ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 249 ตก! และจากนั้น……
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 249 ตก! และจากนั้น……
249 ตก! และจากนั้น……
““……””
เมื่อผมกลับมาได้สติ ผมพบพี่น้องช่างกำลังแอบดูหน้าผมด้วยกัน อืม อะไรกับสถานการณ์นี้……? อา
“พวกเธอเป็นอะไรมั้ย?”
“อย่างที่บอสเห็นได้บอส เราไม่เป็นอะไร แทนเรา บอสอาจอยากกังวลเกี่ยวกับตัวเองก่อน”
“นั่นดี……”
เมื่อทีน่าได้ยินคำพูดผม เธอลูบอกเธออย่างอื่นโยนในความโล่งใจ วิสเกอร์นทางกลับกัน มีน้ำตาเอ่ออยู่มุมของดวงตาเธอ ไม่ว่าอย่างไร ผมพยายามลุกขึ้น แต่บางอย่างรู้สึกไม่ชอบมาพากล ผมสงสัยว่าอะไรกัน แต่จากนั้น เศษดำแดงเริ่มหล่นลงมาสู่พื้นตามด้วยความเวียนหัว
“โว่ว นี่คือเลือด? ฉันอยู่ในปัญหาจริงๆครั้งนี้เหรอ?”
“มันถูกซ่อนโดยผมของพี่ แต่มันดูเหมือนพี่ได้รับบาดเจ็บที่หัวและมันเลือดออกเยอะ แต่เราสามารถรักษามันด้วยสิ่งนี้”
หลังจากพูดอย่างนั้น ทีน่าเอาเข็มไร้ความเจ็บประเภทปืนให้ผมดู นี่อยู่ในอุปกรณ์รอดชีวิตที่ผมพามาด้วยกับผมหือ
“อืม ถ้าอย่างนั้น อะไรคือสถานการณ์ตอนนี้? แล้วมีมิและเอลม่าล่ะ?”
“มีมิซังและเอลม่าซังได้ไปรอบๆเพื่อดูบริเวณ เราอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่ พี่ใหญ่”
“เข้าใจแล้ว ขอโทษที่ทำให้กังวล พวกเธอ”
ผมลูบหัวของผมเพื่อเอาเลือดแข็งที่เหลือออกไป อึ่ก มันรู้สึกขยะแขยง ผมมีความอยากอาบน้ำ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น
“แล้วเกี่ยวกับการสื่อสารล่ะ?”
“มันไม่ดี เราอยู่นอกระยะจริงๆ”
“ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้น ได้เลยถ้าอย่างนั้น เราใช้งานเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินดีมั้ย?”
“อืม เกี่ยวกับนั่น……”
วิเกอร์พึมพำอย่างลังเลและในท้ายที่สุดชี้ไปสู่ที่กระเป๋าหลังผมอยู่ ซึ่งตอนนี้เยินมาก ของข้างในอุปกรณ์รอดชีวิตไม่เป็นไรเพราะพวกมันยัดอยู่ข้างในกล่องค่อนข้างทนทาน แต่อย่างเดียวกับพูดไม่ได้กับซองอาหารพวกมันจำนวนเยอะอยู่เปิดอ้าออกและของข้างในกระจายอยู่บนพื้น
“โอ้…… อืมเ*ีี้ย–”
“โว่ว ระวังคำพูดด้วย บอส”
“ขอโทษ”
ขณะสำหรับเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินที่สำคัญมาก มันเละเทะอย่างสิ้นเชิง ความเสียหายไม่ได้แค่แตกไม่กี่รอย ส่วนประกอบข้างในมันเทออกมาแล้ว ไม่นำคัญว่าดูมันยังไง สิ่งนี่มันพังอย่างสิ้นหวัง
“มันเป็นไปได้ที่เราจะใช้งานมันครู่เดียวสั้นๆมั้ย?”
“สวิตช์ใช้งานมันพังซ่อมไม่ได้ ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้”
“เข้าใจแล้ว…”
อืม อย่างน้อยอุปกรณ์รอดชีวิตนั้นไม่เป็นอะไร เราแค่รวบรวมอาหารที่ยังกินได้ เพราะพวกเขารู้ว่าเราประสบอุบัติเหต ทีมกู้ภัยควรกำลังมาเพื่อรับเราไม่นาน
เพราะของข้างในกระเป๋าเราไม่เป็นไรยกเว้นเครื่องส่งสัญญาณฉฉุกเฉิน ผมเดาว่ามันไม่ใช่สถานการณ์กรณีที่แย่ที่สุด
“แล้วเกี่ยวกับพวกเธอล่ะ? พวกเธอได้รับบาดเจ็บมั้ย? มีมิกับเอลม่าเป็นอะไรมั้ย?”
“อื้ม พวกเราทั้งสองคนไม่เป็นอะไร พี่ใหญ่ มีมิและเอลม่าก็ไม่เป็นอะไรด้วย”
“สัมภาระของเราไม่เป็นไรด้วยเหมือนกัน เอ่อ พวกมันส่วนใหญ่อยู่ดีแหละ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันเป็นคนเดียวเท่านั้นผู้ได้รับบาดเจ็บและสัมภาระเละเทะ ช่างโชคร้าย”
จากนัั้นผมหยิบกล่องอุปกรณ์รอดชีวิตที่ถูกปล่อยไว้ข้างผมและหยิบอุปกรณ์ประกอบโมเลกุลเพื่อตรวจดูว่ามันทำงานอยู่ดีมั้ย
“ถ้าอย่างนั้นของในอุปกรณ์รอดชีวิตไม่เป็นอะไรหือ พวก คุณเครื่องส่งสัญญาณแน่นอนเลยว่าใจไม่ถึง”
“มันไม่ใ่ชเรื่องของใจ อืม แต่มันจริงที่มันออกมาเป็นค่อนข้างไร้ประโยชน์”
“มันไร้จุดหมายที่พาบางอย่างแบบมันมาสำหรับฉุกเฉินเพื่อให้มันมาพังระหว่างฉุกเฉินหือ”
“มาซื้ออันทนทานกว่าครั้งหน้าเถอะ”
ผมเหนื่อยที่ต้องนั่งพื้นเปล่าๆแล้ว ดังนั้นผมลูบขาผมและยืนขึ้น เมื่อผมทำอย่างนั้นสุดท้ายผมเซนิดหน่อย มันดูเหมือนผมเสียเลือดไปเยอะอยู่ระหว่างที่ผมสลบไปหือ
“เดี๋ยว! บอสแค่ยืนกระทันหันแบบนั้นไม่ได้นะ บอส…….!”
“มันไม่เป็นไร ฉันรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ฉันไม่เป็นอะไรแล้วตอนนี้ ดาบฉันอยู่ที่ไหนพูดถึงแล้ว์?”
“อา พวกมันยังคงอยู่ในรถรถไฟ มันอยู่ตรงนั้น”
วิสเกอร์ชี้ไปสู่รถโดยสารสองคันที่ตก และคันที่วิสเกกอร์ชี้ไปสู่เป็นรถที่เรานั่งกันมาข้างใน ด้วยเหตุผลบางอย่าง รถของเราเสียหายมากกว่าอีกคัน
“เราดูเหมือนโดนต้นไม้เมื่อเราตก หลังจากนั้น กิ่งของต้นไม้ตกและโดนรถรถไฟ”
“ทั้งสองคันยังติดเข้าด้วยกันตอนแรก แต่ตัวเชื่อมมันหลุดทันทีเมื่อเรากระแทกพื้น แต่เพราะนั่น รถที่มีมิซังและเอลม่าซังกำลังนั่งสุดท้ายตกลงบนรถของเรา……”
เราทั้งสองโอเคเพราะเราไม่ได้ตัวสูงอยู่ดี แต่มันดูเหมือนบอสโดนตีหัวด้วยหลังคารถ บอส สุดท้ายบอสหมดสติแและเลือดไหลเยอะดังนั้นเราตื่นตกใจจริงๆก่อนหน้านี้
“ฉันขอโทษ”
ผมไม่คิดว่าการขอโทษจะสร้างความต่าง แต่มันดูเหมืือนผมทำพวกเธอเป็นกังวลเยอะ ดังนั้นผมจึงทำ
ขณะผมทำตัวเองยุ่งกับการพยายามดึงดาบทั้งสองเล่มออกจากซากรถรถไฟ ผมได้ยินเสียงของหญ้าแหวกจากข้างนอก
“ฮิโระซามมะ!”
“เฮ้พวกเธอ พี่ดีใจที่เธอทั้งสองไม่เป็นอะไร”
“เธอไม่มีว่างมากังวลเกี่ยวกับเราหรอ คุณเอ๋ย พูดตรงๆ”
มีมิ ผู้สังเกตุว่าผมตื่น รีบวิ่งมาหาผมอย่างเร็ว และเอลม่าตามมาข้างหลังเธอพร้อมสีหน้าโกรธเคืองบนหน้าของเธอ
“อย่างที่พวกเธอเห็นได้ ฉันไม่เป็นไรต้องขอบคุณหน่วยเครื่องจักรนาโนสำหรับการแพทย์ พูดถึงแล้วว ฉันเพิ่งนึกบางอย่างได้”
“อะไร?”
“ความกังวลของฉันสุดท้ายมาเป็นจริง พวกเธอเตรียมพร้อมเมื่อเรากลับไปดีกว่านะ”
“นี่เป็นเวลาพูดนั่นเหรอ บอส……?”
ริมฝีปากทีน่างอสู่การยิ้มมุมปากข่อมขื่น มันไม่เหมือนว่าผมว่างไปยิ้มภูมิใจในสถานการณ์นี้ แต่เราต้องคิดในแย่ดีที่เวลาแบบนี้หลังากนั้นหมด แม้ว่าเครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉินตอนนี้เสียแล้ว คนขับของเรา, ฮิอิชิ, และคนนำทางของเรา, ลิเลียม, ควรจะรู้ตำแหน่งจุดตกโดยประมาณ ถ้าพวกเขาคำนวนโดยใช้กำหนดการบินของเรา พวกเขาควรสามารถหาตำแหน่งโดยประมาณของเราได้ และการช่วยเหลือจะมาไม่นานหลังจากนั้น และมากกว่านั้น เมย์จะไม่อยู่นิ่งๆเมื่อเธอรู้ว่าเราประสบอุบัติเหตุ
เราควรถูกช่วยเหลือหลังจากหนึ่งหรือสองวันมากที่สุด
“ยังไรซะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาเครียดเพราะเราลงจอดในสถานการณ์แบบนี้ พื้นรอบๆที่นี่ดูเหมือนจะแข็งพอ เเราควรเปิดพื้นที่มากกว่านี้หน่อยมั้ย?”
“เปิดมันเหรอ?”
“ทีมช่วยเหลือน่าจะมาหาเราจากอากาศ ดังนั้นเราควรตัดต้นไม้ที่รายล้อมไปบ้างดังนั้นมันจะง่ายกว่าสำหรับพวกเขาที่จะเห็นเรา นั่นทำไมฉันดึงดาบเหล่านี้ออกมา”
ระหว่างอธิบาย ผมเหน็บดาบพร้อมฝักทั้งสองเล่มไว้ทที่เอวของผมและชักดาบยาวออกมา
“ระวังต้นไม้ร่วง เข้าใจมั้ย แล้วก็ บางคนหาได้มั้ยว่าใช้เจ้านี่ยังไง? คู่มือมันควรอยู่ที่ไหนสักแห่งข้างในกล่องอุปกรณ์รอดชีวิต”
“ได้เลย”
ผมยื่นอุปกรณ์ประกอบโมเลกุลให้เอลม่า ผู้พยักหน้าเพื่ออาสาและยุ่งอยู่กับการตัดต้นไม้รอบพื้นที่ตกทันที ต้นไม่เป็นไม้ของพวกมันสู้ไม่ได้กับใบมีดของดาบของผมที่ทำจากวัสดุที่ก็ใช้สำหรับผลิตเกราะยานอวกาศต่อสู้ ผมทำให้มั่นใจว่าคอยระวังต้นไม้ร่วงและกิ่งไม้ขณะผมรีบเก็บกวาดพื้นที่
“โอ้ ใช่ บางคนตัดกิ่งไม้ของต้นไม้ที่ล้มแล้วให้ฉันได้มั้ย?”
“ตัดกิ่งไม้?”
“ใช่ แค่แบบนี้”
ผมยืนขึ้นหนึ่งในต้นไม้ที่ผมล้มและตัดกิ่งไม้ออกจากลำต้นด้วยดาบยาว
“นี่อะไรอยู่ดีล่ะ?”
“เราเปลี่ยนต้นไม้ล้มเป็นกิ่งไม้ได้ แต่นั่นไม่ใช่อะไรที่ฉันจะเอาครั้งนี้ อะไรที่ฉันต้องการคือกิ่งไม้ ตัดกิ่งขนาดพอสมควร ประมาณหนึ่งเมตรควรจะได้ เก็บมาและรวมพวกมันในที่เดียวให้ฉันได้โปรด”
หลังจากออกคำสั่ง ผมดึงดาบสั้นและยื่นมันให้ทีน่า
“ได้เลยถ้าอย่างนั้น ทำงานกันเถอะ”
“ระวังกับนั่นด้วย เธอจะหั่นเท้าตัวเองถ้าเธอไม่ทันสนใจ”
“หนูรู้”
ทีน่ารับดาบอย่างระวังและเดินไปสู่ต้นไม้ที่ผมตัดก่อนหน้า อืม ทีน่าคุ้นเคยกับการรับมืออุปกรณ์อันตรายเพราะงานของเธอคือช่างยาน ดังนั้นผมว่าเธอจะไม่เป็นอะไร
งานเอลม่าดูเหมือนจะดำเนินการไปได้ราบรื่นด้วยเหมือนกัน
เธอใช้งานอุปกรณ์ประกอบโมเลกุลเพื่อสลายและประกอบต้นไม้ล้มและอะไรพวกนั้นใหม่แล้ว
“วิสเกอร์, มีมิ ไปแล้วเข้าร่วมกับเอลม่าเพื่อเรียนรู้อุปกรณ์ประกอบโมเลกุลกับเธอ พี่จะคอยระวังให้พวกเธอ แต่มันเป็นไปได้ว่าสัตว์อันตรายบางอย่างอาจเข้าหาบริเวณนี้ ดังนั้นฉันอยากใหพวกเธอไปด้วยกันกับเอลม่าเพื่อเตือนกันเองเผื่อว่ามีอันตราย”
““รับทราบ””
พวกเธอสองคนพยักหน้าอย่างเร็วแล้ววิ่งไปหาเอลม่า หลังจากที่ส่งพวกเธอด้วยสายตา ผมตัดสินใจทำงานของผมต่อ พวก ผมไม่ได้คาดหวังการตัดด้นไม้จะสนุกขนาดนี้
หลังเก็บกวาดบริเวณถึงจุดที่พอได้ ผมมุ่งหน้าไปสู่สาวมคนผู้กำลังเรียนรู้อุปกรณ์ประกอบโมเลกุลและเห็นพวกเธอออกันอยู่รอบวัตถุแปลกประหลาด อะไรกันเนี่ย? ผมแม้แต่หาคำพูดเพื่ออธิบายมันไม่ได้
“เอ่อ นั่นเป็นงานศิลปะแบบไม่ปรกติหรือบางอย่างเหรอ?”
“……ฉันพยายามสร้างที่ดูต้นทาง แต่มันไม่ได้ออกมาดีมาก เข้าใจมั้ย”
“ที่ดูต้นทาง……?”
วัตถุไม้เป็นเกลียวนี้สร้างจากสามแผ่นไม้สามเหลี่ยมและสี่เหลี่มจริงๆแล้วเป็นที่ดูต้นทางหรือ? เอ่อ ฉันรู้สึกได้ถึงความพยายามของเธอ แต่ถ้าเธอสร้างสิ่งก่อสร้างให้เรียบง่ายกว่านี้ครั้งหน้าล่ะ?
“มันใช้ยากที่จะใช้งานเหรอ?”
“มันค่อนข้างมีเหลี่ยมของมัน เธอจะไม่เข้าใจจนกว่าเธอใช้เจ้านี่”
ระหว่างพูดอย่างนั้น เอลม่าชี้อุปกรณ์ประกอบโมเลกุลสู่ที่ดูต้นทางที่ว่าอย่างนั้น อุปกรณ์ส่งแสงสีฟ้าสดที่หุ้มวัตถุไม้ พวก อุปกรณ์นี้จริงๆแล้วน่ากลัวเมื่อเห็นมันทำงานจากใกล้ๆ ผมหมายถึง จะอะไรถ้ามันชี้ไปสู่คน
“อย่าชี้มันใส่คน เข้าใจมั้ย มันน่ากลัว”
“ฉันจะไม่ทำ ตั้งแต่แรกสิ่งนี้ติดตั้งด้วยตัวรักษาคตวามปลอดภัยที่จะไม่อนุญาตให้มันใช้งานเมื่อชี้ไปสู่สิ่งมีชีวิตเป็นๆขนาดหนึ่ง”
“นั่นยอดเยี่ยม แต่ก็ยัง ระวังกับนั่น เข้าใจมั้ย? โอ้ ฉันแค่คิดถึงบางอย่างที่ฉันอยากทำกับสิ่งนั้น”
ผมอธิบายถึงอะไรที่ผมออยากทำเพื่อให้เอลม่าใช้งานอุปกรณ์ของเธอ
“ทำรูที่พื้นมันมีประโยชน์อะไร”
อะไรที่ผมบอกให้เธอทำคือสลายหญ้าที่โตอยู่ที่มุมของบริเวณที่ผมเพิ่งเก็บกวาดต้นไม้
และจากนั้น ผมให้เธอสลายพื้นเพื่อที่จะสร้างรูลึกเล็กน้อยสามรู ผมเก็บกวาดต้นไม้รอบข้างแล้ว ดังนั้นมันควรไม่เป็นไรตราบใดที่เราระวัง
“ฉันจะเผาไม้ดิบ”
“ไม้ดิบ?”
“ต้นไม้ตัดใหม่ๆถูกเรียกว่าไม้ดิบพวกมันก็ควันขึ้นเยอะสุดๆเมื่อมันไหม้ด้วยเหมือนกัน”
ระหว่างพูดอย่างนั้น ผมหยิบกิ่งไม้บางกิ่งที่ถูกตัดโดยทีน่าก่อนหน้าด้วยกันกับกิ่งหล่นที่ดูเหมือนได้นอนอยู่บนพื้นมานานแล้ว แบ่งมันเท่าๆกัน และจากนั้นวางพวกมันข้างรู
“อืม ไม้เหล่านั้นไม่ใช่มันตัดใหม่ๆเหรอ ถูกมั้ย?”
“ไม้เหล่านี้แห้งแล้ว ไม่เหมือนไม้ดิบ อะไรเหล่านี้ไหม้ง่าย ฉันจะเผาไม้เหล่านี้ก่อนเพื่อให้ไฟติดและจากนั้นโยนไม้ดิบเข้าไปต่อ”
ผมดึงปืนเลซอร์ของผมออกมาและลดแรงสงพลังงานสู่ระบบต่ำสุด และใช้มันเพื่อจุดฟืน การมีปืนเลเซอร์มันสะดวกจริงๆสำหรับจุดไฟใส่อะไรๆ แม้ว่ามันจะระเหยอะไรๆอย่างเร็วถ้าคนหนึ่งยิงมันใต้แรงส่งพลังงานเต็มพิกัด เมื่อไฟนั้้นใหญ่เพียงพอ ผมหยิบกิ่งไม้ที่ตัดโดยทีน่าและโยนพวกมันสู่รู! น่าตื่นเต้น!
“ว้าว มันเป็นควันเยอะจริงๆ”
นั่จะเป็นภัยพิบัติถ้าเธอทำนี่ข้างในโคโลนี่
“เธอน่าจะโดยขังหลังกรงทันที……”
ควันเริ่มก่อตัวขึ้นจากสามกองไฟที่ผมทำเหมือนที่วางแผนไว้ หรือ ประกายไฟกำลังบินไปรอบๆอย่างบ้าคลั่งเลยหือ ผมว่าทำให้รูลึกมันคิดถูกต้อง
ถ้าเราติดไฟไม้เหล่านี้ที่พื้นดิน เราน่าจะมีไฟป่าอยู่ในมือเราแล้วตอนนี้
“นี่ คุณนายงามของฉัน เป็นวิธีสื่อสารไร้สายอันเก่าแก่ที่สุด – สัญญาณควัน พูดถึงแล้ว ที่ซึ่งฉันมา สัญญาณควันสามควันติดขึ้นทีเดียวหมายถึงช่วยด้วย หรือขอคนกู้ภัยด่วน แต่ฉันไม่รู้ว่ามันความหมายเหมือนกันในดาวเคราะห์นี้มั้ยนะ”
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นสร้างมาสามมันค่อนข้างไร้ประโยชน์?”
“แม้อย่างนั้น สามนั้นเด่นมากกว่าหนึ่ง ถูกมั้ยล่ะ?”
ระหว่างพูดอย่างนั้น ผมเริ่มฟันต้นไม้ที่ลิ้มที่ตอนนี้ไร้กิ่งแล้วด้วยดาบของผมด้วยเหมือนกัน เราจะใช้กิ่งเหล่านี้เมื่อควันมันลด มันอาจแย่ที่เผาต้นไม้ในดินแดนเผ่ากราโดหรือตัดพวกมันโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่มันเป็นความรับผิดชอบพวกเขาที่พาหนะที่พวกเขาเสนอตกอยู่ดี ถ้าพวกเขาบ่น ผมจะยืนกรานว่านั่นเพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบ ใช่
อืม เอ่อ… มันเป็นไปได้ว่าผมเป็นคนก่อให้เกิดการตกตั้งแต่แรก แต่แม้อย่างนั้น การให้เราขี่พาหนะที่ตกแค่จากการที่ผมกำลังนั่งแน่นอนว่าไม่ดี มันไม่ใช่ความผิดของผม!
“ฉันจะส่งสัญญาณต่อไปแบบนี้ ดังนั้นพวกเธอเอาเลยแล้วทำการสร้างที่พักให้เราใช้กลางคืน”
“ได้เลย ฉันจะทำเต็มที่”
“แต่นอน แต่จำไว้ด้วย ว่าถ้าเธอไม่สร้างผลลัพธ์ เราจะนอนกันข้างนอก ฉันหวังพึ่งพาเธอจริงๆ เข้าใจมั้ย?”
ในความคิดเห็นของผม ตัดสินจากที่ดูต้นทางศิลปะแปลกประหลาดที่เธอสร้างก่อนหน้า ผมคิดว่ามันดีกว่าที่จะให้คนอื่นดูแแลการทำที่พักแทนเอลม่า อืม ผมว่าผมจะหวังสิ่งที่ดีที่สุด ผมเชื่อในความพยายามของทุกคน ใช่
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu