ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 305 ปรึกษาเกี่ยวกับยานใหม่
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 305 ปรึกษาเกี่ยวกับยานใหม่
หลังจากขายยานความเร็วสูงต่างประเเทศขนาดเล็กที่เราแย่งมาจากโจรสลัดธงแดงให้สเปซดเวิร์กสำเร็จ เราไปอู่ต่อยานต่อ
“บอสจับพวกเขาได้อยู่หมัดเลยล่ะ
“พูดตรงๆ หนูไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับเงิน 1.8 ล้านเลย……”
พี่น้องช่างกระซิบหากันระหว่างเดินตามหลังเรา
ผมคิดว่าทีน่าและวิสเกอร์จำเป็นต้องอยู่ข้างหลังในบริษัทเพื่อทำงาน แต่มันดูเหมือนมันจะใช้เวลาวิเคราะห์ยานอวกาศที่เราเก็บมา, เลือกบุคลากรที่ถูกเลือกผู้ทำการวิจัย, และวิเคราะห์รายงานที่ถูกส่งโดยพี่น้องช่าง ดังนั้น สำหรับตอนนี้พวกเธอถูกบอกให้กลับไปตำแหน่งเดิม – ทำงานเป็นพี่น้องช่างยานผม
ผมไม่แน่ใจว่ามันเพราะจากบุคลากรที่ดูแลงานจะใช้เวลาหรือคำขู่ใบ้ของผมได้ผลลัพธ์…… อืม การมีพี่น้องช่างมืออาชีพไปด้วยกันกับผมเมื่อเลือกยานอวกาศใหม่เป็นผลลัพธ์ที่ดี ไม่ว่าแบบไหน เพราะพวกเธอสองคนเป็นคนอยู่ในอุตสาหกรรมล่ะนะ ผมคาดหวังคำแนะนำจากมืออาชีพจากมุมมองที่ต่างกันได้เทียบกับทหารรับจ้างแบบผมกับเอลม่า
“ไม่ใช่เราจะไปออฟฟิศสาขาผู้ผลิตยานอื่นเหรอ?”
“นั่นจะเหมาะสมมากกว่าในที่ที่สเปซดเวิร์กอยู่เยอะเหมือนระบบดาวแบรด แต่ในที่ที่มีการแข่งขันระหว่างบริษัทเยอะ มันสะดวกมากกว่าที่จะไปสู่อู่ต่อยานโดยตรง”
เอลม่าผู้อธิบายสถานการณ์ให้มีมี่หลังจากได้ยินคำถามของเธอ ในเอสโอแอล คนเพียงแค่ต้องค้าหาเมนูเกมระหว่างอยู่ในโคโลนีเพื่อเข้าถึงของขายของอู่ต่อยานเพื่อซื้อและขายยาน แต่ในโลกนี้ เราต้องไปหาพวกเขาด้วยตัวเราเอง
เอ๋? ทำไมเราไม่แลกเปลี่ยนโดยใช้ระบบสื่อสารหรือบางอย่างข้างในยานเราหรือ?
อืม มันไม่เหมือนว่าคนทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่มันดูเหมือนคนน้อยมากที่ซื้อยานในแบบนั้น
“อึน เมื่อคิดถึงความชอบขับยานของเอลม่าซัง เราควรซื้อยานคล่องตัวสูงใช่มั้ย?”
“ใช่พื้นฐานแล้วอะไรที่คนชอบในยานเล็กคือความเร็วและความคล่องตัวล่ะนะ”
“ผลเสียคือการแลกเปลี่ยนความเร็วกับความคล่องตัวแล้วก็พลังการยิงโดยรวมด้วย แล้วก็มีแรงส่งพลังงานให้พิจารณาด้วย”
ทีน่ากับวิสเกอร์ดูเหมือนมาคุยเรื่องยานที่เอลม่าจะขับด้วย
เหมือนที่ทีน่าพูด อะไรที่คนหาส่วนใหญ่ในยานขนาดเล็กคือความเร็วและความคล่องตัว และพลังการยิงมากเท่าไรที่คนยัดในพวกมันได้โดยไม่ลดความเร็วและความคล่องตัวเป็นปัญหาต่อเนื่องของคนผลิตยาน เพราะธรรมชาติคนใส่ได้แค่เครื่องผลิตพลังงานเล็กข้างในยานขนาดเล็ก แรงส่งพลังงานเลยถูกจำกัดเป็นผลที่ตามมา ดังนั้น การหาสมดุลระหว่างความคล่องตัว (เครื่องขับดันและเครื่องเร่งยาน) และพลังการยิง (ปืนใหญ่เลเซอร์และอะไรแบบนั้น) เป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับผู้ผลิตยาน
“แต่มีทางเลือกใช้พลังการยิงโดยใช้กระสุนจริงและอาวุธระเบิด”
“มันจริงที่ชุดปืนใหญ่, มิสไซล์ค้นหา, และเครื่องยิงตอร์ปิโดต้องใส่พลังงานน้อยกว่าเพื่อทำงาน แต่พวกมันค่อนข้างหนัก”
“มันเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่สำหรับยานขนาดเล็ก และจากน้ำหนัก มีความจุเต็มพิกัดที่มีปัญหาด้วย”
“กฤษณะน่ะโกงจัดในแง่นั้น”
“ใช่ จริงมากเลยล่ะ”
ผมตอบสายตาไม่ชอบใจของเอลม่าด้วยยักไหล่
มันจริงที่กฤษณะเป็นยานสมรรถนะสูงที่ค่อนข้างใกล้กับการโกง แม้ว่ามันถูกคิดเป็นหนึ่งในยานขนาดเล็กใหญ่สุดเท่านั้น แรงส่งพลังงานของเครื่องผลิตพลังงานพิเศษจริงๆแล้วเหนือกว่ายานขนาดกลางส่วนใหญ่
เพราะนั่น มันมีความคล่องตัวมากว่าพอเพราะเครื่องขับดันทรงพลัง มันก็ติดตั้งโล่พลังงานทรงพลังด้วย และมีที่เหลือเยอะให้ใส่ปืนใหญ่เลเซอร์หนักหลายกระบอกอีก แน่นอน แม้ว่ามันโอ้อวดสมรรถนะค่อนข้างเหนือชั้นในหมู่ยานขนาดเล็ก มันจะยังเทียบไม่ได้กับยานประจันบานและยานลาดตระเวนในการเจอตรงๆ มันก็สู่ไม่ได้ในเรื่องของประสิทธิภาพโล่พลังงานด้วย แน่นอนกฤษณะคือยานขนาดเล็กที่ค่อนข้างทรงพลัง แต่มันไม่ได้ไร้เทียมทานเลยสักนิด
“ชอบยานแบบไหนเหรอ เอลม่าซัง?”
“ประสิทธิภาพมันสำคัญ แน่นอน แต่ศิลปะก็สำคัญด้วย”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“หนูค่อนข้างเขาใจนะ”
“เป็นอย่างนั้นจริงเหรอ?”
ทีน่าและมีมี่เอียงหัวไปด้านข้างหลังจากได้ยินคำพูดเอลม่า และวิสเกอร์พยักหน้าเข้าใจ ผมเป็นคนชอบประสิทธิภาพแทนภาพลักษณ์ แต่ผมไม่มีปัญหากับคำพูดเอลม่าที่ดูเหมือนก็สำคัญด้วย เพราะผมก็ชอบเลือกยานดูเท่ถ้าผมไม่ได้คิดถึงประสิทธิภาพด้วย
“แล้วพี่ล่ะ พี่ชาย?”
“มันไม่ใช่สไตล์ฉันที่เน้นรูปลักษณ์ แต่ฉันคิดว่ามันจะไม่เป็นแรงจูงใจที่ดีถ้าเธอเลือกแค่ยานที่มีประสิทธิภาพดี แต่มันไม่เหมาะกับรสนิยมเธอ”
“นั่นมันตอบแบบลังเลนะรู้มั้ย”
“ก็มันเป็นอย่างนั้น ถ้าเธอชอบรูปลักษณ์ยานเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอน่าจะไม่อยากเห็นมันได้รับความเสียหายน้อย เมื่อพูดกัน ถ้าไม่ชอบรูปลักษณ์มัน เธอน่าจะขับยานแบบค่อนข้างแรงและจะไม่สนใจถ้ามันได้รับความเสียหาย”
“เข้าใจแล้ว พอมาคิดดู มันดูเหมือนเป็นอย่างนั้นจริง”
มันดูเหมือนทีน่ามั่นใจกับคำอธิบายผม
จริงๆแล้ว ความรู้สึกที่คนได้หลังจากดูมันประกอบเและทำสีเสร็จคนจะพูด 『อะไรกันวะ นี่ดูเท่จริง มันดีที่สุดไปเลยไม่ใช่หรือ?』 ความรู้สึกนั้นก็คิดล้อเล่นกับมันไม่ได้ ผมคิดว่าความรู้สึกที่กะลาสีเรือได้กับเรือใหม่ก็สำคัญมากด้วยเหมือนกัน
เราคุยอะไรพวกนั้นต่อระหว่างเดินทางในโคโลนี (ส่วนใหญ่ผ่านระบบขนส่งแทนการเดินจริงๆ) จนกว่าในที่สุดเราก็มาถึงอู่ต่อยาน
“เฮฮ๋ มันเป็นที่แบบนี้เหรอ”
ทีน่าพูดตกใจระหว่างเสียงฟังแล้วเธอน่าจะดูประทับใจหลังจากมองไปรอบๆ พูดตรงๆ ผมค่อนข้างตกใจแบบดีๆด้วยเหมือนกัน เพราะมันเป็นที่ที่เจ๋งกว่าที่ที่ผมคาดหวังไว้
“มันค่อนข้างให้ความรู้สึกคล้ายห้องพักผ่อนของบัวดำเลย ไม่ใช่เหรอ”
“โอ้ ฉันก็ว่าทำไมมันดูค่อนข้างคุ้น มันเป็นอย่างนั้นนี่เอง”
วิสเกอร์พยักหน้าเขาใจหลังจากได้ยินมีมี่พูด โซฟาดูสวยและโต๊ะยาว ต้นไม้ประดับและธรรมชาติจำลองที่ติดตั้งอยู่หลายจุดและจอโฮโลที่เล่นโฆษณายานอวกาศทั้งหมดทำให้นึกถึงห้องพักผ่อนของบัวดำ
“ร้านแต่ละบริษัทตั้งอยู่ข้างหลังอย่างนั้นเหรอ”
มันค่อนข้างเหมือนงานมอเตอร์โชว์ทที่ผมเห็นในข่าวกลับไปบนโลก
“นั่นถูกแล้ว เธอก็ไปดูยานได้ตรงนั้นด้วย และเธอปรึกษาการซื้อขายข้างหลัง เธออยากดูรอบๆก่อนมั้ย?”
“อึน ไม่คิดว่ามันจะดีกว่าที่จะสรุปประเภทยานที่เรามีเป้าซื้อก่อนเหรอ?”
“โอ้ใช่ นั่นจริง ฉันก็คิดมาเยอะด้วย ดังนั้นให้ฉันได้ความคิดเห็นเธอด้วย”
และดังนั้นเอง เราปรึกษากันเร็วๆตรงที่พักลูกค้าใกล้กับด้านหน้าก่อนไปที่ร้านค้าของบริษัท
“ฉันอยากได้ยานที่ทั้งเร็วและมีพลังการยิงที่ดี…… พวกเธอคิดยังไง?”
หลังจากสั่งเครื่องดื่มเสร็จและนั่งที่นั่งเธอ เอลม่าเริ่มการปรึกษา
“เข้าใจแล้ว อืม นั่นมีเหตุผลถ้าเธอลุยเดี่ยว และยิ่งกว่านั้นอีกเมื่อเธอทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีม”
ผมพยักหน้ากับคำพูดเอลม่า
อย่างไรก็ตาม มีมี่และคนอื่นๆไม่ได้ดูเหมือนเข้าใจเมื่อพวกเธอทั้งหมดเอียงหัวไปด้านข้าง
“พูดอีกอย่าง…… นั่นหมายความว่าอะไร?”
“พูดอีกอย่าง ถ้าเราอยากยึดกับสไตล์ปัจจุบันของเรา เราควรเลือกยานที่แนวคิดชัดว่าจะเติมเต็มขบวนแแถวเราและเสริมความแข็งแกร่งให้เรา เมื่อพูดกัน ถ้าอยากเปลี่ยนอะไรสักหน่อย เราจำเป็นต้องเลือกยานที่จะเสริมสไตล์ใหม่ที่เราจะเลือก”
“เข้าใจแล้ว……?”
มีมี่ยังไม่ได้ดูเหมือนเข้าใจหลังจากที่ได้ยินเอลม่าอธิบาย แต่ทีน่ากับวิสเกอร์ดูเหมือนมั่นใจแล้ว – หรือพวกเธอดูเหมือนเข้าใจว่าเราพูดเรื่องอะไร นี่คือความต่างระหว่างพี่น้องที่ออกแบบรุุ่นยานใหม่มาหลายปีจากมุมมองทางเทคนิคและมีมี่ผู้ไม่เคยเกี่ยวข้องกันอะไรแบบนั้นจนกว่าเธอมาขึ้นยานผม
“ไม่ใช่สไตล์การล่าโจรสลัดของเราปัจจุบันเป็นการตตกพวกเขาเหมือนตกปลาเหรอ? บัวดำถูกใช้เป็นเหยื่อและโจรสลัดที่ถูกมันดึงดูดจะถูกซุ่มโจมตีโดยกฤษณะของฮิโระ พร้อมบัวใช้งานอาวุธมันเพื่อตีขนาบพวกเขาและยิงสนับสนุน”
“ใช่ ปรกติเป็นอย่างนั้น”
มีมี่พยักหน้าเห็นด้วย มันฟังดูง่ายพอ แต่ถ้าบัวดำถูกตรวจจับก่อนผมพร้อมซุ่มโจมตี ปฏิบัติการจะเสีย ดังนั้นจริงๆแล้วมันใช้ทักษะเพื่อทำให้ได้จริง
อืม มาปล่อยประเด็นนั้นไว้ก่อนสำหรับตอนนี้
“นั่นทำไม ตอนนี้เราเแทบเลี่ยงโจรสลัดจากการหนีออกไปไม่ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ช่องว่างปรากฏ”
“จริง เมื่อมาคิดดู มันดูเหมือนเป็นอย่างนั้น”
ถ้ายานหนึ่งหรือสองลำวิ่งหนี เราน่าจะยังตามพวกเขาได้หลังจากบางเวลา แต่ถ้ายานสี่, ห้า, หรือยิ่งมากกว่านั้นวิ่งหนี มันจะยากที่จะเก็บพวกเขาให้หมด เพราะพวกเขากระจายตัวเมื่อทำการหนี เหมือนคิดมาก่อน…… แม้จริงๆแล้วสถานการณ์มันทำให้เป็นอย่างนั้น เราเดินหน้าการปรึกษากันต่อ
“ถ้าอย่างนั้นเราอยากอุดช่องว่างระหว่างแบบที่เรามีปัจจุบัน เราต้องคิดซื้อยานที่ความสามารถไล่ตามดี และถ้าเราอยากให้ยิ่งไล่ตามได้ดีกว่านั้น เราต้องเล็งทุกเป้าก่อนพวกเขาหนีได้ตั้งแต่แรก”
“หนูเข้าใจแล้วตอนนี้”
ตอนนี้ที่ในที่สุดมีมี่ก็เข้าใจ มาทำการปรึกษาประเภทยานที่เราจะซื้อต่อ ถ้าเธออยากได้ความสามารถไล่ตามและพลังการยิงเยอะในเวลาเดียวกัน ฉันคิดว่ายานมิสไซล์ที่ติดตั้งเครื่องยิงมิสไซ์จะดี”
“แต่มันจะจะมีเวลาทำงานได้น้อยลงเพราะน้ำหนักเครื่องยิงมิสไซล์ที่ติดตั้งบนยานน่ะสิ”
“จริง แต่เพราะเครื่องยิงมิสไซล์ใช้พลังงานงานทำงานน้อยกว่า เธอใช้พลังงานที่เหลือเพื่อให้ได้ความคล่องตัวมาด้วยได้ใชมั้ย?”
“ใช่ แล้วก็การยิงมิสไซล์ก็จะลดน้ำหนักและเร่งความเร็วได้มากขึ้นอีก”
ยิ่งใช้กระสุนเยอะ น้ำหนักยานยิ่งเบาแม้ว่าด้วยแรงส่งพลังงานเครื่องขับดันเท่ากัน มันจะเป็นไปได้ที่จะทิ้งเครื่องยิงมิสไซล์หลังจากใช้มิสไซล์หมดแล้ว แต่……ของพวกนั้นราคาแพงมากและปรกติไม่ถูกเอามาคิด แม้การทำอย่างนั้นก็ค่อนข้างเป็นความโรแมนนติกด้วยในแง่หนึ่ง
ถ้าเอาเครื่งยิงมิสไซล์อย่างนั้นออกเพื่อกลายเป็นเอาไว้เคลื่อนไหวต่อสู้ โอกาสคือพวกมันจะพูดถูกยิงใส่จนระเบิดด้วยความเร็วสูง ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บพวกมัน
ไม่สำคัญว่าคนมีเงินเท่าไหร่ การกำจัดเครื่องยิงมิสไซล์เสียทุกครั้งที่คนเข้าปะทะต่อสู้มันนจะลดเงินในกระเป๋าด้วยความเร็วมัก เพราะแค่ตัวมิสไซล์เองก็แพงพอแล้ว
“ถ้าเป็นแบบนั้นเราต้องคิดเกี่ยวกับเงินที่จะต้องใช้เพื่อใช้มันถูกมั้ย?
“นั่นใช่แล้ว เราจะไม่ปะทะในการต่อสู้ยืดเยื้ออยู่ดีและเรากลับบัวดำเพื่อเติมกระสุนและเติมเชื้อเพลิงระหว่างการปะทะ เราไม่จำเป็นต้องสนเกี่ยวกับเวลาการใช้งานมากเหมือนที่มีมี่พูดทุกอย่าง แต่ราคามิสไซล์ค้นหาก็ต้องเอามาคิดด้วย”
“เพราะของเหล่านั้นค่อนข้างแพงล่ะนะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เอลม่าวางมือที่แก้มและถอนหายใจ จำนวนการยิงแต่ละลูกที่ใช้มิสไซล์ค้นหาคร่าวๆมีระยะจาก 500 ถึง 800 อีเนล ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินเยนมาตรฐาน มันค่อนข้างถูกถ้าพูดง่ายๆเนื่องจากการลดราคาผลิตเนื่องด้วยการใช้เครื่องเลียนแบบ การลดราคาวัตถุดิบจากการพัฒนาเทคโนโลยีการขุดแร่และเงินทดแทนจากสมาคมทหารรับจ้างมันก็จากปัจจัยเหล่านี้
เพราะตัวที่ทำให้ราคากระสุนลดลงมากที่สุดเป็นเครื่องผลิตซ้ำที่สร้างอะไรหลายอย่างได้ด้วยการกดปุ่มเดียวรวมไปถึงอุปกรณ์นำทาง ตราบใดที่พวกมันมีข้อมูลพื้นฐานและวัตถุดิบ มันไม่เหมือนว่าคนสร้างอะไรก็ได้โดยไม่มีข้อมูลที่ต้องการก่อน และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างอะไรใหม่ด้วยเครื่องผลิตซ้ำ และมีวัตถุดิบที่ใช้แทนกันไม่ได้กับเครื่องผลิตซ้ำด้วยเหมือนกัน ดังนั้น เครื่องผลิตซ้ำไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่าง
แม้ว่ามันแค่ลูกละ 500 ถึง 800 อีเนลถ้าเธอยิง 20 ลูกต่อการต่อสู้ครั้งหนึ่งเธอกำลังดูค่าใช้จ่ายระหว่าง 10,000 ถึง 16,000 อีเนลเราจะเสียมากกว่าได้กำไรบ่อยครั้ง
เมื่อเทียบกับตอร์ปิโดปฏิกิริยาตอบสนองที่ลูกละ 500,000 ราคามันลดลงอย่างมาก แต่มันไม่เหมือนว่าเรายิงตอร์ปิโดเหล่านี้ได้เหมือนไม่มีพรุ่งนี้ ถ้าคนแค่คิดเกี่ยวกับการรอดชีวิตเพื่อการเอาตัวรอดในการต่อสู้ มันไม่เป็นไรที่จะจ่ายเพื่อพลังการยิง แต่เพราะงานทหารรับจ้างเป็นธุรกิจด้วยล่ะนะ
“การเป่าโจรสลลัดด้วยมิสไซล์ค้นหามันสร้างความเสียหายเยอะให้กับยานพวกเขาภายนอก ดังนั้นมีโอกาสดีที่ทำให้ปืนใหญ่เลเซอร์กับชุดปืนใหญ่ที่ติดตั้งบนยานพวกมันพังด้วยถูกมั้ย?”
“ใช่ และผลลัพธ์คือราคาที่ต้องจ่ายจะกองขึ้นรวมกันและเราจะไม่สามารถได้เท่าที่เราได้มาปรกติ”
“มันฟังพดูมีข้อเสียมากกว่าได้เปรียบเลย……”
มีมี่คร่ำครวญระหว่างคิ้วขมวด
“พวกเธอเอ๋ยพวกนั้นมีปัญหาจริงๆ มิสไซล์พวกนั้นระเบิดลบโล่พลังงานพวกมันได้ง่าย ดังนั้นถ้ายานโดนยิงเต็มๆ ตัวถังมันจะได้ความเสียหายเยอะด้วย นั่นหมายถึงของที่ติดกับมันเหมือนระบบอาวุธและเครื่องขับดันก็จะเละตามไปด้วยเหมือนกัน ทำให้ความสามารถต่อสู้โดยรวมมันน้อยลง นั่นทำไมใช้พวกมันเองถึงมีปัญหา และแน่นอนว่าฉันไมอยากโดนพวกมันยิงใส่ดังนั้นฉันต้องหลบพวกมันหรือยิงพวกมันด้วย
“แต่ฉันต้องพูดนะ มีแค่พวกประหลาดอย่างนายเท่านั้นแหละที่หลบมิสไซล์ค้นหาระหว่างร้องเพลงและผิวปากโดยไม่สนใจ ฮิโระ เราแค่เลือกยานเราที่มีความเร็วพอหลบมิสไซล์ค้นหาให้เป็นความได้เปรียบเราไม่ได้
แล้วก็ผมจะยิงพวกชุดการยิงมิสไซล์ค้นหาด้วยปืนใหญ่เลเซอร์ด้วย และแม้ว่าพวกมันมีโล่พพลังงาน ยานขนาดเล็กจะร่วงทันทีที่พวกมันโดนแค่สองที
โดย “ร่วง” หมายถึงโล่พลังงานดับและเครื่่องตก พูดอีกอย่างอยู่ในสภาพที่ยานอวกาศไร้การป้องกันหลังจากเสียโล่ เกราะกฤษณะค่อนข้างคุณภาพสูงดังนั้นแม้โล่ดับไปแล้ว มันยังต้องใช้การยิงเต็มๆหนึ่งหรือสองที แต่มากกว่านั้นจะอันตรายแล้ว ในกรณีของยานอวกาศขนาดเล็กที่เน้นความเร็วมากกว่าความทนทานการโดนมิสไซล์ค้นหาสองลูกเต็มๆจะทำให้มันร่วง
“อึน เข้าใจแล้ว ถ้าออย่างนั้นเราจะซื้อยานมิสไซล์เหรอ?”
“มาดูกันในแง่ของระยะการยิง,พลังการยิง, และควสมเร็ว มันดูเหมือนพวกมันได้อยู่”
“แล้วก็เป้าหมายจะใช้หน่วยขับครส.ไม่ได้ระหว่างถูกไล่ตามด้วยมิสไซล์ค้นหาที่กฤษณะของฮิโระเป็นผู้โจมตีหลักระหว่างที่ฉันกดศัตรูให้อยู่กับที่ด็ไม่ได้ฟังดูแย่สักนิดฉันว่า”
จากนั้นเอลม่าเติมมาว่าเธอก็อยากให้ปืนใหญ่เลเซอร์เป็นอาวุธรองด้วย ไม่นานหลังจากนั้นเครื่องดื่มถูกส่งมาที่โต๊ะของเรา เราหาโอกาสเพื่อพักหายใจ
“เมื่อมาคิดดูแล้ว มีเหตุผลเฉพาะที่ทำไมเราจำเป็นต้องเลือกยานประเภทเล็กมั้ย?”
มีมี่ถามคำถามฉลาดๆแบบนั้น
“อึน มันค่อนข้างฉลาดนะเธอ ฉันก็คิดว่าเราไม่ต้องเน้นกับยานขนาดเล็กเลยจริงๆแล้ว”
ผมเห็นด้วยกันความคิดเห็นมีมี่ตัดสินจากหน้าไม่ได้ดูตกใจมันดูเหมือนเอลม่าก็คิดอย่างเดียวกันด้วย พี่น้องช่างเอียงหัวสงสัย
“โรงจอดยานของบัวดำไว้สำหรับยานขนาดเล็กอย่างเดียวรู้มั้ย ไม่ใช่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยัดยานขนาดกลางข้างในมันเหรอ?”
“แต่เราจะทำงานโดยการคิดว่ามันไม่ได้เข้าโรงจอดบัวดำเพื่อการบำรุงรักษาถูกมั้ย? แน่นอนว่ายานขนาดเล็กบำรุงรักษาในบัวได้ แต่เราจจะไม่สามารถเก็บของที่เก็บได้เหมือนที่เราทำอยู่เมื่อยานใหม่ใช้พื้นที่ด้วย”
“อา เข้าใจแล้ว เราสามารถเก็บยานได้แค่ลำเดียวถ้าเราซื้อยานขนาดเล็ก ดังนั้นถ้าเราเก็บยานได้สองลำเราต้องทำให้โรงจอดว่างพื่อทำให้มีที่ว่าง ถ้าเป็นอย่างนั้น การซื้อยานขนาดกลางและไม่กังวลเกี่ยวกับการจอดข้างในโรงจอดตั้งแต่แรกดูมีเหตุผล”
พวกเธอสองคนเข้าใจได้อย่างเร็วระหว่างมีมิทำสีหน้าดูเหมือนพูด 『เข้าใจแล้ว!』 แต่พนันว่าเธอสงสัยว่าทำไมเราเน้นยานประเภทเล็กก่อนหน้าและไม่คิดรายละเอียดเฉพาะเหมือนพี่น้องช่าง
“ได้เลยถ้าอย่างนั้น ให้เราได้ปรึกษาเรื่องยานขนาดกลางต่อมั้ยพวกเธอ?”
และดังนั้นเองเราย้ายจากเรื่องยานขนาดเล็กเป็นยานขนาดกลาง