ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 260 ตำนานเอลฟ์ผู้กล้า
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 260 ตำนานเอลฟ์ผู้กล้า
260 ตำนานเอลฟ์ผู้กล้า
“บอสมีสีหน้าน่าสนใจนะ บอส”
“ใช่ ฉันรู้ อืม มันไม่เหมือนว่าฉันคาดหวังนี่อยู่ดี”
ยาชงพื้นถิ่นมากมายที่เน็กคุงนำมารสชาติเหมือนยา แต่พวกมันบางสูตรค่อนข้างใกล้เคียง แต่ยังขาดไป มันรู้สึกเหมือนพวกมันแค่ก้าวหนึ่งออกไปจากจุดที่ถูกต้อง แต่พวกมันยังไม่ไปถึงมาตรฐานของเครื่องดื่มอัดลมคุณภาพสูงของจริงที่ผมคุ้นเคย ถ้าผมต้องมอบคำเปรียบเปรย มันเหมือนบางคนผู้แค่สามารถแง้มประตูเล็กน้อย และหลังประตูที่ว่าคือความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง
“มันดูเหมือนพวกมันไม่สามารถทำให้ท่านพอใจ”
“เอ่อ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด ฉันแค่ถูกความจริงท่วมท้นชั่วขณะ และยาเหล่านี้รู้สึกเหมือนพวกมันจะดีมากๆด้วยการปรับนิดหน่อย ฉันสามารถมีความการติดต่อกับผู้ผลิตเครื่องดื่มหลักที่นี่ ดังนั้นอยากให้ฉันแนะนำยาเหล่านี้กับพวกเขาไหม?”
“ฟุมุ…… มาดูกัน ให้ผมได้ปรึกษากับเจ้าของสูตรก่อน”
“นั่นจะดีที่สุด”
ผมจะแค่มอบรายละเอียดการติดต่อหัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เราไปเยือนไม่กี่วันก่อนให้เน็ก ในระหว่างนั้น ผมให้เมย์ติดต่อเขาล่วงหน้า เพราะทั้งหมด เขาน่าจะตกอกตกใจสุดๆถ้าเขาถูกติดต่อโดยลูกชายของผู้นำเผ่ามินฟา
“ถ้าอย่างนั้นนี่คือเมล็ดของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์……”
“มันส่องสว่างจริงๆ มันเนื่องจากการสะท้อนเวทมนตร์เหรอ?”
“น่าทึ่ง ฉันแค่เคยเห็นมันในหนังสือภาพเมื่อฉันยังเด็ก”
ทิเนียและผู้ช่วยหญิงสองคนของเธอ – มิซ่าและแมมถ้าผมจำไม่ผิด – กำลังเอะอะกับของต้องสาประดับพิเศษ ซึ่งตอนนี้วางอยู่บนบางอย่างที่ดูคล้ายกับชั้นวางคาตานะ สำหรับตัวของเองนั้น ตอนนี้มันกระพริบที่ระดับปรกติ ดั่งรู้สึกค่อนข้างสบายๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมรู้สึกเหมือนมันจะแสดงสีหน้าเละเทะตอนนี้ถ้าไอ้ของเวรนี่มีหน้า ซึ่งค่อนข้างทำให้ผมหงุดหงิด
“แม้อย่างนั้น พอมาคิดว่าท่านสามารถมาเจอกับเมล็ดของต้นไม้โลก…… ไม่ มันเป็นเมล็ดของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เองที่เจอท่านได้ ช่างมหัศจรรย์”
“ใช่ เกี่ยวกับนั่น… คนของดาวเคราะห์นี้ว่ามันว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ แต่สำหรับฉัน มันแค่ความลำบากน่ารำคาญ รู้ไหม?”
“ความลำบาก อย่างนั้นเหรอ? แต่สำหรับผู้คนอาศัยอยู่ในดาวเคราะห์นี้ไม่มีเกียรติที่ยิ่งใหญ่กว่านี้”
“ไม่ ฉันเข้าใจนั่น เข้าใจไหม? แม้แต่ฉันจะมีไฟมากกว่าถ้าฉันหยิบอาวุธในตำนานบางอย่างได้เหมือนดาบศักดิ์สิทธิ์เอ็กซ์คาลิเบอร์หรือดาบเวทมนตร์แกรม ให้ตายเถอะ ฉันน่าจะคลั่งเต็มที่เลย แต่ฉันสมควรจะรู้สึกยังไงเมื่อฉันสามารถได้วัตถุลึกลับนี้แทน? ฉันแม้แต่ต้องมาติดอยู่ที่นี่เป็นผลลัพธ์”
เมื่อผมหันสายตาไปมองเมล็ดพันธ์ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พักอย่างสบายอยู่บนแท่น มันกระพริบประท้วง
“ตั้งแต่แรก ฉันไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วนี่คืออะไร ผมไม่คุ้นเคยกับประเพณีเอลฟ์ ดังนั้นแม้ว้านายบอกฉันว่าจริงๆแล้วนี่เหลือเชื่อ มันแค่ไม่เข้าไปในใจรู้ป่ะ”
“อา ผมเข้าใจ ถ้าเป็นอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นท่านให้ทิเนียบอกเกี่ยวกับมันทั้งหมดให้ท่านไหม?”
“ทิเนีย?”
“ทิเนียคุ้นเคยกับตำนานโบราณและอะไรอย่างนั้น เพราะทั้งหมดผู้หญิงของเผ่ากราโดก็เล่นบทเป็นนักเล่าเรื่องและผู้พยากรณ์รับใช้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
“โฮ่ว”
เมื่อผมหันไปหาทิเนียผู้ยังคงดูเมลัดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เธอสังเกตสายตาผมและดวงตาของเราสบกัน
“ได้โปรด”
เมื่อผมเห็นด้วย ทิเนียพยักหน้าและเริ่มบรรยาย มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้เมื่อนานมาแล้วระหว่างเอลฟ์และสัตว์ประหลาด
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ในเวลาก่อนจักรวรรดิค้นพบทีต้า และหมายถึงเป็นหลายร้อยปีในอดีต
ไม่ว่าอย่างไร ก่อนการมาถึงของบุคคลจากกองกำลังจักรวรรดิ มีเผ่าที่มีปัญญาอาศัยอยู่บนทีต้านอกจากเอลฟ์
มันเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตผู้ถูกรู้ทั่วกันว่าเป็นสัตว์ประหลาด ซึ่งประกอบไปด้วยหลายเผ่าที่มีนิสัยชัดเจนที่ชอบใช้ความรุนแรง
มีความพยายามสื่อสารกับพวกมัน แต่พวกมันทั้งหมดล้มเหลวเอลฟ์และสัตว์ประหลาดต่อสู้อย่างดุดัน เหมือนคู่แค้นในดวงชะตา การต่อสู้ดำเนินไปเป็นหลายต่อหลายปี คนที่สนับสนุนเอลฟ์ทั้งหมดในหมู่การดิ้นรนที่ขมขื่นนี้คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ทิ้งดอกของต้นเพื่อทำหน้าที่รักษาเอลฟ์ที่มีแผล และพวกเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะใช้เวทมนตร์จากมัน ซึ่งพวกเขาใช้งานสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กับสัตว์ประหลาด เวทมนตร์ก็มีบทบาทที่ใหญ่ในชีวิตรายวัน ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวตนอันมีค่ามหาศาลกับเหล่าเอลฟ์
อย่างคาด สัตว์ประหลาดถูกรู้ว่าเป็นศัตรูที่เกลียดชังด้วยเหมือนกัน สัตว์ประหลาดที่ฉลาดบางตัวสามารถแอบผ่านเอลฟ์และทำการสร้างความเสียหาย, ก่อมลพิษ, และเผาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในทุกการสาปแช่ง แน่นอน บางอย่างแแบบนั้นจะนำเอลฟ์ไปสู่การสูญเสียกำลังส่วนใหญ่ในฐานะเผ่าพันธุ์ และอสูรจะเอาเปรียบนั่นเพื่อกวาดล้างพวกเขาในที่สุด
อย่างไรก็ตาม แต่ละครั้งที่นั่นเกิดขึ้น เมล็ดของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะเลือกผู้ถูกเลือกหนึ่งคนในหมู่เอลฟ์ และมอบพลังให้เขา จากนั้นนักรบผู้ถูกเลือกจะสามารถใช้พลังเวทมนตร์มหาศาลของต้นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
มากกว่านั้น เมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เองนั้นก็เป็นอาวุธที่น่ากลัวด้วย แม้แต่หนังหนาของสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ที่แทงหรือฟันด้วยอาวุธเงินภูติปรกติไม่เข้านั้นกลายเป็นไร้ค่าต่อหน้าเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
ถ้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกใช้เป็นหอก ความแหลมของมันจะแทงทุกอย่างระหว่างทาง และเมื่อโยนมันมันจะบินผ่านสัตว์ประหลาดหลายตัวก่อนกลับมาสู่มือนักรบผู้ถูกเลือก มันก็พูดได้ว่ามันเป็นสัญลัษณ์ของความหวังสำหรับเหล่าเอลฟ์
“ถ้าอย่างนั้นจริงๆแล้วเจ้านี่มีความสามารถอันตรายแบบนั้น……”
“มันเจาะผ่านอะไรก็ได้หือ ฉันคิดว่ามันแค่พูดเกินไป”
“มันเป็นไปได้สำหรับเจ้านั่นที่จะเจาะอัลลอยผสมบีบอัดแรงสูงไหม? มาลองมันไหม บอส”
“เธอรู้มั้ย นั่นฟังดูน่าสนใจ ได้เลย มาลองเถอะ”
ของต้องสาประดับพิเศษกระพริบอย่างรุนแรงดั่งกำลังพูด ‘เอาเลยโว้ย! เดี๋ยวฉันจะแสดงให้นายเห็น ไอพวกเวรตะไล!’ หรือบางอย่างแบบนั้น ไม่มีเวลาเสียใจทีหลังรู้ไหม? ฉันจะไม่พูดเสียใจด้วยแม้ว่าแกร้องไห้ เข้าใจไหม
“ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ฉันเข้าใจประวัติศาสตร์คร่าวๆแล้ว ถ้าอย่างนั้น เธอกำลังพูดว่าคนที่ได้รับเจ้านี่จะเล่นบทบาทสำคัญในฐานะผู้กล้าแห่งความหวังผู้จะช่วยเอลฟ์จากเรื่องร้ายหรือบางอย่างแบบนั้น ถูกไหม?”
“ค่ะ เป็นอย่างนั้น”
“ถ้าอย่างนั้น ในท้ายที่สุดอะไรเกิดขึ้นกับผู้กล้าที่ถูกเลือกถ้าอย่างนั้น?”
“……อืม”
“เฮ้ย มองไปทางอื่นอย่างจงใจทำไม?”
หรือ มันฟังดูเหมือนพื้นฐานแล้วคนหนึ่งไร้เทียมทานตราบใดที่ไม่เสียเจ้านี่ไป
“สุดท้ายผู้กล้าดันการรุกรานของสัตว์ประหลาดกลับไปและได้รับความเคารพและความรักจากทุกคน แต่ในกรณีส่วนใหญ่ พวกเขาจะเสียชีวิตไปหลังจากแต่ละสงครามเมื่อพวกเขาสละเมล็ด หรือตายโดยการลอบสังหารจากเหล่าสัตว์ประหลาด”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้านี่มันไม่ดีเลยหลังจากทั้งหมด!”
“บ่อยครั้ง คนที่ถือพลังของเมล็ดและคนเหล่านั้นรอบๆพวกเขาจะสู้ดั่งพวกเขายังมีมันแม้ว่าหลังจากสละพลังไปแล้ว, ประเมินตัวเองสูงไป, และสุดท้ายจบชีวิตลลงในตอนนั้น……”
“อะไรกันเนี่ย? พวกเขาไม่เรียนรู้จากคนก่อนหน้าเหรอ?”
“อืม นี่ถูกปฏิบัติเป็นความลับเปิด แต่มีอดีตหลายครั้งที่ผู้ถูกเลือกไม่อยากสละพลังของเมล็ดหลังจากสงคราม แต่นั่นจะทำให้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์รุ่นต่อไปไม่โต และคนที่จะมีปัญหามากที่สุดคือเอลฟ์ด้วยกัน ดังนั้น…”
“อืม ไม่ใช่นั่นหมายถึง……”
สีหน้ามีมิกระตุก มืม มันน่าจะเป็นนั่นหือ
“ดังนั้นพวกเขาถูกลอบสังหารโดยพวกเดียวกันเหรอ!? นั่นโคตรเละเลยเนี่ย! ฉันไม่ต้องการเจ้าอันตรายนี้จริงๆ แค่เอามันไป!”
ของต้องสาปกระพริบรุนแรงประท้วง หุบปากเลย แก! ฉันจะไม่ยอมให้ชีวิตฉันตกเป็นเป้าของบางอย่างไม่มีเหตุผลบัดซบ!
“หรือ อะไรเกิดขึ้นกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นล่ะถ้าอย่างนั้น? เราไม่ได้เจอบางอย่างแบบนั้นเหมือนพวกมันจนถึงตอนนี้เลยรู้ป่ะ”
“กองทัพจักรวรรดิกวาดล้างพวกมันอย่างสิ้นเชิง”
“อา ใช่”
มันเป็นคำตอบเรียบง่าย
ผมไม่มั่นใจว่าพวกเขามีเครื่องแปลภาษาแบบฝังหรือยังกลับไปตอนนั้น แต่ผมเดาว่าจักรวรรดิกรากันมาลงทีต้าด้วยเจตตนายึดครองมัน พวกเขาเจอเอลฟ์และสัตว์ประหลาด และจากนั้น ระหว่างสองกลุ่มพวกเขาเลือกที่จะไว้ชีวิตเหล่าเอลฟ์ในความสามารถของพวกเขาในฐานะผู้ปกครองดาวเคราะห์คนใหม่
ผมแน่ใจว่าเอลฟ์และสัตว์ประหลาดได้สู้กัน แต่เหล่าเอลฟ์พบกองกำลังทรงพลังสุดขีดที่ไม่รู้จักผู้มาจากสรวงสวรรค์
จากนั้นมันดำเนินการกวาดล้างสัตว์ประหลาดที่พวกเขาทำสงครามด้วยมาเป็นชั่วอายุคนและต้องการให้พวกเขายอมหลังจากนั้น เหล่าเอลฟ์จะไม่มีทางอื่นนอกจากยอม ถ้าไม่ พวกเขาจะมีชะตาถูกกวาดล้างเหมือนกันสัตว์ประหลาด
“แต่พวกเขาทำขนาดกวาดล้างสายพันธุ์ที่มีปัญญา…… จักรวรรดิเก่ารุนแรงทั่วถึงแบบนั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่มันเหมือนกันแม้แต่ตอนนี้เหรอ? ถ้าเบื้องสูงตัดสินว่าเราอยู่ร่วมด้วยกับเผ่าพันธุ์ไม่ได้ พวกเขาจะเคลื่อนที่เพื่อกวาดล้างพวกมันในพริบตา ปัญญาก็เถอะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ร่วมกับเผ่าที่เห็นคนอื่นเป็นเพียงแค่อาหารเท่านั้น ถูกไหม? จริงๆแล้ว จักรวรรดิก็ค่อนข้างอดทนอยู่ร่วมกัน พวกเขาไม่เป็นภัยกับเราเพราะเราไม่ได้ใช้พรมแดนร่วมกับพวกเขา แต่จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซาเรียนเชื่อในการครองอำนาจเผ่าพันธุ์สุดขีด และนอกจากคนที่พิจารณาว่าเป็นวูเอลซาเรียนเลือดแท้ พวกเผ่าอื่นๆถูกพิจารณาเป็นทาส”
“อะไรกันเนี่ย? นั่นน่ากลัว เราไม่ไปที่ไหนใกล้พวกเขาดีกว่า…… ไม่ว่ายังไง เรานอกเรื่องแล้ว”
หลังจากนั้น ผมฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าผู้กล้าและของต้องสาประดับพิเศษ แต่หลังจากทั้งหมด มันนดูเหมือนเจ้าคนก่อนเจอจุดจบโหดร้าย ใช่ ผมจะทิ้งเจ้านี้เมื่อผมมีโอกาส มันดูเหมือนว่าผมจะสามารถเก็บเจ้านี่ไปกับผมได้สักพักเพราะเวทมนตร์หรืออะไรแบบนั้น แต่แน่นอนว่าผมจะมอบมันกลับไปให้เอลฟ์หลังการดูแลของผมไม่เป็นที่ต้องการแล้ว นั่นเป็นบางอย่างที่ผมจะต้องทำแน่นอน
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu