ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 250 เอาตัวรอดข้างนอกแบบง่ายมาก
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 250 เอาตัวรอดข้างนอกแบบง่ายมาก
250 เอาตัวรอดข้างนอกแบบง่ายมาก
“อ่ะนี่”
“นึน……”
ผมมอบฝืนหนึ่งชิ้นให้เอลม่า ผู้กำลังนั่งรอพร้อมอยู่ข้างผม และเธอโยนมันสู่ไฟสัญญาณที่กำลังลุกไหม้ พวกมันควรจะหนักพอสมควร แต่เธอแข็งแรงพอที่จะโยนพวกมันด้วยมือเดียว แค่เธอไปเอาพลังทั้งหมดนั่นมาจากไหนแขนเรียวๆเหล่านั้นของเธอหรือ?
เอ๋? เอลม่าผู้สมควรจะสร้างที่พักชั่วคราวของเรา ดูแลเรื่องการโยนฟืนเข้าไปในไฟสัญญาณแล้วตอนนี้? เอ่อ มันดูเหมือนสาวๆที่เหลือไล่เธอออกในท้ายที่สุด ดังนั้นเธอบูดอยู่ตรงนี้
โอ้ และพูดถึงแล้ว มีมิและคนอื่นๆได้สร้างที่พักชั่วคราวแบบที่กำหนดไว้แล้วเสร็จแล้ว อืม มันดูเหมือนก้อนเต้าหู้ยักษ์ แต่มันใช้งานได้ ดังนั้นเย้!
“เจ้านี่น่าสนใจดีนะ”
“หนูต่อ พี่สาว”
“อึน หลังจากลองอะไรๆหลายๆอย่างแบบนี้ ที่พักแรกดูเรียบเกินไปจริง”
ทีน่า, วิสเกอร์, และมีมิตอนนี้กกำลังยุ่งอยู่กับการสร้างที่พักรุ่นที่ 2 เห็นได้ชัดว่า พวกเธออยากเปลี่ยนการออกแบบทรงเต้าหู้และสร้างที่พักทรงโดม พวกเธอเก็บต้นไม้ที่ถูกตัดแล้วแบบสลายที่ผมเอาไว้เป็นวัสดุ สร้างพวกมันใหม่ และใช้ประโยชน์จากการทำผิดๆถูกๆ
ผมพยายามจับกำแพงที่ทำด้วยเครื่องประกอบโมเลกุลก่อนหน้าและพบว่ามันแปลก
รูปลักษณ์ของมันคล้ายกับวัสดุสีดำสนิทและเงาเล็กน้อยเหมือนพลาสติก
เห็นว่า กำแพงนั้นกลวงข้างใน หรืออย่างน้อย ส่วนหนึ่งมันกลวง ผมพยายามเคาะมันด้วยหมัดของผมและพบว่ามันรู้สึกค่อนข้างเบา แต่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนผมจะสามารถต่อยเป็นรูแม้ว่าผมเหวี่ยงใส่มันด้วยกำลังทั้งหมดของผม อาจมีส่วนหนึ่งของในสิ่งก่อสร้างกลวงที่ทำหน้าที่เป็นตัวดูดแรงกระแทก และวัสดุสีดำดูเหมือนค่อนข้างทนทานด้วยเหมือนกัน กำแพงเหล่านี้บางอย่างพวกนั้นที่ถูกขนานนามว่าวัสดุคาร์บอนไหม? ผมไม่ได้มีโอกาสเจอวัสดุคาร์บอนกลับไปที่โลกมากมาย ดังนั้นผมบอกความต่างกันไม่ได้ อืม พวกมันทำจากไม้ หลังจากทั้งหมด ดังนั้นพวกมันน่าจะไม่เหมือนกันกับอะไรเหล่านั้น
“การเรียนรู้การติดฟืนไฟแบบนี้เป็นประสบการมีค่าอันหายากด้วยหือ”
“จริงเหรอ? เอ่อ มันเป็นครั้งแรกที่ฉันทำบางอย่างแบบนี้ด้วยรู้ป่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ? เธอดูค่อนข้างคุ้นกับมันดังนั้นฉันคิดว่านายทำอะไรพวกนี้เป็นปรกติ”
“และยุคไหนที่เธอจินตนาการว่าฉันใช้ชิวิตแบบที่ทำให้จำเป็นต้องส่งสัญญาณควันเป็นปรกติ? ยุครัฐรบกันเหรอ?”
“ที่เธอมาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอนว่าไม่ เรามีไฟฟ้า, แก๊ซ, และน้ำอยู่ในบ้านส่วนใหญ่ มีอินเตอร์เน็ต, เกมออนไลน์ที่คนเป็นหมึ่นเข้าเกมและเล่นพร้อมกันได้ และสถานีอวกาศวงโคจรที่นักบินอวกาศทำการวิจัยและการทดลองทางวิทยาศาสตร์และ อย่างน้อยที่สุด สังคมของเราล้ำหน้ากว่าเผ่ากราโด…… ฉันคิดว่า ไม่ว่าอย่างไร เราพอมีเทคโนโลยีอยู่ให้เราใช้”
“เฮฮ๋ มันล้ำหน้ากว่าที่ฉันคิดเยอะ อืม ฉันเดาว่าไม่ต้องสงสัยว่าเธอปรับตัวกับชีวิตที่นี่ได้เร็วมาก”
“ใช่ ฉันหมายถึงว่า ผู้คนที่อยู่ในยุคที่เธอต้องใช้ประโยชน์สัญญาณควันจะไม่สามารถดูบนหรือล่างเครื่องปลายทางข้อมูลถ้าให้เริ่ม”
“มันน่าขันเพราะเครื่องปลายทางข้อมูลที่เธอเพิ่งพูดถึงใช้ประโยชน์จริงกับที่นี่ไม่ได้เลย”
หลังจากพูดอย่างนั้น เอลม่ายักไหล่และโยนฟืนเข้าไปในกองไฟ มีกองไฟสามกอง ดังนั้นเราค่อนข้างยุ่ง
“การช่วยเหลือจะมาหาเราจริงๆมั้ย?”
“ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะมา แม้ว่าถ้าเอลฟ์ของดาวเคราะห์นี้ไม่ทำก็ยังมีเมย์อยู่”
“ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้น”
เพราะทั้งหมดเธอเป็นเมย์ที่เชื่อใจได้ของเรา แม้ว่าเอลฟ์ในดาวเคราะห์นี่อยู่ระหว่างเถียงกันเรื่องอินเตอร์เน็ตและอาจเอาเรื่องการช่วยเหลือไว้ทีหลังในรายการลำดับความสำคัญ แน่นอนว่าเมย์จะรีบมาช่วยเราแทน กฤษณะเต็มไปด้วยเซ็นเซอร์ล้ำหน้ามากมาย และด้วยพลังการประเมินของเมย์ มันควรง่ายที่จะคำนวนจุดตกเราแบบสามเหลี่ยม มันอาจจำเป็นที่ต้องปรับการหมุนอัตโนมัติเพื่ออนุญาติให้กฤษณะบินอย่างราบลื่นภายในบรรยากาศ แต่แน่นอนว่าเมย์ทำได้ดีในบริเวณนั้นด้วย และถ้าต้องตัดสินใจ เธอน่าจะออกศึกด้วยกำลังถ้าผู้มีอำนาจที่นี่ใช้เวลานานเกินไปเพื่อตัดสินใจ
ผมแน่ใจว่าเมย์จะมองข้ามการต่อต้านไม่ว่าจะรูปแบบใดๆเพื่อช่วยเหลือเรา ไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับนั่น
“เมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว เรายังค่อนข้างโชคดีแม้ว่าเรายานตกเพราะเราทั้งหมดส่วนใหญ่ไม่เป็นอะไร อืม แต่เราตื่นตกใจเมื่อเราเห็นว่าเธอเลือดออกจากข้างบนหัว”
“ใช่ โชคดีเนาะ ที่เราไม่ได้ตกที่ความสูงเยอะเกินไป และรถโดนกิ่งไม้ไม่กี่กิ่งระหว่างทางลงก็เป็นเบาะการกระแทกได้เยอะด้วย”
“เธอทำให้มั่นใจว่าไปตรวจสุขภาพเมื่อเรากลับไปที่ยานด้วยนะ เข้าใจมั้ย? อาการบาดเจ็บที่หัวค่อนข้างอันตรายนะรู้มั้ย”
“ใช่ เข้าใจแล้ว”
ขอบคุณหน่วยเครื่องจักรนาโนสำหรับการแพทย์ ผมไม่รู้สึกมมีปัญหาเท่าที่ผ่านมา แต่มันเจ็บตัวทีระวังมากเกินไปไม่ได้เมื่อเป็นเรื่องการบาดเจ็บที่หัว มันดูเหมือนเครื่องจักรนาโนทางการแพทย์ก็สามารถรักษาเลือดออกในสมองและการช้ำด้วยแต่ถึงจุดหนึ่ง เท่าที่ผ่านมา ผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเหมือนความทรงจำขุ่นมัวและการขยับร่างกายยาก ดังนั้นผมน่าจะไม่เป็นอะไร
“อืม ตอนนี้ ทั้งหมดที่พวกเราทำได้คือรอ อยากกินอะไรหน่อยมั้ย?”
“แน่นอน”
“โอ้ นี่อร่อยอย่างน่าตกใจ”
“ใช่ แต่มันน่าเสียดายสุดที่เราไม่มีเหล้าในกินกับมันนะ”
“บางทีหนูควรใส่กระเป๋ามาด้วยบ้าย นี่มีกลิ่นเหล้านิดๆมาจากมัน ดังนั้นมันค่อนข้างอยากให้หนูดื่มมากกว่านี้”
“ว้าว แน่นอนว่าดวอร์ฟน่าทึ่งที่คิดถึงการดื่มได้แม้แต่ในสถานการณ์นี้”
เราเข้าที่พักหนึ่งหลังที่มีมิและคนอื่นๆสร้างและเริ่มกินอาหารฉุกเฉินที่นำมาด้วยกันกับผมเป็นแบบเดียวกันที่ผมมีระหว่างการต่อสู้ในโคแม็ต IV ใช่ อันที่คล้ายกับเค้กปอนด์ที่อื่มพอตัว ถ้าผมจำไม่ผิด พวกนี้เป็นอาหารหลักสำรองหลักสำหรับกองทัพของอำนาจระดับจักรวาลที่เรียกว่าอาณาจักรสำนึกผิด
อาหารบางอย่างที่ผมนำมามีซองของพวกมันฉีกขาดเมื่อตก แต่บางอย่างยังกินได้ไม่เป็นอะไร ดังนั้น สำหรับตอนนี้ เราแบ่งพวกมันในหมู่พวกเราและกินพวกมัน แน่นอน พวกนั้นไม่พอสำหรับเราทั้งหมด ดังนั้นเราก็กินอันที่ไม่ฉีกขาดแต่ถูกทำให้แบนด้วยเหมือนกัน
“อาหารฉุกเฉินพวกนี้มาจากประเทศอื่น ถูกมั้ย? ไปเอาพวกนี้มาจากไหนอยู่ดีล่ะ บอส?”
“เอ่อ พวกมันค่อนข้างถูก ดังนั้นฉันแค่ซื้อพวกมัน มันดูเหมือนมีอาหารเหลือในอาณาจักรสำนึกผิด ดังนั้นบางครั้งพวกมันถูกขายให้ประเทศอื่นเพื่อให้ได้รับค่าเงินต่างประเทศ อย่างน้อยนั่นก็อะไรที่คนดูร้านที่ขายพวกนี้ให้ฉันบอกฉัน”
“จริงๆแล้วพวกนี้เป็นขนมที่ค่อนข้างอร่อย”
“อย่าแม้แต่คิดเกี่ยวกับมัน อาหารสำรองกองทัพมีแคลอรี่อยู่เยอะมากๆรู้ป่ะ? ถ้าเธอกินอาหารเหล่านี้ปรกติ เธอจะอ้วนในพริบตา”
“ออุ่ นิดหน่อยที่นั่น…… หนูออกกำลังกายตลอด แต่มันรู้สึกเหมือนหนูไม่สามารถผอมกว่านี้ได้เลยหลังจากทั้งหมด”
หลังจากพูดอย่างนั้น มีมิวางมือบนท้องของเธอและถอนหายใจ
จริงๆแล้วนั่นเพราะผมยุ่งกับรายการออกกำลังกายของเธอโดยที่เธอไม่รู้ แต่ผมแค่จะเก็บเงียบเกี่ยวกับนั่น ส่วนตัวแล้วผมว่าหุ่นปัจจุบันนี้ของมีมิยอดเยี่ยมที่สุด เพราะทั้งหมดมีมิมีหุ่นโคคาโคล่าสง่างามในอุดมคติ
“เราด้วย เราก็ผอมไม่ไม่ได้มากกว่านี่ไม่ว่าเราทำอะไรด้วยเหมือนกัน”
“ใช่ สะโพกหนูมันแค่…… มันทำให้หนูอิจฉาเอลม่าซังมากๆ”
พี่สาวดวอร์ฟแน่นอนถูกพูดได้ว่ามี ‘สะโพกสำหรับมีลูกในอุดมคติ’ เอเอว, บั้นท้าย, และต้นขาทั้งหมดมีความอวบที่พอเหมาะทุกอย่างกับพวกมัน และแม้ว่าพวกมันสังเกตุไม่ได้เมื่อพวกเธอใส่เสื้อเอี๊ยมทำงาน พวกเธอมีหน้าอกค่อนข้างดีด้วยเหมือนกัน
“มันเพราะฉันฝึกบ่อย”
หลังจากพูดอย่างนั้น เอลม่าแสดงรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย ใช่ แน่นอนว่าเอลม่าผอมนั่นใช่ แต่เธอไม่ได้ผอมมากเกินไป แต่มีร่างกายหุ่นดีที่ได้มาจากการฝึกและออกกำลังกายต่อเนื่อง ผมพูดอย่างไรดี? เธอมีหุ่นไร้ที่ติอย่างเห็นได้ชัด
ผมก็เห็นเธอเปลือยบ่อยครั้งแน่นอน แต่ผมรู้สึกเหมือนผมจะหลงเสนห์ไม่สำคัญว่าผมได้เป็นพยานความสวยของเธอกี่ครั้ง
“ร่างกายแบบไหนที่บอสชอบให้ผู้หญิงมีอยู่ดีนะ บอส?”
“เธอถามนั่นในสถานการณ์นี้เหรอ?”
แต่มันค่อนข้างรู้สึกเหมือนบางคนจะโกรธไม่สำคัญว่าผมจะตอบพวกเธออย่างไร
“อืม ก่อนอื่น ให้ฉันพูดย้ำว่าฉันไม่ได้เลือกปฏิบัติระหว่างขนาดหน้าอก หน้าอกเล็กและหน้าอกใหญ่นั้นมหัศจรรย์เท่ากัน”
“ว้าว คนนี้ตอบจริงๆด้วย”
“มันค่อนข้างรู้สึกเหมือนเขาทำการป้องกันแน่นหนาทันทีเลย”
“มันเพราะอะไรแบบนี้นั้นสำคัญรู้มั้ย พวกผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตผู้เห็นฝันและเรื่องรักใคร่เมื่อเป็นเรื่องนม เข้าใจมั้ย? การที่พวกมันใหญ่หรือเล็กเป็นแค่บางอย่างเรื่องเล็ก ฉันแค่อยากให้พวกเธอรู้นั่นไว้”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้น?”
เอลม่ารีบให้ผมพูดต่อ
“……”
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พูดหุ่นร่างกายที่ผมชอบโพล่งออกไปดีไหม? เพราะทั้งหมดมีมิมีเสน่ห์ของเธอเอง และเหมือนกันกับเอลม่า, ทีน่า, และวิสเกอร์
“พอมาคิดดูแล้ว พี่เป็นคนที่ออกแบบเมย์ซัง ใช่มั้ย พี่ใหญ่”
ฮ่าฮ่าฮ๋า วิสเกอร์เพิ่งสามารถพูดตรงเผง แต่สถานการณ์จะดำเนินต่อไปจากตรงนี้?
พวกเธอจะตอบสนองอย่างไร? ผมบอกไม่ได้เลยสักนิด
“ตอนนี้เมื่อพี่พูดถึงมัน นั่นจริงด้วย หืม เข้าใจแล้ว……”
มีมิดูเหมือนเธอมั่นใจเกี่ยวกับบางอย่าง
หยุด อย่าคิดเกี่ยวกับมันมากกว่านี้
“ถ้าอย่างนั้น ถ้าหุ่นเมย์เป็นประเภทในอุดมคติ ฉันเดาว่าผอมเกินไปจะไม่ได้ ถูกมั้ย?”
“ใช่ ถ้าอย่างนั้นมันเป็นอย่างนั้นหือ?”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นพี่ใหญ่ไม่ชอบถ้าเราผอมเกินไป”
“หยุดวิเคราะห์ฉันได้แล้ว พวกเธอ ได้โปรด”
เวรเอ๊ย ตอนนี้ผมอยู่ใต้การวิเคราะห์จริงจังโดยผู้หญิงสี่คนที่ผมสนิทด้วย นี่เป็นการทรมานรูปแบบใหม่หรือบางอย่างหรือ?
“โอเค ประเด็นนี้จบแล้ว ถ้ามาคุยเกี่ยวกับบางอย่างมีความหมายมากกว่านี้ดีไหม พวกเธอ?”
“แม้ว่าพี่จะพูดว่ามีความหมาย……”
“ในสถานการณ์นี้น่ะเหรอ?”
วิสเกอร์เอียงหัวของเธอระหว่างแสดงสีหน้ามีปัญหาระหว่างทีน่ายักไหล่ ใช่ การสนทนามีความหมายไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ในสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเราเลย
“ได้เลย ถ้าอย่างนั้นพวกเธออยากพนันว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่จนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง?”
“การพนันจริงๆแล้วเป็นบางอย่างมีความหมายเหรอ?”
“มีช่องว่างให้โต้แย่งกันเยอะว่าจริงๆแล้วนั่นมีความหมายหรือไม่”
มีมิเอียงหัวของเธอและแสดงออกถึงความสงสัย และผมเห็นด้วยกับเธอ แต่มันไม่เหมือนว่าผมต่อต้านการพนัน
“มันประมาณบ่ายสองครึ่งแล้วตอนนี้ ดังนั้น…… มาพนันว่าระหว่างตอนนี้และหกโมงเย็น และช่วงเวลาหกชั่วโมงหลังจากนั้นดีมั้ย?”
“อะไรกันเนี่ย? พี่ขึ้นนำหน้าเรื่องการพนันเหรอ?”
“มืมม ไม่ใช่หกชั่วโมงมันนานเกินไปนิดหน่อยเหรอ? ถ้าลดมันลงเหลือสามชั่วโมงล่ะดีมั้ย? หนูว่ามันจะน่าสนใจมากกว่าแบบนั้น”
จริงๆแล้ววิสเกอร์ซังเอาด้วยกับมัน เราจะทำนี่จริงๆหรือ?
“ได้ ได้เลยจ้ะ หนูจะพนันกับบางอย่างระหว่าง สามทุ่มถึงเที่ยงคืนวันนี้”
“อ๊ะ ช่างเหลี่ยมเยอะ พี่สาว ได้เลยถ้าอย่างนั้น หนูจะพนันระหว่างเก้าโมงเช้าถึงเที่ยงพรุ่งนี้”
“เธอจะพนันด้วยอะไรตั้งแต่แรก…? หรือ พวกเธอมีแผนจะทำอะไรหลังจากกินข้าวเสร็จ? ฉันมีแผนที่จะเก็บกวาดป่าเขตนี้และสร้างกำแพงไว้บ้างเพื่อที่จะให้สัตว์ป่าไม่เข้ามา”
“เพราะเราพนันกับเงินไม่ได้ ถ้าเเป็นการติดค้างคนชนะแทนล่ะ? โอ้ แล้วฉันก็เห็นด้วยกับการสร้างกำแพง”
“ติดค้าง!? อะไรที่เธอมีแผนให้เราทำอยู่ดีล่ะ?”
“ไม่ใช่มันไม่เป็นไรตราบใดที่อยู่ในเหตุผลเหรอ บอส?”
และดังนั้นเอง เรากินต่อไประหว่างคุยเกี่ยวกับการพนันและสร้างแผนสำหรับที่พักชั่วคราวของเรา
พูดถึงแล้ว ผมเลือกพนันระหว่างหกโมงเย็นถึงสามทุ่มวันนี้ ผมคิดว่าช่วงเวลานั้นมีเหตุผลตราบใดที่การรายงานอุบัติเหตุ, แผนการช่วยเหลือ, การเตรียมการ, และการทำทั้งหมดดำเนินได้อย่างไม่มีอุปสรรค ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นการแข่งขันกับเวลา ผมแน่ใจว่าการกระทำถูกต้องในสถานการณ์นี้คือทำการช่วยเหลือเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ผมหวังว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu