ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ - ตอนที่ 33 เล่ม 2 ความจริงในสายตาคนคนหนึ่ง
- Home
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ
- ตอนที่ 33 เล่ม 2 ความจริงในสายตาคนคนหนึ่ง
33 เล่ม 2 ความจริงในสายตาคนคนหนึ่ง
“ยินดีต้อนรับกลับมา!”
“อ้า เรากลับมาแล้ว”
“เราถึงบ้านแล้ว มีมิ”
เรากลับไปที่กฤษณะและถูกทักทายโดยมีมิ มันดูเหมือนเธออยู่ในระหว่างการตรวจอะไรบางอย่างและถือเทอร์มินัลของเธอในมือหนึ่ง
“หนูตรวจอะไรอยู่เหรอตอนนี้?”
“ใช่ หนูพยายมจะหาว่าหนูหารศูนย์การแพทย์ที่มีรีวิวดีๆได้มั้ยน่ะ”
“เข้าใจแล้ว ผลเป็นไงล่ะ?”
“หนูยังอยู่ในระหว่างเช็ครีวิวน่ะ มันไม่เหมือนว่าที่ที่มันแพงจะยิ่งดี เมือคิดถึงกรณีของฮิโระ-ซามะ หนูยังตัดสินใจระหว่างที่ที่เชี่ยวชาญในระบบประสาทหรือที่เชี่ยชาญในจิตเวช……”
มีมิครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่ซีเรียส ความจำเสื่อมที่เลือกที่ที่ผมอ้างมันเป็นเพียงเรื่องอ้างที่ผมคิดเพื่อที่จะเลี่ยงความจริงเท่านั้น – แะความจริงนั่นก็คือผมถูกโยนเข้ามาที่โลกนี้จากความเป็นจริงอื่น เพราะทั้งหมดแน่นอนว่ามันฟังดูไม่มีเหตุผล
พูดอีกอย่าง ถ้าพูดถึงเรื่องทางการแพทย์ จริงๆแล้วผมเหมาะสมอย่างอย่างมาก ยังไงซะ เพราะมันก็มีความเป็นไปได้ว่าผมแค่ถูกททำให้คิดอย่างนี้ว่าผมมาจากความเป็นจริงอื่นและจริงๆแล้วผมเป็นผู้คนของความเป็นจริงนี้
ไม่ว่าจะกรณีไหน ตอนนี้ ผมเชื่ออย่างเต็มที่่ว่าผมใช่บางคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ แต่เป้นคนที่ชื่อทากาฮิโระ ซาโตะ ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ในโลกของผมยานเหมือนกฤษณะมันมีอยู่แค่ในเรื่องแต่ง และมนุษยชาติยังงไม่สามารถสำรวจทะเลแห่งดาวได้เต็มๆ
“ความจำเสื่อม หือห์……”
ตรงกันข้ามกับมีมิที่หาทางย่างตั้งใจที่จะช่วยผมรักษาสิ่งที่สมควรจะเป็นสถานะทางการแพทย์นี้ เอลม่าจ้องผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ดูเหมือนความจำเสื่อมของผมจะไม่บินไปกับเอลม่าหือห์
ถ้าผมเดาถูก เอลม่าคิดว่าผมเป็นนายน้อยหนุ่มที่ร่ำรวยที่ไม่เหมาะสมกับสังคม ที่หนีออกจากบ้านเพื่อทำการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่หรืออะไรบางอย่างแบบนั้น
ในโลกนี้ เนื้อและผัก 「ปรกติ」 ถูกพิจารณาว่าเป็นของซุปเปอร์ฟุ่มเฟือย เห็นว่านะ ในโลกนี้ คนส่วนใหญ่กินอาหารที่ออกแบบจากวิศวกรรมเทียม ที่เป็นของที่สร้างมาจากสาหร่ายและสิ่งมีชีวิตที่เหมือนคริลล์ ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อทดแทนไปแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ผมจบที่การถามว่าพวกเขาขาย 『เนื้อและผักธรรมชาติ』 มั้ยเมื่อผมออกไปเพื่อช้อปอาหารกับเอลม่าเป็นครั้งแรก ในโลกนี้ คนแบบเดียวที่จะพูดถึงสิ่งเหล่านั้น ว่าพวกมันปรกติเป็นพวกรวยๆหรืออชนชั้นที่มีสิทธิพิเศษ
เรื่องนี้ทำให้เอลม่าเชื่อว่าผมเป็นเด็กรวยๆที่พยายามจะซ่อนตัวตนของเขาโดยการแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม ผมเดาว่าผมก็จะคิดแบบนั้นถ้าผมเป็นเอลม่า
แต่ความเป็นจริงมันต่างไปมาก ผมน่าจะสุขภาพดีเหมือนกระทิงและไม่มีปัญหากับความทรงจำด้วย ผมยังไม่มีเงื่อนงำว่าผมถูกส่งมาที่โลกนี้ได้ยังไง แต่ผมจำรายละเอียดของชีวิตที่ผมทีืี่ญี่ปุ่นได้อย่างละเอียด ก่อนผมจะถูกส่งมาที่นี่ สิ่งเดียวที่ผมจำไม่ได้ คืออีเว้นท์ที่นำผมมาสู่การถูกส่งมาที่โลกนี้ มันช่างโชคร้ายจริงๆ เมื่อพิจารณาว่ามันเป็นชิ้นข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับผม
“จริงๆหนูไม่ต้องโฟกัสกับเรื่องความทรงจำของพี่ แค่หาที่ที่พี่ตรวจร่างกายอย่างละเอียดได้ก็พอ พี่ก็อยากที่จะฉีดวัคซีนสำหรับโรคติดต่อและหลายๆอย่างแบบน้นให้ตัวเองด้วย ได้โปรดหาที่ที่พี่ทำทั้งหมดนั่นได้”
“เข้าใจแล้ว……”
“พี่ก็โอเคกับทั้งหมดนั่นแล้วด้วย แต่พี่คิดว่ามีมิควรจะตรวจด้วยเหมือนกัน เพราะทั้งหมดมันมีบางอย่างที่เหมือนโรคติดต่อที่ถึงตายที่ติดได้แค่กับมนุษย์ พี่คิดว่ามันจะดีกว่าที่หนูจะฉีดวัคซีนพวกนั้นทั้งหมด เผื่อไว้น่ะนะ”
“และเธอโอเคที่จะไม่ฉีดเหรอ เอลม่า?”
“ชั้นฉีดพวกนั้นของชั้นไปนานแล้วน่ะ”
แม้ว่าเอลม่าจะพูดอย่างนั้น ผมส่ายหัวของผม
“ชั้นจะจ่ายค่าตรวจ ดังนนั้นมันดีกว่าที่เธอจะเข้าตรวจด้วยเหมือนกันเอลม่า เพราะทั้งหมดมันเป็นหน้าที่ของกัปตันที่จะดูแลสุขภาพของลูกเรือ พี่จะจ่ายให้หนูด้วย มีมิ”
“ได้ค่ะ”
“จริงเหรอ? อื้ม โอเคงั้น”
ทั้งมีมิและเอลม่าพยักหน้าเห็นด้วย ยอดเยี่ยมผมสามารถที่จะให้พวกเธอไปด้วย
มันไม่เหมือนว่าผมเกลียดการไปโรงพยาบาล นะครับ มันแค่การไปด้วยตัวเองคนเดียวมันค่อนข้างเหงายังไงก็ไม่รู้ ใช่มั้ย? และผมหมายถึงมันจริงๆเรื่องที่ผมพูดถึงการดูแลสุขภาพของลูกเรือ มันจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปถ้าการทำแบบนั้น มันลดขีดจำกัดของความเสี่ยงให้ผมและสาวๆไม่ให้ป่วยได้
“แต่พี่สงสัยว่ามันจะราคาเท่าไหร่กันนะ”
“หนูไม่มั่นใจ แต่มัน 1,000,000 อีเนลต่อหัวหรือประมาณนั้น”
“ไม่ใช่ว่ามันสูงสำหรับการคร่าวๆเหรอ…? ยังไงซะมันจะสบายแม้ว่ามันจะมากเท่านั้น”
แม้ว่ามันจะราคา 1,000,000 อีเนลต่อหัว สินทรัพย์ของผมตอนนี้มันมีจำนวนมากกว่า 10,000,000 อีเนลไม่ว่ายังไง แน่นอนว่ามันแพง แต่เพื่อพิจารณาว่ามันเพื่อสุขภาพ แง่นึงก็พูดได้ว่ามันถูก
แต่ ยังไงซะ เพราะหนึ่งอีเนลมันเทียบเท่ากับร้อยเยนญี่ปุน ผมจะจบที่การที่ต้องจ่ายร้อนล้านเยนให้เราแต่ละคน ใช่ม้้ย? ถ้าผมจบที่การคิดว่าเรื่องนี้เป็นอะไรบ่างอย่างที่ราคาถูก ผมจะรู้สึกว่าความรู้สึกเรื่องเงินของผมมันบิดเบี้ยว
“ฮิโระ-ซามะ หนูคิดว่าล้านอีเนลมันค่อนข้าง…”
“เฮ้ ไม่ดีนะถ้าหนูหนีเพราะราคามันล้านนึงหนะ รู้มั้ย?”
“น่าห์ อย่ากังวล มันตัดสินใจไปแล้วไม่ว่ามันจะราคาเท่าไหร่”
“นั่นโอเคถ้างั้น”
แต่มันจริงที่ว่าเราไม่มีไอเดียใดๆเลยว่าจริงๆแล้วมันกี่อีเนล ผมจะตรวจการเงินอีกครั้งและาทำให้มั่นใจว่าเรามีพอภายหลัง
—————————————————————
เราใช้เวลาของเราเพื่อผ่อนคลาายไปทั่วเมื่อเรากับมาที่ยาน เรากินอาหารที่อร่อยที่ถูกเตรียมโดยเครื่องทำอาหาร-ออโต้ประสิทธิภาพสูง 『เท็ตซุจิน Mk. V』 และผ่อนคลายในอ่างหลังจากนั้น เราทำการฝึกประจำวันด้วย และไปสู่เตียงเราหลังจากที่เราทำเสร็จ
“โฮ-ฮึม…”
“ช่างสกปรก……”
“ชั้นไม่อยากได้ยินจากเธอหรอกนะ ที่เห็นเธอนอนไปทั่วเตียงกับชั้นด้วยที่นี่น่ะ”
ผมนอนหงายหน้าอย่างขี้เกียจอยู่บนเตียง และเองม่าซบอกของผมระหว่างที่เขี่ยเทอร์มินัลดาต้า เราเป็นตัวอย่างที่ส่องประกายของคู่รักที่ขึ้เกียจ ไม่ใช่เหรอ?
“ชั้นเดานะ ได้ขี้เกียจไปทั่วแบบนี้มันไม่แย่นานๆครั้ง”
“ใช่”
การขี้เกียจไปทั่วกับเอลม่าแบบนี้ มันมีเสน่ห์ของมัน ผบรู้สึกว่าผมเล่นอยู่กับหมาเชื่องๆที่น่ารักบางครั้ง ไม่เรานอนด้วยกันแบบนี้ เราก็นอนหนุนตักกัน หรือไม่เราก็บมองเพดานเหม่อๆ มันมีความสัมพันธ์ทางผิวหนังระหว่างเราตั้งแต่ที่เราอยู่ด้วยกัน
เวลาเหล่านี้ มันก็สึกสงบสุขอย่างสบายๆยังไงก็ไม่รู้ และมันเป็นวีธีผ่อนคลายและคลายความเครียดของเธอที่เธอชอบ เพราะเอลม่าชอบมัน ผมก็พบว่าผมก็มความสุขกับมันไปด้วย
“หืม มันดูเหมือนมีมิเจอคนที่จะซื้อลูทเราแล้ว”
“โอ้? ฟังดูยอดเยี่ยม เค้าเสนอมาเท่าไหร่?”
“ยกเว้นค่าดำเนินการ เธอขายไปรวม 4500 อีเนล พอเอามารวมกับรางวัลค่าหัว ที่ได้ทั้งหมดครั้งนี้มัน 19,500 อีเนล ชั้นเดานะ”
“เอ่องั้น ที่เธอจะได้ 3% งั้น…ส่วนของเธอ 585 อีเนล หือห์”
“มีมิได้ 98 อีเนล”
“มันน้อยจัง”
“ปรกติมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ แทนที่จะพูดแบบนั้น การได้ 8,000,000 อีเนลหลังจากภารกิจเดียวนั่นแหละที่ไม่ธรรมดา พูดถึงแล้วส่วนของนาย 18,817 อีเนลนะ”
“จ้ะ มันไม่เหมือนว่าชั้นรีบทวง”
“……ปรกติเจ้าของหนี้จะให้รีบๆจ่ายนะ รู้มั้ย?”
เอลม่ามองผมด้วยหน้าตาที่โกรธบนหน้าที่น่ารักของเธอ
“อื้ม ชั้นแค่อยากจะใช้เวลาให้มากเท่าที่ทำได้กับเอลม่าน่ะ”
นั่นเป็นความรู้สึกจริงๆของผมนะพูดถึง เอลม่าเป็นหนี้ผมอยู่สามล้านอีเนล และเธอทำงานเป็นลูกเรื่อบนกฤษณะเพื่อที่จะหาเงินนให้มากพอที่จะจ่ายหนี้ และหาเงินให้มมากพอที่จะเริ่มงานทหารรับจ้างอิสระใหม่ เธอจะไม่มีเหตุผลที่จะอยู่เป็นลูกเรือของเราอีกแล้วตอนนั้น
เอลม่าเป็นลูกเรือที่ค่อนข้างมีทักษะ และเราพึ่งพาเธอมากขึ้นและมากขึ้นหลังๆ บวกกับ เะอเป็นคนที่งดงาม และเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบ 『นั้น』 แล้วด้วย และเธอสร้างความสัมพันธ์ทางการงานและส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา มีมิก็ด้วย
ดังนั้น มันธรรมชาติสำหรับผม ที่อยากจะอยู่กับเธอนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
“ไม่ต้องกังวลมากหรอกหน่า บื้อ ชั้นจะอยู่กับนายนานๆ แม้ว่าชั้นจะจ่ายหนี้ได้แล้ว เพราะทั้งหมดชั้นตต้องซื้อยานใหม่ด้วย”
หลังจากที่พูดอย่างนั้น เอลม่าแหมะหัวของเธอไว้ที่ท้องของผม ฟุฟุฟุ ผมได้ฝึกตัวเองตั้งแต่ที่ผมมาที่โลกนี้ ดังนั้นผมมีฐานทัพที่ได้รับการดูแลแล้ว! ดูมันซะ กล้ามท้องซิกแพคที่มหัศจรรย์เหล่านี้!
“นายยิ้มอะไรของนายกันหึ้? มันแข็งไปมันเลยนอนบนมันยาก”
“เอ่อ ขอโทษ”
“อื้อออ นั่นดีกว่า เด็กดีเด็กดี”
มันดูเหมือนเอลม่าไม่ได้ชอบกล้ามท้องแข็งๆ เธอทำให้ตัวเองสบายดดยการถูกแก้มบนท้องของผมมันค่อนข้างจั๊กจี้
“เฮ้…”
“หืม?”
“นายไม่ได้ความจำเสื่อม ใช่มั้ย?”
“ชั้นไม่ได้โกหกนะ รู้ป่ะ”
“ไม่เหมือนว่านายจำเป็นต้องซ่อนมันนะ”
หัวขงเอลม่าซึ่งอยู่บนท้องของผม ส่ายมันดูเหมือนเธอหัวเราคิกคักอยู่
“ยังไงซะ ยังไงชั้นก็ไม่ได้มีแผนที่จะกดดันเอาคำตอบจากนาย ถ้ารู้แล้วมันจะแย่เหรอไง?”
“อืม… ยังไงซะ ไม่ค่อยหรอก แต่ชั้นกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อชั้นมากกว่า”
“พูดอะไรของนายวะ บื้อ?”
มันไม่เหมือนว่าผมจะบอกเธอไม่ได้ มันแค่ว่าผมไม่รู้ว่าเอลม่าจะตอบสนองยังไง ถ้าผมเปิดเผยว่าผมเป็นคนที่มาจากมิติอื่น ที่น่าจะใช่มากที่สุดคือเธอจะคิดว่าผมบ้า หรือบางทีผมจะถูกพาไปวิจัยบางที่และกลายเป็นหนูทดลอง
“ชั้นบอกเธอได้นะถ้าเธออยากฟัง แต่ชั้นคิดว่าเธอจะบอกว่าชั้นบ้านะ”
“ถ้านายพูดอย่างนั้น มันทำให้ชั้นค่อนข้างประหม่า…แต่ยังไงก็มาฟังมันเถอะ”
“เข้าใจแล้ว หืม โอเคชั้นเริ่มที่ไหนดี…คุ้นๆกับโลกคู่ขนานหรืออะไรอย่างมิติอื่นมั้ย?”
“ชั้นพอนึกออกคร่าวๆนะ แต่ชั้นไม่คิดว่าอะไรบางอย่างแบบนั้นมันเป็นไปได้จริงๆ”
เอลม่ายักไหล่ของเธอขณะที่ยังวางหัวอยู่บนท้องของผม ใช้มันเป็นหมอน
“ใช่ อืม แต่ชั้นน่าจะมาจากโลกแบบนั้นน่ะ ตัวชั้นพร้อมกับกฤษณะน่ะนะ ชั้นหมายถึง ในหัวของชั้น ชั้นคิดว่ามันเป็นความจริงที่แน่นอน”
เอลม่าเปลี่ยนเป็นเงียบเหมือนกับขยะแขยงกับคำพูดผม
“เธอจำลุงที่กิลที่พูดว่าชั้นไม่มีดาต้าส่วนตัวบันทึกไว้ที่ไหนเลยได้มั้ย เมื่อชั้นสมัครครั้งแรกน่ะ? แน่นอน ว่าชั้นไม่มี เพราะตั้งแต่ทีแรก เพราะทั้งหมดที่แรกที่ชั้นเจอว่าตัวเองเข้าไป เมื่อชั้นถูกส่งมาที่มิตินี้คือเทอร์เมนไพร์ม”
“ตอนนี้เมื่อนายพูดถึงมันแล้ว เค้าพูดบางอย่างแบบนั้นจริงตอนนั้น แต่ แค่ว่า…ไม่ บางทีมันเป็นไปได้ที่โลกคู่ขนานจะมีจริง คิดว่านะ?”
“จากอาวุธและเทคโนโลยี่ของยานชั้นเหรอนั่น?”
“ช่าย ถ้านายมาจากมิติอื่นโดยสิ้นเชิงจริงๆ อุปกรณ์และเทคโนโลยี่กฤษณะของนายมันคล้ายกับพวกนั้นที่ใช้ในโลกนี้ นั่นก็เป็นบางอย่างที่มันแปลกในตัวมันเอง เราตัดความเป็นไปได้ไม่ได้ว่าทั้งสองโลกมันคล้ายกันคร่าวๆ เท่าที่ชั้นเห็น ยานมันมีอยู่ลำเดียวในโลก ชั้นไม่เคยสามารถที่จะเจออะไรเลยแบบมัน… แต่มันก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่นะ เมื่อตัดสินใจจากผลงานของนายเท่าที่เห็นน่ะ เพราะมันแน่นอนว่านายมีประสบการณ์และทักษะในการเป็นทหารรับจ้าง ทักษะของนายไม่ใช้คนที่เป็นทหารรับจ้างทั่วไปจะมีได้ ยังไงก็ตามแต่มันก็จริงที่ว่านายไม่มีสามัญสำนึกปรกติเลย งั้นนายก็มาจากโลกที่มีเทคโนโลยี่แบบเดียวกัน และก็มีตัวตนของทหารรับจ้าง แต่มีขนบธรรมเนียมประเภณีและสามัญสำนึกที่ต่างกันจากโลกนี้เหรอ? ไม่ใช่ว่านั่นมันแปลกเหรอ?”
“ยังไงซะ… ชั้นคิดว่าเธอจะงงขึ้นไปอีก แต่…ตั้งแต่ทีแรกชั้นไม่ได้เป็นทหารับจ้าง ชั้นเป็นแค่พนักงาน; คนกินเงินเดือนน่ะเมื่อพูด ชั้นแค่มีงานอดิเรกคือการเล่นเกม”
“ไม่มีทางที่คนเงินเดือบปรกติจะรู้ว่าจะสู้แบบนายยังไงรู้มั้ย! นายก็มีทักษะกับปืนด้วย ใช่มั้ย? ไม่ใช่ว่านายพูดว่านายได้ปืนนั้นมาเป็นรางวัลการชนะทัวร์นาเมนต์หรืออะไรบางอย่างเหรอ?”
ปืนที่เอลม่าพูดถึงคือปืนเลเซอร์ส่วนตัวของผม มันดูเหมือนมันหายากแบบอัลตร้า และเป็นของที่สร้างมาจากสตูดิโอผลิตปืนที่โด่งดังที่เรียกว่าแมนดาส เวิร์กช็อป
ผมมีทักษะในฐานะทหารรับจ้างที่ขับยานอวกาศเหมือนทหารผ่านศึกที่ถูกตบเหรียญ และมีปืนเลเซอร์หายาก แน่นอนว่าพวกนี้มันไปเป็นพลังการช่วยเจรจาเลยเมื่อผมพูดว่าผมแค่เป้นพนักงานกินเงินเดือน ผมเข้าใจจุดนี้ดีด้วย
มันเป็นไอเดียที่ไร้สาระที่คนเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ จะเอาชนะอาวุธไซบอร์กและเครื่องจักรนาโนได้ด้วยมือเปล่าของเขาอย่างท่วมท้น
“เธอพูดถูก แต่ชั้นได้ทั้งหมดนี้มาจากการเล่นเกมน่ะ”
เอม่าส่งเสียง ‘หืม!?’ ที่ไม่สบายใจเมื่อเธอได้ยินผม
“พูดอีกอย่าง นายอยากจะพูดว่านายถูกส่งมาที่โลกที่คล้ายกับเกมที่นายเล่นน่ะเหรอ?”
“นั่นถูกเลยแหละ และในมิติที่ชั้นอยู่ มนุษยชาติยังไม่พัฒนาเทคโนโลยีที่พอเพียงที่จะเดินทางกันในอวกาศ บางอย่างเหมือนการเป็นเจ้าของยานอวกาศที่ฟิ้วผ่านคอสมอสในอินเตอร์สเตลล่ามันเป็นบางอย่างที่เจอได้แค่ในเรื่องแต่งหรือวีดีโอเกม”
“นั่นฟังดูเหมือนดาวเคราะห์ที่มีพลเมืองโบราณเลยนะ ไม่ใช่เหรอ…มันฟังดูเอื้อมไกลจริงๆแหละ มากพอที่จะคิดว่านายบ้าได้จริง บางอย่างเหมือนการถูกโยนเข้ามาในโลกของเกม มันฟังดูเหมือนพล็อตทั่วไปของนิยายวัยรุ่นเลย”
“ใช่มั้ยล่ะ? จากใจเลยนะ ชั้นคิดว่ามันจะน่าเชื่อมากกว่าถ้าชั้นบอกว่าชั้นได้ถูกเขียนความทรงจำใหม่เนื่องจากแผนลับอะไรบางอย่าง และชั้นได้ถูกทำให้เชื่อว่าชั้นมาจากอีกมิตินึงด้วยเหตุผลบางอย่างน่ะ”
“แต่ อย่างน้อยๆ นายคิดว่าทุกอยากที่นายบอกชั้นเมือกี้นี้เป้นความจริง ถูกต้องมั้ย?”
“มันแค่มุมมองสิ่งต่างๆส่วนตัวของชั้น เรามั่นใจไม่ได้จริงๆจนกว่าชั้นจะใครบางคนสืบเรื่องหัวของชั้นอย่างทั่วถึงหรืออะไรบางอย่างน่ะ”
“เดาว่างั้น แต่มันก็ไม่เหมือนว่ามันไม่มีวิทีที่จะทำแบบนั้น…… แต่จริงๆนายไม่ต้องเครียดกับมันมากก็ได้ ชั้นว่านะ”
“จริงเหรอ?”
“ชั้นเข้าใจว่าทำไมนายขัดใจ แต่มันก็ไม่ใช่ว่านายมีปัญหากับสถานการณ์ปัจจุบันหนิ ถูกม้้ย?”
“อืม ชั้นไม่คิดว่างั้น ใช่”
มันไม่เหมือนว่าผมไม่อยากจะหาเหตุผลสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของผม แต่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนว่าผมต้องหามันให้พบอย่างแน่นอนด้วย เพราะทั้งหมดผมไม่มีเหตุผลอะไรที่กดดันอยู่ ที่ทำให้ผมต้องกลับไปที่โลกเก่า
“งั้น สบายๆละกัน แค่ปล่อยมันให้โชคชะตาหรืออะไรบางอย่าง”
“ใช่ เดาว่านั่นถูก”
“ชา่าาาย”
“เข้าใจแล้ว…… แต่แค่นั้นเหรอ? มีอะไรจะถามอีกมั้ย?”
“ไม่มี ไม่ว่านายจะมองตัวเองเป็นยังไง มันไม่เปลี่ยนการที่ชั้นมองนายนายเป็นคนที่มีทักษะมาก แต่บื้อๆยังไงก็ไม่รู้ หรือบางทีนายก็คิดเป็นบางคนที่อยู่ในระหว่างการเป็นนักเรียนมัธต้น เพราะพวกเค้าจะคิดแบบนี้บ่อยๆ”
“ได้โปรด แค่หยุดเถอะ มันน่าอายนะ รู้ป่ะ……”
เอลม่าเข้าสู่การหัวเราะคิกคักต่อเนื่องหลังจากที่ได้้ยินผมบ่น
“เธอเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
“อื้ม แน่นอน ว่าชั้นเป็น นายคิดว่านายพูดกับใครอยู่ล่ะ?”
“กับเอลม่า เอลฟ์ที่น่าผิดหวัง”
“เฮ้ย หยุดนั่นนะเจ้างี่เง่า”
เอลม่าเริ่มจั๊กจี๋ข้างผมด้วยนิ้วที่ละเอียดอ่อนของเธอ และเราเริ่มปล้ำกันข้างบนเตียง ฟุฟุฟุอย่าคิดนะว่าเธอจะเอาชนะกายนี้ด้วยแขนบางๆของเธอได้—
“กุว้าาาา!? ไรวะ!? ครอสอาร์มบาร์!?W
ผมไม่สามารถที่จะเอาชนะได้ในท้ายที่สุด… เธอปลดปล่อยท่ามวยปล้ำที่ไม่ธรรมดากับผมอย่างต่อเนื่อง แต่ผมอยากให้เธออ่อนโยนกับความสัมพันธ์ทางผิวหนังมากกว่านี้หน่อยนะ ไม่ จริงๆผมยืนกรานเลย
เป้าหมายเดือน 7/66
ค่าเน็ต 200/200
รับยา ยาหมด 0/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 605/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook