ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 298 สถานการณลำบากที่พาสูญเสีย
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 298 สถานการณลำบากที่พาสูญเสีย
“น้องจะไม่ร้องดัง ‘ไม่นะ ไม่นะ!’ เหมือนเคยเหรอมีมี่?”
ผมหลบสิ่งมีชีวิตผลึกที่พุ่งหาเราจากทุกทิศอย่างสง่า เอ่อ จริงๆ ‘สง่า’ อาจอธิบายไม่ได้ถูกต้องนัก เพราะพื้นฐานผมเร่งเครื่องขับดันหลักกับความสูงสั้นๆและพุ่งยานเต็มกำลังแบบควบคุม ดังนั้นมันเหมือนซิกแซกและกระชากไปมาทุกที่มากกว่าอะไร
“นี่ครั้งที่สามของหนูแล้วนาพี่รู้มั้ย……”
ผมใช้สมาธิกับการต่อสู้ ผมเลยไม่เห็นสีหน้าของมีมิ แต่เธอฟังดูค่อนข้างใจเย็นแม้เราอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ ก็ไม่เหมือนว่าผมสบายเหมือนกัน
เพราะนี่คือฝูงสิ่งมีชีวิตผลึกที่มีจำนวนพอสร้างความเสียหายหลักกับกองยานกองทัพจักรวรรดิขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าเราปะทะมันตรงๆ กฤษณะที่เป็นยานเล็กจะไม่ไหว มันจะเป็นจบเกมถ้าผมแค่พลาดครั้งเดียวเพราะพวกมันจะแยกชิ้นส่วนและดูดกลืนกฤษณะไป
ใต้สถานการณ์อย่างนั้น บัวดำและเหล่าทหารรับจ้างที่คุ้มกันเธอในที่สุดก็หนีด้วยการกระโดดครส.เมื่อกี้ ผมสามารถเดาสถานการณ์นี้ก่อนเรากระโดดออกมาอวกาศปรกติ เราเลยสามารถพอคิดแผนได้ก่อน แต่ถ้าผมไม่ได้คิด ถ้าอย่างนั้นเราจะเจอชะตาเดียวกันกับกองยานสหพันธรัฐเวเรเวเรมกลับเมื่อเมื่อตอนระบบดาวเทอร์เมน
“เธอขับไปมาเยอะไป! ฉันล็อกเป้าดีๆไม่ได้เลย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอไม่ต้องล็อกพวกมันหรอกรู้ป่ะ แค่ยิงๆใส่มันและเดี๋ยวมันก็โดนบางอย่างเองแหละ”
“หยุดล้อเล่นและให้เราออกจากที่นี่ทีเถอะ! เซลล์โล่จะอยู่นานไม่ไหว!”
“จะเต็มที่นะครับคุณผู้หญิง”
เหมือนเอลม่าพูด เพราะบัวดำและที่เหลือหนีไปแล้ว กฤษณะไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเราแค่เจอฝูงสิ่งมีชีวิตผลึกฝูงเล็กๆ เราเลือกวาดล้างพวกมันเพื่อเอารางวัลจากองทัพได้ แต่เพราะเราเจอฝูงที่มีมากกว่า 500 ตัวทั้งประเภทเล็ก, กลาง, และใหญ่ มันจะลำบากเกินไปที่กฤษณะจะเก็บพวกมันทั้งหมด ผมไม่ได้พูดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผมต้องสู้แบบสังหารมาราธอนเป็นห้าถึงหกชั่วโมงโดยไม่เลิกใช้สมาธิเลยแม้แต่ครั้งเดียวนั้นมันก็ยากไปด้วย
ถ้าอย่างนั้น ทำไมเรายังอยู่กันล่ะ มีตำถาม? ง่ายๆ มันเพราะการหนีระหว่างถูกล้อมโดยศัตรูมากมายทุกทิศทางมันยาก แม้แต่สำหรับผม ตอนนี้กฤษณะคล้ายกับติดอยู่กลางเขาวงกตแห่งการสังหาร – หรือการจ้องจะสังหารเพื่อกิน – โดยสิ่งมีชีวิตผลึก
มากกว่านั้น โครงสร้างเขาวงกตเปลี่ยนไปมาอย่างไม่หยุดทำให้มันยิ่งหาทางออกยากขึ้น
“อืม ในที่สุดความช่วยเหลือก็จะมา มันเลยไม่เป็นไรถ้าเราไม่รีบ”
“อาจเป็นอย่างนั้นจริง แต่สถานการณ์อย่างนี้ไม่ดีกับหัวใจน่ะสิรู้มั้ย……”
ขณะผมฟังมีมี่บ่นวิตกอุบอิบเสียงเบาๆ ผมยิงปืนใหญ่ซองเพื่อขยี้ขนาดเล็กหลายตัวหน้าเราพร้อมกันและพุ่งเอากฤษณะลอดช่องเล็กๆที่เปิดขึ้นเพื่อหลบการถูกล้อม
สำหรับเสริมการโจมตีเมื่อครู่ ผมระเบิดหัวจรวดตอร์ปิโดปฏิกิริยาตอบสนองเพื่อที่จะดึงความสนใจ แล้วก็ บัวดำกับเหล่าทหารรับจ้างที่หนีจากที่นี่จะรายงานฐานกองประจำการระบบดาว พวกเขาเลยน่าจะมา กองกำลังระบบดาวพื้นที่ควรให้ความสนใจใกล้ชิดกับทางเข้าเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดด้วยเหมือนกัน
『คุณดูเหมือนลำบากอยู่นะ หนุ่มใหญ่…… อยากให้ช่วยมั้ย?』
ตอนผมหลบการโจมตีของสิ่งมีชีวิตผลึกและหวังให้กำลังเสริมรีบมา ผมได้ยินเสียงคุ้นที่มีประสงค์ร้ายแบบเล่นๆแฝงอยู่ มันไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเสียงผู้นำหอกแดง กัปตันแมรี่
“ฉันไม่แน่ใจว่าเธอดูเราจากไหน แต่เคยได้ยินมั้ยว่า ‘เล่นกับไฟจะโดนเผา’?”
『โอ? อืม นี่น่าตกใจ คุณกังวลกับฉันน้อยๆนี่เหรอ?』
“ถูกแล้วแหละ ฉันดีกับผู้หญิงสวย”
ผมโกหกแหลกแน่นอน มันจะอันตรายถ้ามีการโจมตีบินมาและทำให้สิ่งมีชีวิตผลึกตื่นตัว
อืม ผมจะไม่บ่นถ้าอย่างน้อยพวกเธอเอาฝูงบัดซบนี้ไปสักครึ่ง แม้มันแค่หวังลมๆแล้งๆ
『ฮ่าฮ่าฮ่า คุณไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงใช่มั้ยล่ะ? ถูกทำอย่างนี้ใส่มันสดชื่นดีนะ จริงๆแล้วน่ะ』
ผมรู้สึกถึงลางไม่น่าพอใจอย่าเหลือเชื่อมากระทันหันและผมรีบใช้งานเครื่องขับดันด้านข้างเพื่อกระแทกเข้าใส่สิ่งมีชีวิตผลึก
ระบบควบคุมแรงเฉื่อยลดแรงเร่งฉับพลันไม่ได้และคอผมเกือบหักไปข้างๆ แรงสะท้อนที่เกิดขึ้นเพราะโล่พลังงานกระแทกสิ่งมีชีวิตผลึกกระเด็นออกไป มันค่อนข้างแรงและบุ่มบ่าม แต่ผมยืนยันว่าผมตัดสินใจถูกเมื่อเส้นแสงหลากสีแทงที่ที่กฤษณะเคยอยู่เมื่อกี้
『โอ้? ขอโทษนะเมื่อกี้ เราพยายามยิงสนับสนุน แต่มันเกือบโดนพวกเดียวกันแล้ว เพราะสิ่งมีชีวิตผลึกเย้อเยอะล่ะนะ』
“อีกจั*ไรบัดซบนี่……”
“ม-เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน!?”
“แรงส่งพลังงานอยย่างน้อยมันก็เท่ากับปืนใหญ่หลักของยานลาดตระเวน มันอาจเทียบยานประจันบานได้เลยด้วยซ้ำ”
การโจมตีนั่นน่าจะมาจากปืนใหญ่มากที่หัวยานของยานสีแดงที่ดูพอจะคล้ายๆกฤษณะ
เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นแนวคิดมันคือผสมความคล่องตัวสูงๆเข้ากับพลังการยิงด้วย แปะอาวุธที่เท่าเทียมกับปืนใหญ่หลักของยานประจันบานบนยานขนาดเล็กที่เร็วและคล่องตัวอย่างนั้นหรือ? พื้นฐานมันเป็นแบบนั้น ผมว่า
ผมไม่แน่ใจว่าปืนใหญ่นั้นทรงพลังแค่ไหน, ยิงไกลแค่ไหน, และตัวยานเองมันคล่องตัวแค่ไหน แต่ขึั้นอยู่กับมันขับอย่างไร มันควรเป็นยานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เพราะพวกเขาสร้างปัญหาในการสร้างกองยานรอบมันและแต่งตั้งกลุ่มคุ้มกันเฉพาะให้ตามติดยานไปด้วย ความคล่องตัวและความสามารถบินต่อสู้ใกล้ไม่ควรจะสูงมาก
แต่แม้ว่าผมรู้แล้วมือผมยังถูกมัดด้วยสถานการณ์นี้! บัดซบจริงๆ!
“โล่เป็นยังไงบ้าง?”
“มันไม่ได้ดับ แต่ใช้เซลล์โล่แล้ว”
“บัดซบ”
เซลล์โล่เป็นหน่วยประกอบที่ชาร์จโล่พลังงานที่พลังงานหมดใหม่ คนต้องใช้มันก่อนโล่ดับ ดังนั้นถ้าพลาดจังหวะ มันอ้อมมากัดบั้นท้ายได้ น่นทำให้พวกมันใช้ดีๆยาก
พวกมันเป็นของใช้ครั้งเดียวอย่างเป็นธรรมชาติ และจำนวนที่ใช้กับยานได้ก็ถูกจำกัดไว้ด้วย ผมตรวจตัววัดเซลล์ที่เหลือที่มุมตา มีเหลือแค่สาม
“อา แต่เพราะการโจมตีก่อนหน้า มีรูเปิดในวงล้อม!”
“เราใช้มันไม่ได้ เราจะแค่ถูกเล็งททันทีที่เรากระโดดใส่ช่องเปิดนั้น”
ไม่ได้มีสัญญาณเตือนว่าถูกล็อกเป้าหมาย พวกเขาต้องเล็งเราแบบธรรมดา ฉิ*หาย จะไม่มีร่องรอยการโจมตีถ้าพวกเขาเล็งธรรมดาโดยไม่ล็อก
แม้ว่าเราโดนซุ่มยิง พวกเขาแค่พูดว่า ‘มันอุบัติเหตุจากยิงพลาด’
มากกว่านั้น เซ็นเซอร์ทำงานดีๆไม่ได้เพราะเราถูกล้อมโดยสิ่งมีชีวิตผลึก แม้ว่าเราคำนวณสามมุมหาตำแหน่งคนยิง เราจะไม่สามารถเจอตำแหน่งปัจจุบันของศัตรูและรู้ว่าจริงๆพวกเขาไกลจากเราแค่ไหน พูดจริงๆนี่ ให้ตายเถอะ
ซุ่มยิงเราโดยใช้ปืนใหญ่ที่เจาะได้แม้แต่กำแพงสัตว์เอเลี่ยนจอมสังหาร
ผู้หญิงคนนั้นมันข่าวร้ายจริงๆ
『อึน ทำยังไงดีน้า สงสัยจัง? ฉันอยากยิงช่วย แต่มันจะไม่ดีถ้ามันโดนคุณแทนถูกป่าว? เซ็นเซอร์เราก็ใช้ดีๆไม่ได้ด้วยเหมือนกัน พวกมันถูกกันโดยสิ่งมีชีวิตผลึก ที่รักโอ้ที่รักเอ๋ย』
“แค่หน้าไม่อายแค่ไหนกันเธอนี่!?”
『น่ะฟุฟุ…… ได้เลยถ้าอย่างนั้น เราจะยิงช่วยอีกครั้ง หลบให้ดีๆละกัน อ่ะเคร้?』
เสียงแมรี่ไม่ซ่อนความโหดร้ายและเจตนาร้ายของเธออีกต่อไปก้องจากระบบสื่อสาร มันทำให้ผมเสียวสันหลัง ไม่ดีแล้ว นี่มันความลำบากเจียนตาย