ปล้นสวรรค์ - 40 แผนสกปรก
SPH:บทที่ 40 แผนสกปรก
ในตอนเช้า เขาตื่นนอนและเปิดหน้าต่าง เขาอารมณ์ดี หลังจากล้างหน้าและบ้วนปาก เขาก็เริ่มทำสิ่งที่สำคัญที่สุดของวัน : ปล้นสวรรค์
เย่หยูเรียกในใจ แล้วหน้าระบบก็ปรากฎขึ้นมาในความคิด
“มนุษย์ : เย่หยู(ลัทธิเต๋า เลเวล 1)”
“รูปร่าง: ร่างกายแห่งจิตวิญญาณดาบ”
“การขโมย : 1”
“คะแนนเต๋าชั้นสูง: 210/1000”
“ความสามารถ: ทักษะไพ่บิน ซุปเปอร์แคลคูลัซ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา 13 เข็มของสำนักปีศาจ หน้ากากนักร้อง”
“วิถีทางทักษะ: “36 กระบวนท่าของยิมนาสติก”
“ไอเท็ม: น้ำยาสัตย์จริง แว่นของโคนัน ประตูมังกรหยกแกะสลัก ถ้วยเรืองแสง “
“จับล็อตเตอร์รี่: 0”
“มาเริ่มกันเถอะ!”
เย่หยูออกคำสั่ง และวังวนอันงดางามก็ส่องแสงต่อหน้าเขา
ทะเลแคริบเบียนที่ลึกและกว้างใหญ่เป็นเหมือนสวรรค์ของพวกโจรสลัด ที่นี่มีสมบัตินับไม่ถ้วน
เช่นเดียวกับเหล่าโจรสลัด หนึ่งในสิ่งที่น่าหวาดกลัวมากที่สุดของพวกเขาคือ โจรสลัดผีดิบบนเรือแบล็คเพิร์ล บาโบซ่า!
บนผิวน้ำทะเล ถูกปกคลุมด้วยเรือโจรสลัดที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำแล่นผ่าน แล่นผ่านสายลมและทำลายคลื่นน้ำ
แสงสว่างจากจันทราส่องลงมาเป็นครั้งคราวบนเรือโจรสลัด ลูกเรือที่เป็นร่างโครงกระดูกกลับมาขยับเขยื่อนอีกครั้ง!
นี่คือโจรสลัดที่นำโดยบาโบซ่า เขาถูกสาปโดยเหรียญแอซแท็กทองคำ และครั้งหนึ่งเขาเคยปรากฏใต้แสงจันทร์ เขามาในร่างของโครงกระดูก!
ถึงแม้พวกเขายังไม่ตาย แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสุขกับการเป็นมนุษย์ โจรสลัดบาโบซ่าท่องไปทั่วทะเลแคริบเบียนตลอดทั้งวันเพื่อที่จะหาทางลบล้างคำสาป
ภายนอกถ้ำที่อยู่บนเกาะที่ไกลออกไป แบล็คเพิร์ลค่อยๆแล่นเข้าไปราวกับเรือผีสิง
ภายในถ้ำนั้นคับแคบแต่กลับกว้าง เรือโจรสลัดลอยอยู่บนน้ำทะเลใสอย่างเงียบๆ มองผ่านน้ำทะเลใสลงไปก็จะมองเห็นเหรียญทองคำที่เปล่งประกายอยู่เบื้องล่าง
เมื่อพวกเขามาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ คบเพลิงนับไม่ถ้วนและแสงจันทร์ที่ส่องสว่างจากเพดานถ้ำราวกับเป็นตอนกลางวัน
ภูเขาแห่งทองคำและเงินกองอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำและเมื่อกระทบกับแสงไฟก็ก่อให้เกิดแสงระยิบระยับ
เหรียญทองคำนับไม่ถ้วน อัญมณีและตุ๊กตาโบราณที่ทำให้เป็นสรวงสวรรคแห่งความโลภ
และจุดสูงสุดของทรัพย์สมบัติที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันคือกล่องหินขนาดใหญ่ที่ถูกสลักด้วยอักษรรูนที่ซับซ้อน
ฝากล่องหินพาดไปยังด้านข้าง เผยให้เห็นกล่องที่เต็มไปด้วยเหรียญทองคำสุดพิเศษ
แถบวงแหวนรอบนอกของเหรียญทองคำเป็นสามเหลี่ยมที่เปล่งประกาย และตรงกลางถูกสลักด้วยกะโหลกปีศาจ
นี่มันเหรียญแอซแท็กต้องสาป!
บาโบซ่าผู้เป็นอมตะยืนอยู่ข้างหีบและหยิบเหรียญทองคำขึ้นมาหนึ่งกำ เขาคลายมือที่กำอยู่แล้วเหรียญทองคำก็ค่อยๆหล่นกลับลงไปในหีบ
เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากเหรียญทองคำ บาโบซ่าก็หัวเราะเสียงดังอย่างตื่นเต้น
เมื่อมองไปที่โจรสลัดรอบๆ บาโบซ่าตะโกนเสียงดัง
“ไชโย! วันนี้พวกเราจะล้างคำสาปผูกกับพวกเราไว้ได้แล้ว!”
“โอ้!โอ้!โอ้!”
เมื่อเหล่าโจรสลัดได้ยินบาโบซ่าตะโกน พวกเขาทั้งหมดก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
บาโบซ่ายื่นมืออกมาปราบเหล่าโจรสลัด แต่เมื่อพวกเขาเงียบลง เขาก็โบกมือ
“เอาเขาขึ้นมา!”
หนุ่มหหล่อถูกดึงขึ้นมาบนกองเหรียญภูเขาทองคำโดยโจรสลัด
บาโบซ่ายื่นมือไปคว้าสร้อยคอของชายคนนั้น และดึงออกมาทันที เขาดึงเหรียญทองคำที่ผูกติดกับสร้อยคออยู่ นี่คือเหรียญแอซแท็คทองคำอันสุดท้าย
บาโบซ่าดึงมีดสั้นออกมาแล้วกรีดไปที่ฝ่ามือชายคนนั้น ทำให้เหรียญทองคำเป็นสีแดงเลือด
บาโบซ่าจ้องไปยังเหรียญทองคำที่เปื้อนเลือดอย่างตื่นเต้น และหลังจากนั้นก็ชูมันขึ้น
“ตราบใดที่เหรียญทองคำกลับคืนมาสู่กล่อง คำสาปของพวกเราก็จะถูกปลดปล่อย”
สร้อยเหรียญทองคำเปื้อนเลือดที่ชูขึ้นถูกปล่อยกลิ้งลงมาจากฟ้า
ติ้ง!
เสียงดังที่กระทบกันทำให้พวกโจรสลัดตื่นจากอาการมึนงง
โจรสลัดที่ยืนอยู่ที่ขอบของแสงจันทร์ก็ยื่นมือที่สั่นเทาของเขาออกไป
“มันไม่เป็นโครงกระดูกแล้ว! คำสาปถูกปลดปล่อยแล้ว!”
เหล่าโจรสลัดตะโกนอย่างตื่นเต้น เขาอาบแสงจันทร์ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นโครงกระดูกอีกต่อไป
“โอ้!โอ้!โอ้!”
เหล่าโจรสลัดทั้งหมดส่งโห่ร้องและเฉลิมฉลองการกลับมาเกิดใหม่ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีโจรสลัดคนใดที่อยู่ท่ามกลางความน่ายินดีนี้สังเกตเห็นมือขวาที่ยืนมาที่หีบและคว้าเหรียญทองคำไปเต็มกำมือก่อนที่จะหายไป
เย่หยูแบมือ เหรียญห้าเหรียญนอนแน่นิ่งอยู่บนฝ่ามือของเขา
“เหรียญทองคำนี้ช่างแปลกจริงๆ!”
เย่หยูจองเหรียญทองคำบนฝ่ามือ รูปกะโหลกที่ถูกสลักมันสะดุดสายตาเขามาก
เหรียญทองคำเหล่านี้ปล่อยแสงออกมาวู๊บว๊าบทำให้ดึงดูดผู้คนให้หลงใหลได้!
มีเสียงที่บอกให้ผู้คนเหล่านั้นมองไปที่เหรียญ เข้าใจหละ! จะไม่มีใครสามารถแย่งมันไปจากฉันได้!
“ติ๊ด! ขอแสดงความยินดีกับโฮสที่ขโมยสำเร็จ รางวัลของคุณคือ 90 คะแนน!”
“ติ๊ด! ขอแสดงความยินดีที่สามารถขโมยเหรียญแอซแท็คต้องสาปสำเร็จ”
เมื่อได้ยินเสียงของระบบในความคิด เย่หยูก็ถามอย่างงงๆ
“ระบบ เหรียญทองคำนี้เป็นเหรียญแบบไหน?”
“เหรียญแอซแท็คต้องสาป”
“คุณต้องการดึงสกัดวิญญาณไหม”
“ดึง!”
เหรียญทองคำที่วางอยู่บนฝ่ามือของเย่หยู มวลสารของทองคำและแสงสีดำของจิตวิญญาณประสานเข้าด้วยกัน ปรากฎขึ้นระหว่างคิ้วของเย่หยูในพริบตา
เมื่อนึกไปถึงข้อมูลในความคิด เย่หยูหายใจเข้าลึกๆ นี่มันเหรียญทองคำที่มีคำอวยพรและคำสาปเข้าด้วยกัน!
เหรียญทองคำทั้งห้าเหรียญให้ความสามารถสองอย่างกับเย่หยู คือ รัศมีแห่งผู้พิทักษ์และรัศมี
แห่งคำสาป
“ออร่าการปกป้อง: เมื่อพบเจอกับอันตราย มันสามารถสร้างกำแพงล่องหนเพื่อปกป้องตัวเองได้!”
“รัศมีแห่งคำสาป: โยนมันใส่ศัตรู ในเดือนถัดมา เขาจะประสบกับเคราะห์ร้ายอีกครั้งและอีกครั้ง !”
โอวหยางหยูและฉินซิงกลับมาอยู่นอกโรงเรียนซิงหยูพร้อมกัน
“ยังจำที่ฉันบอกได้ไหม?”
โอวหยางหยูมองไปที่ฉินซิงและแนะนำด้วยน้ำเสียงต่ำ
ฉินซิงพยักหน้าและแสดงท่าทาง
“ไม่มีปัญหา มันไม่ใช่เพียงเรื่องเข้าใจผิดระหว่างฮันเสวี่ยกับเย่หยู?! ฉันเก่งเรื่องแบบนี้!”
ฉินซิงค่อยๆจ้องโอวหยางหยางหยูและพูดทันที
“งั้น เธอคงไม่ลืมสัญญาใช่ไหม?”
ดวงตาของโอวหยางหยูหรี่ลงขณะหัวเราะเยาะ
“นี่เธอคิดว่าฉันไม่มีเงินพวกนั้นหรอ? ตราบใดที่เธอยังทำตามที่ฉันสั่ง เงินจะเป็นของเธอ!”
เมื่อเห็นฉินซิงเดินไปไกล ปากของโอวหยางหยูขยับด้วยความไม่ชอบขณะพูด
“เธอมันก็แค่ของเล่น เมื่อเล่นสนุกแล้วจะโยนทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ยังคิดที่จะเกาะติดฉันอยู่อีกงั้นหรอ!”
“ อย่างน้อยขยะอย่างเธอฉันก็พอจะเอามาใช้ประโยชน์ได้อยู่บ้าง”
“สวัสดีครับคุณลุง ผม โอวหยางหยู ผมจัดการเรื่องนี้แล้ว “
โอวหยางหยูหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหาจูเหลียง
เสียงของจูเหลียงดังออกมาจากมือถือ
“หยูน้อย ฉันขโมยรายงานทางการแพทย์ของป้านายมาได้แล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่ต้องกังวลไป! เมื่อเวลามาถึง คุณก็เอารายงานมาให้ผม คราวนี้มันจะไม่มีปัญหา”
โอวหยางหยูวางสายด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น
“เย่หยู ครั้งนี้ ฉันจะให้นายไม่สามารถลุกขึ้นมาได้แน่นอน!”
เวลานี้ ฉินซิงได้เดินเข้าไปในห้องคลาสหนึ่งของปีสามเรียบร้อยแล้ว เธอมองไปรอบๆและเมื่อเหนเย่หยู เธอก็ตะโกนอย่างประหลาดใจ
“เย่หยู ออกมานี้หน่อยสิ ฉันมีบางอย่างจะบอกนาย!”
ฉินซิง? เธอมาพบเย่หยูได้อย่างไร?
เมื่อฮันเสวี่ยเห็นฉินซิง เธอก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจและรู้สึกไม่ดีขึ้นในใจ
เย่หยูขมวดคิ้ว เขามีความประทับใจบางอย่างกับฉินซิง มันเหมือนกับที่ฉินซิงพูดกับเขาก่อนหน้านั้น แต่ฮันเสวี่ยกลับเมินเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นร่างฮันเสวี่ยที่คุ้นเคย เย่หยูก็ลุกขึ้นและเดินออกนอกประตูไป สำหรับเพื่อนร่วมห้องของเย่หยู พวกเขาแอบอิจฉาเย่หยูที่โชดดีอะไรแบบนี้ ที่มีสาวน้อยสวยสดใสเข้ามาหาเขา
เย่หยูขมวดคิ้วมองฉินซิงที่แสร้งทำเป็นสุภาพและถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
“มีธุระอะไรกับฉัน?”
ฉินซิงเงยหน้ามองเย่หยู ด้วยใบหน้าที่ขวยเขิน เธอพูดออกมาเสียงดัง
“นายไม่ได้บอกฉันหรอว่าจะเลิกกับฮันเสวี่ยแล้วมาอยู่กับฉัน?”
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเงี่ยหูฟัง เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง มันมีบางอย่างผิดปกติ
เย่หยูคิ้วชนกัน และพูดอย่างเย็นชา
“นี่เธอบ้ารึเปล่า?! ฉันไม่แม้แต่จะรู้จักเธอ!”