ปล้นสวรรค์ - 7 รางวัลหรือลงโทษ
SPH:บทที่ 7 รางวัลหรือลงโทษ
“ฮาฮา อาจารย์หวู ผมบอกคุณแล้วว่าเย่หยูแค่โง่เขลา เขาจะ…อย่างไร” โอวหยางหยูหัวเราะอย่างเย่อหยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของเย่หยู
“คำตอยคือ 2 ส่วน 10” เสียงของเย่หยูดังขึ้น
“…แกแก้โจทย์นี้ได้งั้นหรอ?” โอวหยางหยูตกใจ เหตุใดเย่หยูจึงสามารถได้คำตอบอย่างรวดเร็ว เขาต้องพูดไร้สาระ!
“เย่หยู แกช้าไปแล้วนะ หากแกแก้ไม่ได้ ก็ยอมรับเถอะ แกจะคิดได้ยังไงกับโจทย์ขั้นสูงของ อาจารย์หวู!”
โอวหยางหยูชี้ที่จมูกของเย่หยูและตะโกนด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น แต่สายตาที่ไร้ความกังวลก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ชายชราเกลียดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ เวลานี้เย่หยูจะมีความผิดมากขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่แค่โอวหยางหยู แต่นักเรียนคนอื่นจ้องมองเย่หยูด้วยสายตาว่างเปล่า มันจะใช่จริงหรอที่คุณมั่นใจในคำตอบเช่นนี้?
ฮันเสวี่ยกุมมือและปิดหน้าของเธอไว้ เธอเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะที่น่ารักจริงๆ จนไม่กล้าเปิดนิ้วออกเลย
เห็นแบบนั้นเย่หยูยังยืนอยู่โดยที่ไม่แสดงอาการใดๆ โอวหยางหยูตัดสินใจสู้ต่อ เนื่องจากสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้แล้วทำไมเขาถึงยังแสร้งทำอยู่ได้ เขาคงไม่รู้จริงๆว่าวิธีเขียนคำว่า “ตาย” เป็นอย่างไร
“เย่หยู!” ทำไมแกไม่ขอโทษอาจารย์ หวูฉีหล่ะ? ดูเหมือนแกจะไม่นับถืออาจารย์ หวูฉีจริงๆ” โอวหยางหยูตะโกนใส่เย่หยู
“หุบปาก” อาจารย์หวูตะโกน
“ได้ยินไหม” บอกให้หุบปากไง! “โอวหยางหยูเงยหัวและเริ่มจะภูมิใจในตนอง
อาจารย์หวูชี้ที่จมูกของโอวหยางหยู พ่นคำใส่หน้าเขา “ฉันบอกให้หุบปาก!”
“อะไรนะ?” โอวหยางหยูตะลึง ใจว่างเปล่า มันเกิดอะไรขึ้น?
“อาจารย์ หวู นั่นไม่ใช่ผมนะ มันคือเย่หยูต่างหาก คือเขา! โอวหยางหยูพยายามที่จะปกป้องตนเองอย่างเร่งรีบ หวังว่าอาจาย์หวูจะด่าว่าเย่หยู
“เขา เขาอะไร!? เขาทำถูกแล้ว!?” อาจาย์หวูมองที่เย่หยูด้วยรอยยิ้ม ไม่เคยหวังว่าจะมีใครสักคนที่เต็มไปด้วยความสามารถจะซ่อนอยู่ในห้องเรียนของเขา
“อะไรนะ?” ทั้งห้องมองที่เย่หยูอย่างไม่เชื่อสายตาว่าจริง ๆ แล้วเขาตอบคำถามอย่างถูกต้องหรอ!
ตาของฮันเสวี่ยเปล่งประกายขณะที่มองที่เย่หยู ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอเริ่มไม่เข้าใจเพื่อนร่วมโต๊ะของเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
อาการของโอวหยางหยูเปลี่ยนไปและเริ่มกังวลขณะที่เขาตะโกนออกมาอย่างดังว่า “เรื่องล่อเล้นใช่ไหม! เย่หยูไม่ใช่คนผิดและนั่นไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน”
“พอแล้ว แค่ถ่างตาดูให้ดี! ” อาจาย์หวูมองที่โอวหยางหยูด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
โอวหยางหยูหดคอและลดเสียงของเขาลง “นั่นอาจะเป็นเพราะเย่หยูรู้คำตอบนี้อยู่แล้ว !”
“หยุดพูดได้แล้ว !” ฉันเป็นคนหนึ่งที่ตั้งคำถามนี้ขึ้นมาและไม่มีใครรู้ โอวหยางหยูเธอได้ทำผิดกฎของห้องเรียนหลายครั้ง ดังนั้นฉันจะลงโทษเธอ”
หลังจากอาจารย์หวูพูดจบ เขาไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับโอวหยางหยูอีกเลย
เขาหันกลับไปด้วยรอยยิ้มและมองที่เย่หยู “ไม่คาดคิดจริงๆ เย่หยู เธอได้ซ่อนความสามารถเอาไว้ เป็นเวลาสามปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์
เย่หยูยิ้มและโบกมือ “อาจารย์ คุณกำลังพยายามทำให้ผมลำบากใจ เมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งรู้แจ้งและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากมาย “
อาจารย์หวูสั่นหัว ในคำพูดของเย่หยูและถอนหายใจ
“ฉันไม่เชื่อคำพูดของเธอในทันทีหรอก แต่ฉันไม่มีทางเลือกแต่ก็เชื่อตามสิ่งที่เห็นในความสามารถของเธอ โอจริงสิ มาที่ห้องของฉันหลังเลิกเรียนและฉันจะให้รางวัล!”
อาจารย์หวูยกมือขึ้น เป็นสัญญาณให้เย่หยูและโอวหยางหยู “โอเค ทั้งสองนั่งลงได้ เราจะเริ่มเรียนกันต่อ”
โอวหยางหยูเจ็บใจแต่ไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งลง เขาวางแผนที่จะเยาะเย้ยเย่หยู แต่ใครจะคิดว่าเย่หยูมันจะรอดไปได้!
ในขณะที่ความโกรธและความอิจฉาริษยากัดแทะในจิตใจของเขา โอหยางหยูอยากจะบ้าหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งจะทำให้อาจารย์หวูโกรธ ดังนั้นเขาจึงต้องสงบลงในขณะที่เขาหันกลับมาและจ้องมองเย่หยูอย่างโกรธแค้น
เย่หยูมองที่ตาของโอวหยางหยูและยิ้มเบาๆ เขาเข้าใจความหมายในตาของโอวหยางหยู เด็กน้อยหานายมีความกล้าอย่าเพิ่งออกไปหลังจากเลิกเรียนละ!
หลังจากเย่หยูนั่งลงแล้ว ฮันเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างๆโน้มตัวเข้ามาหาอย่างเงียบๆ ยื่นข้อศอกของเธอและสะกิดเย่หยู “เย่หยูนายเจ๋งไปเลยในตอนนั้น!”
เย่หยูกระพริบตาให้ฮันเสวี่ยและบอกว่า “ฉันหล่อมะ”
หลังเลิกเรียน ก่อนหวูฉีจะออกไปเขามองเย่หยูและบอกให้เขาตามไป
เย่หยูลุกขึ้นและตามหลังอาจาย์หวูไปเพื่อรับรางวัล
ห้องทำงานของหวูฉีคือห้องส่วนตัวและมีพื้นที่กว้างขวาง กำแพงทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวข้องกับวิชาเลข
โต๊ะทำงานที่กว้างถูกวางอยู่มุมใจกลางห้อง สมบัติทั้งสี่ของการเรียนถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบด้านบน ซึ่งไม่ตรงกับหนังสือโดยรอบ
“ดูนี่ก่อน ฉันกำลังหาบางอย่างอยู่” เขาเดินไปในสำนักงาน อาจารย์หวูพูดบางอย่างกับเย่หยู จากนั้นก้มลงมองหาบางอย่างในลิ้นชักข้างๆเขา
เย่หยูเดินไปที่โต๊ะตรงกลางของห้องและเห็นชิ้นส่วนกระดาษที่ถูกฉีกออกบนนั้น มันถูกเขียนว่า “หยุดทุกการเคลื่อนไหว สัมผัสสายลมและท้องทะเล”
“อาจารย์ ตัวอักษรของคุณช่างวิเศษจริงๆ” เย่หยูมองที่คำเหล่านั้น คำเหล่านี้เป็นตัวหนาและมีพลัง มีอิสระและง่ายที่จะเขียน
“โอ้เย่หยูเธอรู้หรอว่าอ่านอย่างไร
“ผมไม่เข้าใจคำแต่ผมรู้สึกว่าคำพูดของคุณมันจูงใจ ขอบของคำมีความเข้มและสวยงาม มันดูเหมือนว่าอาจารย์ไม่ใช่คนล้าหลังอย่างที่คนอื่นเห็น”
เย่หยูมองที่อาจารย์หวูที่กำลังหาของและหัวเราะ
อาจารย์หวูวางชิ้นกระดาษแผ่นนั้นลงในมือและเริ่มยิ้มและตำหนิเย่หยู
“เฮ้ เฮ้ เจ้าเล่ห์นักนะ ชายแก่อย่างฉันคงต้องเรียนรู้จากเธอ มันก็เหมือนดั่งคำที่เธอพูดก่อนหน้านี้ ทำไมไม่ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีความกังวลล่ะ?”
“คุณได้ยินหรอ” หน้าของเย่หยูกลายเป็นสีแดง นี้คืออะไรเขาบอกฮันเสวี่ยในห้องเรียน
อาจารย์หวูชี้ที่เย่หยูและพูดว่า “ฉันได้ยินเธอพูดมาสักพัก เธอหลอกเด็กตัวน้อยของตระกูลฮันหรอ”
“ตระกูลฮันหรอ? “มันดูเหมือนคุณรู้จักกับฮันเสวี่ยเป็นอย่างดี” เย่หยูคิดในใจลึกๆ มันดูเหมือนว่าภูมิหลังของครอบครัวฮันเสวี่ยนั้นไม่ธรรมดา
“คาดเดาได้เก่งมาก ฉันเคยพบกับปู่ของฮันเสวี่ยหลายครั้ง”
“อาจารย์หวูช่างตลกจริงๆ เด็กเหลือขออย่างผมไม่ได้มีความตั้งใจแบบนั้นเลย”
เย่หยูสั่นหัว
“เอาล่ะดูนี่” อาจารย์หวูวางกระดาษลงบนโต๊ะด้านหน้าเย่หยู
เย่หยูหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาดู “นี้คืออะไร?”
“การแข่งขันวิชาเลขที่พรินซ์ตัน! อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้จัก! ตราบใดที่เธออยู่ในอันดับที่ดี บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ เธออาจจะได้เสนอชื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหรือไม่เธอก็อาจจะได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ”
เย่หยูวางกระดาษลง มองที่อาจารย์หวูและพูดว่า “ผมขอปฏิเสธ ผมรู้ นี่มันเป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์ที่แพงมากในโลก ผมไม่คาดหวังว่าคุณจะให้ผมเข้าร่วม”
อาจารย์หวูนั่งลงบนเก้าอี้และถอนหายใจ “เหตุผลเป็นเพราะว่า ครั้งก่อนโรงเรียนของเราทำอันดับไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ และฉันหวังว่าครั้งนี้เธอจะสามารถนำทีมของโรงเรียนเราและได้รับชัยชนะกลับมา”
“คุณเชื่อจริงหรือว่าผมจะชนะการแข่งขัน?” เย่หยูมองที่อาจารย์หวู มันยากที่จะเชื่อว่าเขาพูดความจริง
“ฉันเชื่อมั่นในสายตาของตัวเอง และมันทำให้ฉันเชื่อในตัวเธอ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคิดผิดแน่นอน! “
ได้ยินเช่นนี้ เย่หยูรู้สึกตื้นตันใจ “ เด็กคนนั้นจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง !”
“เด็กดี!” อาจารย์หวูพยักหน้าด้วยความพอใจ “การแข่งขันจะจัดขึ้นในปลายปีนี้และนี้ยังมีเวลาอีกครึ่งปี ต่อจากนี้ ฉันจะฝึกเธอให้ดีที่สุด อย่าบ่นละกัน”
“ครับ!”
“ปี๊บๆ! นี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น และรางวัลคือการจับรางวัล”
หืมม? จริงหรอ? รางวัลนี้เป็นเรื่องดีสำหรับจิตใจอย่างมาก