ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 139 คุยเรื่องเงิน
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 139 คุยเรื่องเงิน
139 คุยเรื่องเงิน
14 – 18 นาที เล่ม 4
“ยินดีต้อนรับกลับมา”
“ขอบคุณ”
“เรากลับมาแล้วค่ะ”
เมื่อเรากลับมาสู่บัวดำ เราเจอเอลม่าพักอยู่ในห้องพักผ่อน
มีมิ เมย์กับผมทั้งหมดออกนอกไปทำธุระ แต่เอลฟ์นี่แน่นอนว่าสบายๆ
“ถ้าอย่างนั้น มันเป็นยังล่ะล่ะ?”
“เราได้เจอที่เราไปเพื่อหา มันดูเหมือนโบนัสสแตนดาร์ดสำหรับสองคนเหล่านั้นจะเป็น 10-20% ของรายได้รวมทั้งหมดไม่ว่าพวกเธอเข้าร่วมงานนั้นๆหรือไม่ มันมีเหตุผลมากเพียงพออยู่แหละ”
“เข้าใจแล้ว ส่วนที่เราพากันกู้เก็บได้วันก่อนถูกขายหมดแล้วนะ พูดถึง”
“โอ้ จริงอ่ะ?”
“นั่นค่อนข้างเร็วเลย”
“อื้ม นี่ไง ลองดูสิ”
ผมมองเทอร์มินัลแท็บเล็ทจากเอลม่า จากนั้นเธอนั่งลงข้างๆผม มีมิก็นั่งลงตรงข้ามกันอีกฝั่งด้วยแล้วจิ้มสู่จอเทอร์มินัล
“……พวกมันขายออกไปมากกว่าที่คิดๆนะ”
“อื้ม ฉันก็ตกใจอยู่นิดๆคิดเหมือนกันแหละ”
ราคาขายซึ่งฉายอยู่บนเทอร์มินัลสูงกว่าที่ผมคาดไว้ ยาคิเมียราเล็กขายได้ 55,000 อีเนล ยานขนาดกลางที่มาพร้อมกับโครงเหล็กค่อนข้างไร้ความเสียหายและอุปกรณ์อันยังใช้งานได้ขายได้ราคา 90,000 อีเนล เพิ่มเติม พวกอาวุธหลากหลายแบบกับชิ้นส่วนซึ่งเราถอดกันมาจากยานโจรสลัดอันถูกยิงตกขายออกไปได้รวมกัน 130,000 อีเนล
“อืม อย่างนั้นเราได้ทั้งหมด 275,000 อีเนลถูกมะ? มันเยอะยิ่งกว่ารางวัลค่าหัวอีกนะ”
“นั่นน่าทึ่งเลยล่ะ ฮิโระซามะ”
“อื้ม ใช่ มันจะดูเหมือนยิ่งน่าทึ่งมากกว่าถ้าคิดถึงความจริงนั้นว่านี่อาจเป็นรายได้เฉลี่ยของเราจากตั้งแต่ตอนนี้ไป เพราะทั้งหมด เราจะดำเนินการถอดชิ้นส่วนยานร่วงถึงหมดที่เราทำได้จากยานอันเรากำจัดแล้วนำพาของเหล่านั้นซึ่งสภาพยังดีอยู่กลับมาเพื่อทำการขาย มันจะยอดเยี่ยมแน่”
“ว้าว!”
“ลูทที่เหลือก็ขายไปแล้วด้วยเหมือนกันล่ะ ทั้งหมดในทั้งหมด พวกมันขายได้ 150,000 อีเนล”
“อันนี้ก็ไม่คาดเลยด้วย”
“ค่อนข้างมีโลหะหายยากกับแร่มีค่าอื่นๆอยู่เยอะๆด้วยหลังจากทั้งหมดน่ะ”
เงินรางวัลรวมสำหรับค่าหัวคือ 217,000 ยานเก็บกู้ พวกอาวุธ และพวกชิ้นส่วนขายแล้วได้ 275,000 อีเนล กับที่เหลือของลูทขายแล้วได้ 150,000 อีเนล
ดังนั้นนั่นทำให้กำไรรวมทั้งหมดของเราเป็น 642,000 อีเนลถ้ามันจากก่อนหน้าเรามียานแม่ เราจะไม่สามารถมาถึงแม้แต่ครึ่งของจำนวนกำไรรวมจากหนึ่งออกศึกครั้งนี้ ดังนั้นจริงๆแล้วนี่หมายถึงรายได้เฉลี่ยของเราพื้นฐานแล้วมากขึ้นถึงดับเบิล!
“ถ้าอย่างนั้นเธอให้สองคนนั้นมากเท่าไหร่ล่ะ?”
“ฉันคิดๆอยู่ว่า 10% เหมาะสมแล้วสำหรับงานซึ่งสองคนเหล่านั้นทำ คิดยังไงกันบ้าง?”
“จ่ายพวกเธอจำนวนกำหนดไว้ 10,000 อีเนลก็จะเพียงพอด้วยเหมือนกันแต่หมื่นเดียวดูน้อยนิดหน่อยถ้าพิจารณาถึงความจริงว่าพวกเธอเสี่ยงชีวิตด้วย ฉันจะปล่อยมันไม่ให้นายละกัน ฮิโระ”
“น-หนูก็คิดว่า 10% ก็ดีนะ”
“โอเคอย่างนั้น ฉันจะจ่ายพวกเธอ 10% ของรายได้รวมเราทั้งหมด ดังนั้นเองโบนัสพวกเธอจะเป็น 27,500 อีเนลถ้าอย่างนั้น เงินที่เหลือ 614,500 ดังนั้นส่วนแบ่งน้องคือ 6,145 อีเนลกับเอลม่า 18,435 อีเนล ส่วนแบ่งเธอจะจบที่น้อยกว่าสองคนเหล่านั้น มีมิแน่ใจว่าไม่คัดค้านเหรอ?”
ผมก็รู้สึกไม่แน่ใจนิดหน่อยเกี่ยวกับมันด้วย
“ยังไงซะ สองคนเหล่านั้นคือมืออาชีพพร้อมด้วยทักษะที่มีเต็มตัว ดังนั้นฉันคิดว่าไม่เป็นไรหรอก มีมิพัฒนาาเยอะในงานโอเปอร์เรเตอร์ยานแต่ยังค่อนข้างสั่นอยู่ถ้าเธอนี้อยากให้เธอนั้นทำธุระการแลกเปลี่ยนเงินในโคโลนีคนเดียว ลำดับก้าวขั้นต่่อไปสำหรับเธอคือเรียนเทคนิคป้องกันตัวแบบถูกต้องเพื่อให้เธอนั้นป้องกันตัวได้เมื่อจำเป็น พี่ขอโทษนะมีมิ แต่แม้ว่าน้องทำหน้าที่เป็นโอเปอร์เรเตอร์ได้ดีมากแล้ว พี่ยังพูดไม่ได้ว่าน้องเป็นทหารรับจ้างเต็มตัวถ้าน้องอกจากยานโดยไม่มีคนคุ้มกันไม่ได้”
“ห-หนูจะทำเต็มที่ค่ะ……”
เอลม่าเข้มงวดมากเมื่อเป็นเรื่องงาน แต่ผมพูดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ด้วยจริงเพราะเธอทำงานได้สมบูรณ์แบบปานนั้นในฐานะรองนักบินและออกนอกยานไปธุระด้วยตัวเธอเองได้โดยไม่มีปัญหา และผมพนันเลยว่าเธอแม้แต่ทำงานดีได้มากกว่ามีมิในฐานะโอเปอร์เรเตอร์ เธอก็มีช่องทางอันสร้างมาเพื่อขายลูทเยอะด้วย เธอคืออดีตกัปตันยานแบบโซโลด้วยเหมือนกันผมเลยเดาว่านั่นเป็นที่คาดได้ เธอไม่ใช่ผ่านศึกไว้โชว์
“โบนัสสำหรับสองคนเหล่านั้นคือ 27,500 อีเนล สำหรับพวกเธอแต่ละคนได้ 13,750 อีเนล”
พูดถึง ส่วนแบ่งของผมคือ 589,920 มันมากไปหรือ?
ไม่ ยานทั้งหมดเป็นของผม 100% รู้ไหม ผมเป็นกัปตันเช่นเดียวกันกันกับเป็นเจ้าของพร้อมผู้จัดการ มากเท่านี้จึงพึงถูกต้องแล้ว แล้วผมก็ต้องรับภาระดูแลค่าใช้จ่ายรายวันของทุกๆคนด้วย ดังนั้นมันแค่แฟร์แล้ว
“ส่วนของฉันแค่ใหญ่กว่าพวกเธอนิดหน่อย เธอพิจารณาเพิ่มเงินค่าทำงานสักนิดด้วยได้มั้ยล่ะ กัปตันที่รัก?”
เอลม่ามองผมตั้งใจด้วยดวงตามองขึ้นมา
“ได้โปรดขอเพิ่มแค่หลังจากคืนอย่างหนี้อย่างน้อยส่วนหนึ่งรองนักบินที่รัก”
“โอ้ ฉันทำได้จริงๆเหรอ?”
“……เธออยู่ในความรีบจ่ายปานนั้นเลยเหรอ?”
“หื้มม ฉันล่ะสงสัย”
เอลม่ายิ้มอย่างแหย่ๆ ให้ตาย เธอน่ารักโคตรๆ แต่ผมยังจะไม่ขึ้นเงินค่าทำงานเธอ ขณะผมโดนเสน่ห์ของรอยยิ้มเอลม่า มีมิกอดแขนผม ผมรู้สึกถึงแก้มอันพองปูดขณะเธอทำอย่างนั้น
“มีมิซัง?”
“มันไม่มีอะไรหรอก ฮิโระซามะ”
พละกำลังของมีมิเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงเรื่อยๆเนื่องด้วยการออกกำลังกายรายวัน ตอนนี้เธอจึงแข็งแรงกว่าผู้หญิงผู้ใหญ่ทั่วไป ผมก็ได้ออกกำลังมากายเองด้วย ผมเลยก็เพิ่มความแข็งแรงกายามากๆขึ้น แต่การพัฒนาขอมีมิก็มองข้ามผ่านไปเสียเฉยๆมิได้ พูดอีกอย่าง อะไรซึ่งผมพยายามกำลังพูดนั้นคือการกอดเธอตอนนี้เจ็บถ้าเธอทำมันแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม เนินกลมๆอันปูดนูนขึ้นมานุ่มแสนนิ่มซึ่งพิงอิงกับแขนผมทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับให้คลายเจ็บ ดังนั้นมันทั้งหมดดี โอ้ ความดีงามที่รักเอ๋ย ช่างเป็นความสุขสมบูรณ์แบบ
“นั่นเล่นสกปรกอ่ะ มีมิ”
“ถ้าอย่างน้อยหนูไม่ทำอย่างงี้ หนูจะไม่สามารถเอาชนะพี่ได้หรอกนะ เอลม่าซัง”
มีมิกับเอลม่าดูเหมือนจะอยู่ในระหว่างถกเถียงด้วยโดยมีตัวผมผู้นี้โดนขนาบสองข้างระหว่างพวกเธอ แต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจเพราะผมโฟกัสกับตวามรู้สึกนุ่มฟูเนื้อนิ่มๆโจมตีผมซ้ายขวา ยังไงก็ผู้ใดสนเล่า
“อ๊ะ–! บอสกำลังจีบไปทั่งโดยไม่มีหนูอ้ะ!”
“พี่……”
เสียงน่ารักแหลมๆสูงดังออกมา มันดูเหมือนเมย์พาพี่น้องช่างมากับเธอ ผมหมุนหันไปสู่จุดที่เสียงสะท้อนก้องมาและเห็นทีน่ากำลังวิ่งตรงมุ่งมาพากายาสู่ตัวผม วิสเกอร์ไล่ตามมาใกล้ๆจากด้านหลัง กับเมย์กำลังดูขอโทษขอโพยมาก ณ ด้านหลังสุด และเนื่องด้วยเสียงตะโกนของทีน่า ความรู้สึกสองนุ่มแสนนิ่มทิ้งผมจากไป…… โอ้ ช่างน่าโศกา
จากนั้นผมยืดแขนผมออกเพื่อจับทีน่าผู้กำลังวิ่ง
“……!”
ทีน่าตาระยิบระยับประกายดวงดาวกระโดดตรงมั่นมาสู่แขนผมด้วยแรงส่งยิ่งใหญ่ เธอค่อนข้างทำการกระโดดเลย แต่เนื่องจากโครงกายเล็กๆเธอ มันไม่มีกำลังมากพอชนผมล้ม
“โอ๋ โอ๋ เด็กดี เด็กดี”
ผมเริ่มลูบหัวทีน่า
“เมี๊ยวววว!”
เธอคือแมวหรือ? มาคิดดูแล้ว ผมยังไม่สามารถพบประสบเจอใครๆสักหนึ่งผู้ผู้มีสัตว์เลี้ยงในมิติเลย แต่จริงๆแล้วพวกเขามีมันไหม?
แมว ผมหมายถึง ไม่ว่าอย่างไร จริงๆผมไม่ได้เห็นแมวใดๆสักหนึ่งในเหล่าโคโลนีอันเราได้เคยไปๆกัน
แต่ทีน่าเลียนแบบแมวจริงๆหรือ หรือมันเป็นสัตว์คล้ายๆกันประเภทอื่น? ผมไม่มั่นใจ
“”…..””
“ฮู้วววว……”
วิสเกอร์หยุดอยู่ที่ตำแหน่งกระอักกระอ่วนจากผมกับพี่สาวเธอ เธอดูเหมือนอยากให้พี่เธออหยุด แต่ไม่รู้ว่าจะทำมันอย่างไรดีแล้วหยุดนิ่งในที่นั้น ไม่นานไป สีหน้าเธอเริ่มซีดๆแล้วเธอกลายเป็นตามีน้ำตาข้างใน ผมลูบหัวทีน่าต่อไปอย่าไร้เดียงสา มองข้ามสายตาตั้งใจมองคมๆกำลังมาใส่ผมจากซ้ายขวา ผมจะเมินพวกมันไม่สำคัญว่าอะไร
วิสเกอร์ดูเหมือนเธอกำลังจะเล็ดล่างจากแรงกดดัน แต่ผมจะมองเมินปล่อยนั่นผ่านๆไปด้วยเหมือนกัน แน่แท้ ผมก็เมินสายตาตั้งใจมองจากสองดวงตาอย่ามองความชั่วร้าย พวกคุณๆ อย่ามองความชั่วร้าย
“โอเค นั่นพอแแล้ว จบตาแล้ว! แยกๆ!”
“เอ่อ ทำไมล่ะ?”
“แค่เพราะมันจบ”
เสียงมีมิกับเอลม่าดังขึ้นแรงขึ้นกว่าเคยๆ
เอาน่ามันไม่ใช่บางอย่างให้หงุดหงิด ทั้งสองเธอ
ทีน่าแค่เหมือนเด็กกับผม
เธอคือผู้ใหญ่คนหนึ่งกับอายุของเธอ แต่แค่ดูว่าเธอทำตัวเยี่ยงไรแล้วกัน
“โอ้ใช่ ชิ้นส่วนยานอันเธอๆเก็บกู้กันให้เราขายออกไปแล้วด้วยกันพร้อมด้วยสองยานอันเราเก็บกู้มาได้ แล้วกำไรทั้งหมดคือ 275,000 อีเนล”
“มันมากกว่าเราคิดนิดๆนะ”
“เราค่อนข้างตกใจด้วยเหมอนกัน และผลลัพธ์หลังปรึกษากับกิลด์ทหารับจ้าง มันถูกตัดสิินใจไปแล้วว่าโบนัสสำหรับสองเธอจะเป็น 10% ของรายได้รวมของทั้งหมด”
“10% เหรอ?”
“ช่าย 10% เมื่อเอามาพูดอีกแบบ โบนัสเธอจะเป็น 27,500 อีเนล เธอจำเป็นต้องแบ่งจำนวนนี้ ดังนั้นพวกเธอละคนจะได้ 13,750”
“หมื่นสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบอีเนลเหรอ……!?”
ทีน่าเอียงหัวในความสับสน มันแม้แต่ดูเหมือนมีควันขึ้นลอยๆมาจากเหนือหัวเธอ ผมหันหาวิสเกอร์แล้วเห็นว่าเธอละม้ายพี่สาวเธอทุกอย่าง
“กำไรเราจะต่างๆไปขึ้นอยู่กำงานที่เราทำๆกันแล้วเท่าไหร่ที่เราล่าได้ต่อๆวัน แต่เธอจะได้อัตราโบนัสเท่ากันจากตอนนี้ไปตราบใดว่าเธอเข้าร่วมอย่าแข็งขัน”
“???”
มันดูเหมือนสมองทีน่าลัดวงจรแล้ว เธอมองขึ้นมาหาผมพร้อมคอยังคงเอียงๆไปข้างๆเมื่อเธอแข็งนิ่งไป แทนจะเอ่ยออกกล่าวว่าลัดวงจร เครื่องยนต์เธอเสียหรือบางอย่างหรือหรือ?
“นี่ต้องเป็นฝัน ใช่มะ?”
ผมไม่รู้ว่าเธอสรุปเช่นนั้นได้อย่างไร แต่กำลังพละทั้งหมดของเธอทิ้งกายเธอไปขณะเธอพิงหน้าบนอกผม
เธอเหมือนเธอพร้อมจะหลับไหล
“มันไม่ใช่ฝัน นี่จริงรู้ป่ะ จริงมันไม่ใช่บางอย่างคุ้มค่ามาตกใจมาก ใช่มั้ย?”
“ฟังนี่นะ บอสเราแค่ถอดชิ้นส่วนจากซากอยานวันนึ้แล้วเราได้โบนัสซึ่งมีค่าเท่ากับสี่เท่าของเงินเดือนเรานะ แน่นอน เราจะช็อกจนบื้อไปเลยละ!”
“เอ่อ เดาว่าอย่างง้้น หือ”
“แค่เราตั้งใจทำงานลำบากมาถึงตอนนี้เพื่ออะไรกัน……?”
ทีน่าเศร้าซึมต่อไปขณะเธอทำให้ตัวสบายบนอกผม ที่น่าดันร่างเธอใกล้ๆขึ้นกับตัวผม แต่ความประทับใจเดียวซึ่งผมกำลังได้รับมาคือแบนราบนาบเต็มๆ แม้อย่างนั้น มีมิกับเอลม่ายังมองด้วยความหึงหนักๆกำลังมองค้างดุๆสู่ทีน่าต่อไป
วิสเกอร์ ผู้แข็งนิ่ง ณ ตรงนั้น ถูกดึงโดยเมย์ จากนั้นเธอทำให้ถูกนั่งบนโซฟาถัดไประหว่างยังดูด้วยดวงตาใสแสงส่องสะท้อนเหมือนดวงแก้วถ้าอย่างนั้นมันมากช็อกปานฉะนั้นสำหรับพวกเธอหือ
เอลม่ากับมีมิทนไม่ไหวแล้วแล้วฉีกทีน่าออกจากผมด้วยกำลัง หลังจากนั้น ทั้งสองขอให้ผมเข้าสวมกอดพวกเธอด้วยเช่นกัน จากนั้นผมปลุกวิสเกอร์ ผุ้จบในการหลับบนโซฟาจากความตกอกตกใจ เธอครวญแปลกแหวกธรรมดาเหมือนมีฝันร้ายอันน่ากลัวสุดขีด
ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นความเละเทะเล็กน้อย แต่ในสุดท้ายนี้ผมสามารถให้พวกเธอทั้งหมดใจเย็นแล้วรวมรอบโต๊ะกาแฟในห้องพักผ่อน
วิสเกอร์ยังมองดูแล้วไม่เหมือนอยู่ตรงนี้ แต่อย่างน้อยเธอตอบมาอย่างถูกต้องเมื่อถูกคุยด้วย ดังนั้นผมเดาว่าเธอจะไม่เป็นไรหลังจากอีกสักพักหน่อยๆ
มั้ง
“ฉันเดาว่า มันจะเปลี่ยนออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าเธอถ้าเธอใช้สามัญสำนึกคนธรรมดาหือ”
“ใช่ หรือ เซ้นส์เรื่องเงินบอสมันแค่เหนือธรรมดาหานิดไม่พบเห็นได้บ่อยๆ มันค่อนข้างเครียดสำหรับหนูตัวเล็กนัอยคนนี้รู้ป่ะ”
“ฉันแปลกจริงขนาดนั้นเหรอ……?”
ผมเองไม่คิดเช่นนั้น แต่มันดูเหมือนมีมิกับทีน่าคิดว่าเป็นอย่างอื่น แน่ว่าผมไม่มีเจตนาเป็นคนไร้ประโยชน์ผู็ผลาญป็นแต่ทรัพสินสิ้นไปสู่ศูนย์ไซร้มีหน้ากล้าไร้กังวลมิดึงพึงนำกมลไปจินต์จล พวกคุณ
“ฉันไม่คิดว่ามันไม่ปรกติมากเท่านั้นจริงๆหรอก เขาเหวี่ยงกระเป๋าฟิ้วๆเหมือนเสกเงินได้บางครา แต่มันไม่เหมือนว่าเขาใช้ล้างใช้ผลาญเอาตังไปโยนเล่นเมื่อมันเป็นเรื่องเงินตรา ถูกมั้ยเล่า?”
“เออ เธอนี้บอกพวกพวกเธอนั้นเลย เอลม่า”
“นี่แย่แล้ว เหล่านี้สองพี่ๆจริงๆแล้วเป็นแบบเดียวกันเลยนะ”
“เนาะๆ? ไม่นานมา หนูเริ่มตั้งคำถามไว้ตรึงใจเมื่อนึกแล้วหนูเป็นหนึ่งผู้นั้นอันแปลกๆมั้ย”
ทีน่าส่ายหัวเธอในความหงุดหงิดแรงกล้ากับมีมิพยักหน้าแรงในความเห็นด้วย เอ๋? จริงหรือ เธอๆ?
“เราแค่ชระเมียงอะไรๆจากมุมมองต่างออกไป สำหรับเรา ปัญหาอันต้องแก้เร็วแน่ๆที่สุดเมื่อมันมาถึงเรื่องเงินคือค่าใช้จ่ายประจำวัน อาหาร และเงินเดือนของเรา ความกังวลของพี่ใหญ่โฟกัสเน้นไปบนราคายาน อุปกณ์ ระบบอาวุธ กับกระสุน ดังนั้นอะไรซึ่งพี่เขาพิจารณาว่าแพงจิ๊ดๆอาจเริ่มตรงล้านหรือประมานนั้น หนูพนันไว้ว่า 10,000 อีเนลแค่ก้อนเงินทอน ไม่หนูมั่นใจแน่แท้เลย”
“แต่หมื่นมันก็เยอะแล้ว ใช่มั้ย?”
“ใช่ มันเยอะนะ”
“เอ๋……”
หมื่นอีเนลแม้แต่เริ่มครอบคลุมค่าเติมระสุนและซ่อมแซมไม่ได้เลย รู้ไหม แต่โล่ยานทั้งสองของผองเราค่อนข้างหนาทนๆถึกๆ ดังนั้นผมแทบไม่ได้แกว่งเงินไปซ่อมตัวถังเลย ถ้าไม่ใช่ก็แม้สักนิด แต่ในกรณีเมื่อกฤษณะได้มีวันเสียหายหนัก แม้แต่ 100,000 อีเนล นั้นก็มิพาแคล้วคลาดสามารถจะครอบคลุมการซ่อมได้ 10,000 อีเนลมันเม็ดถั่วเมื่อมาเทียบ
“นั่นเห็นป่ะเล่าเขา ‘เอ๋…’ แบบนั้นอีกครั้งแล้ว หนูว่ามุมมองขอเรามันห่างกันเป็นหลายดาวเคราะห์……”
“แต่ไม่ใช่หมื่นมันถูกใช้หมดไปง่ายๆในที่เหมือนร้านอาหารแฟนซีหรือบางอย่างเรอะ?”
“นั่นแค่ถ้าร้านอาหารมีเซิร์ฟเนื้อกับผักออร์แกนิก และในร้านอาหารทั่วไปนะ คุณไปกินเต็มอิ่มด้วยแค่ห้าอีเนลประมาณนั้นเอง”
ผมเดาว่าเธอมีเหตุผล
“แต่ตลับอาหารเรามีราคา 100 อีเนลนี่ และเหล่านั้นมันแบบธรรมดาด้วย เห็นป่าว มันไม่แปลกแยกไปจากคนทั่วๆที่จะใช้มากขนาดนั้นบนอาหาร ถูกมั้ย?”
“หนึ่งตลับมันทำได้สามสิบมื้อแล้วนะ นั่นหมายถึงแต่ละมื้อราคา 3 อีเนล 300 อีเนลนั้นจะพอครอบคลุมค่าอาหารสามมื้อสำหรับแต่ละเดือนได้แล้ว ถ้าคุณเติมบิลค่าอากาศ น้ำ กับค่าใช้จ่ายการใช้ชีวิตอื่นๆ คุณจะต้องการแค่ 1000 อีเนลเพื่อครอบคุมเบสิกทั้หมด เงินเดือนเราคือ 3700 อีเนลต่อเดือน และนั่นพิจารนาแล้วค่อนข้างสูงนะรูป่ะล่ะ?”
วิสเกอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับการอธิบายของทีน่า มันจริงอยู่ว่าพวกเธอดูค่อนข้างทั้งแข็งแรงและกระปรี้กระเป่าเมื่อเราเจอกันครั้งแรก ดังนั้นพวกเธอน่าจะค่อนข้างอยู่ดีกินดีอยู่ เข้าใจแล้วเซ้นส์ของเรื่องเงินเฟ้นคิดแล้วไม่ปรกติหือ…… อืม มีมิพูดนั่นมาก่อนแล้วหลายคราในอดีต แต่จริงๆผมไม่ได้สนใจเยอะกับการบ่นของน้องเขา
“ยังไงซะ ไม่ใช่มันไม่เป็นไรเหรอ นั่นแค่หมายถึงว่าฉันมีส่วนร่วมเยอะกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่าย”
“ใช่ นั่นถูก เพราะเราอยู่ดีกินดี มันไม่มีเหตุผลจะต้องรั้งมือมากไป”
มันดูเหมือนเอลม่าเห็นด้วยกับมุมของผม
“และยังไงที่ตราบใดที่เธอยังใกล้กับฉัน เธอจะไม่มีไม่พอกิน ดังนั้นแค่ยอมแพ้เลิกตรองแบบนั้นเถอะน่า โอเค๊”
“ได้นะ”
“ค่ะ หนูเดาว่านั่นถูกหือ……”
“……เราจะพยายามปรับตัวเร็วที่สุดเท่าที่เราทำได้นะ”
มีมิพยักหน้ายินดีตรึงนึกพ้องเชื่อฟังคำผม บางทีเธอแค่อยากพิสูจน์ว่าเซ้นส์เรื่องเงินเธอคือหนึ่งซึ่งปรกติเธอจึงกำลังทำตัวดื้อ
“มันมหัศจรรย์ที่ทุกคนสามารถเห็นพ้องต้องกันแล้วเมื่อมันเป็นเรื่องการเงินของเรา”
เมย์ ผู้กำลังยืนถัดจากโต๊ะ พยักหน้าพอใจหลังการคุยเราสำเร็จ แต่ผมสงสัยว่าอะไรคือความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับทั้งหมดนี้
“แล้วเธอล่ะ เมย์? อะไรคือความคิดของเธอกับเรื่องนี้?”
“หนูเหรอคะ? หนูไม่ปัญหาอะไรใดๆทั้งสิ้นกับ ความโน้มเอียงตรองปองทำเมื่อมันเป็นเรื่องการจัดการเงิน”
“อย่างนั้นเหรอ? ฉันตกใจนิดหน่อยนะนั่น”
ผมไม่มีเจตนาจะเป็นคนใช้เงินล้างผลาญ แต่ผมไม่ได้คาดว่าเธอจะไม่มีคัดค้านใดๆเลยสักนิด
“ค่ะ ท่านชอบสรรค์ต่อรอง แต่ไม่มีปัญหาหลักมากถึงตอนนี้ และมันดูเหมือนท่านก็รู้ๆอยู่ถึงจุดหนึ่ง นายท่าน หนูจะพยายามหาให้ได้มากพอสำหรับเราที่จะใช้กันอย่างอิสระโดยไม่รู้สึกเป็นภาระกับด้วยบัวดำนี้ ดังนั้นนั่นไม่มีปัญหา”
“เข้าใจแล้ว”
ถ้าเซ้นส์เรื่องเงินคือคนธรรมดา ผมจะไม่สามารถมีไอเดียขึ้นมาว่าจะซื้อบัวดำตั้งแต่แรก และนอกจากนี้ เรากำลังได้เงินดีไม่ว่าอย่างไร ดังนั้นมันไม่เป็นไร
“โยช นั่นสรุปแล้วถ้าอย่างนั้น เราเสร็จกับหัวเรื่องนีแล้ว โอเคมั้ย? ดังนั้น เกี่ยวกับอย่างอื่นอันฉันไปปรึกษากับกิลด์ทหารรับจ้าง……”
ผมจบการพูดเกี่ยวกับเรื่องเงินสำหรับเวลานี้และเปลี่ยนไปปรึกษาแผนซึ่งจะทำให้บัวดำดับเบิลเป็นมินิยานบรรทุกยานส่งคาร์โก เพราะทั้งหมดผมยังต้องหาเงินอีกเยอะๆมากๆเพื่อไปถึงเป้าหมายสุดท้ายท้ายสุดของผมและทำให้สาวๆมีความสุข มันจะดีกว่าที่จะวางแผนไว้ข้างหน้าเพื่ออนาคตอันสดใสแทนจะไปสนใจอยู่เกี่ยวกับอดีต
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl