ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 263 จุดจบของการต่อสู้และข้อสรุป
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 263 จุดจบของการต่อสู้และข้อสรุป
263 จุดจบของการต่อสู้และข้อสรุป
“โจมตีเขาด้วยกันทั้งหมดทีเดียว! คิดว่าเขาเป็นสัตว์ป่าที่อันตรายกว่าริก้าราอูด้วยซ้ำและรับมือกับเขาตามนั้น!”
“เหมือนมีสัตว์ป่าเทียบกับคนนี้ได้เหอะ!”
ผมมุดตรงสู่กลุ่มของเอลฟ์ผู้ตะโกนใส่กันอย่างประหม่าอย่างลึกซึ้งและเหวี่ยงดาบของผม มันดูเหมือนนักรบเอลฟ์ตัดสินใจที่จะพยายามไม่รับการโจมตีของผมตรงๆ ผู้เหวี่ยงมาเชเต้เคลื่อนที่มาข้างหน้าและป้องกันผู้เหวี่ยงหอกข้างหลังพวกเขาขณะพวกเขาพยายามลดแรงกายของผมด้วยการโจมตีระยะของผม
“คุ……!”
นักรบเอลฟ์ผู้กันการโจมตีจากดาบยาวคร่ำครวญในความเจ็บปวด
มาเชเต้ถูกเหวี่ยงไปทั่วโดยนักรบเอลฟ์นั้นโดยรวมหนาจากด้านข้าง และมันควรยาวเท่าต้นแขนผู้ใหญ่ พวกมันดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความทนทาน พวกมันมีแรงส่งเยอะละควรเหวี่ยงง่ายแม้ว่าในระยะประชิด พูดอีกอย่าง พวกมันก็ยอดเยี่ยมสำหรับการป้องกัน
“โว่วนั่น”
“อะ–!?”
ผมหยุดการโจมตีและก้าวสู่ด้านข้างของผมอย่างเร็ว ทันทีหลังจากนั้น หอกยิงออกมาและแทงจุดที่ร่างกายผมอยู่ก่อนหน้า ผมว่าพวกเขาจะทำให้เป็นการโจมตีปิดฉาก
หอกที่แทงด้วยน้ำหนักตัวทั้งหมดแทงออกไปสู่ความพลาดอย่างยิ่งใหญ่ และนักรบเอลฟ์ถูกปล่อยให้เปิดกว้าง
“กุ่ฮ่าาา!?”
“ก่ะะะะ!?”
แน่นอนผมไม่พลาดช่องเปิดและโจมตีอย่างไร้ปรานี ผมฟันเอลฟ์ผู้เหวี่ยงหอกล้มพร้อมเอลฟ์อีกคนผู้พยายามคุ้มกันเขาและซัดพวกเขาทั้งสองออกไป มันมีเอลฟ์ใกล้กับยี่สิบคนแล้วที่ล้มไปรอบๆผม
“พวกนายยังอยากทำต่อ?”
“……เราเป็นนักรบ เราจะไม่มีวันยอมแพ้โดยไม่สู้”
“อย่างนั้นเหรอ ไม่เป็นไร มาจบนี่เถอะ”
จากนั้นผมเตรียมลุยสุดกำลัง
『ท่วมท้นอย่างแน่นอนที่สุด! ถ้าอย่างนั้นนี่คือพลังของผู้กล้าที่ถูกเลือกโดยต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์! เขาฟันนักรบเอลฟ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเราสามสิบคนทั้งหมดในการแสดงทักษะและความแข็งแกร่งอันน่าทึ่ง!』
หลังจากนักรบเอลฟ์คนสุดท้ายคุกเข่ายอมแพ้ เสียงผู้กระกาศก้องทั้งสนามแข่ง เวลาที่มันใช้เพื่อจบการต่อสู้ของผมยอมรับได้ ผมว่า ผมรู้สึกถึงความรู้สึกเหนื่อยที่ดี
『จากอะไรที่ฉันเห็นได้ มันเปลี่ยนเป็นกิจกรรมฝ่ายเดียว แค่มันออกมาเป็นแบบนั้นได้อย่างไร?』
『ฝ่ายเดียว อย่างนั้นเหรอ? มันดูเหมือนอย่างนั้นจริง และใช่ แน่นอนมันอย่างที่คุณพูด การโจมตีด้วยดาบของกัปตันฮิโระแม่นยำอย่างสุดขีดโดยไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความผิดพลาดใดๆ และนั้นเป็นอะไรที่นำไปสู่ผลลัพธ์นี้』
『ไม่มีความผิดพลาดเหรอ?』
『ใช่ เขาวางตำแหน่งตัวเองในที่ซึ่งการโจมตีของนักรบเอลฟ์จะพลาดที่จะฟันโดนเขา และลอดผ่านการป้องกันของนักรบเพื่อทำการโจมตีทรงพลังในเวลาเดียวกัน นั่นนำไปสู่ภาพที่เราเห็นต่อตาเราก่อนหน้า』
『มันฟังดูเรียบง่ายเมื่อคุณพูดแบนั้น……』
『แน่นอนว่าไม่ แน่นอนมันไม่ใช่ความสำเร็จง่ายๆที่จะรับมือกับกระแสของการต่อสู้ที่ผันเปลี่ยนตลอดระหว่างยังคงเคลื่อนไหวโดยไม่ตัดสินใจผิดพลาด มันคล้ายกับการเต้นที่ดุดันระหว่างเดินข้ามเชือกเส้นเล็กๆ และเขาทำนั่นใกล้กับสิบนาทีโดยไม่แสดงความผิดพลาดสักหนึ่งครั้ง อะไรที่ผมหมายถึงคือเขาไม่พลาดเลยสักครั้ง』
ผู้บรรยายดูเหมือนค่อนข้างตื่นเต้นขณะเขาแสดงการวิเคราะห์สด
เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมไม่ได้พลาดกับการเคลื่อนไหวใดๆเลยหือ
นั่นน่าจะจริง เพราะทั้งหมด เมื่อเมย์ฝึกดาบผม เธอทำให้แน่ใจว่าทำให้ทั้งกายและใจของผมจดจำว่าเคลื่อนไหวอย่างไรด้วยยความแม่นยำแบบแน่นอนที่สุดจนกว่าพื้นฐานแล้วมันเป็นสัญชาตญาณของผม การฝึกนั้นรุนแรง และผมแม้แต่อาเจียนเลือดเป็นถังๆด้วยซ้ำ
นั่นถูกแล้ว ผมพยายามหลบการถูกขยี้ไปเป็นเนื้อกึ่งเหลวโดยการโจมตีของเมย์ระหว่างที่อาเจียนเป็นเลือด ทักษะปัจจุบันของผมเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกสิ้นหวังที่จะรอดชีวิตจากนรกนั้น
『เข้าใจแล้ว นั้นหมายถึงทักษะการต่อสู้ของกัปตันฮิโระได้ไปถึงระดับของปรมาจารย์ ทุกคน ได้โปรดปรบมือให้นักรบกล้าหาญผู้เผชิญหน้าผู้ถูกเลือกของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กัปตันฮิโระ!』
หลังจากคำพูดผู้ประกาศ คนดูระเบิดในเสียงเชียร์และปรบมือ ผมโบกมือไปให้คนดูและกลับสู่บริเวณรอของกลุ่มของเรา มีมิผู้ดูตื่นเต้นก้าวมาข้างหน้าและต้อนรับผมกลับมา
“ขอบคุณสำหรับงานหนัก ฮิโระซามะ! พี่เท่สุดๆเลย!”
“ขอบคุณ แต่มันมีปัญหานิดหน่อยน่ะสิ”
“เธอจะมีเวลาง่ายกว่าถ้าเธอใช้ดาบของเธอเองหือ”
“เอลม่าเน่ซัง ถ้าบอสใช้ดาบนั้น สนามแข่งจะเป็นทะเลเลือดแล้วแหละนะ……”
“เพราะทั้งหมดเธอกันดาบนั้นไม่ได้ด้วยใบมีดที่ทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนหรือด้ามหอกไม้ แขนขาพวกเขาจะบินเหมือนบ้าไปเลย”
“อย่าพูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นด้วยหน้ายิ้มเถอะนะได้โปรด พี่ใหญ่……”
พี่น้องช่างถอยออกไปจากเราอย่างช้าๆเนื่องจากคำพูดน่ากลัวของเอลม่าและผม คนบางคนอาจพูดว่านักรบเอลฟ์ไม่ได้สู้อย่างดีที่สุดเพราะพวกเขาไม่ได้ใช้เวทมนตร์โจมตี แต่ถ้านั่นเป็นที่พวกเขาอยากพูดมัน ถ้าอย่างนั้นแม้แต่ผมก็ไม่ได้ทำดีที่สุดด้วยเหมือนกัน ผมหมายถึง ผมไม่ได้ใช้ดาบโมเลกุลเดี่ยว, ปืนเลเซอร์, ปืนเลเซอร์กลจู่โจม, และเกราะพลังจักรกลพร้อมปืนขวานของมัน, อาวุธหนักเช่นเครื่องยิงเลเซอร์ของมัน, และระเบิด ให้ตายเถอะ ถ้าเราอยากจะเต็มที่ ถ้าอย่างนั้นผมนำกฤษณะและบัวดำด้วย พวกเขาควรขอบคุณแล้วที่ผมไม่ได้นำเมย์มาด้วย ดังนั้นผมเป็นคนที่ยั้งมือมากกว่ารู้ไหม
“ไม่ว่าอย่างไร ฉันทำงานเสร็จแล้วด้วยนี่”
“ครับ ผมขอโทษจริงๆสำหรับการนำท่านเข้าไปอยู่ในปัญหามากมาย”
เน็ก ผู้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน คำนับหัวเขาขอโทษ
“ฉันเดาว่าทั้งหมดที่เหลือคือส่งการร้องเรียนสู่แม่ของนายและเรียกการชดใช้ มันไม่ได้จำเป็นต้องเป็นบางอย่างไม่ทำธรรมดา แค่เอาเหล้าอร่อยๆให้ลูกเรือฉันหรือเครื่องประดับสวยๆและนั่นก็พอแล้ว”
ผมพูดนั่นกับเผ่ากราโดแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วตอนนี้ ผมแน่ใจว่าพวกเขาอยากเลี่ยงการให้ของขวัญซ้อนกัน ดังนั้นเราจะได้หลายแบบด้วยนี่
“ฮิโระซามะ พี่ไม่อยากได้อะไรให้ตัวเองเหรอ?”
“ไม่อ่ะ พี่พอแล้ว มันพอแล้วที่พวกเธอได้อะไรบางอย่างแลกเปลี่ยนกับปัญหานิดหน่อย มันไม่เหมือนว่าพี่จะได้ของที่พี่อยากได้อยู่ดี”
ถ้าเอลฟ์มีเทคโนโลยีเกราะพลังจักรกลน้ำหนักเบาล้ำหน้าสุดๆ ผมจะขอรุ่นสุดท้ายพร้อมกับชุดบำรุงรักษาพิเศษอย่างมีความสุข แต่มันไม่ได้ดูเหมือนพวกเขามีอะไรสักอย่างใกล้กับนั่น แน่นอน นั่นก็สำหรับเทคโนโลยียานอวกาศด้วยเหมือนกัน ให้ตายเถอะ พวกเขาแย่กว่าในส่วนนั้นด้วยซ้ำ
“เธอไม่มีความต้องการเยอะ ไม่ใช่เหรอ ฮิโระ?”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยล่ะรู้ป่ะ ฉันชอบของล้ำหน้าน่าสนใจ และถ้าฉันเจอบางอย่างที่ฉันให้ความสนใจ ฉันจะซื้อมันทันที นอกจากของวัตถุแบบนั้น ฉันก็มีระดับความต้องการมากอยู่ในสามความต้องการหลักรู้ป่ะ”
“สามความต้องการหลัก……”
“ไม่ อย่ามองฉันแบบนั้น เจ้าคนลามก”
“โอ้จากนั่นบอส หรือ น้องมองไปบริเวณหว่างขาของบอสทันทีหลังจากได้ยิน ‘สามความต้องการหลัก’ หือ เธอใจสรกปรกกว่าที่ฉันคาดนะวี”
“พี่สาว!!!”
วิสเกอร์ผู้หน้าแดงกระโดดใส่ทีน่าที่ยิ้มและพวกเธอทั้งสองเล่นกันเหมือนเด็ก ใช่ ฉากดูค่อนข้างอบอุ่นแต่ ‘เด็ก’ เหล่านี้มีกำลังที่ยกเหล็กน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัม ผมบอกเน็กให้ไปก่อนสำหรับเวลานี้เพื่อที่เขาจะไม่มาติดกับความบ้าทั้งหมด
ผมแค่มองดูการเล่นซนน่ารักสักพักและจากนั้นเปิดจอโฮโลที่ฉายภาพสดของสนามแข็งที่ถูกติดตั้งข้างในห้องรอ มันดูเหมือนการต่อสู้ของผมกับเหล่านักรบเอลฟ์แค่ถูกทำเป็นการเปิดงาน หรือ การแสดงการแข่งขัน และตอนนี้ การต่อสู้อย่างเป็นทางการระหว่างนักรบเอลฟ์เพิ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้น คนเหล่านี้เป็นงานหลักและผมเป็นแค่งานเสริมบางอย่างหรือ? อืม เพราะคนเยอะมารวมกันที่นี่ตอนนี้ ผมเดาว่ามันแค่ปรกติที่จะจัดงานอย่างเป็นทางการ แต่มากขนาดนี้กลายมาเป็นคนเข้าร่วมได้อย่างไรเมื่อข่าวเกี่ยวกับงานเพิ่งออกมาเมื่อวาน? ผมไม่เข้าใจวัฒนธรรมเอลฟ์
และดังนั้น คือนั้น เราถูกเชิญให้เข้าร่วมในอาหารค่ำค่อนข้างหรูหราในโรงแรมชั้นสูงที่ดีที่สุด อาหารทั้งหมดที่เสิร์ฟใช้วัตถุดิบชั้นสูงเหมือนเนื้อธรรมชาติเต็มรูปแบบ, ผลไม้, และผัก
“แต่พวกนี้มันแค่วัตถุดิบปรกติสำหรับเรา”
“เพราะทั้งหมดสถานการณ์ต่างกันในอวกาศ ไม่มีทางที่จะติดตั้งฟาร์มกว้างขวางข้างในโคโลนีอวกาศได้ และสำหรับปศุศัตว์ จะมีปัญหาในการรับมือกับการปล่อยแก๊สจากสัตว์ และไม่มีทางแก้ที่น่าพอใจแม้แต่ตอนนี้”
มันโดยไม่ต้องพูดสำหรับมนุษย์ แต่ปศุสัตว์ไม่มีปัญหากับการเรอและตดไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันรู้สึกอยากทำ จำนวนแก๊สที่ออกมาโดยสัตว์จากเวลาเมื่อมันเกิดสู่เมื่อที่พวกมันถูกเก็บเนื้อจะมหาศาลอย่างเป็นธรรมชาติ สัตว์ที่ใหญ่กว่าถูกเทียบกับมนุษย์ หรือยิ่งมันมีมากเท่าไร จำนวนการปล่อยยิ่งเยอะมากกว่า ในที่ซึ่งมีพื้นที่จำกัดเหมือนโคโลนีอวกาศ มันจะยากมากที่จะติดตั้งระบบที่มีประสิทธิภาพพอรับมือกับจำนวนการปล่อยทางชีวภาพมหาศาล
นั่นทำไมในโคโลนีอวกาศ มันกลายเป็นมาตรฐานที่จะใช้ตลับอาหารเติมเต็มด้วยแพลงก์ตอนพืช, แพลงก์ตอนสัตว์, และเศษผักเพื่อสร้างอาหารผ่านขั้นตอนด้วยเครื่องทำอาหารอัตโนมัติ
มีข้อยกเว้นเล็กๆ เหมือนต้นไม้เนื้อที่เราเยือนในระบบดาวเอลีน สถานที่เหล่านั้นเพาะเลี้ยงทางพันธุกรรมและเก็บสิ่งมีชีวิตที่สร้างมาให้เน้นการลดการปล่อยทางชีวภาพมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อสุดท้ายจะลดภาระบนระบบสนับสนุนชีวิตของโคโลนีด้วยเหมือนกัน นั่นทำให้มันเป็นไปได้ที่จะสร้างเนื้อที่อุดมด้วยโปรตีนด้วยประสิทธิภาพสูงและความเสี่ยงน้อยกว่า อืม แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นนานๆครั้ง
พูดถึงแล้ว ผลิตภัณฑ์เนื้อบนยานไม่ได้เป็นเนื้อเพาะเลี้ยงแต่เป็นเนื้อสังเคราะห์แทน พื้นฐานแล้วพวกมันเป็นโปรตีนสัตว์สังเคราะห์ทางเคมี
“และนั่นทำไมผลิตภัณฑ์เนื้อ, ผลไม้, และผักธรรมชาติถูกปฏิบัติเป็นของชั้นสูงในอวกาศ ลูกตาของนายคงถลนถ้านายเห็นว่ามันมีราคาเท่าไหร่ที่นั่น ฉันคิดว่าเนื้อโคเบขาย 1000 อีเนลต่อ 100 กรัม”
“พันอีเนลสำหรับแค่เนื้อร้อยกรัม…… นั่นแพงจริง”
และดังนั้น ผมมีความสุขกับอาหารระหว่างสนทนากับเน็ก
“เน็ก เน็กที่รัก แม่ขอโทษจริงๆ ดังนั้นได้โปรดยกโทษให้แม่ได้แล้ว”
“หืม? ผมขอโทษ แต่ผมค่อนข้างไม่ได้ยินแม่น่ะ แม่”
ผู้หญิงเอลฟ์ที่สวยงามกำลังถือบางอย่างดูเหมือนมูสสีเทาเข้มบนจานระหว่าผม, ลูกเรือของผม, และเน็กกำลังเคี้ยวอาหารหรูหราสไตล์มินฟา ผู้นำเผ่ามินฟา, คุณมิเรียม, ขอโทษลูกชายของเธอด้วยน้ำตาในดวงตา
“มาเร็ว แม่ ทำไมแม่ไม่กินอาหารที่ฮิโระซังนำมาจากยานเป็นพิเศษล่ะ? ไม่ดีใจเหรอ? เห็นว่านั่นเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารที่สมดุล มันเป็นขอมีค่าที่ปรกติแม่กินไม่ได้ที่นี่ในทีต้า ดังนั้นได้โปรดกินให้หมดจานโดยไม่เหลือไว้”
เน็กกำลังยิ้ม แต่ดวงตาเขาไม่ยิ้ม มิเรียมร้องไห้หนักขึ้นเยอะ เธอไม่มีศักดิ์ศรีทั้งในฐานะผู้นำเผ่าและในฐานะแม่ หรือ เอลฟ์ส่วนใหญ่ดูเด็กมากๆกว่าอายุของเขา ดังนั้นจริงๆแล้วมิเรียมและเน็กดูเหมือนพี่น้องแทนเป็นแม่และลูก
เอ๋ อะไรบนจานมิเรียม คนหนึ่งถาม โอ้มันแค่อาหารกึ่งเหลวงยังไม่ผ่านขึ้นตอนรู้ไหม
พูดถึงแล้ว เครื่องดื่มที่ถูกเสิร์ฟให้เธอเป็นหนึ่งในสูตรที่นำมาโดยเน็กครั้งที่แล้วที่มีรสชาติประหลาดมากที่สุด
“เครื่องดื่มของแม่ก็เป็นปัญญาของเผ่ามินฟา พวกเขาพูดว่ามันค่อนข้างดีต่อสุขภาพสำหรับแม่ มันเป็นเครื่องดื่มสมบูรณ์แบบสำหรับผู้นำเผ่าเหมือนแม่”
“ได้โปรด เมตตา…”
“ไม่ ตั้งแต่แรก แม่ไม่ควรขอโทษผม ถูกไหม?”
“แม่ขอโทษจริงๆ ขอโทษมากๆ ทุกอย่างเนื่องจากการทำอะไรด้วยความอยากฉับพลัน”
“อะไรที่แม่คิดตั้งแต่แรกที่ทำบางอย่างที่ทำให้ชื่อเสียงของทั้งเผ่าเสีย?”
“แต่เซชก็เห็นด้วยรู้ป่ะ”
“และผมสงสัยว่าหัวหน้าเซชทำอะไรใต้การดูแลของทิเนียตอนนี้?”
มันดูเหมือนเน็กติดต่อทิเนียทันทีเมื่อเขารู้เกี่ยวกับงานวันนี้
เขาเปิดเผยว่าเซชส่งนักรบไปเพื่อเข้าร่วมงานพร้อมกับบอกทิเนียให้พร้อมเครื่องแต่งการที่ถูกต้องด้วย
นั่นทั้งหมดก็ดีอยู่หรอก แต่ผู้ก่อเหตุสองคนคือหัวหน้าเผ่าสองเผ่าของสามเผ่าเอลฟ์หลัก ถูกไหม?
อำนาจพวกเขาคืออะไร? การเป็นหัวหน้าเผ่ามันเรื่องเล็กกว่าที่ผมคิดเยอะหรือ?
“เราจะทำอะไรเกี่ยวกับสองคนเหล่านั้น?”
“ดูพวกเขามันน่าสนใจดี ดังนั้นแค่ปล่อยพวกเขาไป”
ผมตอบเอลม่าขณะผมหั่นสเต็กที่ทำด้วยเนื้อของสัตว์ที่ไม่คุ้นเคยสู่ปากของผม อ๊ะ อร่อย ซอสนั้นประณีตเป็นพิเศษ
“คืนนี้ดูเหมือนเป็นมิเรียมเลี้ยง ทุกคน ดังนั้นอย่างยั้งมือเพื่อเธอ และกินดื่มมากเท่าที่อยากทำเลย”
“ใช่ ได้โปรดอย่าสงวนตัว แต่ฉันไม่ได้เป็คนจ่าย โอ้และไวน์ขาวมิลเลนดอร์ฟคู่สเต็ก ดู รัมดีจัง ได้โปรด ลองชิม”
ทันทีเมื่อเธอได้ยินชื่อไวน์ หน้ามิเรียมซีดอย่างชัดเจน มันดูเหมือนไวน์นั้นค่อนข้างแพงหือ ผมไม่รู้ว่างานนี้เปลี่ยนมาเป็นแบบที่มันเป็นได้อย่างไร แต่การเห็นหน้าผู้ก่อเหตุหลักซีดสีไปในความสิ้นหวังมันโล่งใจกับความรำคาญของผม
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu