ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 254 วัตถุส่องแสงมีประโยชน์
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 254 วัตถุส่องแสงมีประโยชน์
254 วัตถุส่องแสงมีประโยชน์
“ถ้าอย่างนั้นเธอเก็บมันมาหลังจากทั้งหมด”
“มันเพราะมันดูน่าสงสารเมื่อมันกระพิบอย่างอ่อนแอเมื่อเราพยายามจะปล่อยมันไว้ตามลำพัง……”
ผมหันหนีจากเอลม่าผู้จ้องผมด้วยสายตาไม่เห็นด้วยอย่างตั้งใจ ทิศทางที่ผมหันไปนั้นคือที่มีมิและพี่น้องช่างกำลังรวมตัวกันเพื่อตรวจดูวัตถุส่องแสงลึกลับ ซึ่งตอนนี้แทงอยู่ข้างในพื้นของแคมป์
“มันเป็นวัตถุที่แปลกแบบนี้นะ หนูสงสัยว่ามันส่องแสงยังไง?”
“อึน เราอ่านค่ามันไม่ได้ด้วยอุปกรณ์ที่เรามีกันอยู่ พี่สาว ตัวมันคล้ายกับไม้เมื่อสแกน แต่จริงๆแล้วมีต้นไม้ที่รูปร่างแบบนี้เหรอ?”
“อย่างน้อย มันต่างอย่างสิ้นเชิงกับต้นไม้รอบๆเรา เรายังกำหนดอะไรสักอย่างไม่ได้หลังจากการสแกนทั้งหมดที่เราทำ”
วิสเกอร์และมีมิกำลังสแกนสิ่งนั้นโดยใช้เครื่องปลายทางข้อมูล แต่ความจริงเกี่ยวกับมันยังคงอยู่ในม่านหมอกแห่งความลึกลับ พูดถึงแล้ว วิสเกอร์ดูเหมือนกำลังใช้แอพสแกนที่ทำมาเฉพาะสำหรับวิเคราะห์วัสดุสิ่งก่อสร้างของยานอวกาศระหว่างมีมิกำลังใช้แอพสแกนต้นไม้กินได้ที่เธอดาวน์โหลด จริงๆแล้วน้องมีแผนกินนั่นหรือ มีมิ? น้องทิ้งความคิดดีกว่า น้องจะทำท้องน้องเสียรู้ไหม
“สิ่งนี้เข้าใจคำพูดเราจริงๆเหรอ?”
“ใช่ มันมันตอบสนองกับคำพูดฮิโระซามะ”
“มันเป็นสิ่งมีชีวิตมีปัญญาบางอย่างเหรอ? นั่นหมายถึงสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเอลฟ์มีอยู่บนดาวเคราะห์นี้เหรอ? รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับนี่มั้ย เอลม่าซัง”
“เอ๋? มีอะไรแบบนี้จริงๆเหรอ?”
หลังจากคำถามกระทันหันของวิสเกอร์ เอลม่าเอียงหัวของเธอขณะเธอครุ่นคิดเกี่ยวกับประเด็น โยช ความสนใจเธอถูกเบี่ยงไปแล้วสำเร็จตอนนี้เป็นโอกาสของผม
“มาเอาเรื่องวัตถุลึกลับไว้ก่อนสำหรับเวลานี้ เรามีการเก็บของที่ดี เห็นมั้ย มีเยอะเลย ถูกมั้ย?”
หลังจากพูดอย่างนั้นผมเปิดประเป๋าและให้ทุกคนดูของข้างใน
“ว้าว มีเยอะจริงๆ”
“ว้าา เรากินทั้งหมดนี้ได้เหรอ?”
“จากแอพสแกนของมีมิ พวกมันทั้งหมดกินได้”
หลังจากเราดึงวัตถุลึกลับจากพื้น เราสามารถเจอของกินได้ทีละอย่างตามๆกันด้วยเหตุผลบางอย่าง
“อย่างแรก มีนี่ นี่คือผลโคคิริ มันเหม็นเขียวนิดหน่อย แต่มันน้ำเยอะและรสชาติพอได้ด้วย เราชิมไปหนึ่งลูกแล้ว และมันไม่ได้แย่เลยสักนิด”
“หืมม แล้วนี่ล่ะ?”
“มันเป็นเห็ดกินได้เรียงว่ามังกรโมโกริ เห็นว่า มันอร่อยเมื่อย่าง”
“อา ฉันคิดว่าฉันชิมอันนี้มาก่อน”
“ฉันด้วย แต่มันเปรี้ยวนิดหน่อยนะ มันดูเหมือนถูกเรียกว่ามิลิเบอร์รี่”
ใช่ สิ่งต่างๆที่เราเจอนอกจากโคคิริคือเห็ดกินได้และเบอรี่ มังกรโมโกริดูเหมือนเห็ดกินได้ทั่วไปของคนหนึ่งที่มีตัวดอกสีขาวและหัวสีน้ำตาล มันดูค่อนข้างอร่อยเมื่อหั่นเป็นสองชิ้นแล้วย่าง
มิลิเบอรี่เป็นเบอรี่สีออกม่วงเข้มที่คล้ายกับราสเบอรี่แทนที่จะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ที่เห็นเป็นปรกติในห้างญี่ปุ่น ผมสมควรพูดว่าขนาดของมันเล็กกว่าลูกปิงปองนิดหน่อย
เราก็รวมเบอร์รี่เหล่านี้ได้เยอะด้วยเหมือนกัน
“แต่ย่างเห็ดไม่ได้น่าทำในสถานการณ์ของเรา เพราะทั้งหมดเราไม่มีเครื่องปรุง พวกมันน่าจะจืดถ้าไม่มีพวกนั้น……”
“โอ้ เกี่ยวกับนั่น จริงๆแล้วเราสร้างเกลือด้วยเครื่องประกอบโมเลกุลได้”
“จริงจัง?”
“จริงจัง”
มันดูเหมือนนั่นเป็นไปได้สำหรับเครื่องที่สร้างเกลือโดยการย่อยและประกอบดิน, หิน, และไม้ใหม่ อืม เพราะทั้งหมดมันพูดกันว่าดินมีโซเดียมอยู่เยอะ ดังนั้นผมเดาว่ามันไม่ได้ยากมากเกินไป
“เอ่อ เพราะเห็นว่าเราหาเกลือได้ ฉันว่าเราปรุงเห็ดย่างค่อนข้างอร่อยได้หลังจากทั้งหมด ความกังวลที่เหลือคือน้ำ……”
ดั่งตอบการพูดเบาๆของผม วัตถุลึกลับเริ่มส่องแสงอีกครั้ง
“อุว้าา มันส่องแสงเหมือนเป็นบ้าไปเลย”
“อา มันไม่เป็นไร มันน่าจะไม่ใช่บางอย่างอันตราย”
ผมปลอบทีน่าผู้ตื่นตกใจและดึงวัตถุลึกลับออกมาจากพื้น
เมื่อดึงออกมาทั้งหมด ความยาวรวมมันประมาณ 1.2 เมตร ทั้งสองฝั่งมีปลายแหลมพร้อมด้วยเกลียวสว่านสามเกลียววิ่งทั่วทั้งตัวของมัน อย่างไรก็ตาม ร่องเกลียวนั้นเหมาะกับมืออย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้วัตถุค่อนข้างถือง่าย สมดุลน้ำหนักของมันค่อนข้างดี และถ้าโยนเจ้านี่ มันน่าจะไปได้ค่อนข้างไกล
“ถ้าอย่างนั้น มันอยู่ไหน? ที่นี่? หรือที่นี่?”
ขณะผมชี้ปลายของวัตถุไปทั่ว แสงที่มันส่องในท้ายที่สุดกระพริบเร็วขึ้นในทิศทางหนึ่ง
“อย่าบอกฉันะว่าที่มันชี้เป็นทางที่เราเจอน้ำ?”
“น่าจะ เพราะทั้งหมดเราใช้มันเมื่อเราออกไปรวมอาหาร”
“เออ๋? ……จริงอ่ะ? ไม่ใช่นั่นค่อนข้างสยองเหรอ?”
“มันรู้สึกสยองนิดหน่อยจริง ไม่ใช่เหรอ อืม สิ่งนี้น่าจะทำให้ตัวเองมีประโยชน์ดังนั้นเราจะไม่โยนมันทิ้ง”
“มันเป็นสิ่งมีชีวิตมีปัญญาบางประเภทเหรอ?”
วิสเกอร์คิ้วขมวดในความตะลึงขณะเธอมองวัตถุลึกลับ ขณะเธอเฝ้าสังเกตอะไรที่เกิดขึ้น เอลม่าขมวดคิ้วของเธอดั่งพยายามจะนึกบางอย่างให้ออกอย่างสุดตัว
“มีบางอย่างให้เราเหรอ เอลม่า?”
“อึน…… ไม่หรอก ไม่ ฉันแค่ใช้เวลาสั้นๆที่นี่เมื่อฉันยังเด็ก ดังนั้นความทรงจำของฉันค่อนข้างขุ่นมัว”
“มันช่วยไม่ได้ถ้าอย่างนั้น หนูแค่มีความทรงจำขุ่นมัวของย่าด้วย”
มีมิพยักหน้าดั่งมั่นใจด้วยเหตุผลบางอย่าง อืม เพราะเอลม่า ผู้ที่แก่กว่าผมมากกว่าเป็นสิบๆปี กำลังจะพยายามนึกเวลาเมื่อเธอยังเป็นเด็กน้อย มันน่าจะมากกว่าสามสิบปีก่อน ถ้าอย่างนั้นมันอาจเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจำไม่ได้มากเกี่ยวกับกลับไปตอนนั้น
“ไม่ว่ายังไง มันน่าจะเป็นว่าเราหาน้ำได้ในทิศทางที่เจ้านี่ชี้ไป ดังนั้นฉันจะไปและรีบไปดู”
“ค่ะ! หนูจะทำให้มั่นใจที่จะปกป้องทีน่าจังและวิสเกอร์จัง”
มีมิตีปืนเลเซอร์ซึ่งใส่ซองอยู่ที่สะโพกของเธอและตอบอย่างตื่นเต้น เธออาจเต็มที่เกี่ยวกับมัน แต่เพราะเรามันใจไม่ได้ว่าคนหนึ่งรับมือกับสัตว์ป่าดาวเคราะห์นี้ด้วยแค่ปืนเลเซอร์หรือเปล่า ผมว่าเราแค่ต้องหันหลังกลับถ้าแหล่งน้ำสุดท้ายอยู่ไกลเกินไปจากแคมป์
ผมเดินไปข้างหน้าระหว่างจับวัตถุลึกลับในมือซ้ายและฟันพุ่มไม้รายล้อมทิ้งไปด้วยมือขวา ผมก็ไม่ลืมที่จะทิ้งรอยไว้บนต้นไม้เพื่อที่เราหาทางกลับได้ง่ายกว่า
และอะไรที่ปรากฎหน้าเอลม่าและผมคือ–
“น้ำพุเหรอ?”
“มันอาจเป็นน้ำพุหรือบ่อน้ำ แต่ไม่ว่ากรณีไหน แน่นอนว่ามมันแหล่งน้ำ”
มันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น แต่เรายังเจอบางอย่างซึ่งดูเหมือนบ่อน้ำ น้ำดูเหมือนค่อนข้างใสสะอาด และคนหนึ่งเห็นทรายข้างใต้น้ำล้อยได้บางเวลา มันดูเหมือนนี่คือแหล่งน้ำที่วัตตุลึกลับหมายถึง น้ำที่เป็นน้ำพุจากข้างใต้แบ่งออกไปเป็นสายน้ำที่ไหลออกมาจากมัน
“มันดูใสพอที่จะดื่มอย่างนั้นเลย”
“อย่าแม้แต่แม้แต่คิดเลย ไม่สำคัญว่าน้ำดูสวยแค่ไหน กินมันโดยไม่ต้มก่อนอันตรายเกินไป”
หลังจากพูดอย่างนั้น ผมหยิบที่ใส่ที่ทำมาจากวัสดุเหมือนโพลิคาร์บอเนตที่ใช้สร้างที่พักของเราจากกระเป๋าหลังของผม มันถูกทำโดยทีน่าและคนอื่นๆระหว่างผมและมีมิออกไปหาอาหาร
“มาเติมน้ำใส่นี่แล้วกลับเถอะ อันตรายควรลดลงไปอย่างมากหลังจากต้มมันอย่างทั่วถึง”
“มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเรากลั่นมัน?”
“มันจะดีถ้าเราทำนั่นได้ แต่จริงๆแล้วเราทำที่กลั่นที่ใช้งานได้เหรอ?”
“เราทำมาสักอันโดยใช้เครื่องประกอบโมเลกุลไม่ได้เหรอ? เเราแค่ใช้ชิ้นส่วนโลหะจากรถรถไฟที่ตกเพื่อทำมัน”
“เข้าใจแล้ว อืม ไม่ว่ายังไง มาเอาน้ำกลับไปก่อน ควรมีเครื่องทดสอบคุณภาพน้ำในอุปกรณ์รอดชีวิตด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเราใช้นั่นเพื่อตรวจดูว่าน้ำนั้นใช้ดื่มได้มั้ย”
ผมเติมถังน้ำสีดำเต็มและเก็บมันข้างในกระเป๋าหลังของผมหลังจากนั้น?
ผมยกวัตุลึกลับส่องแสงขึ้นแล้วเอียงหัวของผม– หือ?
“จริงๆแล้วเจ้านี่มันดูดน้ำได้เหรอ? มันค่อนข้างรู้สึกเหมือนหนักขึ้น”
“จริงๆเหรอ? อืม มันคล้ายไม้จริง ดังนั้นฉันเดาว่ามันไม่แปลกที่จริงๆแล้วมันดูดน้ำได้…… ไม่ เรามาที่นี่แค่ระยะเวลาสั้นๆดังนั้นมันไม่ได้ดูดมากขนาดนั้นจนหนัก มันกลายเป็นยิ่งลึกลับมากขึ้น”
“มันแปลก แต่ฉันยอมรับว่ามันไม่ได้มากขนาดนั้น ฉันควรยังไม่มีปัญหาที่จะถือมันไปมา”
“น้ำนี้หนักด้วย เรากลับไปตอนนี้ดีกว่า”
“ใช่ ฉันกังวลเกี่ยวกับการปล่อยทุกอย่างให้กับมีมิคนเดียว”
“นั่นแน่นอน”
หลังจากช่วงเวลาการฝึกซ้ำๆ ตอนนี้มีมิสามารถยิงปืนเลเซอร์ได้เป็นปรกติ แต่เธอยังไม่ได้มีทักษะขนาดนั้นกับมันและนิสัยเธอไม่ได้ออกรุกด้วยเหมือนกัน ผมกังวลว่าเธอรับมือกับอะไรๆเผื่อว่าสัตว์ป่าโจมตีแคมป์
และดังนั้น ผมและเอลม่าเดินกลับและผมเก็บของมาเต็มด้วยถังน้ำและวัตถุลึกลับซึ่งตอนนี้หนักขึ้น
อืม แต่ความพยายามนี้อาจกลายเป็นสูญเปล่าถ้าทีมช่วยเหลือมาเพื่อรับเราจริงคืนนี้ นั่นก็ไม่เป็นไรด้วย ผมว่า นี่แค่เป็นตัวรับประกันในกรณีที่ไม่มีความช่วยเหลือมาสำหรับเวลานี้ ใช่ มาปัดมันไว้เป็นแบบนั้นเถอะ
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu