ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 214 ขอโทษ แต่ไม่
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 214 ขอโทษ แต่ไม่
214 ขอโทษ แต่ไม่
“ย-ยังไงซะ มันไม่เหมือนว่ามีความจำเป็นต้องตามพวกมันเมื่อมันเข้าชั้นบรรยากาศ ถูกมั้ย”
“ฉันล่ะหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
“อ-อ่ะฮ่าๆถขีดกำหนดพิกัดเข้าชั้นบรรยากาศของพวกเขาแล้ว”
แน่นอน เราไม่ได้สามารถตามพวกมันได้ก่อนพวกมันทำการเริ่มเข้าชั้นบรรยากาศ เมื่อเวลาที่เรามาถึงโคแม็ต IV ที่ตอนนี้กำลังปรับพื้นผิวดาว ยานระงับเริ่มลงแล้ว และแม้ว่าเราสามารถทำลายระบบขับดันของพวกเขา พวกเขาแค่พุ่งตรงไปบนโคแม็ต IV แทน ผมถูกสั่งไม่ให้ทำลายพวกเขา ดังนั้นผมไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น
แม้อย่างนั้น กฤษนะยังเป็นยานขนาดเล็กสามารถเดินทางระดับจักรวาลได้อย่างเต็มตัว สมรรถนะของเซ็นเซอร์ทั้งหลายแหล่ของมันมากกว่าเพียงพอที่จะทำให้มันง่ายมากๆในการเฝ้าสังเกตวิถีการเข้าของยานระงับจากข้างบนเขตวงโคจรต่ำของโคแม็ต IV ได้อย่างแม่นยำ
“ฉันเข้าใจว่าบรรยากาศของดาวเคราะห์อันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการปรับพื้นผิวดาวอันตรายได้มาก แต่เหตุผลอื่นอะไรที่เธอต้องอยู่กับที่ในเขตนี้”
“แม้ว่าพวกมันอาจเป็นไปได้ว่าเปลี่ยนยานอื่นที่สามารถเดินทางระดับจักรวาล เราจะสามารถตอบสนองได้เร็วและสกัดกั้นพวกมันทันททีเมื่อพวกมันบินออกสู่อวกาศอีกครั้งถ้าเราอยู่กันที่นี่”
ไม่ว่ารุ่นผลิตภัณฑ์ของยานอวกาศอะไรที่พวกมันเปลี่ยน เพื่อที่จะฝ่าแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์และออกสู่ชั้นบรรยากาศ พื้ยฐานแล้วพวกมันทั้งหมดจำเป็นต้องบินตรงขึ้นไป เพราะนั่นจะทำให้พวกมันไม่สามารถเคลื่อนที่หลบหลีกได้ พวกมันจะอ่อนไหวกับการโจมตีมาก ในสถานการณ์นั้น มันจะค่อนข้างง่ายที่จะทำลายระบบขับดันของพวกมันแม้ว่าพวกมันกำลังขี่ยานอวกาศขนาดเล็กอันรวดเร็ว
“มันยากมากๆที่จะขึ้นเข้าไปในอวกาศถ้าวงโคจรดาวเคราะห์กำลังถูกป้องกัน คนที่ได้ควบคุมอวกาศก่อยจะควบคุมกระแสของการต่อสู้ นั่นทำไมกองกำลังทหารของไม่ว่าชาติระดับจักรวาลไหนๆ – รวมทั้งจักรวรรดิด้วย – เน้นพัฒนนากองยานอวกาศพวกเขาก่อนอย่างมาก”
ไม่สำคัญว่าทหาร, รถถัง, ยาน, หรืออาวุธทางอากาศแข็งแกร่งแค่ไหน ตราบใดที่พวกเขาอยู่ที่พื้น พวกเขาจะเปราะบางกับการระดมยิงระดับวงโคจรจากอวกาศอย่างมาก
พื้นฐานแล้ว กฎของการต่อสู้ปัจจุบันในโลกนี้เน้นย้ำกับการได้ควบคุมอวกาศนอก
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมยานระงับตัดสินใจที่จะหนีสู่โคแม็ต IV ไม่ว่ายังไงล่ะ?”
“พวกมันอาจมีไพ่ตายหรืออะไรแบบนั้นซ่อนอยู่ในโคแม็ต IV – บางทีสำหรับพวกมันเอาไว้หนีหรือซื้อเวลา”
“ซื้อเวลา?”
“ถ้าพวกมันไม่มีไพ่ตายกับพวกมัน ถ้าอย่างนั้นบางทีพวกมันหวังพึ่งการช่วยจากกำลังเสริมแทน หรือบางทีพวกมันรอเราถอยและกำลังรอโอกาส ฉันคิดว่าพวกมันมีแผนการนอกจากซ่อนในดาวเคราะห์ แต่ฉันยังไม่รู้ว่ามันอาจเป็นอะไรได้”
จริงๆแล้ว มีความเป็นไปได้อีกอย่าง แต่ผมคิดว่าโอกาสนั้นน้อย
“ไม่ว่าอย่างไร เราจะรอให้กองทัพมาที่นี่ก่อน เมื่อพวกเขามาที่นี่ เราจะปล่อยให้พวกเขารับแทน และมุ่งหน้ากลับสู้โคโลนีเพื่อจัดการกับของเรา”
“นายกำลังสิ้นหวังเต็มที่เลยนะหือ”
“อ่ะฮ่าฮ่า…… ย-ยังไงซะไม่มีเหตุผลที่กฤษณะต้องลงดาวเคราะห์ด้วย หนูเลยคิดว่ามันไม่เป็นไร เอลม่าซัง”
หยุดเลย พวกเธอสองคน ถ้าพวกเธอพูดอะไรแบบนั้นต่อ สุดท้ายเราอาจถูกบังคับให้ลงพื้น ผมไม่เอานั่นสักอย่าง ผมไม่ เข้าใจไหม!?
ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ผมพบว่าตัวเองอยู่ข้างในยานขนทหารจักรวรรดิ
“ได้โปรดให้ฉันกลับไป”
“ฉันขอโทษ แต่ไม่”
นาวาอวกาศโทเซเรน่านั่งตรงข้ามผม เธอไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบทหารเนี้ยบปรกติครั้งนี้
แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เธอกำลังใส่เกราะพลังงานจักรกลน้ำหนักเบา
แล้วก็มีนาวิกโยธินจักรวรรดิกำลังใส่เกราะพลังงานจักรกลหนักและชุดหมีพิเศษเหมาะสมไว้คู่กับชุดเกราะพลังงานจักรกลด้วย อย่างเดียวที่ช่วยในสถานการณ์นี่คือการที่มีผู้หญิงจำนวนเยอะอยู่ในหน่วย มันจึงไม่เหมือนว่าผมไปติดอยู่กับกลุ่มผู้ชายกล้ามปูดๆ นี่ลดความหงุดหงิดผมได้นิดหน่อย
พูดถึงแล้ว ผมไม่ได้กำลังในชุดทหารรับจ้างปรกติของผมด้วยเหมือนกัน แทนที่จะเป็นนั่น ผมกำลังใส่เกราะพลังงานจักรกลน้ำหนักเบาเน้นไปไปทางการเข้าปะทะระยะใกล้คู่ด้วยผ้าคุมรักษาอุณหภูมิคามีเลียนที่ซื้อมมาที่โคโลนีแบรดไพร์มก่อนหน้า
โดยการเอาซองพลังงานใส่ช่องในผ้าคลุมนี้ ผ้าคลุมนี้จะสามารถเก็บคนหนึ่งไว้ให้ดีและสบายแม้ว่าในบรรยากาศที่โหดร้ายเข้าขั้นสุดในอุณหภูมิระหว่าง -50 ถึง +50 องศาเซลเซียส มันก็มีผ้าคลุมหัวที่ให้คุณรับมือกับใต้ฝุ่นและพายุทรายและระบบการทำงานการพรางตัวแบบคามีเลียนจะให้คุณเข้าไปกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้เหมือนกับคามีเลียนตัวจริง
นอกจากอะไรเหล่านั้น มันก็ติด ด้วยกระติกที่เก็บความชื้นในอากาศอัตโนมัติเพื่อเก็บน้ำดื่มได้ 2 ลิตร และหน้ากากกันแก๊สที่ป้องกันคุณไม่ใช่แค่จากแก๊ส แต่ก็เป็นแบคทีเรีย, ไวรัส, อาวุธเคมีชีวภาพและอะไรแบบนั้นที่อันตรายด้วย ในหมู่อุปกรณ์ช่วยชีวิต ผมก็ติดตั้งไปด้วยดาบทำเฉพาะขุนนางคู่ของผม, ปืนเลเซอร์ส่วนตัว, และปืนกลจู่โจมเลเซอร์ด้วย พูดอีกอย่าง ผมติดอาวุธเต็มรูปแบบสำหรับการต่อสู้
“คนที่เราตาม เกริตซ์ อิซเตอมัล คือนักดาบปรมาจารย์ผู้เสริมความแข็งแกร่งร่างกายเขาโดยใช้วิทยาการณ์สื่อสารและควบคุมร่างกายและชีววิทยา ตอนนี้ คนเดียวที่สามารถรับมือเขาได้ในระบบดาวนี้คือนายและฉัน”
“แต่เธอแค่ล้อมเขาและย่างเขาด้วยเลเซอร์หรือบางอย่างไม่ได้เหรอไง……?”
มีแค่พวกไอ้โง่วาดดาบเหล่านั้นผู้บ้าพอยืนกรานกับการจะสู้ด้วยดาบ เธอใช้อุปกรณ์และอาวุธทันสมัยไม่ได้หรือย่างไร ได้โปรดเถอะ?
“เราพยายามทำอย่างนั้นแล้วที่ฐานและเราได้รับผู้เสียชีวิตมากมายเป็นผลลัพธ์ ตั้งแต่แรก เราจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าจับเขาเป็นๆ”
“ทำไม?”
“จริงๆแล้วเกริตซ์คือน้องชายของเอิร์ลอิซเตอมัลและมีข่าวลือว่าพื้นฐานแล้วเขารับมือกับเรื่องลับๆล่อๆเพื่อเอิร์ลเป็นตำแหน่งมือขวา เขาไม่เคยถูกจับและสอบสวนจนถึงตอนนี้เพราะการป้องกันของเขาสมบูรณ์แบบและเขาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆกับการทำผิดให้ผู้มีอำนาจตามเลย เราปล่อยให้เจ้าคนนี้หนีรอดไปได้ในเวลานี้ไม่ได้ ถ้าเราสามารถจับและสอบสวนเขา เราจะสามารถขยี้เอิร์ลอิซเตอมัลแบบเต็มตัวได้ นั่นทำไมแน่นอนที่สุดว่าเราต้องจับเขา”
“ฉันยังไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ แต่ฉันพอเข้าใจว่าเธออยากจับคนชื่ออิซเตอมัลไม่สำคัญว่าอะไรเกิดขึ้น”
“ที่นายเข้าใจแค่นั้นมันก็พอแล้ว ยังไงซะ มาพูดกันว่าเอิร์ลอิซเตอมัลนั้นเป็นหนึ่งในขุนนางเสื่อมทรามที่นายได้ยินข่าวลืออยู่ตลอด”
ขุนนางเสื่อมทรามหือ? ผมก็ตค่อนข้างวาดภาพมันได้แล้วเพราะมือขาวจริงๆแล้วมาอยู่พวกพวกขยะเหมือนโจรสลัด ผมไม่มีเจตนากับการเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาขุนนาง ดังนั้นมันดีกว่าที่จะไม่ถามต่ออีกแล้ว
แต่ไม่ใช่พวกเขาว่ากันว่าขุนนางถูกให้อยู่เป็นระเบียบโดยเอไอดังนั้นพวกเขาทำอะไรที่เกินเลยไปไม่ได้? อืม ผมถามนาวาอวกาศโทเซเรน่าเกี่ยวกับมันตรงๆตรงนี้ไม่ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเอลม่าหรือคริส ขุนนางที่ผมรู้จักด้วยทำตัวเรียบร้อยและสำรวมตลอดและไม่ค่อยสบายใจไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เราพูดเกี่ยวกับหัวเรื่องเอไออิสระ บางทีพวกเธออยู่ใต้ความเข้าใจโดยไม่ต้องพูดถึง หรือบางทีจริงๆแล้วมันเป็นความลับเปิด หรือบางทีมันอยู่ใต้สถานการณ์พิเศษที่ไม่มีใครพูดเกี่ยวกับมันอย่างเปิดเผยแทน
“หรือ ฉันเชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยยานอวกาศรู้ป่ะ จริงๆแล้วเธอหวังพึ่งกับฉันให้ไปสู้กับคนนั้นบนพื้นอย่างนั้นเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ใช่นายแสดงให้เราทั้งหมดเห็นถึงวิชาดาบมหัศจรรย์ระหว่างการแข่งขันเหรอไง? ฉันแน่ใจว่านายจะไม่เป็นไร หรือ นอกจากฉัน ไม่มีใครอีกแล้วที่เหมาะสำหรับงานนอกจากนาย ดังนั้นแค่ยอมแพ้ได้แล้ว เจ้านายของนายก็ได้มอบการอนุญาตให้นายเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการนี้แล้วด้วย ยังไงซะ แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถปฏิเสธคำร้องอย่างเป็นทางการจากกองทัพจักรวรรดิได้ตั้งแต่แรก”
“นั่นมันเล่นสกปรกนี่หว่า เธอถลุงอำนาจมากเกินไป”
“เรียกมันว่าสกปรกอ่ะ หยาบคายนิดหน่อยนะ ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ? ฉันเพียงแต่ใช้ สิทธิพิเศษฉันในแบบที่ถูกต้องตามครรลองทุกอย่าง”
นาวาอวกาสโทเซเรน่ายักไหล่เธอและยิ้มมุมปากยั่วโมโหใส่ผม กุนุนุ
“30 วินาทีสู่การเข้าชั้นบรรยากาศ!”
“บุคลากรทั้งหมด เตรียมตัวลงพื้น อย่ากัดลิ้นกันล่ะ!”
“““อายอาย แหม่ม!”””
นาวาอวกาศโทเซเรน่าขึ้นเสียงและนาวิกโยธินตอบกลับเธออย่างเสียงดัง มันรู้สึกเหมือนการออกศึกของกองทัพอย่างถูกต้อง แต่ทำไมมีผมรวมอยู่ที่นี่ด้วยล่ะเนี่ย?
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ตามฉันมาสักครู่เดียว มามุ่งหน้าสู่นรกที่รู้จักกันในชื่อดาวเคราะห์ใต้การปรับพื้นผิวดาวกัน”
ริมฝีปากนาวาอวกาศโทเซเรน่าบานเป็นรอยยิ้มขณะยานขนทหารเริ่มลงเข้าสู้ชั้นบรรยากาศ มันเริ่มสั่นอย่างแรงกล้า”
“อ๊าาาาาาาา! ม่ายยยยยยยยย! ให้ฉันกลับปายด้ายแล้ววววววววว!”
การตะโกนอย่างสิ้นหวังของผมนั้นแน่นอนว่าเป็นความล้มเหลว และยานขนทหารทำการลงสู่ดาวเคราะห์ใต้การปรับพื้นผิวดาวทันที
“ดูความปลอดภัยจุดลงจอด! ไป ไป ไป!”
“นาวิกโยธินติดเกราะ ดำเนินการตรวดและดูความปลอดภัยอุปกรณ์ให้แน่นให้พร้อม! ช่างศึก รีบให้เครื่องฉายวัสดุนั้นพร้อมได้แล้ว!”
เมื่อลงจอดนาวิกโยธินจักรวรรดิกระโดดออกจากยานทหารทันทีและนาวาอวกาศโทเซเรน่าเริ่มสั่งการ นาวิกโยธินเริ่มตรวจอุปกรณ์ของพวกเขาและตั้งแคมป์
พูดกันจากใจ บรรยากาศในที่นี้ไม่ค่อยดีนักในที่ซึ่งเราลงกัน อุณหภูมิมัน 20 องศาต่ำกว่าศูนย์ มันไม่ได้ชื้นหรือหิมะตก แต่ฝุ่นพัดใส่หน้าเราใต้อิทธิพลของลมเหมือนพายุ และถ้าคนหนึ่งไม่ใส่หน้ากากก็จะโดนโปรยเป็นแผลเต็มไปด้วยรู
ในระหว่างทั้งหมดนั่น ผมนำเครื่องปลายทางพกพาของผมออกมาและเรียกกฤษณะ
เครื่องปลายทางส่งภาพที่ผมกำลังเห็นผ่านหน้ากากอนเนกประสงค์ของผมผ่านรสส.ไร้สาย
“นี่ฮิโระ ไม่ว่าแบบไหน เราสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย”
『นี่มีมิ ขอบคุณความดีงามที่พี่ลงจอดได้อย่างปลอดภัย』
“ใช่ แล้วก็ พวกเธอติดตามตำแหน่งพี่ได้อย่างดีที่นั่นมั้ย?”
『ทุกอย่างใช้ได้บนฝั่งเรา เราจะสามารถสนับสนุนพี่ได้ทันทีถ้ามีอะไรกเกิดขึ้น』
“พี่หวังพึ่งเธอนะ พวกเธอ แต่ได้โปรดอย่ายิงมาโดนพี่แบบพลาดๆล่ะ”
『เชื่อมั่นทักษะฉันมากกว่านี้ ได้ไหมเล่า? ฉันก็ฝึกมาเพื่อรับมือกับตำแหน่งรองนักบินของกฤษณะรู้ป่าว เธอรู้นั่น ถูกมะ?』
“อืม ใช่”
เอลม่าได้ฝึกหนักเพื่อขับกฤษณะมาสักพักแล้วตอนนี้ในฐานะรองนักบินของเธอ แน่นอน เธอรับมือกฤษณะไม่ได้ด้วยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยเธอก็ทำพื้นฐานได้อย่างมั่นใจ ในฐานะนักบินของเครื่องจักร ที่รับมือยากตั้งแต่แรก
ทักษะนักบินของเอลม่าไม่ได้หมายความว่าน้อยไม่ว่าจะพูดกันอย่างไร เพราะทั้งหมดเธอสามารถรับมือหงส์กาแล็กติกนั่นได้ ถ้าเธอฝึกซ้อมทำการเคลื่อนที่ต่อสู้ด้วยการปิดเครื่องปรับสมดุล ผมแน่ใจว่าเธอจะสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้
“ฉันไม่อยากสู้โดยไม่มีชุดเกราะพลังงานจักรกล……”
『เธอไปเหวี่ยงดาบหว่องๆไม่ได้ถ้านายใส่เกราะพลังงานจักรกลหน่า ดังนั้นมันช่วยไม่ได้』
『แต่ไม่ใช่มันจะดีกว่าถ้าพี่ซื้อเกราะพลังงานจักรกลพิเศษสำหรับนักดาบครั้งหน้าเหรอ? เพราะทั้งหมดเรายังมีที่ว่างอยู่ภายในยาน』
“พี่ว่าพี่พิจารณานั่นได้”
มันมีเกราะพลังงานจักรกลน้ำหนักเบาลดราคาที่เลียนแบบร่างกายเต็มไปด้วยระยะเคลื่อนไหว
แม้อย่างนั้น มันยังมีความคล่องตัวและพลังเหนือกว่าร่างกายกายภาพ และถ้าคนหนึ่งติดตั้งชุดกระโดดทางเลือก คนหนึ่งสามารถบินได้ระยะเวลาสั้นๆ
แลกเปลี่ยนกัน ความสามารถป้องกันจะลดลงอย่างมากกว่าเกราะพลังงานจักรกลธรรมดาและมันน่าจะทนกว่าเกราะพลังงานจักรกลที่ผมกำลังใส่อยู่ตอนนี้แค่นิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม มันยังเป็นเกราะพลังงานจักรกล ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับการป้องกันและการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมมันสูงมากหรือไม่
เพราะมันดูเหมือนมันจะมีประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้ ผมอาจแค่พิจารณาซื้อมันสักชุดครั้งหน้า
แต่พวก พอมาคิดว่าน้องจะแนะนำการซื้ออุปกรณ์แพงๆเพื่อเอาชนะสถานการณ์แบบนี้ ในที่สุดน้องก็เปลี่ยนทรงเป็นทหารรับจ้างถูกต้องแล้ว ไม่ใช่เหรอ มีมิ?”
『นั่นถูก แค่ทำตามแล้วมาฝั่งเรา มีมิ』
『อ-อ่ะฮ่าฮ่า…… แต่หนูไม่แน่ใจอ่ะว่านั่นดีหรือไม่ดี……』
เอาน่า น้องไม่ต้องลังเลหรอก ไม่ใช่ว่ามันจะง่ายกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่ด้านมืดหรือ?
『ขอโทษที่เปลี่ยนหัวเรื่อง แต่เธอมีแผนอะไรตอนนี้?』
“ฉันแค่รออยู่ตรงนี้จนกว่าเป้าหมายจะถูกพบไม่ได้เหรอ?”
ตอนนี้เครื่องฉายวัสดุกองทัพที่เราทำงานมากำลังคายวัสดุก่อสร้างสำหรับการก่อสร้างแคมป์อันมั่นคงอออกมา ผมไม่รู้ว่าวิธีการสุดล้ำหน้าแบบในที่มันใช้ แต่มันค่อนข้างคล้ายกับเครื่องพิมพ์สามมิติ – แค่ทำให้เจ๋งกว่าเป็นหลายต่อหลายเท่า
แต่ผมสงสัยว่าเจ้าสิ่งนั้นมันทำงานอย่างไร อืม? มันมีเหตุผลตามสามัญสำนึกมากกว่าที่เอกลักษณ์ของเกมแนวสร้างที่ตัดต้นไม้ด้วยมือเปล่าเพื่อสร้างกำแพงและเพดานจากอากาศอันว่างเปล่า อย่างน้อยพวกมันก็ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์วิธีการลำหน้า
“นั่นจะทำไม่ได้ แน่นอน”
ก่อนมีมิและเอลม่าจะตอบได้ เสียงเรียกมาจากข้างหลังผม เมื่อผมหันไปผมเห็นนาวาอวกาศโทเซเรน่าในอุปกรณ์ต่อสู้เต็มรูปแบบ
เธอกำลังใส่ดาบส่วนตัวบนเอวในหมู่อุปกรณ์อื่นทั้งลายแหล่
“ฮิโระ นายและฉันเป็นไพ่ตายกับเกริตซ์ครั้งนี้ ทหารทั่วไปจะไม่สามารถรับมือเขาได้ซึ่งหน้า ดังนั้นนายจะมากับฉันเพื่อที่จะไปตามรอยเขา แน่นอนว่านายจะเป็นคนนำ”
“เอิ่ม นาวาอวกาศคโทครับ? ไม่ใช่ว่าผู้บัญชาการปรกติแล้วจะอยู่ข้างหลังเพื่อประสานงานทหารหรือ?”
“ยุคล้าสมัยยุคไหนที่นายกำลังพูดถึงเนี่ย? นายสามารถประสานงานทหารได้สบายๆถ้านายมีเครื่องสั่งการ และผู้บัญชาการขุนนางพัฒนาผ่านความเร็วเพื่อทำการทำหน้าที่พร้อมกันหลายอย่างด้วยรู้ไหม ผู้บัญชาการจักรวรรดิที่มีคุณสมบัติแล้วนำทัพทหารจากข้างหน้า”
“โอ้ โอเค……”
พูดอีกอย่าง ผมจะต้องไปกับนาวาอวกาศโทเซเรน่าสู่ข้างหน้าเพื่อที่จะไปหาเกริตซ์ใต้สภาพอากาศย่ำแย่ขั้นห่วยแตก เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว
“ได้โปรดให้ฉันกลับบ้านได้แล้ว”
“ไม่”
นาวาอวกาศโทเซเรน่ายิ้มใต้หมวกเกราะโปรงใส่เต็มใบ บัดซบเวร!
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu