็ไปไกลกว่าคนปกติ! “
หยานเฟิงวูรู้สึกช็อคเข้าไปอีกโดยที่เธอไม่ทราบ ว่าหนุ่มหล่อข้างๆเธอนั้นเหนือกว่าเธอทั้งความเร็วและการเคลื่อนที่ที่พร้อมกัน!
ตั้งแต่เธอยังเด็ก สมรรถภาพร่างกายของหยานเฟิงวูและความสามารถด้านกีฬานั้นเหนือกว่าคู่แข่งของเธอ ตั้งแต่เธอโตขึ้น ความรักในกีฬาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันพูดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาไปแล้ว หยานเฟิงวู เธอไม่เคยกลัวใคร!
ความเร็วและความแข็งแรงของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากได้เรียนเพลงหมัดปาเจี้ยจากซิงหมิงถึงแม้ว่เธอจะไม่ใช่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ระดับต้นๆ แต่เธอก็ไม่ได้ห่างไกลจากวิชาเพลงหมัดปาเจี้ยเลย
“ฉันตามเขาไม่ทัน!”
ดวงตาของหยานเฟิงวูลุกโชนด้วยความโกรธขณะที่เธอมองหลังของเย่หยู สายตาของเธอที่กำลังแผดเผาราวกับต้องการจะละลายเย่หยูที่อยู่ตรงหน้า
เฟี้ยว!
เย่หยูและหยานเฟิงวูหยุดในลู่ของตนเอง จนทำให้นักเรียนรอบต่างมึนงง
“บ้าเอ้ย คลาสไหนที่เย่หยูอยู่อย่างโหดเลย ? 8 วินาที!”
นักเรียนจากคลาส 3 กำลังร้องตะโกนนับถ้อยหลัง
“ฟินิกซ์ร่ายรำได้ 9. 35 วินาที มันไม่ได้อ่อนแอไปมากกว่าเขาหรอก!”
“เห็นไหม! ฉันบอกแล้วว่าหยานเฟิงวูเทียบเย่หยูไม่ได้!”
นักเรียนจากคลาส 1 เริ่มรู้สึกภูมิใจในตัวเอง พวกเขาดูเหมือนมีความสุขยิ่งกว่านี้หากพวกเขาวิ่งเร็วขึ้น
เย่หยูไม่ได้สนใจนักเรียนที่รู้สึกตะลึงอยู่รอบๆเขากลับจดจ่ออยู่กับความคิดตัวเอง
“ติ๊ด! คุณกำราบทั้งสองเพศได้ คุณจะได้รับรางวัลเป็นการจับล็อตเตอร์รี่หนึ่งครั้ง!”
“มนุษย์: เย่หยู(ผู้ฝึกตน เลเวล 1)”
“ร่างกาย: ร่างกายแห่งจิตวิญญาณดาบ”
“การขโมย รวม: 0”
“คะแนนเต๋าชั้นสูง: 130/1000”
“ความสามารถ: ทักษะไพ่บิน สุดยอดคำนวน ปรมาจารย์ด้านภาษา “
“ทักษะท่าร่าง: “36 กระบวนท่าออกกำลังกาย”
“ไอเท็ม: น้ำยาสัตย์จริง แว่นโคนัน”
“จับรางวัล: 1 “
เอ่อ? เขาจะจับรางวัลได้งั้นหรอ? อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้?
เย่หยูมองไปยังหยานเฟิงวูราวกับว่าเขากำลังมองขุมทรัพย์
“ดูเหมือนว่าเธอยังขาดอีกนิด!”
หยานเฟิงวูไม่ได้รู้สึกหดหู่ใจเลยสักนิด แววตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในขณะที่หน้าอกนิ่งของเธอยกสูงขึ้นแรงการหายใจที่หนักหน่วงของเธอ มุมปากของเธอโค้งขึ้น เผยให้เห็นฟันขาวๆของเธอ
“ไปเทียบกันในบันทึก!”
เย่หยูมองไปยังหยานเฟิงวูที่ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ยังกะเขาจะมีความสุขมากกว่าเธอ
“อีกครั้ง!”
เย่หยูและหยานเฟิงวูกลับมายืนที่สนามกระโดดสูง เพื่อเตรียมตัวที่จะแข่งกระโดดสูง
“พี่หยานต้องการเป็น 2 เมตรรึเปล่า? “
นักเรียนคลาส 3 ถามหยานเฟิงวู
“เลื่อนไปเป็น 2.5 เมตร!”
หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยูอย่างกวนประสาท
คิ้วของเย่หยูกระเหม่นในขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ
“2.6 เมตร!”
โอ้~
นักเรียนที่อยู่รอบๆสูดหายใจเข้าลึกๆ นี้มันบ้าเกินไปแล้ว! นี้มันเลขที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน!
หยานเฟิงวูทำให้เย่หยูดูประหลาดใจก่อนที่จะพยักหน้า
“ได้ 2.6 เมตร!”
หยานเฟิงวูก้าวเพียงไม่กี่ก้าวขณะที่เสาแนวนอนกำลังถูกวางลง จากนั้น เธอก็เหยียดแขนขาของเธอ
เพื่อเตรียมพร้อมกระโดด
เฟี้ยว!
หยานเฟิงวูงอขาอันเรียวยาวและทรงพลังของเธอ จากนั้นเธอก็กระโดดงอตัวและวาดส่วนโค้งเว้าที่สวยงามขึ้น และก็ข้ามผ่านเสาแนวนอน
ภายใต้สายตาของทุกคน เสาสั่นอยู่สองสามครั้งก่อนที่จะตกลงมา
“น่าเสียดาย!” “อีกนิดเดียวเอง!”
นักเรียนจากคลาส 3 กำหมัดแน่น อีกแค่นิดเดียวเอง
หยานเฟิงวูยืนขึ้นจากเบาะรอง เธอไม่ได้แสดงอาการท้อแท้อะไร เธอกลับมองไปยังเย่หยูดวงแววตาที่ลุกโชน
“ตานาย!”
เย่หยูยืนอยู่ที่ว่างตรงกลาง แสงอาทิตย์สาดมายังร่างกายเขา ซึ่งมันทำให้เขาดูเปล่งประกาย
เร่งความเร็ว ก้าว กระโดด!
เย่หยูเหมือนกับปลาคาร์พทองคำที่กำลังจะกระโดดข้ามประตูมังกร เขาวาดส่วนโค้งที่ยอดเยี่ยมขณะกระโดดข้ามเสาแนวนอนสูง
เย่หยูยืนขึ้นจากเบาะรอง มองไปยังนักเรียนรอบๆที่กำลังมึนงง และพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“อะไร นี่มันไม่คุ้มพอกับการเชียร์ของพวกเธอหรอ?”
นักเรียนรอบๆที่ต่างกันอ้าปากค้าง ในที่สุดก็กลับมาได้สติ เสียงคุยกันเหมือนกระแสน้ำที่จมอยู่ใต้บริเวณนี้
“เขากระโดดข้าม 2.6 เมตรได้จริงๆ!”
“พระเจ้า!”
“เกือบจะสองเท่าของส่วนสูงฉันเลย! เขาทำได้ยังไง?”
“นี่ไม่เห็นเขากระโดดตรงนั้นหรอ? หลังของเขายังห่างจากเสาแนวนอนไกลอีกด้วย!”
หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยู แววตาของเธอรุกโชนมากยิ่งขึ้น จากนั้นเธอก็ยกนิ้วให้เย่หยู
“อีกครั้ง!”
ต่อจากนั้น เย่หยูและหยานเฟิงวูก็แข่งกระโดดไกลข้ามสิ่งกีดข้ามอีกหลายพันเมตรต่อ หากไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น หยานเฟิงวูอาจจะแพ้ต่อเนื่อง
“นายไม่รู้วิธีที่ทำให้ผู้หญิงสวยๆทำตามที่พวกเขาพูดหรอ? ระวังอย่าทำให้สาวสวยโกรธเข้านะ!”
หยานเฟิงวูมองไปยังสาวๆสวยที่เต็มไปด้วยกำลังใจ เหงื่อบนหน้าผากทำให้เธอดูมีเสน่ห์ขึ้นมาเล็กน้อย
“ถ้าฉันปล่อยเธอไป เธออาจจะโกรธขึ้นมาจริงๆ”
“ฮ่า ฮ่า…”
หยานเฟิงวูหัวเราะเสียงดัง เธอเหยียดแขนขึ้นไปพาดที่คอเย่หยู
“นายเนี่ยรู้จักฉันจริงๆ โชคดี!”
เย่หยูยกขวดน้ำขึ้นมาและชนไปที่หยานเฟิงวู
“ทำไมเพื่อนห้องเธอถึงเรียกเธอว่า ‘วาลคีรีหละ’?”
หยานเฟิงวูไม่ตอบ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งแทนก่อนที่จะมองไปที่เย่หยูแล้วถามว่า
“นายเป็นศิลปะป้องกันตัวด้วยรึเปล่า?”
เย่หยูนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัว
“ไม่ ฉันไม่เคยฝึกศิลปะป้องกันตัว”
หยานเฟิงวูตาเป็นประกาย
“มันยากนะที่จะคิดนะนะด้วยสมรรถภาพร่างกายของนายจะไม่เคยฝึกแม้กระทั้งศิลปะป้องกันตัว!”
“ฉันรักกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก สมรรถภาพร่างกายและความสามารถในการออกกำลังกายจึงมากกว่าคน
อื่น เมื่อฉันโตขึ้น ความสามารถนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปด้วย “
หยานเฟิงวูนั่งกอดเข่าในขณะที่เงยหน้าขึ้นทอดสายตาออกไป
“ในกลุ่มเพื่อนฉัน ไม่เคยมีใครเคยชนะฉันมาก่อน นาย เป็นคนแรก!”
หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยูแล้วยิ้มบางๆและขยิบตาใส่
“ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา ฉันเริ่มฝึกหมัดปาเจี้ยกับครูพละของฉัน ซิงเหมิง ตอนนี้ความแข็งแกร่งและความเร็วของฉันถึงขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์แล้ว! “
คำพูดเหล่านี้ เย่หยูเงยหน้าไปมองซิงเหมิงที่อยู่ไกลออกไปกำลังนอนหลับตาอยู่บนม้านั่ง
“ซิงเหมิงรู้ 8 หมัดขั้นสูงด้วยหรอ?”
หยานเฟิงวูพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“ใช่! นอกจากนั้น เขายังเป็นนักสู้ระดับ2 กลั่นโลหิต ด้วยนะ!”
เย่หยูมองไปยังซิงเหมิงด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าอาจารย์พละที่เข้าใจยากของเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
“งั้นแล้วทำไมเขาถึงมาเป็นครูพละหละ?”
เย่หยูสงสัยว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้มาซ่อนอยู่ในโรงเรียนทำไม
“ปีก่อนอาจารย์ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาไม่มีโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้น นั้นเป็นสาเหตุที่เขามาที่นี่เพื่อทำในสิ่งที่เขาต้องการ! “
หยานเฟิงวูพูดด้วยความเศร้า ถ้าไม่ใช่เพราะซิงเหมิงได้รับบาดเจ็บเมื่อปีที่แล้ว เขาคงไม่ได้เป็นแค่นักสู้ระดับ 2 เท่านั้นหรอก!
“นั้นเป็นเหตุที่ว่าทำไมถึงเรียกเธอว่าวาลคีรีหรอ?”
เย่หยูถามด้วยความสงสัย
หยานเฟิงวูพยักหน้า
“นั้นเป็นเพราะมีนักเรียนบางคนเห็นฉันซ้อมกับอาจารย์ พวกเขาเลยเรียกฉันว่าวาลคีรี”
เย่หยูหัวเราะ ชื่อของ นักรบบนสวรรค์ ดูเข้าไปหยานเฟิงวู
“งั้นเธอก็แข็งแกร่งมากสิ ที่สามารถสู้กับนักสู้ระดับ 2 ได้”
“เปล่า! ฉันเคยเป็นคนที่ชนะอาจารย์! “
หยานเฟิงวูเลิกคิ้วบางๆขึ้นแล้วเปล่งแสงออร่าความกล้าหาญออกมา
เย่หยูคิ้วขมวด ชนะหรอ?
“นักสู้ระดับ 2 น่าจะมีทรงพลังมากใช่ไหม? เธอเอาชนะเขาได้ยังไง?”
“ด้วยมือข้างเดียว อาจารย์บาดเจ็บและความแข็งแกร่งก็ลดลง ในทางตรงกันข้าม ฉันอยู่ในขั้นไม่ธรรมดาในระหว่างการต่อสู้”
“งั้นทำไมถึงมาบอกฉันหละ?”
เย่หยูมองไปยังหยานเฟิงวู และรู้สึกแย่ในใจทันที
หยานเฟิงวูมองไปยังเย่หยูด้วยแววตาที่ลุกโชน ราวกับเสือดาวตัวเมียจ้องเหยื่อ
“เพราะฉันอยากจะสู้กับนายจริงๆ”