ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 234 สู่สถานที่จัดงานทานอาหารค่ำ
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 234 สู่สถานที่จัดงานทานอาหารค่ำ
234 สู่สถานที่จัดงานทานอาหารค่ำ
หลังจากแต่งตัว เรามุ่งหน้าสู้ร้านอาหารพื้นที่ชั้นสูงที่จองไว้สำหรับทานอาหารค่ำคืนนี้ใต้การนำทางของเมย์
มันดูเหมือนเรามีข้อพิพาทเล็กน้อยกับอีกฝ่ายเกี่ยวกับการเลือกผู้จ่ายเงิน มันไม่ใช่ว่าทั้งสองพยายามจะไม่จ่าย
แทนการนั้น เราทั้งคู่ยืนกรานจะจ่ายเงินให้อีกฝ่าย เมย์ยืนกรานให้เราจ่ายค่าอาหารเพราะเราเป็นคนที่ชวนพวกเธอมาทานอาหารค่ำ ระหว่างที่อีกฝ่ายพูดว่าพวกเธอจะจ่ายค่าอาหารเป็นส่วนหนึ่งของคำขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิตพวกเธอ
ในท้ายที่สุด พวกเธอเห็นด้วยกับการยอมให้เราจ่าย ถ้ามันทำให้พวกเธอกังวลจริงๆพวกเธอแค่เพิ่มรางวัลที่จะมอบให้เราทีหลังได้
“พวกเธอดูแล้วค่อนข้างเกร็งนะ ไม่ใช่เหรอ?”
“เกร็งอย่างนั้นเหรอ? มันอาจเหมือนที่นายท่านพูดทั้งหมด พวกเธอนั้นดูเหมือนจะเน้นเรื่องการทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง”
“ทำตอนขั้นตอนที่ถูกต้องหือ นั่นไม่ใช่เรื่องแย่อยู่ดี เราก็พูดได้ว่าพวกเธอจริงใจมากๆ”
“ไม่ใช่พวกเธอแค่ดื้อด้านไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเหรอ?”
“พี่สาว”
เหมือนเคย วิสเกอร์ตอบโต้การพูดตรงๆของทีน่า
“มันไม่เป็นไรสำหรับตอนนี้เพราะเราแค่คุยกันในหมู่พวกเราเอง แต่เธออย่าได้ไปกล้าพูดอะไรบางอย่างแบบนั้นต่อหน้าเอลฟ์ เข้าใจมั้ย?”
“อ่ะฮ่าฮ่า มันไม่เป็นไรน่า อย่ากังวล”
ทีน่าหัวเราะคิกคักอย่างซุกซน
“เธอจะไม่ทำเละ ใช่มั้ย? ถ้าเธอทำเละ ถ้าอย่างนั้นก็ ห้ามกินเหล้าสำหรับเธอ”
“หนูจะปิดปาก บอส!”
เธอเปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีเมือเธอได้ยินผมกีดกันเธอจากการดื่ม อืม เพราะทั้งหมดทีน่าคือทีน่า แต่วิสเกอร์เปลี่ยนเป็นจริงจังนั้นน่าสนุกดีเหมือนกัน
เราทั้งหมดคุยกันสบายๆแบบนี้บนทางไปสู่ร้านอาหารยกเว้นมีมิ ผู้ทำสีหน้ามีปัญหา
“มีอะไรเหรอ มีมิ? น้องค่อนข้างทำสีหน้าไม่ดีนะนั่น”
“อา ไม่มีอะไร หนูแค่คิดเกี่ยวกับปัญหาประเภทไหนที่เป็นไปได้ว่าเราจะเข้าไปเกี่ยวข้องครั้งนี้โดยตั้งพื้นฐานจากประสบการณ์ก่อนหน้า หนูสงสัยว่าเราวางแผนก่อนได้ไหมหรืออะไรแบบนั้นน่ะ”
“เข้าใจแล้ว…… นั่นจริงๆ แต่ไม่ใช่แบบนั้นมันจะยากเหรอ?”
“ใช่…… แน่นอนที่สุดว่าหนูไม่รู้เลยว่าเราควรทำอะไรดี”
อืม ผมพอคาดคะเนอะไรที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ โดนนำพื้นฐานมาจากเหตุซ้ำซากก่อนหน้าถึงจุดหนึ่ง มันอาจฟังดูเหมือนคิดไปเอง แต่บางทีทิเนียซังสนใจผม อืม มันอาจไม่ใช่ผมด้วยเหมือนกัน เธออาจสนใจลูกเรือคนใดๆก็ได้ของผมแทนก็เป็นได้
และเพราะเราสามารถช่วยชีวิตทิเนียซังและคนอื่น เราจะถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นในรีฟิล IV หลังจากนั้น เราจะเข้าไปเกี่ยวข้องในการแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้นบนรีฟิล IV…… อืม บางอย่างแบบนั้น ผมว่า
ขณะสำหรับคำถามที่ว่าเราจะเลี่ยงเหตุการณ์นั้นอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไรนั้น สถานการณ์เดียวที่ผมคิดได้นั้นก็คือต้องไม่ไปที่ดาวเคราะห์ตั้งแต่แรก นั่นทำไมผมเสนอกัารยกเลิกแผนการเที่ยวชมระบบดาวรีฟิลและไปที่อื่นแทน
“อืม ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นเราจะได้กำไรออกมาอยู่ดี ดังนั้นอย่ากังวลเกี่ยวกับมันมากเกินไป เมื่อต้องตัดสินใจ เราเลือกวิ่งหนีได้ตลอดเวลา”
“บอสพาตัวเองทำหางจุกก้นหนีได้เหรอ บอส?”
“หนูคิดว่าพี่ใหญ่จะอยู่ดูจนเรื่องจบแทนวิ่งหนี”
“นั่นไม่จริงเลย พวกเธอ”
“อืม……”
เอลม่ามองข้างใส่ผม ผมทำมันได้ จริงๆ ผมค่อนข้างพูดอย่างเดียวกันหลายครั้งในอดีตแล้วและล้มเหลวกับการทำมัน แต่ผมน่าจะวิ่งหนีเมื่อมันดูเหมือนสิ้นหวังจริงๆ เข้าใจไหม? เพราะทั้งหมดมันก็ใข้ความกล้าหาญเพื่อวิ่งหนีอย่างปลอดภัยใต้โอกาสที่เป็นไปไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
“เราจะไปถึงในไม่นาน ทุกคน”
“อืม เราเดินมาเยอะแล้วนี่หือ”
“อาร์วีสักคันจะมีประโยชน์ในเวลาแบบนี้ บางทีเราซื้อสักคันดีไหม?”
ผมมีประสบการณ์ขากลำบากของการลงสู่ดาวเคราะห์ระหว่างปรับพื้นผิวดาวไม่นานมานี้ มันเป็นประสบการณ์มีค่ามากๆ ผมไม่อยากได้รับประสบการณ์นั้นอีกครั้งจริงๆ แต่เพราะมันเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง มันเกิดขึ้นอีกครั้งได้ มันจะสูญเปล่าในการเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้นั้น แล้วก็มีเหตุการณ์นั้นที่โคโลนีดาวเคราะห์ถูกบุกท่วมโดยสิ่งมีชีวิตดุร้ายบ้าคลั่งด้วยเหมือนกัน
“นั่นฟังดูน่าสนใจ รถอาร์วีหือ หนูอยากลองปรับๆมัน–”
“พี่ชอบไปวุ่นวายกับเครื่องยนต์และโครงมันไม่ใช่เหรอ พี่สาว?”
เข้าใจแล้ว แต่ผมค่อนข้างรู้สึกเหมือนถ้าผมปล่อยมันให้ทีน่า เธอจะทำอะไรเหมือนทำท่อไอเสียใหญ่ขึ้นอย่างไม่จำเป็นเพื่อให้มันเสียงดังหรือทาสีตัวถังดุๆ จริงๆแล้วมันอาจเปลี่ยนเป็นรถที่จะดูสมสถานที่ถ้าขับโดยพวก ‘เฮี๊ยะฮ่า!’1 จากจุดสิ้นสุดศตวรรษ
“นั่นว่าถูกที่แล้ว มารีบเข้าข้างในเถอะ”
“อาหารเอลฟ์หือ ช่างน่าตื่นเต้น!”
“ใช่”
ภายนอกร้านอาหารค่อนข้างปรกติ แต่ผมสงสัยว่าภายในดูเป็นอย่างไร?
“ยินดีต้อนรับ ทุกๆคน พวกพ้องของคุณได้มาถึงแล้ว”
“ขอบคุณ ได้โปรดนำทางเราไปถ้าอย่างนั้น”
“แน่นอน ได้โปรดมาทางนี้”
เราถูกนำทางโดยเจ้าหน้าที่ร้านอาหารที่กำลังใส่เครื่องแต่งกายบางอย่างคล้ายกับพวกโฟล์กพร้อมลายอาหรับและเดินทางไปท้ายอาคาร ภายนอกของอาคารดูเหมือนมันเป็นบางอย่างทำมาจากคอนกรีตและเหล็กแต่ภายในนั้นมีไม้อยู่เยอะ
มันค่อนข้างมีความรู้สึกแบบญี่ปุ่นอยู่กับมัน เสาไม้ใหญ่วิ่งขึ้นไปถึงเพดนของอาคาร แสงที่อบอุ่นกระนั้นอ่อนโยนมีส่วนร่วมกับบรรยากาศลึกลับและสงบ
“มันมีบรรยากาศลึกลับอยู่ในมันจริงๆ”
“นี่เป็นแนวออกแบบของเอลฟ์”
“หืมม มันค่อนข้างเยี่ยมดีนะ”
“ใช่ มันทำให้สงบลงจริงๆ”
มันดูเหมือนการออกแบบภายในเป็นที่นิยมกับเหล่าคุณนายด้วยเหมือนกัน ไม้เห็นว่าเป็นของสุดหรูหราในมิตินี่ เพราะพวกมันต้องใช้เยอะเพื่อสร้างอาคาร ผมเดาว่านั่นแค่เป็นข้อพิสูจน์ว่าร้านนี้นั้นชั้นสูงจริงๆ มันดูเหมือนผมรอคอยมื้ออาหารได้ด้วยเหมือนกัน
“ได้โปรดถอดรองเท้าและเอามันไว้ที่นี่ จากนั้นคุณขึ้นไปได้”
“ถ้าอย่างนั้นเราควรถอดรองเท้าเรา”
“มันดูเหมือนจะแบบนั้น”
ถ้าอย่างนั้นเราจำเป็นต้องถอดรองเท้าเราก่อนก้าวขึ้นไปบนพื้นกระดานหือ มันค่อนข้างคล้ายกับแนวญี่ปุ่นจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องถอดรองเท้าหือ นั่นค่อนข้างผิดปรกตินะ”
“ใช่มะ?”
มันดูเหมือนทีน่าและวิสเกอร์ไม่ถือมันด้วยเหมือนกัน แต่พวกเธอพบว่ามันไม่ปรกติ มันเป็นครั้งแรกของผมที่มาสถานที่แบบนี้ด้วยเหมือนกัน
“นี่เป็นห้องของคุณ ถ้าคุณจะให้ดิฉันขออภัย”
เจ้าหน้าที่ร้านอาหารผู้ใส่เครื่องแต่งกายโฟล์กเปิดอะไรที่ดูเหมือนประตูเลื่อนโชจิแและกวักมือให้เราเข้าไปข้างใน เราเจอสามคนนั่งอยู่ข้างใน พวกเธอทั้งสามคนเป็นผู้หญิง เอ่อ ผมว่า หนึ่งในพวกเธอคือทิเนียซังของกราโดแคลน ผู้เมย์เคยเอาภาพให้ทุกคนดูก่อนหน้านี้แล้ว
“ขอโทษที่ทำให้รอคอย”
“ไม่เลยสักนิด มันเป็นเราที่มาโดยไม่ได้ประกาศ”
ทิเนียซังดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของกลุ่มพวกเธอหลังจากทั้งหมด เธอทำการเริ่มเพื่อตอบขณะส่ายหัวของเธอเบาๆ และเธอมองผมด้วยสายตากำลังใจสูงส่งที่รู้สึกค่อนข้างคุ้นเคย
“ได้โปรดเชิญเลยแล้วนั่งลง แม้ว่าท่านอาจไม่คุ้นกับการนั่งบนพื้นตรงๆ”
“มันไม่เป็นไร เอาสินั่งเลยทุกคน”
ผมตัดสินใจนั่งลงตรงๆต่อหน้าทิเนียซังตรงข้ามโต๊ะ เมื่อพิจารณาสถานการณ์ที่นำเรามาสู่การมาทานอาหารค่ำด้วยกันวันนี้ นี่จะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด มีมิและเอลม่านั่งซ้ายและขวาตามลำดับที่กล่าวมา ทีน่าและวิสเกอร์นั่นต่อจากมีมิ เมย์นั่งบนเบาะที่ถูกเตรียมมาเฉียงๆไปข้างหลังจากผมอย่างสุภาพ ทิเนียซังเอียงหัวเธอเมื่อเธอเห็นว่าเมย์ไม่นั่งใกล้โต๊ะ
“เธอเป็นดรอยด์แม่บ้านดังนั้นเธอไม่ได้จำเป็นต้องกินจริงๆ”
“ดรอยด์แม่บ้าน?”
“โอ้ บางทีพวกเธอไม่ได้เผยแพร่กว้างขวางในรีฟิล IV หือ…… ร่างกายของเธอสร้างจากชิ้นส่วนจักรกลดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องกินอาหารเพื่อให้ทำงานได้”
“เข้าใจแล้ว…… ถ้าอย่างนั้นเผ่าแบบนั้นก็มีตัวตนอยู่ด้วย”
มันไม่ได้ดูเหมือนทิเนียซังเข้าใจสิ่งที่ผมพูดเต็มๆ แต่เธอพยักหน้าอยู่ดี
“ให้เราได้แนะนำตัวเองกันอย่างถูกต้องก่อนอาหารมาเถอะ ฉันคือฮิโระ ฉันเป็นเจ้าของยานต่อสู้กฤษณะและยานแม่ติดอาวุธบัวดำ พร้อมกับเป็นกัปตัน ฉันเป็นสมาชิกของสมาคมทหารรับจ้างและฉันเป็นทหารรับจ้างระดับทองคำขาว สาวคนนี้คือมีมิ โอเปอร์เรเตอร์ของกฤษณะ และผู้จัดการ และนี่ตรงนี้คือเอลม่า รองนักบินของกฤษณะ เธอก็เป็นสมาชิกของสมาคมทหารรับจ้างด้วยเหมือนกัน”
“ดิฉันดีใจที่ได้รูู้จัก”
“ยินดี”
“และทั้งสองคนตรงนั้นคือทีน่าและวิสเกอร์ คนผมแดงคือทีน่าและคนผมฟ้าคือวิสเกอร์ พวกเธอทั้งสองคนเป็นช่างยอดเยี่ยมที่ถูกส่งสู่เราโดยบริษัทสเปซดเวิร์ก”
“ฉันทีน่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“ฉันวิสเกอร์ ฉันดีใจที่ได้เจอเธอเหมือนกันนะ”
ที่น่ายิ้มและโบกมืออย่างร่าเริงระหว่างวิสเกรอ์มอบการทักทายสุภาพให้พวกเธอ นิสัยส่วนตัวของพี่น้องเหล่านี้แสดงออกมาในเวลาแบบนี้จริงๆหือ
“และคนที่นั่งหลังฉันไปนิดหน่อยคือดรอยด์แม่บ้านของเรา เมย์ เธอดูแลเรื่องปฏิบัติการณ์และการจัดการโดยยานแม่ติดอาวุธของเรา บัวดำ โดยรวม เธอเป็นคนที่บัญชาการ หุ่นยนตร์ต่อสู้โปรแกรมล่วงหน้าที่แทรกซึมยานโจรสลัดพร้อมกันกับฉัน”
เมย์มอบการคำนับสุภาพให้พวกเธอระหว่างนั่งอยู่ในเซสะที่สมบูรณ์แบบ คนเดียวเท่านั้นผู้นั่งเซสะในหมู่พวกเราคือทิเนียซังและพวกพ้องของเธอ, เมย์และเอลม่า ผมและทีน่ากำลังนั่งขัดสมาธิระหว่างมีมิและวิสเกอร์กำลังพยายามเลียนแบบเอลม่า แต่เพราะคนหลังไม่คุ้นเคยกับการนั่งบนพื้น, โดยเฉพาะเซสะ, พวกเธออยู่ไม่สุขแบบไม่สบายตัวระหว่างพยายามอย่างเต็มที่สุดๆเพื่อที่จะไม่ให้ท่านั่งเสีย เอาเถอะ พวกเธอ เธอแค่นั่งขัดสมาธิเหมือนทีน่าและฉันได้ถ้าเธอไม่สบายตัวขนาดนั้น มันไม่เหมือนว่าเธอใส่กระโปรงอยู่ดี
“ขอบคุณที่แนะนำตัวเอง ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ให้เราได้แนะนำตัวเราเองอย่างถูกต้องอีกครั้งด้วยเหมือนกัน ดิฉันคือทิเนีย ลูกสาวคนที่สองของผู้นำเผ่ากราโดดปัจจุบัน นี่คือมิซาและนี่คือแมม พวกเธอทั้งสองมาจากเผ่ากราโด เหมือนดิฉันทุกอย่าง พวกเธอทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามส่วนตัวของดิฉัน”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้น ผู้ติดตาม ถ้าอย่างนั้นทิเนียซังจริงๆแล้วเป็น…… ไม่ เดี๋ยว มันจะดีกว่าไหมถ้าเราเรียกเธอว่า ‘ทิเนียซามะ’ ?”
“ได้โปรดอย่ากังวลและแค่เรียกดิฉันว่าทิเนีย มันรู้สึกไม่เหมาะสมที่จะให้ผู้ช่วยชีวิตเราเรียกเราพร้อมคำให้เกียรติ”
“แต่เราก็รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสมที่จะเรียกคุณโดยไม่มีคำให้เกียรติเหมือนกัน…… แต่ไม่เป็นไร ถ้าคุณพูดอย่างนั้น เพราะพวกเธอทั้งสองทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามเธอ เธอเป็นคุณนายที่มีตำแหน่งสูง ไม่ใช่เหรอ ทิเนีย?”
ทิเนียส่ายหัวเธอหลังจากได้ยินคำพูดผม
“แน่นอนว่าดิฉันเกิดมาสู่ตระกูลผู้มีอิทธิพล แต่นั้นแค่มีผลบนทีต้า หรือเหมือนที่คุณเรียกมันว่า รีฟิล IV ฉันจะไม่เป็นอะไรสักอย่างเลยนอกจากสาวน้อยธรรมดานอกรีฟิล IV ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องถืออะไรกับดิฉันมาก ฮิโระซามะ นอกจากนี้ แม้ว่าพวกเธอเป็นผู้ช่วยของดิฉัน ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้เป็นแค่นั้น พวกเธอทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีที่อยู่ด้วยกันกับดิฉันตั้งแต่ดิฉันเกิดมา”
เอ่อ พวกเธอดูค่อนข้างตึงเครียดสำหรับเพื่อนสนิทวัยเด็ก…… บางทีพวกเธอแค่กังวลเรา หรือบางทีพวกเธอเพียงแค่ประหม่า
“ได้เลยถ้าอย่างนั้น เพราะเราทั้งหมดแนะนำตัวเราเองแล้ว ให้เราได้เริ่มชิมอาหารกันเลยไหม? มาคุยเกี่ยวกับรีฟิล IV ระหว่างเรากินอาหารพื้นบ้านเลิศรส”
“ใช่ ให้เราได้ทำอย่างนั้น”
สีหน้าจริงๆจังของทิเนียซังผ่อนคลายหลังจากได้ยินข้อเสนอของผม และริมฝีปากเธอโค้งเป็นรอยยิ้มอันอ่อนโยน
ฟุมุ เธอเป็นคนสวยชั้นหนึ่งจริงๆ แต่เธอสวยมากขึ้นเมื่อเธอยิ้ม…… เดี๋ย– โอ๊ย! โอ๊ยย! หยุดหยิกสีข้างและต้นขาฉัน พวกเธอ มันไม่เหมือนผมอยู่ในความหลงเธอหรืออะไรอย่างนั้น สาบาน!
[1] วายุ: พูดถึงพวกนอกกฎหมายในหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ (Houkuto no Ken) พวกเขาชอบตะโกน ‘เฮี๊ยะฮ่าา!’ ในภาษาญี่ปุ่น
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu