ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 321 คุณหญิงไปไหนไปด้วย
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 321 คุณหญิงไปไหนไปด้วย
“ฉันไม่มีงานวันนี้”
ทันทีเมื่อเราออกจากร้านเกราะขายขุนนาง พ.อ.เซเรน่าประกาศแบบนั้นและจ้องหน้าผมเฉย
“เหรอ ถ้าอย่างนั้นเธอจะไปไหนไปด้วยสินะ”
“……ถูก”
เธอซื่อตรงเกี่ยวกับเจตนาเธออย่างน่าตกใจ อืม มันไม่เหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรบกวนผมระหว่างไม่มีงานเหมือนกลับไปตอนนั้น เธอแม้แต่พุ่งเข้าไปในกฤษณะและสุดท้ายเมาแอ๋ ผลลัพธ์ เธอเปิดเผยฝั่งไม่น่าดูของเธอให้เรา
“งั้น แผนคือไร?”
“อืมม…… อะไรก็ได้ยกเว้นกินเหล้า ได้เปล่า?”
“ไหนดูซิ ถ้าเป็นกินอาหารโดยไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล่ะ? เธอสองคนเพิ่งเคลื่อนไหวมาเยอะ ดังนั้นเธอน่าจะรู้สึกหิวแล้วนี่ถูกมั้ย?”
“ตอนนี้ที่เธอพูดถึง ดูเหมือนเป็นอย่างนั้นจริง”
หลังจากกินข้าวเช้าในโรงแรม ผมโทรหาพี่เขย เอิร์นส์ระหว่างผู้หญิงออกไปซื้อของ หลังจากนั้น ผมเจอกับสาวๆข้างนอก ผมดื่มชากับพวกเธอนิดหน่อย ไปร้านเกราะ และในท้ายที่สุดดวลกับพ.อ.เซเรน่า ดังนั้นเองผมไม่ได้มีโอกาสกินข้าวเที่ยงเลย มันอาจเร็วไปนิดสำหรับข้าวเที่ยง แต่เพราะเรายังจำเป็นต้องหาว่าจะกินร้านไหนก่อนจังหวะมันสมบูรณ์แบบพอดี
“ได้เลย เอานั่นแหละ เธอก็โอเคด้วยใช่มั้ย พันเอก?”
“ใช่ แน่นอน”
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเธอล่ะคูกิ?”
“แน่นอนค่ะ หนูก็ไม่เป็นไรด้วยเหมือนกันท่านลอร์ดของหนู”
เพราะพ.อ.เซเรน่าและคูกิก็เห็นด้วย เราตัดสินใจหาร้านดีๆ
เมย์หรือ? เมย์แค่พยักหน้าตอบระหว่างผมหันไปหาเธอ พื้นฐานแล้วเธอเป็นแม่บ้านสมบูรณ์แบบเธอเลยแค่ติดกับเราเหมือนเงาที่เวลาแบบนี้
“มืม เพราะพ.อ.เซเรน่าอยู่ที่นี่ เราควรหาบางอย่างที่ไม่ธรรมดากว่าครั้งนี้มั้ย?”
ขณะเรากำลังจะเข้าถนนหลัก มีมี่เอาเครื่องปลายทางแท็บเล็ตออกมาจากเอวและถือมันเหนือหัวตอนเราเดิน เดินระหว่างดูมือถือหรือแท็บเล็ตมันอันตรายรู้เปล่ามีมี่
“ใช่ มันอาจดีที่จะไปกินร้านหรูนิดหน่อย”
“ฉันไม่ถือ แต่กินที่ไหนล่ะ”
เพราะเรารู้จักกันเยอะแล้ว มีมี่, เอลม่า, และพ.อ.เซเรน่าเริ่มคุยเกี่ยวกับที่กินในท่าทางคุ้นเคย
เพราะพ.อ.เซเรน่าเป็นลูกสาวของมาร์ควิส มีมี่ก็ลังเลเมื่อคุยกับเธอในอดีต แต่ตั้งแต่เมื่อเธอเห็นพ.อ.เซเรน่าจมความโกรธอยู่ในเหล้าอย่างสุดเลอะเทะ เธอดูเหมือนผ่อนคลายเมื่ออยู่หน้าพ.อ.เซเรน่ามากกว่า
“เธอไม่เข้าไปคุยด้วยเหรอคูกิ?”
“หนูยังไม่คุ้นเคยกับนิสัยการกินของประเทศนี้ และหนูไม่คุ้นเคยกับร้านอาหารด้วยเหมือนกันตั้งแต่แรก……”
“เข้าใจแล้ว…… โอ้ใช่ พอมาคิดเราไม่ได้แลกที่อยู่กันเลยนี่? เราทำตอนนี้เลยดีมั้ย?”
“อา ได้สิ อืมม…….”
คูกิหากระเป๋าเหมือนกระเป๋าเล็กใส่เครื่องประดับที่แขวนไหล่อยู่และเอาเครื่องปลายทางข้อมูลเล็กๆออกมา มันดูใหม่เอี่ยม
“จริงๆแล้ว หนูยังไม่รู้จักนี่เลย…… ประเทศของเราใช้เหรียญและธนบัตรเป็นเงินตรา และเราไม่ต้องการอุปกรณ์แบบนี้เพื่อสื่อสาร”
“อ๋อ? งั้นมาเริ่มด้วยเปิดเครื่องปลายทางก่อน…… เฮ้ยเฮ้ย ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะเปิดการตรวจจับผู้ใช้บนอุปกรณ์ก่อนนะ”
“อะไรคือการตรวจจับผู้ใช้เหรอ?”
คูกิเอียงหัวไปได้ข้าง อา เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรเลย อืม แน่นอนไม่ไม่คิดว่าจะเจอคนที่ไม่เก่งเทคโนโลยีในโลกไซไฟนี้ เธอมาไกลถึงระบบดาววินดาสได้อย่างไรถ้าเธอเป็นแบบนี้? ผมสัยว่ามีคนอื่นคุ้มกันเธอมาที่นี่
“โยช มาเก็บนั่นกลับไปก่อนสำหรับตอนนี้ เพราะฉันจะสอนเธอทีละก้าวเมื่อเรากลับไปที่โรงแรม ระวังอย่าให้คนอื่นเอาไปถือล่ะ”
“ได้ค่ะ ท่านลอร์ดของหนู!”
คูกิรับฟังคำพูดผมอย่างเชื่อฟังและเอาเครื่องปลายทางเล็กๆกลับไปในกระเป๋าพาดไหล่ เหมือนเธอพูด เธอเป็นสาวไม่ออกไปไหน มันดูเหมือนการให้เธอปรับตัวเข้าวิถีชีวิตเราต้องใช้เวลาอยู่บ้าง
เมย์มองเราอย่างเงียบๆระหว่างคูกิและผมคุยกัน ทำไมเธอดูเหมือนเธอจ้องหนักเหลือเกิน? ผมหันไปหาเธอ แต่เมย์แค่ส่ายหัวเบาๆตอบ ผมค่อนข้างรู้สึกว่าเมย์แปลกๆนิดหน่อย ผมสงสัยว่าอะไร?
“ฮิโระ มานี่นิด เธอด้วยคูกิ เราลดตัวเลือกแล้ว เลยมาตันสินใจว่าจะกินร้านไหนในร้านพวกนี้”
“ได้เลย มาสิคูกิ”
“ค่ะ”
เมื่อในที่สุดเราก็ไปถึงถนนหลักเราถูกเรียก ผมกับคูกิเลยอยู่กับสามสาวผู้เดินไปข้างหน้าระหว่างคุยกันเล่นๆ จากนั้นเรารวมกันใกล้กำแพงของอาคารที่มุมเพื่อตัดสินว่าจะไปร้านไหน เราจะไม่เข้าไปขวางทางคนเดินคนอื่น
“ถ้าอย่างนั้น มีกี่ร้านล่ะ?”
“ค่ะ! นี่คือร้านแนะนำส่วนตัวของหนู!”
มีมี่เอาจอเครื่องปลายทางแท็บเล็ตให้เราดู อะไรที่ฉายอยู่เป็นลูกกลมๆส่องแสงลึกลับ พร้อมกับก๋วยเตี๋ยวสีชมพู– ไม่สิ พวกมันไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยว
พวกมันเป็นบางอย่างเหมือนหนอนหรือตัวอ่อน ไม่ว่าอย่างไร พื้นฐานแล้วมันเป็นจานอาหารของสัตว์ผอมๆยาวๆลึกลับพร้อมด้วยแป้งโรยอยู่ข้างบน
อะไรที่ปรากฏว่าเป็นซุปลูกบอลเนื้อทำจากแมลงสี่ขา……
เอ่อ ปูหรือ? มันเป็นปูหรือ?
ไม่มันน่าจะเป็นอย่างอื่น
ไม่ว่าอย่างไร มีภาพอยู่เยอะที่เป็นจานดูฮาร์ดคอร์โหดๆไม่ได้ไว้สำหรับคนหัวใจอ่อนแแอ
“เห็นว่ามันเป็นร้านอาหารพิเศษที่เสิร์ฟจานพื้นถิ่นดาวเคราะห์ปิปปีเปโรนี่”
“อึน เข้าใจแล้ว…… มาดูร้านอื่นก่อน”
เมื่อผมชำเลืองไปด้านข้าง ผมเห็นหูคูกิตก เธอสั่นนิดหน่อยระหว่างมองจอ มันค่อนข้างดูเหมือนหางสามหางฟูพองขึ้นนิดหน่อยด้วยเหมือนกัน มันดูเหมือนความรู้สึกคูกิก็รู้สึกว่าอาหารพื้นถิ่นปิปปีเปโรนี่ก็ดูไม่น่ากินด้วย หรือ แค่ดาวเคราะห์ปิปปีเปโรนี่มันที่ไหนกันอยู่ดี? มันเป็นบางที่ในจักรวรรดิกรากันหรือ? แต่ผมรู้สึกเหมือนผมไม่อยากจะไปที่นั่นเลย
“ฉันขอเลือกปลอดภัยดีกว่า”
เอลม่าประกาศและเอื้อมหาเครื่องปลายทางแท็บเล็ตที่แสดงตัวเลือกร้านอาหาร
เห็นได้ชัดว่า มันเป็นร้านอาหารที่หลักๆเสิร์ฟอาหารจักวรรดิ มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ใช่วัตถุดิบสังเคราะห์สร้างจากตลับอาหารในจานด้วย แต่เป็นผักและเนื้อจริงแทน ใช่มันปลอดภัย ปลอดภัยแน่นอน
ถ้าผมต้องหาว่ามันมีอะไรไม่ดี ถ้าอย่างนั้นผมจะชี้ออกมาว่าอาหารที่เสิร์ฟมันคล้ายกับอาหารโรงแรมมากไป
“และร้านสุดท้ายคือ…… เอ๋?”
ร้านสุดท้ายเป็นร้านอาหารฟาสฟู้ดสาขาที่มีสาขาอยู่ทั่วจักรวรรดิ มันดูแลจัดการด้วยผู้ผลิตเครื่องทำอาหารออโตขนาดใหญ่สุดในจักรวรรดิ และจำนวนพนักงานที่ใช้น้อยที่สุด เครื่องทำอาหารออโตมากมายติดตั้งอยู่ภายในร้าน และลูกค้าสั่งอาหารโดยเลือกเอาจากรุ่นทำอาหารออโตที่โปรดปรานเพื่อรับประทาน
“……อะไรเหรอ?”
“พี่คิดว่ามันค่อนข้างเป็นตัวเลือกที่คาดไม่ถึงกับเธอ”
“มันไม่สนุกที่กินร้านหรูอย่างเดียวรู้มั้ย”
เข้าใจแล้ว นั่นจริง คูกิพูดอยู่เหมือนกันว่าเธอแทบไม่เคยกินอาหารที่ทำจากทำอาหารออโตเลย ดังนั้นมันอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ไม่ดี เมื่อคิดรวมทุกอย่าง
เพราะหลังๆเรากินที่ร้านแพงสุดไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เรากินข้างนอก
“ฉันอยากเลือกที่พันเอกเซเรน่าเลือก บางครั้งมันดีที่ได้กินรสชาติที่ไว้สำหรับคนหมู่มาก ไม่ว่าอย่างนั้นเหมือนกันเหรอ?”
“ใช่ ทำบางอย่างแบบนั้นนานๆครั้งอาจดีด้วย”
“มันก็มีสาขาร้านนี้กลับไปที่เทอร์เมนไพร์มด้วย หนูไปที่นั่นกับเพื่อนหนูบ่อย มัน…… นึกย้อนความหลัง”
มีมี่แสดงสสีหน้าเศร้าปนเหงาเล็กน้อย สำหรับมีมี่ มันควรเป็นที่ที่ทำให้เธอจำทั้งความสุขและทุกข์ สำหรับมีมี่ ระบบดาวเทอร์เมนเป็นทั้งบ้านเกิดและเป็นที่ที่ไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือเธอเมื่อเธอต้องการที่สุด
“เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้น น้องจะเสียดายถ้าน้องไม่มีความสุขกับอาหารรู้เปล่า?”
เอลม่าดูเหมือนจับอารมณ์มีมี่ได้และตีหลังเธอเพื่อทำให้เธอมีกำลังใจขึ้น
“ค่ะ นั่นถูกแล้ว! หนูรอคอยว่าเมนูแบบไหนที่พวกเขาจะเสนอตอนนี้ นอกจากเมนูมาตรฐาน มีอาหารอื่นที่เสนอขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย”
มีมี่ตั้งหลักและยิ้มร่าเริง อืม ที่เวลาแบบนี้มันดีกว่าที่จะเน้นมีความสุขด้วยกันเพื่อทดแทนความทรงจำเศร้าๆพวกนั้นด้วยความทรงจำที่มีความสุข แทนที่จะแค่ทำให้คนร่าเริงขึ้นด้วยคำพูดอย่างเดียว
“อืมงั้น ไปกันเถอะแล้วกินอาหารขยะกัน เพราะอาหารที่เตรียมโดยทำอาหารออโตไม่ได้แย่ล่ะนะ”
“ถูกแล้ว หนูตั้งตารอเลยล่ะ”
มันดูเหมือนคูกิก็รอคอยที่จะได้รับประสบการณ์ ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปเลยดีกว่าผมจะกินฮอตดอกหรือแฮมเบอร์เกอร์ถูกๆเป็นครั้งแรกหลังนานแล้ว