ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 117 เล่ม 4 เซสะ
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 117 เล่ม 4 เซสะ
117 เล่ม 4 เซสะ
14 – 18 นาที
<วายุ: Seiza หรือ เซอิซา นั่งแบบเทพธิดาของไทย คุกเข่า เท้าราบ แต่ยังไม่กราบ ญี่ปุ่นไว้สำหรับนั่งเรียบร้อย หรือบางครั้งใช้เพื่อสำนึกผิด>
ปรกติแล้วผมเป็นคนอารมณ์กลางๆ
อะไร? หยุดตลกได้แล้ว คุณพูด? คุณคิดอย่างนั้นหรือครับ? ไม่ จริง ผมเป็นอย่างนั้น พวกคุณ มันเป็นเรื่องต่างออกไป ถ้าผมอยู่ในระหว่างงาน เพราะปรกติแล้ว ผมจะเจอแต่โจรสลัดเล็งเอาชีวิตผม แต่ผม ไม่ค่อยจะโกรธกบคนที่ผมใกล้ชิดด้วย แต่เมื่อมันเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก เหมือนพนักงาานร้านค้า หรือคนขายตั๋ว ผมจะแค่ทำตัวปรกติ และไม่เผชิญหน้าเต็มที่
แน่นอน นี่มันก็ขึ้นอยู่กับท่าทางของอีกคนด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่รู้สึกเหมือนว่าต้องสุภาพ กับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่ดูแลเรื่องหนี้สินของมีมิ และเจ้าหน้าที่ท่ายาน ที่กักตัวผมกลับไปที่เทอร์เมนไพร์ม
มันก็มีคำพูดว่า ‘คนรวยไมเข้าไปสู้’ กลับไปที่ซึ่งผมมา มันเป็นคำพูดอันพื้นฐานแล้วหมายถึง คนรวยๆ รู้อยู่แล้ว ว่าเขาจะไม่ได้เงินจากการเข้าไปสู้ ดังนั้น มันดีกว่าที่จะไม่ไปสู้ตั้งแต่แรก อืม รายละเอียดเล็กน้อยมันต่างกันนิดหน่อย แต่พื้นฐานแล้ว ผมเป็นคนรวยแล้วตอนนี้ ผมอยากจะใช้เวลาอย่างสงบสุขที่สุดเท่าที่เป็นไปได้อย่างน้อยก็เมื่อเวลาที่ผผมไม่ได้ทำงาน นั่นอะไรที่ผมคิด แต่…
“คุณคิดว่าผมจะปล่อยผ่านไปแบบนั้้นเหรอ? ไม่มีทาง? พวก! ผมไม่ทนแล้ว!”
ผมคิดว่าผมใจเย็นพอแล้ว จริงๆ มีการสแกนที่ไม่ได้รับอนุญาต พวกเขามุงกันอยู่รอบท่ายาน ตรงหน้ายานของผมระหว่างที่สร้างความวุ่นวาย และพวกเขาเรียกผมมาที่ที่ตั้งแต่เช้าตรู่ มีคำพูดว่า ‘ตบหน้าบุดดาสามครั้ง ความโกรธเขาจะขึ้นมา’ ไม่ จริงๆแล้วมันไม่ได้หมายถึงว่า คุณถูกยกโทษให้ได้สามครั้ง แต่มันเป็นเพื่อให้คนจำไว้ ว่าอย่าเยอะไป แต่ในกรณีนี้ ผมจะไปด้วยกันกับการตีความว่า ‘สามครั้ง’ ดังนั้น กัดกับผมสิ
“อืม…… เราขอโทษจริงๆ”
คอนนี้ซาร่าคุกเข่าเซสะอยู่หน้าผม ช่าย เธอคุกเข่าอยู่ตรงๆกับพื้นบนโรงจอดยาน เปื้อนไปด้วยน้ำมันและสิ่งสกปรก คนที่อยู่ต่อจากเธอ คือหัวหน้าช่างและผู้ดูแลเวิร์กช็อป และข้างหลังพวกเขา คือผู้หญิงดวอร์ฟทีทำร้ายผมเหมือนเดดบอลก่อนหน้า และผู้หญิงอีกคน ที่ เย็**ม่ เขวี้ยงเธอมาใส่ผม แล้วผมก็ให้ช่างคนอื่น และช่างซ่อมแซมคุกเข่าข้างหลังพวกเธอด้วย
“เฮ้ ผมเป็นลูกค้าคุณนะ ใช่มั้ย? เราได้เดินหน้าถอยหลังใส่กัน แต่ในท้ายที่สุด ผมยังซื้อยานโมเดลล่าสุด โดยที่ไม่ได้เอะอะโวยวายอะไรมาก ดังนั้น ผมควรจะเป็นลูกค้าที่มีค่าของคุณแล้วตอนนี้ ถูกมั้ย? การที่จะมาสร้างความไม่สะดวกซ้ำๆซากๆและแม้แต่ทำให้ลูกค้าที่มีค่าบาดเจ็บ เป็นนิสัยการทำงานของสเปซ ดเวิร์กใช่มั้ย? หรือมันทีที่มันแค่พวกดวอร์ฟอย่างคุณทำกัน? คือการเรียกลูกค้ามาเช้าชิบหาย เพื่อให้เค้าแดกเดดบอล คือความคิดเรื่องนิสัยนั้นของพวกคุณหรืออะไรบางอย่างเหรอ? หึ้? เอาซี้ พูดมา!”
“น-นั่นไม่เคยจะเป็นเจตนาของเราเลย……”
ซาร่ามองผมด้วยสีหน้าที่มีน้ำตา
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ อย่ามาทำอย่างงั้นกับผมนะ เลดี้ ผมเนี่ยแหละที่อยากเป็นคนที่ร้องไห้ที่นี่ และไม่คิดเหรอว่า ภาพของคนที่เหมือนมนุษย์อย่างผม มองลงไปที่เลดี้ดวอร์ฟ ขณะที่เธอคุกเข่า ระหว่างที่ร้องไห้อีก จะส้รางความประทับใจที่ห่วยแตกที่สุดให้คนอื่นมากเท่าที่เป็นไปได้? มันเหมือนผมเป็นตัวร้ายแล้วตอนนี้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วผมเป็นผู้เสียหายอยู่ที่นี่ ด้งนั้นหยุดเลยนะ”
ใช่ สถานการณ์มันลงสีผมในภาพที่ห่วยแตก ถ้าคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้ ผ่านมาระหว่าที่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น
“ไม่ว่ายังไง มาจับตัวพวกคุณไว้แบบนี้ โดยที่ไม่มีงานห่าอะไรเสร็จ มันไร้ประสิทธิภาพและไม่ได้ดีกับผมด้วยเหมือนกัน อย่างแรก แค่กลับไปทำงาน ถ้าคุณทำงานสั่วๆล่ะก็ คุณจำผมไว้เลยนะ ว่าผมจะไล่ตามคุณไปถึงสุดกาแล็กซี และขยี้คุณให้น่วมเป็นกระสอบทรายเลย ดังนั้นตั้งใจทำงานเลยนะ ได้ยินป่ะ อย่าไปแค่มัวแต่วิเคราะห์เทค และยกเครื่องยานผมให้ถูกต้อง แล้วทำให้ไวด้วย โอเคป่าว ไป๊”
หลังจากที่ผมบ่น ช่างและช่างซ่อมดวอร์ฟที่เหลือกลับไปทำงาน ยกเว้นซาร่า หัวหน้าช่าง และ พี่น้องเดดบอล ผู้ที่ยังคุกเข่าเซสะ
“งั้น ต่อไปเป็นพวกคุณ……”
ผมจ้องซาร่าเขม็ง พร้อมแยกเขี้ยว
“ผมจะไม่บอกนะ ว่าพวกคุณต้องทำอะไร เพื่อที่จะชดใช้ผม ผมจะปล่อยเรื่องนั้นไว้ให้คุณไปคิดเอง ผมจะให้คุณโชว์ให้ผมดูว่า คุณจริงใจกับผมแค่ไหน สำหรับเรื่องส้นตีนทั้งหมด ที่ผมต้องทนมามากขนาดนี้”
“เค่อะ……”
ซาร่าพยักหน้าระหว่างที่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า หัวหน้าช่างก็พยักหน้าพร้อมหน้าซีด พี่น้องเดดบอลมันเลยการซีดจนตายแล้ว แต่ นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม
“สำหรับตอนนี้ ยกเครื่องต่อ ผมจะแค่หยุดการซื้อสกิซบราซูนิลไว้ก่อนตอนนี้ ผมจะตัดสินใจ ว่าจะต่อยังไง ขึ้นอยู่กับคุณจะชดใช้ผมยังไง คุณสบายกับเรื่องนั้นนี่ ใช่มั้ย? โอ้ และผมก็เอาเรื่องการซื้อไว้ก่อน แต่ผมจะไม่ทนบางอย่าง อย่างการยืดเดดไลน์สำหรับการส่งนะ พวกคุณเข้าใจ ใช่มั้ย?”
“เค่อะ…..”
ซาร่าพยักหน้าอย่างอ่อนแอครั้งหนึ่ง ผมเช็คเงินในบัญชีและส่ง 10,000,000 อีเนลสำหรับการดาวน์ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ 20 ล้านที่ตอนแรกเราตกลงกัน 10,000,000 ที่เหลือ จะถูกมอบให้พวกเขาถ้าไม่มีการติดขัด ในของชิ้นสุดท้าย
แน่นอนถ้าผมไม่เจอยานที่ชอบ 10 ล้านจะถูกคืนมาที่ผมเต็มจำนวน ถ้าสเปซดเวิร์กล้มเหลวที่จะทำให้ผมพอใจ พวกเขาจะต้องเอาสกิซบราซูนิลอีดิชันสุดท้ายที่ปรับแต่งเต็มที่แล้ว ไปยัดคลับของพวกเขา โดยไม่ได้รางวัลจากงานทั้งหมดที่เขาทำลงไปกับมัน เพราะมันเป็นยานใหญ่ ปล่อยมันจอดไว้ในสถานที่ของพวกเขา จะเพิ่มรายจ่ายเพิ่มเติมให้กับบริษัท จนกว่าพวกเขาจะสามารถกำจัดมันไปได้ไม่วิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะทั้งหมด พวกเขาแค่ใช้ท่ายานสาธารณะไม่ได้ ดังนั้นใครจะต้อเป็นคนที่เจ็บตัวที่นี่ ถ้านั่นได้มีวันเกิดขึ้น? มั้วฮ่าฮ่าฮ่า!
ผมแน่ใจ ว่าพวกเขาจะสิ้นหวังหลังจากนี้ ฮี่ฮี่ฮี่
“โอเค จบการสนทนา ผมจะรออยู่ ว่าสเปซดเวิร์กและดวอร์ฟอย่างพวกคุณ จะแสดงความจริงใจกันยังไง ขึ้นอยู่กับผล ผมอาจจะออกไปจากโคลนีนี้เลยก็ได้ เมื่อยกเครื่องยานผมเสร็จแล้ว ผมยังเป็นทหารรับจ้างแรงค์ทอง รู้ป่าว อย่างน้อยคุณก็มีไอเดียว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าบางคนอย่างผมใช้… วิธีที่ใช้กำลังกว่านี้ ใช่มั้ย? ผมไม่ได้ยิงสู้กันแย่ขนาดนั้นนะ รู้ป่าว”
ผมลดการ์ดก่อนหน้านี้ ดังนั้นผมจบที่การกินเดดบอลนั้นเต็มๆ อืม แนน่อน ผมไม่ได้ยกการ์ดขึ้น เพราะทั้งหมด ผมไม่ได้คาดว่าจะถูกโจมตีแบบนั้ จากแค่การมาหาเวิร์กช็อปยาน นั่นมันสามัญสำนึก
“ค่ะ… เราจะทำเต็มทที่จะชดใช้ให้ถูกต้อง และทำให้ความต้องการของคุณพอใจ”
“หวังว่าอย่างงั้นนะ ซาร่าซัง หวังว่าอย่างงั้น”
จากนั้นผมหันออกมาจากเธอ และเดินออกจากเวิร์กช็อป ตอนแรก ผมมีแผนที่จะไปหาอาวุธพาวเวอร์อาเมอร์ และเที่ยวชมหลังจากเสร็จระที่นี่ แต่ผมไม่อยากแล้ว แค่กลับเถอะ
หรือแทนที่จะเป็นแบบนั้น พวกเค้าจะเรียกผมมาทำไมกันวะตั้งแต่ทีแรก? และพวกเขาแม้แต่อยากจับตัวผมอีก อะไรกันวะ? ผมแม้แต่ถูกปาเดดบอลใส่และบาดเจ็บด้วย ผมต้องให้เครดิตตัวเอง ที่ไม่ชักปืนเลเซอร์และคลั่งหลังจากทั้งหมดนั่น ที่เกิดขึ้น ผมจริงจังเลยพวก ให้ตายเถอะ
—————————————————————
“ให้หนูไปสังหารหมู่พวกดวอร์ฟมั้ยคะ นายท่าน?”
“มันไม่เป็นไร เม มันไม่เป็นไร”
หลังจากที่กลับมาและบอกสาวๆว่าอะไรเกิดขึ้น เมยื่นขอเสนอที่อันตรายด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า เมื่อเธอได้ยินว่าผมจบที่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่สร้างความไม่สะดวกให้กับผมต้งแต่เช้าตรู่ เธอโกรธมากๆ ซึ่งมันชัดเจนแม้ด้วยหน้าตาที่ว่างเปล่าเหมือนเดิมของเธอ อืม มันไม่เหมือนกับว่าเธอมีแผนจะฆ่าพวกเขาไม่ว่าอย่างไร… เธอไม่ทำ ใช่ไหม? โอน้องเอ๋ย
“หนูไม่เข้าใจอ่ะ ว่าทำไมพี่ต้องไปเจอทั้งหมดนั่น ฮิโระซามะ…”
“งั้นพวกเค้าอยากจับตัวนักบิน หือ……”
มีมิสับสนหลังจากได้ยินเรื่องของผมใช่ ผมก็ไม่เกทด้วยเหมือนกัน อย่างไรทำไมผมก็ต้องแดกเดดบอลเป็นอย่าแรกในตอนเช้า? ผมมองเอลม่า และเห็นเธออยู่ในห้วงลึกของความคิด เธอพอคิดออกหรือว่าเกิดอะไรขึ้น?
“เตงคิดอะไรได้บางอย่างเหรอ?”
“ดวอร์ฟพวกนั้นอาจจะอนุมานได้ว่านายใช้ทรัสเตอร์ยาน เพื่อทำการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมือนปรกติ หลังจากที่แยกกฤษณะเป็นชิ้นๆ ใช่ นั่นน่าจะเป็นแบบนั้นแหละ”
“แต่ดาต้าที่มีส่วนนั้นถูกล็อคอยู่นะ?”
“พวกเค้าต้องได้อนุมานโดยการเช็คตัวทรัสเตอร์ตรงๆนะ ดวอร์ฟมีความสามารถไม่เหมือนมุษย์ ที่ทำการสังเกตุอย่างละเอียดเกี่ยวกับสภาพของโลหะและอัลลอยและอะไรพวกนั้นได้ พวกเขา ‘อ่าน’ โลหะได้ เหมือนที่คนและเอลฟ์อ่านหนังสือ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าถึงดาต้า พวกเขายังอนุมานได้ว่าการขับขี่ของนายมันพิเศษไม่เหมือนใครละไม่ธรรมดาแค่ไหน ด้วยแค่การ ‘อ่าน’ สภาพของทรัสเตอร์”
“เกี่ยวกับสภาพของเหล็ก หือ……”
เมเชื่อมต่อเน็ตและหาข้อมูล เธอพยักหน้าเหมือนเชื่อกับการคาดเดาของเอลมม่า
“แต่ทำไมพวกเขาอยากได้ตัวเค้านะ ?พวกเขาแค่ใช้นักบินทดสอบได้นี่”
“เหล่าช่างมีนิสัยที่จะชอบแข่งกันเองเพื่อที่จะหาตัวนักบินทดสอบที่มีความสามารถ มันอาจจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองติดตัวน่ะ”
“ไม่ใช่มันขัดผลประโชน์เพราะมันน่าจะทำให้ผู้ที่เป็นไปได้ว่าจะสมัครกลัวหรือโกรธเหรอ…?”
พวกเขาควรจะทำอะไรเป็นกลาง และไม่ใจร้อนเมื่อทำอะไรแบบนี้
“ไม่ว่ากรณีไหน เค้าสงสัยว่าพวกเขาจะทำอะไรหลังจากนี้……เตงบอกว่าพวกเขาจะต้องแสดงความจริงใจ แต่เค้าเดาวิธีที่พวกเขาจะใช้ไม่ได้เลย”
“พวกเขาหยายคายกับลูกค้าของพวกเขามากๆ แต่ในท้ายที่สุด นายท่านออกมาด้วยการบาดเจ็บเบาๆ ท่านจะได้การชดเชยมากที่สุด 500 อีเนล ถ้าท่านส่งมอบดาต้าวินิจฉัยให้กับตำรวจ ยังไงซะ เรื่องพลาดๆแบบนี้ ควรจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ในบริษัทขอพวกเขา หนูมั่นใจว่าพวกเขาคิดหามาตรการตอบโต้เป็นร้อยๆในความสับสน เพื่อที่จะรับมือกับมัน”
“ยังไงซะ แต่พวกเขาเป็นดวอร์ฟนะ…… จากใจเลย ชั้นจะไม่แม้แต่ตกใจถ้าพวกเค้าจบที่การทำอะไรบางอย่างที่เว่อร์วัง”
เอลม่าถอนหายใจและยิ้มเบี้ยวๆ เมื่อมาคิดดูแล้ว ความสัมพันธ์ของเอลฟ์กับดวอร์ฟเป็นยังไงในมิตินี้กันไม่ว่าอย่างไร? ผมมีจินตนาการว่าพวกเขาไม่สนิทกันตลอด เพราะปรกติแล้วพวกเขาสื่อออกมาแบบนั้นประจำกลับไปที่โลก
“เตงมีบางอย่างเกี่ยวกับพวกดวอร์ฟเหรอ เอลม่า?”
“ไม่ ไม่เลย เค้าไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับพวกเขา แต่ อื้ม… เมื่อมันเป็นเรื่องดวอร์ฟ มีหลายคนในหมู่พวกเขาที่ถูกเรียกว่า เอ่อ แหกคอก แนวคิดของพวกเขามีนิสัยที่ชอบที่จะคุมไม่ได้บ่อยครั้ง และอาจจะเลือกทิศทางทีคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงเลย มันเป็นคุณภาพที่ดี ที่จะมีนักประดิษฐ์ ช่าง และนักวิจัย แต่มันเกี่ยวข้องกันกับสัญชาตญาณของพวกเขาในฐานะเผ่าพันธุ์มากกว่า ดังนั้นมันอาจจะระเบิดใส่หน้า และสร้างปัญหาให้คนอื่นรอบๆพวกเขา”
“เข้าใจแล้ว…… ยังไงซะ ซาร่าไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นพวกประเภทที่ทำอะไรโดยคิดน้อยๆ เป็อย่างน้อย… เธอไม่เป็น ใช่มะ?”
“มั้ง ยังไงซะ มันไม่เหมือนกับว่าดวอร์ฟทุกคนเป็นซะแบบนั้น มันก็มีดวอร์ฟอยู่ค่อนข้างเยอะ ที่ทำตัวมีเหตุผลด้วยเหมือนกัน พวกเค้าแค่มีนิสัยเพราะลักษณะของเผ่าพันธุ๋ของพวกเค้า” —————————————————————
“อืม…… อืมเราจะอยู่ในความดูแลของคุณ เริ่มจากวันนี้้ไป หนูทีน่านะ”
“ม-มาสนิทกันนะ… หนูวิสเกอร์ ได้โปรดเบากับเราด้วยนะ……”
คืนนั้น สองพี่สาวน้องสาวเดดบอลเข้ามาในห้องผม ระหว่างที่ใส่เสื้อผ้าบางๆเสียจนน่าสงสัย
ดวอร์ฟที่ชื่อทีน่ามีผมแดงและหน้าตาน่ารัก เธอใส่ชุดหมีเปื้อนน้ำมันและหมวกทำงานเมื่อตอนเช้าๆนี้ ดังนั้นผมไม่สามารถที่จะมองหน้าเธอได้ชัดๆกลับไปตอนนั้น และอีกดวอร์ฟสาวชื่อวิสเกอร์ มีผมสีฟ้าของน้ำใส ผมก็ไม่ได้สังเกตมันก่อนหน้าเช้าวันนี้ แต่เธอก็ค่อนข้างน่ารักด้วย
แทนที่จะพูดแบบนั้น พวกเธอดูค่อนข้างจะคล้ายๆกัน ยกเว้นสีมผมของพวกเธอ บางทีพวกเธอเป็นแฝดมั้ย โอ้ อืม ไม่ว่าอย่างไร มีอย่างหนึ่ง ที่ผมอยากจะพูดกับพวกเธอตอนนี้
“ไปไกลๆ”
จากนั้นผมปิดประตูอีกครั้ง หลังจากนั้น ผมได้ยินเสียงน้ำตาแตกโฮจากข้างนอกห้อง
“ถ้าเรากลับบ้านไปแบบนี้ เราจะจบที่การไม่บ้านและไม่มีงานอ้ะ!”
“ได้โปรดฟังเราก่อน เซอร์! เราจะทำทุกอย่างที่คุณพูดเลยนะ!”
พวกเธอเริ่มทุบปะตู อึก หนวกหู เดาว่าผมจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงแรม
“อ-อืม ฮิโระซามะ…?”
“หือ?”
ผมกำลังจะแค่เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงแรม โดยใช้เทอร์มินัลของห้อง เมื่อมีมิคุยกับผม
“อืม…… มันโอเคถ้าเราให้พวกเธอเข้ามาก่อนได้มั้ย?”
“ฟังก่อนนะ มีมิ พี่จะโกรธมากๆอยู่ตอนนี้ พี่สงสัยอยู่ว่าสเปซดเวิร์กจะทำอะไรเพื่อที่จะชดใช้ให้พี่ แล้วจริงๆแล้วพวกเค้าส่ง《นี่》 มาเนี่ยนะ ยังไงนี่มันก็แม้แต่จะหมายความว่าอะไรกัน? พวกเค้าโยนลูกน้องทิ้ง และบอกให้พวกเธอ มารับใช้พี่เพื่อเป็นการชดใช้ พวกเค้าคิดว่าพี่เป็นคนเจ้าชู้ แค่เพราะพี่ไปที่ออฟฟิศของพวกเขา ด้วยเธอๆสามคนตามไปด้วยเหรอ? อย่างงั้น นี่น่ะเป็นที่พวกเค้ามีแผนที่จะชดใช้พี่อย่างงั้นเหรอ?”
ผมยอมรับ ว่าผมชอบผู้หญิง เหมือนผู้ชายทุกคน แต่นี่มันหยาบแบบเรียบง่ายเลย และมันเป็นบางอย่างที่เอาเปรียบผู้หญิง เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่ดีสำหรับผมเลย การบังคับให้ผู้หญิงมา โดยการข่มขู่ เงิน และอำนาจ มันไร้รสนิยมและผมไม่มีอะไรอยากไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้น
จริงที่เมถูกบังคับส่งมอบมาให้ผม แต่อย่างไรเธอก็ดูเหมือนจะโอเคกับนั่นอยู่ดี ดังนั้นมันไม่เป็นไร นั่นมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งดังนั้นมันไม่นับ โอเค
“อึก พี่แค่ไม่แคร์อีกแล้ว……พี่จะปล่อยสอคนนั้นไว้กัหนูละกัน มีมิ”
“……เอ๋?”
“เชิญ”
“อืม…… โอเค หนูจะให้พวกเธอเข้ามาก่อน แล้วฟังว่าพวกเธอมีอะไรจะพูด”
ผมกลับไปนั่งที่โซฟา และปล่อยถอนหายใจที่เหนื่อยหน่าย ดวอร์ฟมันเป็นอริทางธรรมชาติผมผมหรือไงกัน? เราแค่ดูเหมือนจะมองสบตากันไม่ได้ หรือแทนที่จะสบตา พวกเธอดูเหมือนจะทำให้ผมขัดใจ
ไม่นาน มีมิกลับเข้ามาในห้องกับพี่น้องเดดบอลตามมา และจากนั้น น้องเขาให้ทั้งสองคนนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับพวกเธอ น้องเขาก็นั่งลงข้างพวกเธอด้วย
“พวก รูปลักษณ์ของผู้หญิงดวอร์ฟมันแค่ขี้โกง…… มันเหมือนพี่เป็นตัวร้ายโดยสิ้นเชิงหรือะไรบางอย่างเลย”
“อ-อ่ะฮ่าฮ่า……”
มีมิทำรอยยิ้มที่กระอักกระอ่วน ขณะที่น้องเขาเกลี้ยกล่อมพี่น้องเดดบอล ที่ร้องไห้น้ำตาแตกอย่างโศกเศร้าข้างๆน้องเขา พูดถึงแล้ว เอลม่านั่งอยู่หน้าโต๊ะไกลเข้าไปอีกหน่อย และชำเลืองมองมาทางกลุ่มเรา เพื่อเช็คสถานการณ์ เมยืนหลังผมอย่างเงียบๆ และจ้องลงไปใส่พี่น้องเดดบอสด้วยสายตาที่เย็นชา
หลังจากที่ได้ไปสบตากับเม พี่น้องเดดบอลสั่นในความกลัว และกอดกันอย่างแน่น ถ้าอย่างนั้นการจ้องเขม็งของเธอต้องโหดแน่
“อืม เมซัง ได้โปรดอย่าบูลลี่พวกเธอสองคนมากเถอะนะ”
“หนูไม่ได้ทำอะไรเช่นนั้น มีมิซามะ”
เมตอบในนำเสียงที่เย็นชา มันเย็นและแข็ง เหมือนตัวถังยานอวกาศ
แต่มันไม่เหมือนว่าผมไม่เกทว่าเธอมาจากที่ไหน เมื่อเทีบกับท่าทางที่เย็นชาของเรา มีมิดูพี่น้องเดดบอลด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ บางที่เพราะรูปลักษณ์ของพวกเธอ ซึ่งคล้ายกับเด็กเล็กๆ
“เพราะทั้งหมด ครั้งนึง หนูก็เคยอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับกับพวกเธอสองคน ฮิโระซามะ นั่นทำไม หนูรู้สึกว่าเหมือนพวกเธอได้ถึงจุดนึง”
“กระซิก……”
ค’ม่อน มีมิ น้องรู้นี่หน่า ว่าพี่อ่อนแอกับอะไรแบบนั้น อืม ส่วนหนึ่งผมก็เป็นเหตุผลที่ทำไมพวกนางสองคนนี้ มาจบทที่ในสถานการณ์นี้ตั้งแต่ทีแรก ดังนั้น ผมพูดไม่ได้ว่าผมไม่ได้รู้สึกว่ามีเศษเสี้ยวของความรู้สึกผิดเลย–
“ไม่ พี่ไม่รู้สึกผิดเลยซักนิด แน่นอนว่ามัน ทั้งหมดมันความผิดของพวกเธอ ถ้าให้เริ่มพูด พวกเธอแค่ได้รับสิ่งที่พวกเธอสมควรได้รับ”
นั่นอันตราย ผมเกือบจะถูกกวาดไปกับจังหวะของมีมิแล้ว แต่… ไม่เป็นไร ผมเข้าใจว่าทำไมมีมิรู้สึกสงสารพวกเธอสองคนอย่างน้อย ผมเดาว่าผมจะฟังพวกเธอแล้วกัน เพื่อน้องมีมิเขา
วายุ: “เซนต์มีมิ”
แปลโดย: wayuwayu
เสนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ถ้าถูกใจ ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล สปอนเซอร์ตอนแจ้ง Facebook : “wayuwayu แปล” ออกความคิดเห็นที่ Dek-D และ Tunwalai จะเห็น ขอบคุณมากที่อ่านครับ