ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 319 เจอบางคนคุ้นๆ
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 319 เจอบางคนคุ้นๆ
“ถ้าอย่างนั้น เราเริ่มจับการเคลื่อนไหว– หืม?”
เจ้าของร้านที่กำลังทำขั้นตอนการซื้อขั้นต่อไปหยุดกระทันหัน เขาวางมีอบนหูและดูเหมือนฟังบางอย่าง เขาใส่เครื่องสื่อสารเล็กๆไว้ในหูหรือ?
“ผมขออภัยอย่างมาก แม้ว่ามันเร็วไปนิดจากการนัดก่อนหน้าที่คนนั้นทำ มันดูเหมือนลูกค้าที่จองล่วงหน้ามาถึงร้านแล้ว ผมใช้เวลารับใช้เขาก่อนได้มั้ยครับ?”
“โอ้ ได้สิ เอาเลย ตัวผมไม่ได้นัดไว้อยู่ดี”
“ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวสักครู่”
หลังจากพูด คนดูร้านคำนับ ลุกจากเก้าอี้ มุ่งหน้าไปข้างนอกห้องปรึกษา
“ด้วยนี่ เราออกจากที่นี่ได้หลังข้อมูลการเคลื่อนไหวถูกเก็บแล้ว พวกเธอต้องซื้ออะไรอีกเปล่า?”
“มืม ไหนดูซิ เราไม่ได้ต้องการอะไรมากเป็นพิเศษ แต่บางทีเราไปเลือกของตามหน้ากระจกได้”
“ซื้อของหน้ากระจก นั่นดีอ่ะ”
“ซื้อของหน้ากระจกเหรอ?”
มันดูเหมืนคูกิไม่เข้าใจว่าซื้อของหน้ากระจกหมายถึงอะไร เธอเลยเอียงหัวเหมือนทำท่าทางถาม
“ซื้อของหน้ากระจกพื้นฐานแล้วเดินตามร้านและหาของน่าสนใจโดยไม่มีจุดหมายอะไรไว้ก่อน อืม แต่ถ้าเราเจออะไรน่าสนมากๆเราอาจตัดสินใจซื้อเดี๋ยวนั้นเลย”
“อย่างนี้นี่เอง”
เราคุยกันต่อนานอยู่จนกว่าผมสังเกตว่าคนดูร้านดูเหมือนกำลังกลับมา– หืม? ดูเหมือนมีเสียงฝีเท้าอีกชุดดัง?
“ได้โปรดขออภัยนะครับทุกคน ลูกค้าคนนี้ยืนกราน–”
“เก่ะ”
“อ๊ะ!”
“……ฮ่าาา”
เมื่อผมเห็นหน้าคนที่มาด้วยกันกับคนดูร้าน ผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง มีมิก็แสดงการตอบสนองว่าตกใจ และเอลม่าถอนหายใจเอามือก่ายหน้าผาก
“อะไรกับ ‘เก่ะ’ ของนายหา? พูดมา”
ผู้หญิงสวยงามผมบลอนด์ตาแดงมาพร้อมเครื่องแบบทหารเนี้ยบๆสีขาวมาหน้าเราและกอดอกในท่าทางงอนตอนเธอมองลงมาที่เรา มันเป็นหน้าคุ้นมาก มันรู้สึกเหมือนหมวกทหารที่เธอใส่หรูขึ้นเมื่อเทียบหมวกก่อนหน้า
“มันนานแล้วแหม่ม”
“จริงๆแล้ว มันไม่ได้นานย่ะ เราสามารถเจอกันบ่อยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นจริงใช่ป่ะล่ะ พันโท?”
“จริงๆแล้ว ฉันไม่ได้เป็นพันโทและเป็นพันเอกแล้ว แต่การที่ยศขึ้นเร็วขนาดนี้มันก็สร้างปัญหาด้วย”
หลังจากพูดอย่างนั้น พันเอกเซเรน่ายักคิ้วและจับปลายหมวกด้วยปลายนิ้ว ดูเหมือนผมไม่ไดด้ผิดพลาดอะไร นั่นทำไมหมวกทหารเธอดูไม่ธรรมดากว่าเดิม
“ยินดีด้วยที่เลื่อนยศ งั้น มาทำไมพันเอก?”
“คิดว่ามีเหตผลอื่นที่มานอกจากสั่งเกราะพลังจักรกลเหรอ? ฉันได้เวลามานิดหน่อยฉันเลยจะซื้อของนิดนึงแต่ จากนั้นนะ ฉันมาเจอว่าคนดูร้านดูแลแขกคนอื่นที่ไม่ได้นัดเฉย เมื่อคิดว่าร้านนี่เป็นแบบไหน ฉันคิดว่ามันแปลกที่พวกเขารับลูกค้าไม่ได้นัด และเมื่อฉันถามไปหน่อยนึง คนดูร้านบอกฉันว่าลูกค้าเป็นทหารรับจ้าง”
“อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้มีทหารรับจ้างเยอะที่ต้องการเกราะพลังจักรกลสั่งผลิตที่ทำมาสำหหรับขุนนางและมีความสัมพันธ์จนถูกร้านแบบนี้ดูแลงั้นเหรอ”
“ใช่ นั่นและที่เข้ามาในหัวฉันตรงๆ ดังนั้นเอง ฉันถามคนดูร้านให้แนะนำเรา ทันทีที่ฉันถามว่าลูกค้าเป็นนายมั้ย ฉันยืนยันอะไรได้ทัน–……”
พันเอกเซเรน่าจ้องเน้นตรงไปที่คูกิ มันดูเหมือนคูกิก็จ้องพันเอกเซเรน่าตรงๆ สายตาพวกเธอทั้งสองสบกัน
“ไปเพิ่มจำนวนสาวๆที่ตามนายมาจอีกแล้วเหรอ…… จริงๆเลย คนอย่างนายมัน–”
พันเอกเซเรน่าหันมามองผมและมองผมเหมือนมนุษย์ขยะ
“ฮ-เฮ้! มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะ….. จริงๆมีเหตุผลที่ซับซ้อนอยู่รู้เปล่า?”
“เหตุผลซับซ้อนเหรอ…… เออ เพราะมันนายล่ะนะ ดังนั้นอาจเป็นงั้นจริง”
เฮ้ หยุดเลย! อย่ามามองสงสารฉัน หยุดมองฉันด้วยหน้าตาที่บอกว่า ‘คนนี้ไปเจอบางอย่างมีปัญหาอีกแล้วสินะ’ ได้เปล่า? ฉันจะร้องไห้จริงๆนี่
“ต้องการให้ฉันช่วยป่ะ?”
“ตอนนี้เราโอเคอยู่ ไม่มีปัญหาพิเศษเยอะ”
“อย่างนั้นเหรอ นั่นดี พูดถึงแล้ว แนะนำฉันให้คุณหนูคนนี้ได้มั้ย?”
“โอ้ใช่ ชื่อเธอคือคูกิ เซย์โจว เธอเป็นนักบวชหญิงจากจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัส และดูเหมือนเดินทางมาไกลถึงที่ระบบดาววินดาสเพื่อมาเจอและดูแลฉัน”
“……?”
ใช่ ผมเข้าใจอยู่ ผมเข้าใจจริงๆ
ผมแค่พูดความจริง แต่ผมเข้าใจว่าทำไม่เธอมีอาการแบบนั้น แม้ว่าเราคนที่เกี่ยวข้องเองก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เข้าหัวเต็มๆด้วยเหมือนกัน มันเลยฟังดูเหมือนสุดไร้สาระสำหรับฝ่ายที่สาม
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์จากเมื่อกี้เลย นายจัดระเบียบเป็นบางอย่างเข้าใจพอได้มั้ย?”
“เหมือนฉันพูด เธอเป็นนักบวชหญิงจากจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัส และเธอยืนกรานว่าฉันมันคนพิเศษ เธอพูดว่าเธอสาบานด้วยหน้าที่ว่าจะรับใช้สิ่งมีชีวิตพิเศษเหมือนฉัน”
“???”
เธอดูเหมือนเธอไม่เข้าใจจริงๆว่าผมมาพูดอะไรกัน อืม นี่ยากแล้วสิ ผมไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดมากขนาดนั้น ผมเลยอธิบายกับคนอื่นดีๆไม่ได้
“ได้โปรดอย่าไปคิดลึกมากเกินไปแหละนะ เธอดูเหมือนจะอยู่ข้างฉันเพราะเหตุผลของเธอเองตอนนี้ เรากำลังรู้จักกันดีกว่านี้อยู่เป็นอย่างแรก”
“ฉันไม่เข้าใจอะไรที่นายพูดมาเป็นอย่างมากเลยอ่ะ แต่ไม่ว่าแบบไหน ฉันเชื่อแล้วแหละ ฉันว่า ถึงยังไง จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสงั้นเหรอ……
พ.อ.เซเรน่ามองคูกิพร้อมกอดอก
“เขาเป็นทหารรับจ้าง แต่เขาก็ถูกคิดว่าเป็นผู้กล้าที่ได้รางวัลจากจักรพรรดิเองด้วยเหรียญจู่โจมปีกดาบเงินและเหรียญดาวไขว้ชั้นหนึ่ง เขาก็ถูกทำให้เป็นวิสเคานต์ของประเทศนี้ แค่รู้ไว้เสียว่าความพยายามไหนๆที่จะพาเขาไปประเทศเธอถาวรจะสร้างปัญหาระหว่างประเทศเธอและฉัน”
“ฉันเข้าใจ ฉันจะแค่อุทิศตัวเพื่อรับใช้ท่านลอร์ดของหนู ฉันจะไม่บังคับให้ท่านลอร์ดทำอะไรที่เขาไม่ได้ตกลงอยากทำ”
คูกิประกาศด้วยหน้าตาดูเอาจริงและสง่าระหว่างมองพ.อ.เซเรน่าตรงๆ อืม สำหรับตอนนี้ คำพูดและการกระทำคูกิค่อนข้างเป็นทำนองเดียวกัน เธอดูเหมือนเน้นความสำคัญว่าทำตามคำสั่งผมจริง เธอพูดจริงอยู่ว่าเธอพร้อมรับผมเข้าประเทศบ้านเธอด้วยการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ แต่เธอจะไม่บังคับผมให้ไปอยู่ดี
“คำพูดพวกนั้นอ่ะ ฉันจะจำไว้ ทำไมจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์วูเอลซารัสยอมลำบากส่งเธอมาไกลถึงที่นี่ ขอตอบตรงๆ? นายพูดบางอย่างที่ว่าเป็นตัวตนพิเศษ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่านั่นหมายถึงอะไรกัน”
“อา–…… อืม มันดูเหมือนฉันมีศักยภาพพิเศษสำหรับเชี่ยวชาญพลังวิญญาณหรืออะไรเทือกๆนั้นแหละ และดูเหมือนเธอก็มีหน้าที่เฝ้าดูฉันด้วย ไม่ว่าออกหวยแบบไหน มันเกี่ยวข้องกับอะไรเทือกๆนั้นแหละ ถ้าพูดกันตรงๆ เราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจด้วยเหมือนกัน”
“อ๋อ พูดอีกอย่าง มันแค่เป็นนิสัยประจำของนายที่รีดปัญหาออกมาจากงานนายก็ลำบากด้วยสินะ”
“เธอเสียงเหมือนไม่เกี้ยวไม่เกี่ยว แต่ไม่ใช่สถานการณมีปัญหาพวกนั้นก็เกี่ยวข้องกับเธอสุดๆเหรอ พันเอก?”
“ว่าแต่ นายสั่งเกราะพลลังจักรกลไม่ใช่เหรอ? ซื้อเกราะไหนล่ะ?”
ยัยคนนี้! เธอแค่ยิ้มไปเปลี่ยนประเด็นไป…..!
“มันอันนี้”
“มันดูเท่จริงๆ!”
เอลม่าใช้จอโฮโลบนโต๊ะเพื่อเอาการออกแบบเกราะที่เราสั่งให้ดู พ.อ.เซเรน่ายิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเธอเห็นการออกแบบ
“มันสุดจะ เอ่อ ออกแบบมาคมดี มั้ง…… อืม นี่เหมือนนายแหละฉันว่า”
“ออกแบบเป็นชุดอัศวินในเกราะสุดเงาวับมันไม่เหมาะกับฉันหรอก ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”
แน่นอนเกราะที่ผมสั่งปรับตัวเข้าสภาพแวดล้อมได้ ดังนั้นมันเป็นประเภทที่ปิดทั้งตัวจากหัวถึงเท้า สีแว่นบนหมวกเป็นสีแดง ส่วนใหญ่คิดแนวของรุ่นและออกแบบตามนินจา แต่ผมสงสัยว่าคนในโลกนี้จะเข้าใจไหม
พูดถึงแล้ว คนก็เลือกให้ใช้การผสมชุดภายนอกและอุปกรณ์เสริมแบบไหนก็ได้ มันคล้ายกับเมื่อผมออกแบเมย์ ยกเว้นว่ามันขาดบางอย่างเหมือนปั้นรูปหน้า มันดูเหมือนพวกเขาทำอุปกรณ์เสริมเพื่อให้เข้ากับการออกแบบทั่วไป จุดที่สำคัญที่สุดคือข้างในเกราะพลังจักรกล พูดอีกอย่าง เกราะไม่ใช่ร่างหลัก เมื่อภายนอกถูกปลอกคนจะเห็นโครงมอเตอร์อยู่ข้างใต้ที่แน่นด้วยกล้ามเนื้อประดิษฐ์และเซ็นเซอร์มากมาย ใช่ เพราะโครงมอเตอร์เป็นร่างหลักของเกราะ มันดูเหมือนมันเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยหน้าตาภายนอกถ้าอยากทำ
“พูดถึงแล้ว เธอมาทำไมดีกว่าพันเอก…..? เอ่อ มันเกี่ยวกับเกราะพลังจักรกลแน่นอนเหรอ”
“เพราะฉันถูกเลื่อนยศเป็นพันเอก ฉันได้เกราะจากบ้านเป็นของขวัญฉลอง เพราะฉันปล่อยมันเป็นโครงมอเตอร์อย่างเดียวไม่ได้ ฉันมาที่นี่เพื่อปรับแต่งและติดตั้งส่วนภายนอก โอ้ พอมาคิดดู นายต้องเก็บบันทึกการเคลื่อนไหวใช่มั้ย?”
“แผนเป็นอย่างนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นนี่เหมาะเจาะเลย คนดูร้าน มาอัดข้อมูลเราพร้อมกันในเวลาเดียวเลยมั้ย? นายทำนั่นได้ถูกมั้ย?”
“ครับ นั่นเป็นไปได้ ถ้าพวกท่านทั้งสองตกลงกัน ถ้าอย่างนั้นเชิญเลย”
“เขาว่างั้น ไม่ต้องยั้งมีใส่ฉันนะ พร้อมยัง?”
หลังจากพูดอย่างนั้น พ.อ. เซเรน่าตีด้ามดาบที่เอวเธอหลายๆทีในท่าทางท้าทาย เอ่อ เราไม่ได้ใช้ดาบจริงกันถูกเปล่า? ถ้าเราทำ ฉันจะวิ่งหนี เข้าใจเปล่า?