ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 127 จบการอยู่ที่โรงแรม
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 127 จบการอยู่ที่โรงแรม
127 จบการอยู่ที่โรงแรม
12 – 16 เล่ม 4
วันแรกของเราในการทำหน้าที่เป็นนักบินทดสอบจบลงไปโดยไม่มีปัญหาใดๆ เอ่อ บางทีไม่ใช่ไม่มีปัญหาเลยโดยสิ้นเชิง แต่เราผ่านมาได้ ผมว่า
ไม่ว่าอย่างไร เราเสร็จงานเราไปแล้วโดยไม่มีปัญหา
ไม่มีปัญหากับการทดสอบอาวุธของยานต้นแบบแฮมเมอร์เซเว่น มีจุดติดอาวุธสี่จุดทั้งหมดที่ระบบอาวุธติตตั้งได้บนยาน นั้นเป็นจำนวนทั่วไปสำหรับยานเล็ก พวกมันทั้งหมดถูกตั้งอยู่บนส่วนบนของตัวถัง ดังนั้นอำนาจการโจมตีทั้งหมดเน้นไปอยู่ตรงนั้น ปล่อยด้านล่างว่างเปล่าจากอาวุธ ปืนหลักสองกระบอกถูกวางออกไปข้างหน้าระหว่างอาวุธรองครอบคุมทั้งสองข้างยาน
พื้นฐานแล้ว ผมคิดว่าหนึ่งคนตัดสินได้ว่ายานมีการติดตั้งท่ี่ดีที่สุดสำหรับจุดติดอาวุธกับการที่ตำแหน่งมันจะอนุญาตมันให้เน้นยิ่งอาวุธจากทิศทางนอกเหนือจากด้านหน้าตัวยานหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ยานมีจุดติดอาวุธสี่จุด ถ้าแต่ละหนึ่งจุดถูกวางอยู่ที่ด้านบน ล่าง ซ้าย และขวาของยาน คุณเน้นยิงได้แค่ปืนสามกระบอกมากที่สุดยกเว้นสำหรับการยิงไปข้างหน้าตรงๆ นั่นหมายถึงหนึ่งกระบอกพื้นฐานแล้วไม่ได้ใช้ถ้าคุณไม่ได้เน้นยิงไปที่ด้านหน้า
ในกรณีนี้ มันจะดีกว่าที่จะวางจุดติดอาวุธในตำแหน่งซึ่งแฮมเมอร์เซเว่นจะเข้าถึงอำนาจการยิงเต็มพิกัดง่ายๆในหนึ่งทิศทางแม้ว่าคุณจะต้องปล่อยด้านล่างยานไร้อาวุธและมีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นจุดบอด อย่างไรนั่นก็อะไรซึ่งผมคิด
พวกคุณๆบางคนอาจตั้งความสำคัญบนการกำจัดจุดบอดมากกว่า ผมเลยพูดไม่ได้ว่าแนวคิดของผมแน่นอนที่สุด เพราะทั้งหมด คุณใช้ประโยชน์เซ็ตอัพของผมอย่างดีไม่ได้ถ้าคุณไม่มีทักษะการบินอันเทียบกันได้
ดังนั้นเอง เกี่ยวกับปัญหาเล็กๆซึ่งผมพูดถึงตอนเริ่มต้น…
“ยานมีผลงานอย่างที่สเปคเสนอมา! อะไรของคุณกันวะ!?”
“ไม่มีปัญหากับซอฟต์แวร์! มันมีแค่ความล่าช้าในเวลาการตอบสนองเพราะการคำนวนอัตราน้ำหนักกับการเร่งเครื่องผิดไปเท่านั้นเอง! ดาต้าพิสูจน์มันแล้ว!”
“ไม่มีปัญหากับการคำนวนของเรา! ปัญหาซอฟต์แวร์แค่ต้องทดแทนด้วยทักษะของนักบิน!”
“ซอฟต์แวร์สมบูรณ์แบบ! ความผิดพลาดในอัตตราน้ำหนักกับการเร่งเครื่องคือหนึ่งอย่างซึ่งถูกชดเชยโดยทักษะนักบิน เจ้าพวกโง่! ดาต้ายืนยันนี่แล้ว!”
หลังจากทดสอบสมรรถนะ ผมสำเร็จที่จะสร้างจำนวนตัวเลขอันก้าวข้ามค่าที่คาดหวังไว้ อืม ถ้าแค่ปัญหาของยานอย่างเดียวคือหนึ่งจังหวะช้าไป ผมแค่ต้องขับมันหนึ่งจังหวะเร็วขึ้นเพื่อทดแทน แล้วเมื่อผมชิ้นกับความชอบหมุนหน้าเลยกับหมุนหน้าไม่ถึง ผมสามารถจะทำการเคลื่อนที่น่าสนใจบางอย่างได้
และดังนั้น ผมแก้ความล่าช้าในเวลาตอบสนองด้วยทักษะของผม ผมไม่แน่ใจว่าต้นตอขอปัญหาคือด้านฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์บนภาพรวม ผมเลยแนะนำให้พวกเขาดูทั้งสองอย่างแล้วดำเนินการพัฒนาโดยตั้งพื้นฐานจากผลลัพธ์
แล้วนั่นก็นำไปสู่ความวุ่นวาย ณ ตอนนี้บางทีช่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ไม่สนิทกันมาก พวกเขาทั้งสองเลยส่งต่อความผิดแล้วชี้มือชี้ไม้ไปที่อีกฝ้นให้อยู่ในฐานะคนผิด อืม ยังไงมันก็ไม่ใช่งานผมที่จะไปยุ่งวุ่นวายกับความไม่ลงรอยกันของพนักงานบริษัท
ความรับผิดชอบหลักของผมคือรับหน้าที่เป็นนักบินทดสอบ และผมเชื่อว่าผมทำงานออกมาได้ค่อนข้างดี
“ไม่ว่าจะกรณีไหน ผมไม่มีอะไรบ่นเกี่ยวกับความเร็วยานเมื่อกำลังเดินทางในทิศทางเส้นตรง พวกมันก็มีผลความล่าช้าหนึ่งจังหวะ แต่ทั้งหมดในทั้งหมด ผมคิดว่าไม่มีปัญหาที่กดดันกับความเร็วการเลี้ยวและความเร็วการพลิกยานด้วย ยังไงก็ตาม เพราะยานหนัก การคลื่อนที่คมๆคล่องตัวๆมันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยความเร็วสูงสุดของมัน ผมคิดว่ามันจะใช้งานได้ดีในกลยุทธ์ตีแล้วหนีซึ่งรับความได้เปรียบเต็มที่ของความเร็วและเกราะหนา หรือใช้โดยเป็นนักบินผู้ใช้ลักษณะมันเพื่อเก็บศัตรูไว้ในเป้ายิงอย่างมั่นคงเหมือนผมทำทุกอย่างได้ และเพราะตำแหน่งของจุดติดอาวุธมันเน้นที่ครึ่งบนของยาน ผมคิดว่ายูนิตนี้ถูกใช้อย่างดีได้แค่โดยพวกโปรทักษะสูงๆ”
ผมจะอยากแชร์ความประทับใจมากกว่านี้ถ้าช่างดวอร์ฟไม่เริ่มสู้กันเอง คนเหล่านี้
เอาจริงๆเลย
“เข้าใจแล้ว…… ผมถามได้มั้ยว่าอะไรซึ่งทหารรับจ้างพิจารณาว่าเป็นยานที่ขับง่ายสำหรับการอ้างอิง”
“แน่นอน นี่แค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผม แต่อย่างมันต้องตรงไปตรงมา อะไรซึ่งผมหมายถึงคือมันดีกว่าสำหรับยานที่อย่างน้อยต้องมีเวลาตอบสนองสแตนดาร์ด นั่นคือหนึ่งปัจจัยอันสำคัญจริงๆ”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้น วางความสำคัญไว้กับความง่ายต่อการบิน หือ?”
“ต่อมาคือความสามารถป้องกันอันดี แต่ผมคิดว่าทหารรับจ้างส่วนใหญ่วางความสำคัญบนโล่พลังงานที่ทนทานมากกว่าแทนจะเป็นเกราะหนาและทนทานมากขึ้น แน่นอน การมีเกราะหนาคือสิ่งดี แต่มันมีผลกับความคล่องตัว แล้วก็ ไม่มีทรจ.คนไหนผู้จะชอบเอาหน้ารับกระสุนด้วยเกราะของยานแทนจะเป็นโล่พลังงาน มันเป็นค่าใช้จ่ายเยอะกว่าในการรจะเปลี่ยนเกราะซึ่งเสียหายหลังจากทั้งหมด ค่าใช้จ่ายจะซ้อนทับกัน และนั่นไม่ใช่บางอย่างที่ทรจ.ยินดีต้อนรับสักนิด ในมุมมองนี้ โล่พลังงานนั้นมีประสิทธิภาพสำหรับตัวเงินมากกว่า คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ? เกราะยานรับหน้าที่เป็นแนวป้องกันสุดท้ายเมื่อโล่หมดแล้วแต่ยังไงผมก็คิดว่าทรจ.ส่วนใหญ่จะหนีทันทีเมื่อโล่ของพวกเขาแสดงสัญญาณว่าจะหมดอยู่ดี มันแทบไม่มีทรจ.คนไหนหรอกผู้จะอยู่สู้ต่อเมื่อโล่พลังงานของคนนั้นหมด ผมว่า”
มันก็มีความจริงว่าการอัพเกรดเกราะมีค่าใช้จ่ายที่ใช้อีเนลเป็นตันๆมากกว่าการอัพเกรดเครื่องปล่อยโล่ มีคำพูดว่าคุณแสดงความแข็งแกร่งไม่ได้ถ้าคุณไม่ใช้เงิน แต่เมื่อนำมาพูดกัน คุณแค่ใช้เงินกับของไร้สาระไม่ได้
“อุมุ เข้าใจแล้ว”
“ในแง่ของอำนาจการยิงโดยรวม ผมคิดว่ายานอวกาศต่อสู้ลำเล็กควรจะติดตั้งด้วยอาวุธคลาส 2 เป็นอย่างน้อย ถ้าคุณทำให้จริงๆแล้วมันใส่อาวุธคลาส 3 อันนึงได้ ผมคิดว่ามันจะออกมาค่อนข้างเป็นที่นิยม อาวุธคลาส 1 ถ้าพูดตรงๆมันไมไหว ทหารรับจ้างจะยินดีซื้อยานที่ใส่อาวุธคลาส 2 ได้โดยพื้นฐานไม่สำคัญว่ามันจะจำนวนน้อยแค่ไหนมากว่ายานที่ใส่อาวุธคลาส 1 ได้เยอะๆ”
อาวุธคลาส 1 คืออะไรซึ่งคุณพิจารณาได้ว่าเป็นอาวุธเล็ก
คลาส 2 อยู่ระหว่างกลางและอาวุธคลาส 3 คืออาวุธหนัก
พูดถึงแล้วพัลส์เลเซอร์กับปืนใหญ่บาลิสติกขอกฤษณะทั้งหมดพิจารณาว่าเป็นคลาส 3 มันคือยานลำเล็กลำหนึ่ง แต่มันมีอาวุธคลาส 3 รวมกันหกบวกกับตอร์ปิโดรีแอคทีฟ นั่นทำให้อำนาจการยิงโดยรวมของกฤษณะเทียบเท่ากันกับเฮฟวี่ครูซเซอร์ ปรกติแล้ว คุณใส่อาวุธคลาส 3 ได้มากสุดหนึ่งกระบอกบนยานเล็ก และยานเหล่านั้นคือถูกพิจารณาแล้วว่าคือที่สุดของรุ่นแล้ว
“ขอบคุณมาก ข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์มาก”
ช่างดวอร์ฟพิมพ์คำพูดผมเสร็จบนเทอร์มินัลแท็บเล็ทของเขา คำนับขอบคุณผม และเข้าร่วมการต่อสู้ของเพื่อนผู้เถียงกัน มันดูเหมือนในที่สุดเขาก็จะหยุดมัน ทำเต็มที่ พวก
“เสร็จยัง?”
หลังจากช่างจากผมไป เอลม่าเรียกออกมา มันดูเหมือนสาวๆก็เสร็จการรายงานแล้ว
“ใช่ แต่มันดูเหมือนพวกเธอเสร็จเร็วนะ”
“ใช่ ไม่มีปัญหากับระบบเรดาร์กับระบบสื่อสารน่ะค่ะ มันดูเหมือนมันเหมือนกันสำหรับเอลม่าซังด้วย”
“ยังไงซะ สเปซดเวิร์กถูกรู้จักสำหรับความทนทานแล้วความพึ่งพาได้ของผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ดังนั้นฉันเดาว่ามันไม่น่าตกใจมาก แต่ฉันพูดเหมือนกันสำหรับผลงานโดยรวมของยานไม่ได้จริงๆนะ ไม่มีจุดหมายในยานที่บินไม่ได้ยกเว้นว่าเธอจะเคลื่อนที่แบบแปลกๆเหมือนฮิโระ แบบนั้นมันจะไม่ผ่านอย่างสิ้นเชิง”
“เอาน่า พวกมันไม่ได้แปลกปานนั้น……”
เอ่อ ผมเดาว่าถ้าคุณไม่ชินกับการหมุนหน้าเลยหรือหมุนหน้าไม่ถึง จะเป็นไปได้ว่าคุณจะจบที่การหมุนอย่างไม่จบสิ้นในอวกาศเหมือนนักสเก็ตผู้ควบคุมไม่อยู่ แต่นั่นแก้ได้ด้วยการฝึกซ้อม ใช่ คุณต้องเริ่มกับการฝึกจังหวะเวลาของปรับสมดุลออโต้และไจโรให้เชี่ยวชาญ คุณน่าจะจบที่การอ้วกแตกในอวกาศไปไม่กีครั้ง แต่มันเป็นเช่นนั้น ผมสามารถมีประสบการณ์กับนั่นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์กลับไปที่โลก และผมรู้สึกคลื่นไส้แม้แต่ตอนนั้น ดังนั้นผมเดาว่าประสบการณ์จะแย่ในระดับต่างกันถ้าคุณทำมันจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอะไรละตอนนี้?”
มันดูเหมือนความวุ่นวายบรรเทาลง ก่อนมันจะแย่ขึ้น แต่หน้าช่างดูเหมือนจะเงียบไปแบบดี ช่างดวอร์ฟคนหนึ่งพร้อมหน้าเหนื่อยๆบนใบหน้าเข้าหาเรา มันคือคนผู้พูดกับผมก่อนหน้า
“เราหยุดการทดสอบสำหรับวันนี้ ดังนั้นงานคุณเสร็จแล้วด้วย แต่เราจะพึ่งพาคุณอีกครั้งในวันพรุ่่งนี้นะ”
“เข้าใจแล้ว เดาว่าเราจะใช้เวลาว่างกันอย่างงั้น”
ผมหันหามีมิกับเอลม่าแล้วเป็นพวกเธอพยักหน้าตอบ เราถอดชุดนักบินแนบเนื้อแล้วเปลี่ยนกลับที่เสื้อผ้าปรกติของเรา จากนั้นเราออกจากสถานที่ทดสอบสเปซดเวิร์ก
—————————————————————
หลังจากเสร็จงานนักบินทดสอบห้าวัน เรากลับมาสู่ชีวิตแห่งความสบายๆและผ่อนคลายอีกครั้ง อืม เราไม่ได้อยู่ไม่ทำอะไรตรงๆเพราะเราใช้เวลาหลักๆทัวร์โคโลนีและมีความสุขกับทิวทัศน์
อะไรเกี่ยวกับงานนักบินทดสอบหรือ?
ไม่มีอะไรให้ออกความคิดเห็นมาก จริงๆล้ว ผมแค่เล่นไปทั่วกับต้นแบบตลอดเวลาแล้วทำให้มีมิกับเอลม่าหน้าน้ำเงินเพราะขาดระบบควบคุมแรงเฉื่อย นั่นน่าจะเพราะมันคือต้นแบบ และไม่ใช่ทุกอย่างถูกปรับมาดีที่สุด
แต่ในท้ายทีสุดพวกเธอชินกับมันครึ่งหลังของงานห้าวัน
“เฮ้ เฮ้ หัวหน้า วันนี้ว่างมั้ยนะ?”
“น-นั่นไม่ดีนะพี่สาว…”
ทีน่าแหมะหัวเธอบนตักผมขณะผมนั่งบนโซฟาแล้วเริ่มจีบกับผม
วิสเกอร์ตื่นตกใจเต็มที่หลังจากเป็นพยานการทำตัวตรงไปตรงมาของพี่สาวเธอ ผมไม่ถือจริงๆที่เธอทำอย่างนั้นเพราะเธอดูน่ารัก แต่ไม่ใช่เธอสบายๆเกินไปหรือทีน่า?
“มื้ออออ!”
ผมบีบจมูกของทีน่า ผู้มีความสุขกับหมอนตักผมโดยไม่สนใจ ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้หน้าเธอเละแล้ว
“เธอแค่ทำนั่นอย่างเป็นธรรมชาติ…… หนูต้องตั้งใจมากกว่านี้แล้วสิเนี่ย”
“ยังไงซะ ไม่ใช่ว่าเธอนี่บางอย่างเลยเหรอ ดวอร์ฟ”
มีมิกับเอลม่า ผู้สบายๆไปทั่วอยู่ใกล้ๆโต๊ะะมองดูทีน่าดั่งเธอเป็นศัตรูผู้น่านับถือ ผมไม่กังวลกับมันทั้งหมดเพราะผมไม่ได้มองทีน่าในแบบนั้น พูดจากใจ ผมเห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆเหมือนสุนัขหรือแมวแทนจะเป็นคู่รักโรแมนติก
“ถ้าอย่างนั้น เอ่อ… มีเหลือประมาณอีกห้าวันจนกว่ายานแม่จะเสร็จ ถูกมั้ย?”
“ค่ะ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ มันจะเสร็จหลังจากประมาณ 120 ชั่วโมงค่ะ ดูเหมือนจะไม่มีการทำงานล่าช้า มันเลยเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะเสร็จบนกำหนดการ”
เมย์ผู้นั่งต่อจากผมบนโซฟาขณะเธอมองผม ตอบคำถามผมมา
“มันดูเหมือนกฤษณะก็กำลังพร้อมลุยด้วยเหมือนกัน”
“ค่ะ พวกเขาช้าไปนิดหน่อย แต่มันดูเหมือนพวกเขาจะเสร็จการยกเครื่องวันนี้ หนูถูกบอกว่าพวกเขาจะส่งมอบมันพรุ่งนี้เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องโหลดสัมภาระขึ้นยานใหม่”
“เข้าใจแล้ว”
ถ้าเป็นกรณีนั้น ถ้าอย่างนั้นผมเดาว่านี่คือวันสุดท้ายของเราที่จะอยู่ในโรงแรมแฟนซี
“พวกเธอโอเคกับการเตรียมตัวของพวกเธอมั้ย ทีน่า?”
“หืม แน่นอน บอส เราเสร็จงานเอกสารแล้วแพ็กของเแล้วน่ะ เราจะพร้อมขึ้นยานแม่เมื่อมันเสร็จ”
ทีน่า ผู้จมูกยังถูกบีบ ตอบด้วยรอยยิ้มมุมปากมั่นใจบนริมฝีปากเธอ ผมหันสู่วิสเกอร์แล้วเห็นเธอพยักหน้าหลายครั้งในการเห็นด้วย เดาว่าไม่มีปัญหาถ้าอย่างนั้น ผมหวัง
“ดี หืม….. ไหนดูสิ เราไปร้านอาหารหรูหราที่เธอพูดถึงวันก่อนกันมั้ย ทีน่า?”
หลังจากได้ยินคำพูดของผม มีมินั่งตรงๆทันที โอเค โอเค แน่นอน ผมจะพามีมิไปด้วยเหมือนกัน ดังนั้นอย่างวิตกกังวล
ผมจะพาเอลม่าไปด้วย แน่นอน ผมจำได้วาสายตาเธอเป็นประกายเมื่อเธอได้ยินว่าพวกเขามีสต็อคเหล้าชื่อดังทั่วทั้งกาแล็กซี
และดังนั้นเอง คืนนั้น ทีน่านำเราไปสู่ร้านอาหารที่ว่ากัน……. แล้วผมก็พบว่าตัวเองกำลังกินยากิโทริในร้านอาหารที่เรียกว่ายากิโทริ
ใช่ เพราะทั้งหมดผมรู้ว่าพวกคุณอยากพูดอะไร ร้านอาหารที่ว่ากันว่าหรูหรานี้เซิร์ฟยากิโทริแล้วแม้แต่ตั้งชื่อตัวเองว่ายากิโทริ มันดูเหมือนมันคือร้านอาหารที่ใช้เนื้อไก่จริงซึ่งถูกเลี้ยงจากฟาร์มสองระบบดาวห่างออกไป มันไม่ได้แพงเท่าเนื้อโคเบอันผมเจอกลับไปตอนนั้น แต่มันค่อนข้างแพง ไม้หนึ่งราคา 15 อีเนล ไม่ใช่นั่นแพงเกินไปหรือ? ถ้าคุณเปลี่ยนมันเป็นเยนญี่ปุ่น คุณจะจบในไม้ละ 1500 เยน
มีมิประทับใจโดยรสชาติของเนื้อไก่จริงระหว่างเอลม่าพอใจจกับรสชาติของเหล้าชื่อดังๆ
พี่น้องพูดเยอะเกี่ยวกับรสชาติของยากิโทริแล้วคร่ำควญกับความจริงว่าพวกเธอถูกแบนจากการดื่มขณะพวกเธอมองดูเอลม่ากระดกทีละขวดตามๆกันไป พวกเธอกำลังมองดูเอลม่าเหมือนคนฆ่าพ่อแม่ของพวกเธอ จากใจมันน่ากลัวนิดหน่อย มันดูเหมือนพวกเธอยังก้าวข้ามการถูกแบนเหล้าไม่ได้
“ท่านไม่ได้ดูเหมือนมีความสุขมากเท่านี้เลยนะคะ นายท่าน”
“เอ่อ ใช่……”
เพราะมันแค่ยากิโทริธรรมดาน่ะ รู้ไหม! จากใจผมจะร้องไห้น้ำตาแห่งความปิติถ้าพวกเขาเซิร์ฟโคล่าอัดลมของแท้ แต่โชคร้าย นอกจากเหล้า พวกเขาเซิร์ฟแค่น้ำเปล่าและน้ำผลไม้ธรรมชาติ 100% ซึ่งแพงอย่างบ้าคลั่ง แก้วหนึ่ง 100 อีเนล นั่นมันปล้นกันชัดๆ
ผมเลือกแต่น้ำเปล่า 3 อีเนล
และดังนั้นเอง คืนสุดท้ายของการอยู่ ณ โรงแรมจบลงในแบบนั้น
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ถ้าท่านชอบ ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl