ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 302 สู่ดินแดนใหม่
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 302 สู่ดินแดนใหม่
ผมนั่งบนโซฟาหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องพักกว้างขวาง วางหัวเอลม่าบนตักผม และเริ่มลูบมัน จากนั้นผมดูข้อมูลโดยใช้เครื่องปลายทางข้อมูลพกพา เราตัดสินใจว่าเราจะไประบบดาวไหนโดยใช้ประตูทางต่อ แต่เราไม่ได้ตัดสินใจวางแผนเส้นทางเดินทางหลังเราไปถึงที่นั่นแล้ว
“ดูอะไร?”
“หืม? ฉันดูรายการบริษัทเทคโนโลยีล้ำหน้าที่ตั้งอยู่ในระบบดาววินดาส”
เอาม่าขยับหัวให้เห็นหน้าผมตรงๆ ผมเลยเอาจอเครื่องปลายทางให้เธอดู แต่เธอผลักแแขนออกไปข้างๆ และมองหน้าผมเงียบๆต่อ
“ทำไมเธอดูเครื่องปลายทางข้อมูลเมื่อมีฉันนอนหนุนตักเธออยู่?”
“อุ่ว้าาา แค่ดูเธอสิทำตัวมีปัญหาสิ แต่มันน่ารัก ฉันเลยชอบ”
“แล้วหมายความว่ายังไงที่ว่าฉันมีปัญหา?”
ผมลูบหัวเอลม่าที่พองแก้มเบาๆและโยนเครื่องปลายทางข้อมูลไว้ข้างๆ เพราะตอนนี้เธออยู่ในระบบ ‘เอาใจฉันให้จนเน่า’ ผมเลยว่าผมจะแค่เล่นตามบทไป
“อืม เธอดูแลฉันดีมาตลอดเอลม่า ดังนั้นฉันให้เธอใช้ได้เต็มที่คุณผู้หญิงของฉัน”
“จ้าจ้าอย่างนั้นแหละ มันควรเป็นอย่างนั้น”
เอลม่าผู้ยิ้มภูมิใจและพอใจตัวเองเต็มที่ น่ารักโคตรๆ ถ้าอย่างนั้น ผมทำต่ออย่างไรดี? อืม ผมมีเวลาเหลือเฟือ ดังนั้นเล่นตามมันและทำอะไรที่เข้ามาในใจเถอะ
ผมใช้เครื่องปลายทางข้อมูลเพื่อปรับระบบห้องพักนิดหน่อย ใช้งานจอโฮโล และเล่นวีดีโฮโลภาพทิวทัศน์ป่าพร้อมกับเสียงผ่อนคลาย
“……รสนิยมเหมือนคนแก่เลย ฉันรู้สึกเหมือนต้นมอสส์จะขึ้นฉันแล้วเนี่ย”
“ได้ถ้าอย่างนั้น อยากให้ฉันเปิดเดทเมทัลของมีมี่แทนมั้ย?”
“ไม่เอาตาบื้อ”
โอ้และพูดถึง มีมี่ไม่ได้ฟังแต่เดทเมทัลและร็อกอย่างเดียวรู้ไหม บางเพลงแปลกจากมุมมองผมแน่นอน แต่จริงๆแล้วเธอฟังเพลงหลายแบบหลายแนวเพลง
มันเหมือนความชอบสื่อของมีมี่มันค่อนข้าง อืม พิเศษไม่เหมือนใคร
“เอาน่า แม้ว่ามันโบราณ มันช่วยให้ผ่อนคลายถูกมั้ย? ฉันคิดว่าความหรูสุดของชีวิตคืออยู่เฉยๆแบบนี้โดยไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ”
“มั้ง”
หลังจากนั้น ผมใช้เวลาผ่อนคลายระหว่างจีบกับเอลม่า เธอน่ารักมากจนไร้สาระเลยล่ะ
หลังจากรออีกไม่กี่วัน ในที่สุดเราก็ถูกดูแลเส้นทางไประบบดาววินดาสแล้ว
เอ๋? ผมใช้เวลาไม่กี่วันนี้ทำอะไรหรือ? จำเป็นต้องตั้งคำถามด้วยหรือ? ผมสนุกกันเต็มที่กับทุกคนในบัวดำแน่ๆ เพราะเราระวังสักพักก่อนมาที่นี่ และตอนนี้เรามีโอกาสผ่อนคลาย เราใช้เวลานี้กันให้เต็มที่ได้
อืม เอาเรื่องนั้นไว้ก่อนตอนนี้และคุยเกี่ยวกับเป้าหมายต่อไปของเราดีกว่า ระบบดาววินดาส จริงๆแล้วมันใกล้กับเมืองหลวงและมีโรงต่อยาน, โรงงานอาวุธ, และตัวแทนจำหน่ายในทั้งจักรวรรดิอยู่รวมกันเยอะที่สุด แม้แต่สำนักงานใหญ่กลางกองทัพจักรวรรดิก็อยู่ในระบบดาววินดาส และมันถูกคิดเป็นหนึ่งในสถานีทางการค้าและกองทัพที่ใหญ่สุดในจักรวรรดิกรากัน
มันค่อนข้างมีความได้เปรียบทางภูมิประเทศ (แม้ว่าเราอยู่ในอวกาศ) มันมีเข็มขัดดาวเคราะห์น้อยและดาวเคราะห์ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่และวัตถุดิบ ระบบดาวข้างเคียงที่เชื่อมกับมันโดยเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดก็ผลิตโลหะหายากจำนวนเยอะมาก ระบบดาววินดาสก็ยังมีดาวเคราะห์อยู่อาศัยได้หลายดวงด้วย และเติมความจริงที่มันใกล้เมืองหลวง คนจะได้สูตรพัฒนาแบบมหาศาล
“อึม สำนักงานใหญ่กลางของกองทัพ……”
ผมพูดเบาๆระหว่างดูข้อมูลจุดหมายต่อไปของเราบนจอโฮโลระหว่างพักอยู่ในห้องพัก
“เราจะเจอคคนนั้นอีกแล้ว?”
“เมื่อดูระยะเวลา ฉันจะไม่ตกใจถ้าเราเจอนะจริงๆแล้วน่ะ”
มีมี่และเอลม่าที่นั่งโซฟาเดียวกันกับผมดูข้อมูลแล้วยิ้มขมขื่นจากนั้นยักไหล่ยอมแพ้
เพราะคนที่เราพูดถึงนั้นก็คือคนที่เพิ่งถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นนาวาเอกสดๆเซเรน่า มันดูเหมือนเรามีอะไรเชื่อมหากันอย่างลึกลับ คนที่นำปฏิบัติการปราบธงแดงคือเธอ มันหลายอาทิตย์แล้วหลังปฏิบัติการสรุปลง เธอควรรายงานระดับสูงในกองทัพแล้วดังนั้นมันไม่แปลกถ้าเธอและคนของเธอตอนนี้อยู่ระหว่างเติมเสบียงและทำการบำรุงรักษายานและอุปกรณ์
“อืม กังวลบางอย่างแบบนั้นมันไม่มีประโยชน์แล้วตอนนี้ฉันว่า ถ้าเราเจอเธอมันก็ธุรกิจเหมือนเดิม…… อย่างน้อยฉันก็คิดอย่างนั้น”
“ใช่ แต่ฉันแน่ใจว่าเดี๋ยวก็เจอเธออีก”
“มีความรู้สึกเหมือนตะหงิดว่าเป็นแบบนั้นแหงๆ ถูกมั้ยเอลม่าซัง?”
“เราพูดเรื่องนี้กันมากี่รอบซ้ำๆแล้วล่ะเนี่ย?”
พูดตรงๆมันลึกลับสุดๆที่เราเจอนาวาเอกเซเรน่าอยู่นั่นแม้ว่าจักรวาลช่างกว้างใหญ่
แม้แต่ผมยังเริ่มเชื่อว่าเรามีชะตาบางอย่างระหว่างเรา อืม แต่ผมไม่ได้มั่นใจเต็มที่ว่าผมจะเจอกันครั้งนี้
“ถ้าอย่างนั้น คุณนางเอกมียานในใจยังล่ะ?”
“อึน ฉันเลือกไว้ไม่กี่ลำแต่เธอแหละเป็นคนสุดท้ายว่าเราจะซื้อยานไหนสรุปอยู่ดี ถูกมั้ยฮิโระ?”
“อืมใช่ ฉันว่า ฉันมีแผนในใจแต่เราตัดสินใจแน่ๆก่อนไปถึงที่นั่นไม่ได้หรอก”
“จริง เรามีทีน่าและวิสเกอร์กับเราครั้งนี้ มันเลยจะดีที่จะได้ยินความเห็นมืออาชีพของพวกเธอด้วยเหมือนกัน”
“เข้าใจแล้ว หนูเรียนมาเยอะแต่หนูว่าหนูยังต้องเรียนอีกเยอะเนาะ”
“เพราะหนูดูแค่คุณสมบัติตอนเลือกยานไม่ได้ ต้องเอาพวกสมดุลน้ำหนัก, ตำแหน่งเครื่องขับดัน, และความใช้งานง่ายมาคิดตอนเลือกด้วยเหมือนกัน แน่นอนมันสำคัญที่หนูต้องได้ประสบการณ์ขับยานหลายๆแบบโดยใช้เครื่องจำลองก่อน มีมี่ แต่มันสำคัญที่ได้ประสบการณ์จริงด้วย”
เรามีหลายเป้าหมายที่ไประบบดาววินดาส แต่เหตุผลหลักๆหนึ่งคือไปที่นั่นแล้วหาและซื้อยานใหม่ให้เอลม่าใช้
เมื่อคิดถึงระยะยาว มันดีกว่าที่จะเตรียมให้มีมี่ด้วยเหมือนกัน แต่โรงจอดบัวเก็บได้แค่ยานเล็กสองลำ ถ้าเราอยากให้มีมี่มียานเองด้วยในอนาคต ถ้าอย่างนั้นเราอาจต้องสับเปลี่ยนยานแม่
อืม แต่มันยังไม่ถึงเวลากับบางอย่างแบบนั้นอยู่ดี
“แต่เราจะไม่แค่ซื้อยานอย่างเดียวครั้งนี้ถูกมั้ย?”
“ใช่ ฉันก็อยากซื้อเกราะพลังงานจักรกลรุ่นน้ำหนักเบาด้วยเหมือนกัน พูดตรงๆ ฉันไม่อยากเจอบางอย่างแบบนั้นอีกแล้ว แต่…… เพราะฉันไม่มีวันรู้ก่อนล่ะนะ”
ความจำที่ถูกทิ้งไว้กกลางดาวเคราะห์ที่กำลังปรับผิวดาวและถูกโจมตีโดยสัตว์ประหลาดปรับแต่งพันธุกรรมลอยกลับมาในหัว
เพราะศัตรูเราย้อนไปตอนนั้นคือขุนนางจักกรวรรดิ มันปิดฉากเขาโดยไม่ใช้ดาบยาก
อย่างไรก็ตาม แค่ผมและนาวาโทเซเรน่าสู้ด้วยดาบได้กลับไปตอนนั้น นั่นทำไมสุดท้ายผมสู้กับสัตว์ประหลาดปรับแต่งพันธุกรรมกระหายเลือดโดยไม่ได้ใช้เกราะพลังงานจักรกลเลย และแค่ใช้ร่างเนื้อ มันบ้าไปแล้ว ผมไม่อยากทำแบบนั้นอีกแล้ว
ไม่ว่าอย่างไร ผมอยากอยู่ห่างๆเหตุการณ์แบบนั้นจากตอนนี้ แต่ความเป็นไปได้ว่าจะไปเกี่ยวพันกับบางอย่างคล้ายกันไม่ใช่ศูนย์ ผมมีเงินและที่เก็บของเหลืออยู่ดี ผมเลยอยากซื้อเกราะพลังงานจักรกลที่ให้ผมเหวี่ยงดาบได้
อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่ามีรุ่นเกราะพลังงานจักรกลที่ตรงความต้องการผมไหม คนเยอะในหมู่ขุนนางเหมือนฝ่ายวาดดาบเสริมความแกร่งร่างกายผ่านเทคโนโลยีชีวภาพและปรับการควบคุมเนื้อด้วยเครื่องจักรดังนั้นพื้นฐานแล้วเขาไม่ลำบากหาเกราะพลังงานจักรกลตั้งแต่เแรก แล้วก็ เกราะพลังงานจักรกลส่วนใหญ่ป้องกันอาวุธส่วนตัวของขุนนางที่เรียกว่าดาบโมเลกุลเดี่ยวไม่ได้
“แต่ฉันล่ะสงสัยว่าเราจะเจออะไรดีๆไหม”
“เพราะสู้แบบไม่ใส่ดีกว่าใส่เกราะไม่เหมาะล่ะนะ”
“พี่เขาทำได้แน่ถ้ามันเป็นฮิโระซามะ”
“เอาน่าพวกเธอมันไม่เหมือนฉันวิเศษ…… จริงๆแล้วฉันพูดนั่นก็ไม่ได้ ให้ตายสิ”
ความรู้สึกเรื่องเวลาช้าจนกลายเป็นคืบคลานไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมกลั้นหายใจ และสุดท้ายสร้างผลงานที่ไม่มีมนุษยหน้าไหนสามารถ ไม่นานนี้ผมก็รู้สึกเหมือนสัญชาตญาณรับรู้ความอันตรายแม่นขึ้นเรื่อยๆด้วย
ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม? เลเวลผมเพิ่มหรือบางอย่างหรือ? ผมควรเปิดหน้าต่างสถานะไหม
『นายท่านคะ เราจะเข้าประตูทางในไม่นาน』
“รับทราบ ฉันปล่อยการเดินทางให้เธอนะ”
『ได้ค่ะ ไว้ใจดิฉันได้เลย』
จอเปลี่ยนจากแสดงข้อมูลระบบดาววินดาสสู่ภาพจริงของประตูทางใหญ่ ใช่ แน่นอนว่ามันมโหฬาร มันแม้แต่เทียบกับผลึกแม่ที่เราโค่นกลับไปตอนนั้นได้เลย บางทีมันใหญ่กว่าด้วยซ้ำไหม? ผมไม่แน่ใจ
ไม่ว่าอย่างใรมันใหญ่มากใหญ่สุดๆ
『ดำเนินการเดินหน้า』
แสงแรงกล้ารวมกลางประตูทาง และการบิดเบี้ยวในอวกาศเกิดขึ้น มันดูเหมือนเป็นรูหนอนสร้างเทียมหรือบางอย่าง ผมไม่เข้าใจทฤษฎีและระบบของประตูทางแบบละเอียดสักนิด แต่ไม่ว่าอย่างไร ไม่นานเราก็จะผ่านมัน และออกไปที่ที่ไกลไปเป็นพันๆปีแสงหลักๆแล้วในทันที ผมไม่เข้าใจ แต่มันได้อยู่ตราบใดที่มันใช้ได้!
เราเดินหน้าไปข้างหน้าพร้อมยานอื่นเพื่อไประบบดาววินดาสและเข้ารูหนอนเทียมที่สร้างโดยประตูทางสำเร็จ
มุ่งหน้าสู่ดินแดนใหม่