ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 232 โคโลนีรีฟิลไพร์ม
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 232 โคโลนีรีฟิลไพร์ม
232 โคโลนีรีฟิลไพร์ม
หลังจากออกจากสาขาของสมาคมทหารรับจ้าง เราตัดสินใจยกเลิกแผนที่จะไปฐานใหญ่ของกองประจำการและเปลี่ยนมาเดินเล่นรอบรีฟิลไพร์มแทน เราตัดสินใจไปซื้อของและซื้ออะไรก็ตามที่ดูดี
“ฟุมุ…… มันต่างจากโคโลนีอื่นจริงๆหือ”
“ใช่เลย ถนนดูต่าง แต่ก็บรรยากาศโดยรวมด้วยเหมือนกัน”
คนหนึ่งพูดได้ว่ามันเฉยๆ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นตรงๆ
ผมควรเรียกมันอย่างไรดี? ช้าๆ?
……เอ่อ มันไม่เหมือนว่าคนรอบๆเราเดินช้าหรืออะไรแบบนั้น ผมแค่พูดว่าช่วงจังหวะของชีวิตที่นี่ช้ากว่าเมื่อเทียบกับโคโลนีอื่นที่เราเคยไป
“เพราะทั้งหมดพื้นฐานแล้วเอลฟ์ของระบบดาวรีฟิลค่อนข้างไร้กังวล เหมือนที่เธอรู้ เอลฟ์ค่อนข้างมีชีวิตยืนยาว ดังนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้รีบๆเมื่อเทียบกับมนุษย์”
“เข้าใจแล้ว?”
“ใช่ เธอน่ะสบายๆเมื่อวันหยุดด้วยเหมือนกันนี่หือ เอลม่า”
ผมและมีมิอยู่ไม่สุขกว่าเมื่อเทียบกัน
ผมดูแคตตาล็อกของอาวุธต่อสู้ระยะประชิดและของประดิษฐ์เล็กอื่นที่อาจมีประโยชน์กับการต่อสู้บ่อยครั้ง
แล้วผมก็ออกกำลังกายเป็นประจำด้วย และถ้าผมเจอลูกเรือผมว่าง ผมจะชวนพวกเธอไปทำบางอย่างด้วยกันกับผม
ขณะที่สำหรับมีมิ เธอเรียนวิชาเกี่ยวกับโอเปอร์เรเตอร์และค้นคว้าวิจัยอะไรหลายๆอย่างบ่อยครั้ง แต่ในกรณีของเอลม่า มันแค่หนึ่งของสองอย่าง; ดื่มเหล้าหรือนอนหลับ เธอขยับตัวบ้างบางครั้ง แต่เธอใช้เวลาอยู่เฉยๆมากกว่าเยอะ
“เฮ้ เรียกฉันว่าสบายๆนั้นหยาบคายนะรู้มั้ย? ฉันแค่รู้ว่าจะแยกแยะวันเปิดวันปิดยังไงอย่างถูกต้อง จากมุมมองของฉัน มันพวกเธอต่างหากที่วิ่งไปนู่นนี่เยอะไป”
จริงๆหรือ? เราถกเถียงเบาสมองต่อเกี่ยวกับหัวเรื่องนั้นขณะเราเดินไปรอบๆโคโลนีรีฟิลไพร์และดูๆร้านค้าต่างๆ
“ไม่ใช่ของขายมันค่อนข้างแพงแบบแปลกๆเหรอ?”
“พวกมันดูเหมือนแพงแปลกๆเมื่อเทียบกับโคโลนีอื่น”
ของที่เราดูนั้นก็ที่เรียกกันเยอะว่าสิ้นค้าเฉพาะดาวเคราะห์, ของฝาก, และของนำเข้าจากระบบดาวอื่น ของเหล่านี้เป็นอะไรๆที่พื้นฐานแล้วค่อนข้างจะแพงไม่ว่าที่ไหน แต่พวกมันยิ่งแพงมากกว่าที่นี่เมื่อเทียบกับของจากระบบดาวอื่น
เมื่อเทียบกับของระบบดาวอื่น พวกมันดูประมาน 50% ถึงสองเท่าของราคาปรกติ
ขณะเราปรึกษากันเรื่องราคา พนักงานเอลฟ์หญิงเรียกออกมาหาเรา
“โอ้ ทุกๆคนผู้มาจากโคโลนีอื่นชี้นั่นออกมาทุกครั้ง จริงๆแล้ว เราไม่ได้ผลิตหรือมีโรงงานของที่จะขายจากระบบดาวรีฟิล IV คนพื้นบ้านอย่างเราเรียกมันว่าทีต้านะจะว่าไป เอลฟ์มีจำนวนประชากรน้อยเมื่อเทียบกับเผ่าอื่น และรีฟิล IV ได้พรเป็นความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ดังนั้นอุตสาหกรรมผลิตไม่ได้พัฒนามากขนาดนั้น”
“หืม…… แต่ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งกับจักรวรรดิกรากันนี่ ใช่มั้ย? ไม่ใช่คุณต้องตกเป็นเหยื่อของความนิยมทางอุตสาหกรรมเหมือนจักรวรรดิที่เหลือเหรอ?”
“อืม ใช่ มันประมาณรุ่นคุณตาฉันที่ระบบดาวรีฟิลถูกดึงเข้าร่วมจักรวรรดิกรากัน มันดูเหมือนจักรพรรดิเองเป็นหัวหอกการเริ่มต้นอุตสาหกรรมกลับไปตอนนั้น”
“เป็นหัวหอกการเริ่มต้นด้วยตัวเอง…… คุณกำลังพูดถึงจักรพรรดิผู้สร้างชาติถูกมั้ย?”
“ใช่ เอลฟ์ในเวลานั้นปฏิเสธที่จะเขาไปมีความขัดแย้งกับคนผู้ลงมาจากท้องฟ้ากลับไปตอนนั้นและถูกแต่งตั้งเป็นบริวารแทน, แลกเปลี่ยน, เราถูกมอบสิทธิปกครองตนเอง และมันพูดว่าจักรพรรดิผู้สร้างชาติเยือนทีต้าและประทับใจมากหลังจากเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จากนั้นเขาประกาศว่าดาวเคราะห์ควรถูกปล่อยไว้อย่างนั้น หลังจากตรงนั้น ทั้งหมดของทีต้าถูกทำเป็นเหมือนธรรมชาติสงวน นำไปสู่สถานการณ์ปัจจุบันของเรา อายธรรมและประเพณีของเอลฟ์ถูกรักษาบนดาวเคราะห์แม่เป็นผลลัพธ์ และมันยัง อยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่เมื่อสมัยจักรพรรดิผู้สร้างชาติ”
มันเป็นไปได้จริงๆที่อะไรๆมันจะดำเนินไปอย่างดีหรือ? ผมมีสงสัยอยู่ในหัว แต่บางทีคุณนายพูดข้ามส่วนที่ซับซ้อนส่วนใหญ่และเปิดเผยแค่จุดหลักๆในเรื่องราวของเธอ ผมแน่ใจว่าเหตุการณ์จริงมีความพลิกผันมากกว่านั้น
“หนึ่งในบริวารผู้ถูกแต่งตั้งให้รับใช้จักรพรรดิผู้สร้างชาติโดยตรงได้ไปที่ทะเลดาวกับเขานั้นเป็นตาทวดของฉันเอง เธอก็น่าจะมาจากสายเลือดเดียวกันใช่มั้ย คุณนายคะ?”
“อ่าฮะ ปู่ของฉันก็เป็นบริวารดั้งเดิมผู้ออกอวกาศ”
“พูดอีกอย่าง เผ่าพันธุ์พวกเธอถูกแบ่งสู่สายเลือดเอลฟ์ที่ยังอยู่อย่างดั้งเดิม และสายเลือดเอลฟ์ที่ออกไปใช้ชีวิตอยู่ในหมู่ดวงดาวใช่มั้ย?”
“ไม่มีความขัดแย้งใหญ่ระหว่างทั้งสอง แต่มันจริงที่วิถีชีวิตและความคิดของเราพื้นฐานนั้นต่างจากกันและกัน”
“ใช่ และคนที่ออกไปอวกาศไม่ได้มีความเห็นอะไร แต่มีคนจากอีกฝั่งดูถูกเรานิดหน่อย พวกเขาพูดว่าคนประเภทที่ยืนกรานว่าเราเสียพรจากทีต้าไปหลังจากทิ้งมันหรือบางอย่าง ยังไงซะ คนจากฝั่งเราก็คิดว่าผู้คนที่อยู่บนดาวเคราะห์เป็นพวกหัวโบราณที่ยึดติดกับการเดินถอยหลังและวัฒนธรรมขึ้นรา ดังนั้นฉันเดาว่ามันก็ทั้งคู่ แต่อะไรมันไม่ได้ย่ำแย่มากระหว่างทั้งสองจนเราจะเปิดศึกกันเกี่ยวกับความเชื่อของเรา”
คุณนายเอลฟ์พนักงานร้านแสดงรอยยิ้มที่ขมขื่น
“……แล้วเธอกำลังจะบอกว่าอะไรๆไม่ได้ตึงเครียดปานนั้นระหว่างทั้งสองฝ่ายหลังจากพูดบางอย่างแบบนั้นหือ?”
“ถูกป่ะ?”
“อ่ะฮ่าฮ่า แต่มันเป็นเรื่องราวน่าสนใจสำหรับคนผู้มาจากที่อื่น ถูกมั้ยล่ะ? ยังไงซะ ฉันได้อุส่าห์เปิดใจคุยกับเธอทั้งหมดและบอกเรื่องสภาพปัจจุบันของเอลฟ์กับพวกเธอ ดังนั้นทำไมพวกเธอไม่ซื้อบางอย่างล่ะ? แต่ของเรามันแค่แพงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับระบบดาวอื่นนะ”
พนักงานคนนี้ค่อนข้างพริ้ว
อืม เราได้ยินเรื่องน่าสนใจจริง และกระเป๋าผมตอนนี้ อ้วนปี๋ด้วยเงินอยู่ดี ดังนั้นทำไมไม่ทำเล่า?
มาแค่ซื้ออะไรสักอย่างแบบเชื่อฟังถ้าอย่างนั้น
เราซื้อหลายอย่างมาจากพนักงานเอลฟ์หญิงแอบร้าย และรับสายของเครื่องปลายทางพกพาทันทีเมื่อเราก้าวออก เมื่อเราเอามันออกมา และดูจอ ผมพบว่ามันเป็นสายจากเมย์ผู้อยู่ในบัวดำ มีบางอย่างเกิดขึ้นหรือ?
ผมกดสัญลักษณ์รับสายและรับสาย ผมไม่ได้ลืมที่จะเปิดระบบพูดผ่านลำโพงเพื่อที่มีมิและเอลม่าจะฟังได้ด้วย
“เฮ้ มีอะไร”
『ดิฉันติดต่อท่านเพราะมีการขอมาเยือนจากบางคนชื่อทีเนียของเผ่ากราโด』
“ทีเนียซังของเผ่ากราโดหือ ฉันไม่คุ้นเคยกับชื่อ…… เธอน่าจะเป็นหนึ่งในนักโทษผู้เราสามารถช่วยเหลือ”
『ค่ะ เป็นอย่างนั้น เธอยืนกรานที่จะเข้าพบท่านเพื่อจะมอบคำขอบคุณของเธอเป็นการส่วนตัว เธอไปมาเยือนตรงๆที่บัวดำ ดังนั้นเพื่อถูกเลี่ยงให้เห็นว่าไม่มีมารยาท ดิฉันนำเธอเข้าสู่ห้องพักผ่อนสำหรับเวลานี้』
“เพราะทั้งหมดมันจะหยาบคายที่ปิดประตูใส่แขกแหละ…… และเธอน่าจะเป็นคุณนายตำแหน่งสูงด้วยเหมือนกันหือ”
『ค่ะ เผ่ากราโดค่อนข้างมีอิทธิพลในหมู่เผ่าปกครองของรีฟิล IV และทีเนียซามะดูเหมือนจะเป็นลูกสาวคนที่สองของผู้นำเผ่า』
“โอ้……”
แม้ว่ามันคาดการณ์สถานการณ์เช่นนี้ไว้ครึ่งหนึ่งแล้ว ผมยังตกใจหลังจากได้ยินสารสนเทศและอดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปสู่สวรรค์– เอ่อ ผมหมายถึง เพดานโคโลนี ผมชำเลืองทั้งสองคนบนซ้ายและขวาและเห็นว่ามีมิแสดงถึงความยอมแพ้ หรือ สีหน้าตรัสรู้คล้ายกับพระพุทธเจ้า เอ่อ อย่ามาพระพุทธเจ้ากับพี่ได้ไหมได้โปรด เธอทั้งสอง เราเป็นสหายผูกพันกันด้วยสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ถูกไหม? มันไม่ดีถ้าเธอแสดงสีหน้าเหมือนอย่างนั้น เราผู้มีชะตาเดียวกัน เราต้องผ่านเรื่องใหญ่นี่ไปด้วยกัน ถูกไหม?
“อา โอเค เราปฏิเสธการพบกับเธอไม่ได้ ถูกมั้ย?”
『มันเป็นไปได้ที่จะบอกปัดเธอไป แต่มันจะถูกพิจารณาว่าไม่สุภาพอย่างมากที่จะปฏิเสธการมาเยือนของเธอโดยไม่มีเหตุผลที่ดี และมันจะดีกับเราระหว่างการเที่ยวชมรีฟิล IV ถ้าเราสร้างความสัมพันธ์ดีกับเผ่ากราโดตอนนี้』
“ได้ ได้ ฉันเดาว่าเราจะต้องไปเจอกับเธอถ้าอย่างนั้น…… มันจะใช้เวลาสักพักสำหรับให้เรากลับไป ถ้าเธอไม่มีแผนอื่นอะไรวันนี้ มันอาจดีกว่าที่จะให้เธอทานอาหารค่ำกับเรา เราจะจัดเตรียมอะไรอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่แค่เธอกับฉันตามลำพัง แต่เป็นทุกคนจากทั้งสองฝ่าย เมื่อเธอได้รับการตอบตกลงแล้ว ฉันปล่อยการจัดตั้งสถานที่จัดงานให้เธอนะ เมย์ เราเป็นผู้ยื่นคำเชิญ ดังนั้นเราจะแบกรับค่าใช้จ่าย”
『รับทราบ ดิฉันจะแจ้งข้อเสนอของท่านกับพวกเธอถ้าอย่างนั้น นายท่าน ดิฉันจะติดต่อท่านพร้อมผลลัพธ์ภายหลัง』
“ได้โปรด”
ผมตัดสายกับเมย์ เรามีแผนจะเดินอย่างผ่อนคลายวันนี้ แต่ตอนนี้นี่เกิดขึ้น มันไม่ดีที่จะผ่อนคลายตลอด และเวลาผ่อนคลายและสงบสุขของเราสั้นกว่าที่คาดไว้้หือ……? ไม่ว่าอย่างไร มาแค่ระวังไม่เข้าไปติดอะไรใดๆมีปัญหาอีกแล้วกัน
อา ผมไม่ได้โอกาสตรวจดูยานโจรสลัดที่จับได้นั่นด้วยเหมือนกัน ผมหวังว่าผมจะมีเวลาเพื่อดูมันทีหลัง
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu