ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 291 โถงรวมพลเผ่า
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 291 โถงรวมพลเผ่า
โดยมีลิเลียมเป็นผู้นำ เราเข้าโถงรวมพลเผ่าโรส ซึ่งเป็นค่อนข้างเป็นอาคารสูงตระหง่าน ไม่เข้าลิฟต์ และเดินไกลถึงอะไรที่ดูเหมือนห้องประชุม
มันมีโต๊ะประชุมที่ดูสำคัญวางอยู่กลางห้อง โต๊ะค่อนข้างทำให้ผมนึกถึงบางอย่างกลับไปที่ญี่ปุ่น
รู้ไหม มันโต๊ะพวกนั้นที่ตัวแทนรัฐบาลหลากหลายใช้ ที่มันออกมาในข่าวเยอะ
“ฉันนาซาริส รี โรส ผู้นำเผ่าโรสและวิสเคาน์กิตติมศักดิ์ ทางเทคนิคแล้วฉันเป็นขุนนางจักรวรรดิ แต่ตำแหน่งของฉันมันแค่กิตติมศักดิ์ ดังนั้นไม่ต้องทางการกับฉันมากมาย ให้เราได้คุยอะไรในใจกันดีมั้ย?”
“ขอบคุณ ฉันกัปตันฮิโระ ขอบคุณที่สละเวลาเพื่อเจอกับเรา พูดถึง การประชุมนี้มันเกี่ยวกับอะไรอยู่ดี? เราแค่ตามหลังลิเลียมมา แต่ฉันไม่คิดว่าเราจะเจอกับหัวหน้าทันทีที่เพิ่งมา”
เราถูกบอกให้นั่งและผมถามอะไรในใจทันทีที่เข้าที่ การเดินทางเราครั้งนี้เพื่อมาหาสมาชิกเผ่าวิลโรสที่อยู่ที่นี่บนทีต้าและไปชมวิวของดินแดนเผ่าโรสนิดหน่อย เจอกับหัวหน้าเผ่าโรสไม่ได้อยู่ในแผนเราเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณตรงดีนี่ อย่างที่คิดไว้กับทหารรับจ้างระดับทองคำขาว อืม เผ่าวิสโรสบอกฉันน่ะเห็นมัย มันเกี่ยวกับการไปที่นั่นของคุณ แม้ว่าคนที่อยู่กับคุณเป็นลูกสาวครอบครัวสาขาของวิลโรส พวกเขายังมีหน้าที่ต้องรายงานเมื่อลูกสาวที่ว่าจะมาหาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ดังนั้นได้โปรดอย่าโทษตระกูลวิลโรสเพราะเรื่องนี้ พวกเขาแค่ทำหน้าที่ที่มีกับเผ่าหลัก ฉันเป็นคนที่ยืนกรานให้ประชุมครั้งนี้เกิดขึ้น และฉันรับผิดชอบทั้งหมด”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นแล้วอะไรต่อ?”
ผมทำท่าเหมือนให้หัวหน้าเข้าประเด็นหลัก อืม ถ้าหัวหน้าพวกเขายืนกรานว่าจะเข้าประชุมตรงๆ ผมว่าไม่มีทางที่ตระกูลวิสโรสปฏิเสธมันไม่ได้ เพราะหัวหน้าคือคนบนสุดของปิรามิดผู้นำเผ่าโรส
มันค่อนข้างยากที่กลุ่มเดียวจะบอกไม่กับความคิดเร็วหรือไม่คิดของผู้นำ
“หืม ฉันจะขอโทษอีกครั้งที่พื้นฐานแล้วบังคับให้เราเจอกัน เราที่เป็นเอลฟ์ทีต้าสร้าง……สร้างปัญหาไว้มากๆสำหรับพวกคุณทั้งหมด ฮิโระโดโนะ”
คุณซาริสเพศชายแสดงสีหน้าเครียดเหมือนสุนัขจิ้งจอกทิเบต และตาเขามองแต่ความว่างเปล่า อ๊ะ– อืม จากที่ดู เขาควรเจอปัญหาเองเยอะด้วย แต่หน้าหนุ่มหล่อมันเสียไปกับสีหน้าแบบนั้นรู้ไหมหัวหน้า
“ฉันแค่หัวจะขอโทษจริงๆจากใจกับคุณเป็นการส่วนตัว ฉันขอโทษที่ถลุงอำนาจ”
หลังจากพูดอย่างนั้นคุณนาซริสคำนับเราต่ำ เอลฟ์อีกคนก็คำนับเหมือนกันกับเขา เหมือนที่เขาพูดแหละ วิธีทีใช้มันบังคับนิดหน่อย แต่ผมชอบความจริงที่พวกเขามีเจตนาขอโทษแทนเอลฟ์ทีต้าทั้งหมดและคำนับหัวอย่างจริงใจถึงจุดหนึ่งนั่นแหละ
“ฉันจะรับคำขอโทษ แต่ให้ฉันพูดว่าขอโทษนี้อย่างเดียวไม่เปลี่ยนที่ฉันมองเอลฟ์แล้วคิดยังไงหรอกนะ”
“แน่นอน ไม่ว่ายังไงฉันซาบซึ้งที่คุณตัดสินใจรับคำขอโทษสำหรับตอนนี้ เราเผ่าโรสจะจ่ายค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ ดังนั้นได้โปรดมีความสุขเต็มที่”
“ให้ฉันได้แนะนำนะหัวหน้านาซาริส คุณไม่ควรตัดสินใจเสนอบางอย่างเหมือนนี่ให้กับทหารรับจ้างในอนาคตด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สามัญสำนึกเราเกี่ยวกับเงินมันเห็นว่าห่างจากคนส่วนใหญ่แล้ว อย่าพูดว่าฉันไม่เตือน”
“ถ้านี่จะให้เราชดใช้สำหรับปัญหาทั้งหมดที่พวกเราก่อ ถ้าอย่างนั้นมันก็เสียอย่างคุ้มค่า”
คุณนาซาริสหัวเราะเบาๆและยักไหล่ในท่าทายสบายๆ อืมเผ่าโรสคือฝ่ายที่รวยที่สุดในทีต้าอยู่ดี
ดังนั้นนี่หมายถึงเราปล่อยเนื้อปล่อยตัวเต็มที่และจัดปาร์ตี้กันให้เต็มๆได้หรือ?
เพราะพวกเขาเป็นคนเสนอ ถ้าอย่างนั้นมันเสียโอกาสไปเปล่าๆที่จะไม่รับเจตนาดีของเขา
“อืมถ้าอย่างนั้น ผมว่าเราจบไว้ตรงนี้ เพราะถ้ามันทำให้คุณไปชมวิวไม่ได้มันทำไม่ได้ ผมจะให้ลิเลียมเป็นไกด์นำเที่ยวคุณต่อ ถ้ามีอะไรจะขอ คุณบอกเธอได้เลยแล้วเราจะให้อย่างเต็มที่ให้คุณ
ผมหันหาลิเลียมที่เขาพูดถึงและเห็นเธอคำนับผมพร้อมสีหน้าสง่าอย่างสงบ
แน่นอนมันช่วยได้ถ้าเธอเป็นไกด์นำเที่ยวเราต่อเพราะเราคุ้นหน้ากับเธอแล้ว เธอพอจะรู้ว่าเราคาดหวังอะไรง่ายกว่าไกด์นำเที่ยวคนใหม่
“โอ๊ะ ก่อนฉันลืมให้ฉันได้คืนนี่กับพวกคุณ”
หลังจากพูดอย่างนั้นผมวางเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างเก้าอี้ผมมและวางบนโต๊ะประชุม เมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เหนือโต๊ะดูเหมือนหอกสองหัวที่มีสว่านเป็นเกลียวแหลมๆชี้ออกข้างนอก ตัวมันส่วนหนึ่งเปลี่ยนรูปเป็นวัตถุดิบผลึกเขียวๆออกฟ้า
“นั่น…… นั่นมีความสำคัญกับเผ่าเอลฟ์เรามากมาย…… คุณ แน่ใจ่ที่จะมอบให้เราง่ะ– ง่ายมาก?”
“มันอาจหาเหมือนกันไม่ได้สำหรับเอลฟ์อยู่ทีต้าเหมือนคุณ แต่ไม่ใช่สำหรับผม แค่มีมันก็ให้ผมรู้สึกเหมือนผมจะติดกับเรื่องมีปัญหาเพียบ นอกจากนั้น เราจะออกระบบดาวรีฟิลอีกไม่นานแล้ว ผมเอาไปกับผมไม่ได้ อย่างแน่นอน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดผมคิดให้มันกับพวกคุณ”
หรือผมแค่อยากเอาของต้องสาปไปไกลๆให้เร็ว ยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ผมจะไม่พูดดังๆเพราะน่าจะทำให้เอลฟ์โกรธ
“รับทราบ…… ถ้าตัวคุณยืนกรานฮิโระโดโนะ ถ้าอย่างนั้นเราขอนตอบน้ำใจรับมัน เราจะรับผิดชอบดูแลเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
“ได้โปรดทำอย่างนั้น ผมเจอปัญหาติดๆกันตั้งแต่ผมเจอเจ้านั่น ให้แน่ใจว่าดูแลมันดีๆนะ? ที่ผมสื่อคืออย่างจริงจัง”
“เราค่อนข้างพอทราบครับ เพราะเรามีประวัติยาวนานกับเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ”
“พี่ส่งมันไปแบบนั้นจริงๆฮิโระซามะ มันจะดีจริงๆเหรอ?”
อยู่ดีๆมีมี่ก็ถามระหว่างเรานั่งรถไปบ้านใหญ่ของตระกูลวิลโรส
“พี่บอกไปนิดนึงกับเมย์แล้ว แต่ไม่ว่าดูยังไง เราเลือกเอามันไปกับเราไม่ได้แน่นอน คืนมันไปที่ที่มันควรอยู่ดีกว่า พี่อธิบายตรงๆไม่ได้ว่าทำไม แต่พี่ค่อนข้างรู้สึกเหมือนเราไปรับภาระหนักอึ้งถ้าเราเก็บเจ้านั้นไว้ต่อนานกว่านี้นิดนึง”
ไม่มีอะไรบางอย่างชัดเจนเห็นได้ แต่ผมเดาได้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น มีโอกาสเยอะที่เมล็ดเปลี่ยนส่วนหนึ่งของมันเป็นขั้นตอนงอกหรืออะไรแบบนั้น
“ไม่ว่ายังไง เลิกคุยเกี่ยวกับของต้องสาประดับพิเศษนั่นได้แล้วแหละ พี่ขอล้างมือความเกี่ยวข้องใดๆมากกว่านี้ นั่นตัดสินสุดท้าย”
“ถ้าพี่พูดอย่างนั้นฮิโระซามะ……”
ด้วยเหตุผลบางอย่างมีมี่ดูหม่นๆ มันน่าจะเพราะเราเจอเจ้านั่นด้วยกัน และมีมี่ใช้เวลาคุยกับมันหลายครั้งด้วย เธอออาจรู้สึกเหงาเล็กน้อยเพราะมันค่อนข้างเหมือนลากับเพื่อน มั้ง
“เฮ้เน่ซัง คนจากตระกูลวิลโรสเป็นยังไงนะ?”
“หืม คิดก่อน พวกเขาดูแล้วค่อนข้างปรกติฉันว่า ฉันไปหาพวกเขาครั้งเดียวเมื่อฉันยังเด็ก ฉันเลยจำไม่ได้มากจริง แต่จากเรื่องต่างๆที่ได้ยินจากพ่อ ครอบครัวหลักตระกูลวิลโรสเป็นคนแก่สุดในหมูครอบครัวทั้งหลายที่มีค่าในเผ่าโรส”
“หืมม…… มีญาติที่สนิทได้เมื่อไปหาพวกเขามั้ยเน่ซัง?”
“ฉันไม่คิดว่าฉันได้สนิทกับใครพิเศษเพราะพวกเขาทั้งหมดพยายามเอาใจมากเท่าที่ทำได้ตอนนั้น แต่ฉันจำได้อยู่ว่าเล่นกับญาติผู้หญิงโตกว่า”
“อย่างนั้นเหรอ มันจะดีถ้าเราเจอพี่สาวได้หลังจากนี้”
“เธอเป็นผู้ใหญ่นานแล้ว ดังนั้นมีโอกาสดีว่าเธอเปิดมุมมองโลกให้กว้างขึ้นและไปดูโลกที่มีมากกว่านี้รู้มั้ย ไม่รู้สิ? เธออาจไปผู้หญิงการงานประสบความสำเร็จแล้ว”
เอลม่าที่ถูกถามโดยทีน่ากับวิสเกอร์เอียงหัวไปด้านข้างก่อนตอบ ควรเป็นอย่างนั้นแน่นอน แต่ผมสัยว่าเอลฟ์อายุเท่าไหร่ถึงจะผู้ใหญ่? ผมว่าผมจะถามเอลม่าทีหลัง
“ฉันสงสัยว่าอาหารแบบไหนที่เราจะได้กินครั้งนี้”
“หนูก็รอคอยมันด้วย”
จากความคิดที่มีกับอาหารเอลฟ์ส่วนตัว มันใกล้เคียงกับอาหารญี่ปุ่นมากกว่าอาหารตะวันตก ผมไม่ได้มีโอกาสกินมากตอนอยู่ในโลก แต่ผมคิดว่ามันคล้ายกับอาหารไต้หวัน
พูดถึงแล้ว หลังเราไปหาเผ่าวิลโรสและทักททายเสร็จ เราวางแผนค้างโรงแรมดีๆและทำการสบายตัว เราจะไปชมวิววันต่อมา แต่ถึงพูดเราไม่มีแผนอยู่นาน เท่าที่พวกคนน่าสงสัยพวกนั้นยังอยู่ในอวกาศ มันจะอันตรายที่อยู่นานเกินไป ใครจะรู้ว่าพวกเขากำลังปรุงกับดักแบบไหนใส่เรา หลังจากดูวิวจนอิ่ม เรามีแผนใช้เครือข่ายประตูทางเพื่อดำเนินการกระโดดระยะไกลสุดๆตรงไประบบดาวเทคโนโลยีล้ำหน้า มีแค่คนมีสิทธิพิเศษไม่กี่คนและกองทัพจักรวรรดิที่ใช้เครือข่ายประตูทางได้ ดังนั้นพวกเขาน่าจะตามเราไม่ได้หรังจากกระโดด
แน่นอนมันเป็นไปได้ที่พวกเขาคาดไว้แล้วว่าเราจะใช้ประตูทาง
มีโอกาสดีที่พวกเขาจะคาด จริงแล้วถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาน่าจะตั้งตาข่ายบางอย่างตามทางไปประตูทางเพื่อจับเราไว้ ดังนั้นเราทำอย่างไรล่ะ? โชคร้ายที่มันจะยากที่หนีพวกเขาเนื่องจากความช้าของบัวดำ ดังนั้นมันจะดีที่สุดที่จะใช้เส้นตรงไปประตูทาง ไม่ว่ามีกับดักหรือไม่มีกับดัก
“หืมม……”
“ฮิโระซามะ?”
“ไม่มีไร พี่แค่คิดนิดหน่อย”
เพราะมีความต่างระหว่างพลังการต่อสู้ระหว่างเราและพวกเขา เราเลือกจะเจอพวกเขาตรงๆไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าเราสู้ผมน่าจะทำลายยานพวกเขาไปได้ค่อนข้างเยอะ แต่บัวดำน่าจะถูกยิงร่วงจากการโดนเน้นระดมยิง กฤษณะจะสามารถหนีได้ แต่เสียยานแม่ก็เหมือนแพ้ แน่นอนมีทางเลือกทิ้งบัวดำและหนีไปด้วยกฤษณะกับพี่น้องช่างและเมย์ติดมาด้วย แต่…… ผมไม่อยากทำอย่างนั้น ไม่มีทางเลย มันจะสูญเสียเยอะที่จะทิ้งบัวไป และมากกกว่านั้นมันรู้สึกเหมือนผมวิ่งหนีหางจุกตูดหลังจะโดนตีก้น นั่นก็เหมือนกับแพ้
“อืม ยังมีไพ่ที่พี่เล่นได้”
ใช่ ถ้าเราสู้พวกเขาตรงๆไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ทำอย่างอื่น
ที่เหลือจะขึ้นอยู่กับพวกเขาจะตามเรามาอย่างไร