ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 324 หารืออย่างจริงจัง
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 324 หารืออย่างจริงจัง
“โอ้ ทางนี้นะบอส〜”
เมื่อผมมาถึงจุดนัดพบด้วยรถราง ผมเจอทีน่ากับวิสเกอร์รอผมอยู่แล้ว
พวกเธอสองคนติดอยู่ด้วยกันหนึบอยู่ตลอด ดังนั้นมันแค่เป็นธรรมดาที่ตอนนี้พวกเธอทั้งสองก็อยู่ด้วยกันด้วย
“ดูเหมือนเธอสองคนตั้งใจมาเดทเต็มที่เลยดิหืม?”
พวกเธอทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในชุดเอี๊ยมทำงาน พวกเธอใส่เสื้อผ้าที่ทันสมัยแทน แต่ผมคิดว่าพวกเธอยังอยู่ในชุดทำงานเมื่อพวกเธอไปทำงานกันตอนเช้า……
เมื่อมาคิดดูแล้ว พวกเธอเอาสัมภาระมา
ถ้าอย่างนั้น พวกเธออุส่าห์เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนทำงาน มันรู้สึกว่านี่วางแผนไว้ก่อนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฟุฟุ่น! เพราะบอสเห็นเราใส่เอี๊ยมใหญ่ๆนั่นแหละนะ ตอนนี้มันเป็นยังไง? ตกหลุมรักเราอีกครั้งเปล่านะ? ที่น่าจังน่ารักสู้ดๆเลยมะวันนี้ เห๋?”
“ใช่ เธอน่ารักหรือค่อนข้างเท่มากกว่า มันสดใหม่ดี”
ผมชมทีน่าตรงๆโดยไม่ตอแหล ทีน่าใส่ชุดและกางเกงที่เน้นเส้นโค้งร่างกายเธอ หรือออกน่ารักมากกว่า เธอดูมีสไตล์ เธอเตี้ยเพราะเผ่าของเธอ แต่เธอยังแสดงออกถึงเสน่ห์ของเพศตรงข้ามว่าเป็นผู้หญิงโตแล้วเพราะส่วนเนื้อหนังที่โค้งเว้าของเธอ
“แต่ไม่ใช่วิสเกอร์ดูประหม่าเหรอ?”
“โอ้ใช่ ฉันว่า มาคุยตอนเรากินเถอะ”
หลังจากพูดอย่างนั้นทีน่าขึ้นนำทัพและเข้าร้านอาหาร
เพราะเราแค่ยืนต่อหน้าทางเข้าไม่ได้ ผมจับมือวิสเกอร์ที่ประหม่าและดึงเธอไปด้วยขณะเราก็เข้าร้านอาหารเหมือนกัน พูดถึง ชุดวิสเกอร์ออกแนวผู้หญิงแทนเท่เหมือนทีน่าหรือมันเป็นชุดที่เน้นความเป็นผู้หญิงอายุน้อยของเธอ เธอใส่การผสมผสานระหว่างชุดวันพีชพร้อมด้วยแถบสีฟ้าสีเดียวกับผมของเธอ คู่ด้วยหมวกปีกกว้างสีขาว พวกเธอสองคนนำเสนอ…… คู่ที่ค่อนข้างน่าประทับใจแต่ธรรมชาติต่างกัน
“เป็นอะไรมั้ย?”
“ห-หนูขอโทษ…… หนูไม่เป็นอะไร”
วิสเกอร์ไม่ได้ดูไม่เป็นอะไรสักนิดเลย แต่เธอยืนกรานว่าเธอสบายดี ดังนันก็นั่นแหละ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามือเล็กๆของเธอเหงื่อออกเยอะ ผมเลยบอกได้ว่าจริงๆแล้วเธอค่อนข้างประหม่า ผมก็เริ่มประหม่าด้วย
แค่ประเด็นแบบไหนที่ทำให้วิสเกอร์ประหม่าขนาดนี้อยู่ดีเล่า?
เมื่อในที่สุดเร้าเข้าร้านแล้ว ทีน่าเรียกพนักงานให้พาเราไปที่นั่งแล้ว
เห็นได้ชัดว่า พวกเธอจองไว้ก่อนหน้าแล้ว
“ฉันจะนำพวกท่านทั้งสองไปที่นั่ง ได้โปรดตามฉัน”
“ขอบคุณ ทางนี้นะบอส”
“อืม เดินไหวมั้ยวิสเกอร์?”
“หนูไม่เป็นไร ใช่ ไม่เป็นไรจริงๆ”
เอ่อ เธอดูเป็นเต็มๆเลยนะรู้ไหม อืม ทั้งทีน่าและวิสเกอร์ดูประหม่า แต่พวกเธอไม่ได้แพร่บรรยากาศเศร้า ดังนั้นผมไม่คิดว่าที่พวกเธอจะคุยจะเป็นอะไรไม่ดี
ขณะผมครุ่นคิดถึงสถานการณ์ พนักงานร้านอาหารนำเราไปที่ไร้คนข้างหลังร้าน
ฉากกั้นเลี่ยงไม่ให้คนอื่นที่กินอยู่เห็นเรา และที่มันแยกไว้เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวถึงระดับหนึ่งระหว่างยังเก็บความรู้สึกว่าเป็นที่โล่งโปร่ง
“บรรยากาศร้านนี้ดีนะ”
“ดีจริงแหละนะ แสงสลัวมันก็เรียกบรรยากาศดีด้วย”
ภายในร้านไม่ได้มืด
แต่มันจงใจใช้แสงไฟที่ไม่ส่งตรงๆ ทำให้เกิดบรรยากาศที่เหมือนเป็นที่แยกไว้เฉพาะและสงบ
เหตุผลที่มันไม่ได้ดูแล้วมืดมนอาจเป็นเพราะเพลงแจ๊ซที่เล่นอย่างไม่ถูกขัดจังหวะเป็นเพลงบรรยากาศ
“เราสั่งเครื่องดื่มก่อนมั้ย? ฉันอะไรก็ได้กับไม่มีแอลกอฮอล์”
“เราจะสั่งไม่แอลกอฮอล์ด้วย มันดูเหมือนเราจะคุยนี่จบเร็ว หรือไม่งั้นวิสเกอร์จะเครียดจนสลบล่ะนะ”
ทีน่าใช้เครื่องปลายทางแท็บเล็ตเพื่อสั่งอาหารระหว่างยิ้มอย่างขมขื่น มันดูเหมือนวิสเกอร์จะไม่ได้ลิ้มรสอะไรในสภาพปัจจุบัน แต่พวกเธอยอมไม่กินแอลกอฮอล์กันเลยหรือ? ผมยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าประเด็นอะไรที่พวกเธอจะนำกันขึ้นมา
“พวกบอสไปออกกำลังวันนี้ใช่มั้ย? มีอะไรใหญ่ๆเกิดขึ้นเปล่า?”
“ไม่ได้มีอะไรเป็นประเด็นหรอก แต่เราคุยกันว่าจริงๆแล้วคูกิค่อนข้างแข็งแรง มันดูเหมือนเธอไม่ได้ฝึกอะไรพิเศษมาก่อน แต่เธอทำตามที่เราฝึกกันปรกติได้
“เฮฮ๋– งั้นสาวนั่นแข็งแกร่งกว่าที่เห็นสินะ แต่เธอดูเหมือผอมๆน่ารักๆออกหวานๆอ่ะดิ”
“เราวางทฤษฎีกันว่ามันบางอย่างเกี่ยวกับเผ่าเธอ เพราะพวกเธอก็ค่อนข้างแข็งแรงแม้ตัวเธอดูเป็นแบบนั้น ถูกเปล่าทีน่า”
“ใช่ ฉันก็ว่าเราค่อนข้างแข็งแรงกว่านิดหน่อยเมื่อเอาไปเทียบกับมนุษย์อย่างบอส จริงๆแล้วจากมุมมองเราอ่ะ มนุษย์อ่อนแออย่างคาดไม่ถึงแม้ดูเป็นอย่างนั้นนะ”
ขณะเราคุยกันพนักงานเสิร์ฟถือเครื่องดื่มมาในถาด พวกมันดูเหมือนไวน์ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันคล้ายกับน้ำองุ่น
น้ำผลไม้ที่ทำจากผลไม้จริงถือว่าเป็นของหรูในโคโลนีเหมือนแบบนี้
“งั้น วันนี้มีอะไรล่ะ? พวกเธอดูเหมือนค่อนข้างวางแผนมาอยู่นะ”
“โอ้– อืม? มันนั่นน่ะ อืม วี?”
“นั่นน่ะ อืม เอ่อ……”
ทีน่าส่งไม้ให้วิสเกอร์เฉย วิสเกอร์ยิ่งลนอย่างน่าสงสาร มันดูเหมือนมันจะกินเวลานาน
“ได้ได้ สำหรับตอนนี้ บอกฉันได้มั้ยว่ามันข่าวดีหรือร้าย?”
“อ-อืม จริงๆแล้วนั่นขึ้นอยู่กับพี่น่ะพี่ใหญ่”
“ฉันเหรอ?”
อะไรๆมันแปลก มันเป็นบางอย่างที่ทำให้พวกเธอสองไม่สงบมากขนาดนี้ พวกเธอแม้แต่เตรียมที่คุยให้เราและแต่งตัวมาอีก…… และมากกว่านั้น มันจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ขึ้นอยู่กับผมอีกหรือ?
ทันใดนั้น กระแสไฟวิ่งผ่านสันหลังผม อย่าบอกนะว่า…
อย่าบอกนะว่ามันเป็นบางอย่างแบบนั้น?
“ฉันไปปาโดนกลางเป้าเหรอ? ทั้งคู่เลยเหรอ?”
““กลางเป้า?””
สองคนเอียงหัวเหมือนถาม หืม? พวกเธอไม่เข้าใจหรือ?
“อืม ฉันจะถามว่าถ้าพวกเธอท้องมั้ย แน่นอนว่านั่นข่าวดีรู้เปล่า–”
“ม-ม-ไม่! ฉันและวีใช้ยาคุมอย่างมั่นใจไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เราทำมัน!”
หน้าทีน่ากลายเป็นแดงสดสว่างและปฏิเสธการเดาของผม โอ้ อย่างนั้นหรือ? อืม ใช่ แน่นอน มันดูเหมือนสาวๆปรึกษาประเด็นแบบนี้กันเองอยู่เรื่อยๆ ผมกังวลว่ามันจะสร้างภาระให้ร่างกายมั้ย ผมเลยเสนอการทำบางอย่างที่ฝั่งผม แต่จากมุมมองเป็นกลาง มันจะดีกว่าที่สาวๆใช้มาตรการของตัวเอง เพราะพวกเธอรู้จักร่างกายเธอเองกันดีที่สุด
“ถ้าอย่างนั้นมันคืออะไรล่ะ ฉันไม่รู้เลย”
ผมคิดเหตุผลทที่พวกเธออยู่ไม่นิ่งขนาดนี้ไม่ได้นอกจากว่าผมปาโดนกลางเป้า หลังๆพวกเธอยุ่งเข้าๆออกๆออฟฟิศสาขาสเปซดเวิร์กที่ระบบดาววินดาสเตอร์ติอุสเพื่อส่งข้อมูลค้นคว้ายานไม่รู้จักที่เราเก็บมาได้ ผมเลยคิดเหตุการที่ทำให้พวเธอเป็นอย่างนี้ไม่ได้ อา บางทีมันเหมือนกับการย้ายตำแหน่งพนักงานหรือ? แน่นอนว่านั่นจะเป็นปัญหา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ใช่มันจะไม่เป็นไรที่เรียกมันว่าข่าวร้ายหรือ? ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่อะไรแบบนั้นด้วยเหมือนกันสิ?
“มืม ฉันคิดไม่ออกเลยอ่ะ ขอยอมแพ้ บอกฉันได้แล้วมั้ยพวกเธอ?”
“อืม เอ่อ เรา…… เราคิดว่าเราจะออกจากบริษัท”
“โฮ่”
เข้าใจแล้ว
“พูดอีกอย่าง เธอไม่อยากอยู่กับเราเพราะสัญญากับสเปซดเวิร์ก แต่อยากเข้าเป็นลูกเรือทางการของเราแทนเหรอ?”
“ช-ใช่ อืม ถ้านั่นไม่เป็นไรกับบอส…..”
“แน่นอน ฉันไม่เป็นไรเลย หรือฉันจะอ้าแขนต้อนรับเธอด้วย ให้ตาย ฉันจะเอาเรื่องนี้มาพูดถ้าในที่สุดพวกเธอไม่พูดอีกด้วย”
“จ-จริงเหรอ?”
“จริงๆ ฉันพยายามหาจังหวะพูดดีๆอยู่”
ผมพูดตรงๆ
แต่เพราะไม่มีความไม่สะดวกชัดๆกับที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ และพวกเธอทั้งสองคนไม่ได้ดูขัดใจด้วย สุดท้ายผมเอาเรื่องนั้นไว้ก่อน
“ถ้าพวกเธอถูกขอโดยบริษัทให้ออกจากบัวเข้าสักวัน ฉันจะขอให้เธอลาออกและทำงานกับฉันเป็นลูกเรือแทน ฉันแค่พยายามหาเวลาดีๆพูดกับพวกเธอ แต่สุดท้ายพวกเธอนำมันขึ้นมาก่อน”
“อย่างนี้นี่เอง…… ฮ่าาา–”
มันดูเหมือนที่คีน่าเครียดจนตึงผ่อนคลายในที่สุด และเธอหายใจออกลึกๆ วิสเกอร์ค่อนข้างทำอย่างเดียวกันกับที่พี่สาวทำ
“หนูกังวลว่าเราจะทำยังไงดีถ้าพี่ปฏิเสธ พี่ใหญ่ หนูปรึกษากับพี่สาวมาหลายวันแล้ว”
“ในที่สุดเราก็บอกเจตนาเรากับบริษัทวันนี้”
“พวกเธอบอกบริษัทว่าจะลาออกก่อนปรึกษากับฉันเหรอ? อืม มันไม่เหมือนว่าฉันจะปฏิเสธพวกเธออยู่ดี”
ผมคิดว่าขั้นตอนมันกลับหัวกลับหางแล้ว แต่บางทีพวกเธอปรึกษากับมีมี่, เอลม่า, และเมย์เกี่ยวกับมันก่อนแล้ว ดังนั้นนั่นทำไมพวกเธอทำระหว่างมั่นใจว่าผมจะไม่ปฏิเสธพวกเธอ แต่พวกเธอยังดูเหมือนประหม่า
“เป็นอะไรมั้ยนั่นวิสเกอร์”
“หนู ไม่เป็นไร….. หนูหมดแรง”
บางทีเพราะเธอเครียดมากเกินไปก่อนหน้านี้ วิสเกอร์นอนพาดบนโต๊ะอย่างอ่อนแอและดูเหมือนหมดแรง เธออาจได้แผลทางใจอย่างไม่จำเป็นและอารมณ์เครียดเกินไปโดยเพิ่มภาระทางจิตให้ตัวเอง พูดตรงๆ พวกเธอไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย ผมจะตกลงทันทีแม้ว่าพวกเธอพูดกันเหมือนเรื่องธรรมดา
“ฮ่าาา–…… อืม เพราะในที่สุดนั่นก็สรุปแล้ว เรามาชนแก้วกันดีมั้ยบอส?”
“แน่นอน เราจะชนแก้วเรื่องอะไรล่ะ?”
“กับอนาคตที่สดใสของเราสามคน ฉันว่า”
จากนั้นทีน่าเริ่มชูแก้ว อนาคตที่สดใส ฟังดูดี มาทำเต็มที่เพื่อให้อนาคตสดใสจริงๆถ้าอย่างนั้น