ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1008 กาวที่เหนียวแน่นทนทาน
ว่ายน้ำติดต่อกันสิบห้ากิโลเมตร นี่ไม่ได้ทดสอบกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่ยิ่งไปกว่านั้นยังทดสอบประสบการณ์อีกด้วย
ไม่มีใครสามารถว่ายน้ำสิบห้ากิโลได้ในอึดใจเดียว ดังนั้นนักว่ายน้ำจึงต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนและจัดสรรเป็นอย่างดี บางครั้งก็ต้องยืมพลังของคลื่นทะเลในการลอยตัวสักพัก เพื่อช่วยฟื้นฟูกำลังกาย การแข่งขันเพื่อการกุศลในครั้งนี้เป็นการว่ายน้ำตามทิศทางลม ดังนั้นฉินสือโอวจึงเริ่มว่ายน้ำจากกลางทะเลไปสู่บริเวณริมชายฝั่ง เพื่อจำลองสนามการแข่งขันจริง
การทดลองครั้งแรก ฉินสือโอวรวบรวมพละกำลังว่ายน้ำเป็นเวลาติดต่อกัน กำลังกายและความอดทนของเขามันผิดปกติเป็นอย่างมาก ว่ายน้ำเป็นเวลาติดต่อกันออกมาได้หกเจ็ดกิโลเมตร เขาถึงเพิ่งจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แล้วปีนขึ้นไปพักผ่อนบนเรือยอชต์ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ เพื่อเพิ่มพลัง
แน่นอนว่า นี่เป็นการแสดงของเขาทั้งสิ้น ตอนอยู่ในน้ำเขาแทบจะไม่ได้สูญเสียพลังงานไปเลย กฎของเทอร์โมไดนามิกส์ในฟิสิกส์แบบฉบับ ไม่มีผลกับร่างกายของเขา
ชาร์คและคนอื่นๆ คลุมผ้าห่มสักหลาดให้เขาด้วยความเลื่อมใส แล้วส่งเครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อนที่ซีลไว้ให้กับเขา สรรเสริญเยินยอเขาสารพัดอย่างเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคารพและศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อฉินสือโอว
บูลหอบหายใจหนักๆ ว่ายน้ำตามมา เขาจะปีนขึ้นมาพักจึงจับด้านข้างของเรือยอชต์เอาไว้ แลนซ์ก็ถีบเขาลงไปอีกครั้ง แล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ปีนขึ้นมาทำซากอะไรของแก ลงทะเลไปซะ!”
แบล็คไนฟ์เองก็พูดกับเขาอย่างเหยียดหยามว่า “อ่อนหัด บอสเปลือยท่อนบนว่ายน้ำด้วยซ้ำ แกสวมชุดประดาน้ำแต่ดันอยากได้รับการดูแลเหมือนกันอย่างนั้นน่ะเหรอ? น่าขายหน้าลูกชายแกจริงๆ!”
บูลอยากร้องไห้ทั้งๆ ที่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ไอ้พวกเวร ฉันว่ายน้ำติดต่อกันมาตั้งหกเจ็ดกิโลเมตรฉันเหนื่อยแล้ว โอเคไหม พวกแกกล้าหาญนักก็ลงมาลองดูหน่อยไหมล่ะ
คำพูดแบบนี้พูดไปก็เปล่าประโยชน์ บูลมองค้อนปะหลับปะเหลือก ทำได้แค่เปลี่ยนความเศร้าโศกเสียใจจากความเจ็บแค้นให้กลายเป็นพลัง ก้มหน้ากัดฟันว่ายน้ำไปข้างหน้าต่อ
มองดูแผ่นหลังที่เงียบเหงาซึมเซาของบูล ชาร์คก็อดพูดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขาไม่ได้ “ว่ายน้ำในฤดูกาลนี้ ว่ายน้ำออกมาติดต่อกันได้ถึงห้ากิโลเมตรก็สุดยอดแล้ว หรือว่าบูลต้องพักผ่อนแล้วจริงๆ?”
แลนซ์หันไปมองหน้าแบล็คไนฟ์ แล้วถามว่า “สถิติการว่ายน้ำในฤดูหนาวของนายอยู่ที่เท่าไร?”
แบล็คไนฟ์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ช่วงฤดูหนาวไม่เคยทดสอบมาก่อน แต่สถิติช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ราวๆ หกกิโลเมตร”
“เวร รีบบอกให้บูลขึ้นมาเถอะ!”
แม้จะเป็นการแข่งขันไตรกีฬาคนเหล็กที่มีข้อกำหนดที่ต้องใช้ขีดจำกัดสูงสุด แต่รายการการแข่งขันว่ายน้ำก็มีระยะทางไม่เกิน 3.8 กิโลเมตร สามารถโหมว่ายน้ำถึงห้ากิโลเมตรได้ในครั้งเดียว ก็น่านับถือมากๆ แล้วจริงๆ
หลังจากที่พักผ่อนไปแล้วฉินสือโอวก็ลงน้ำไปอีกรอบ หู่จือกับเป้าจือที่ตามมากับเรือยอชต์ก็ยื่นอุ้งเท้าออกไปลองวัดอุณหภูมิน้ำ หลังจากนั้นจึงกระโดดลงน้ำไปอย่างแน่วแน่ เพื่อว่ายน้ำไปกับฉินสือโอว
ท้ายที่สุดตอนที่ฉินสือโอวปีนขึ้นมาบนท่าเรือ กลุ่มคนที่รอคอยอยู่ตรงนั้นก็ทยอยกันปรบมือให้เขา ศาสตราจารย์แซนเดอร์สที่เข้ามาลูบผิวของฉินสือโอวก็อุทานอย่างตื่นตะลึงว่า “พระเจ้า คุณมันเป็นปีศาจในร่างคนชัดๆ!”
ทิญาตกใจจนแทบพูดไม่ออก “ร่างกายของฉินแข็งแกร่งสุดยอดมาก! พระเจ้า ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันคงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าในฤดูกาลอย่างนี้จะมีใครสามารถว่ายน้ำตัวเปล่าได้ถึงสิบห้ากิโลเมตร!”
หู่จือกับเป้าจือเหนื่อยจนแลบลิ้นหายใจหอบ พวกมันลงน้ำตั้งแต่ช่วงครึ่งทาง อีกทั้งยังเป็นยอดสุนัขที่เคยได้รับการพัฒนาร่างกายด้วยพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน แต่ก็ยังทนไม่ไหว ทำให้เห็นได้ว่าการว่ายน้ำสิบห้ากิโลเมตรเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยขนาดไหน
วินนี่ช่วยฉินสือโอวเช็ดตัวให้แห้งกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาด้วยความเป็นห่วง เธอถามเขาว่า “เป็นยังไงบ้างคะ? คุณสวมชุดว่ายน้ำดีกว่าไหมคะ แบบนี้มันบ้าเกินไปแล้ว!”
ฉินสือโอวจูบเธอ แล้วพูดอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า “ไม่ครับ ที่รัก นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมทำเพื่อลูกสาวของเรา ผมจะต้องสร้างเรื่องเล่าไว้ให้เธอ ในอนาคตเธอจะได้รู้ว่า ผมรักเธอแค่ไหน!”
“ถ้ารักเธอคุณก็เล่านิทานให้เธอฟังเยอะๆ ก็พอ” วินนี่ส่งโกโก้ร้อนไปไว้ที่มุมปากของฉินสือโอว บริการเขาอย่างพร้อมสรรพ
ฉินสือโอวซด ‘อึกๆ’ เข้าไปสองคำ ต่อจากนั้นก็พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ผมจะเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อการกุศลครั้งนี้!”
ที่จริงแล้วเขาชอบการออกกำลังกายมากๆ เมื่อก่อนเขาไม่เคยได้สัมผัสกับกีฬาที่ต้องใช้ขีดความสามารถสูงสุดมาก่อน ครั้งนี้เมื่อได้ลองสัมผัสเขาก็ชอบมันมากๆ ความรู้สึกของการทุ่มเทสุดแรงเกิดเพื่อเอาชนะขีดจำกัดของร่างกาย ชวนให้เขารู้สึกหลงใหลมันอยู่ไม่น้อย
ฉินสือโอวกลับไปอาบน้ำอุ่น หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วลงมาที่ห้องรับแขก เขาก็พบว่าศาสตราจารย์แซนเดอร์สกำลังนั่งอยู่บนโซฟา สวมแว่นตาพร้อมกับถือสมุดบันทึกเล่มหนึ่งมาด้วย เห็นได้ชัดว่ามาตามหาเขา
“เฮ้ ศาสตราจารย์ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?” ฉินสือโอวถามเขาด้วยรอยยิ้ม
แซนเดอร์สชูสมุดบันทึกขึ้น แล้วกล่าวว่า “บอส ผมมารายงานผลการวิจัยกลุ่มในช่วงนี้กับคุณ ผมต้องนำเงินไปทำเรื่องอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ? มาอยู่ที่ฟาร์มปลาตั้งนานแล้ว ผมต้องหยิบเอาหัวข้อวิจัยออกมาบ้างแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขานั่งลงทางฝั่งตรงข้ามแล้วถามว่า “มีหัวข้อวิจัยอะไรเหรอครับ? คุณค้นพบว่าที่ฟาร์มปลามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
แซนเดอร์สส่ายหัวปฏิเสธ กล่าวว่า “ที่ฟาร์มปลาเรียบร้อยดีครับ บอส ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาที่เป็นไปในทางที่ดี หัวข้อการวิจัยของผมไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาของฟาร์มปลาเท่าไร เป็นการพัฒนาที่มาจากสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ลองดูรายงานของผมสิครับ”
ฉินสือโอวมองไปที่สมุดบันทึก ด้านในเป็นข้อมูลที่บันทึกด้วยลายมือที่ถูกเขียนขึ้นอย่างแน่นขนัด แซนเดอร์สพูดต่ออีกว่า “ผมวิจัยสิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลา พวกมันมีพละกำลังในการดำรงชีวิตที่แข็งแกร่งมาก นี่ทำให้ผมตกใจมากจริงๆ แต่น่าเสียดาย จนถึงตอนนี้ผมก็ยังหาสาเหตุของมันไม่เจอสักที แต่ในขั้นตอนการวิจัย ผมก็ได้ค้นพบของที่น่าสนใจบางส่วนจากตัวเพรียงตีนเต่า”
“กาวชีวภาพที่มีความเหนียวแน่นแข็งแกร่ง ชนิดหนึ่ง?” ฉินสือโอวถามเขาอย่างไม่แน่ใจ “นี่คืออะไรเหรอครับ?”
เมื่อพูดจบ เขาก็วางสมุดบันทึกลง กล่าวว่า “คุณต้องการพัฒนากาวที่มีพลังยึดเกาะที่เหนียวแน่นยิ่งขึ้นใช่ไหมครับ? นี่เป็นหัวข้อการวิจัยที่ดีเลยนะ ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับเพรียงตีนเต่า ผมก็รู้สึกว่ามันน่ามหัศจรรย์มาก พลังยึดเกาะหินของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กพวกนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ!”
แซนเดอร์สพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว บอส ของเหลวที่เพรียงตีนเต่าหลั่งออกมามีพลังยึดเกาะที่เหนียวแน่นมาก แต่พละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงของพวกมัน ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อยึดเกาะกับหิน แต่จะแสดงให้เห็นเมื่อยึดเกาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีเหล็กผสมต่างหาก”
พอพูดจบ เขาก็ส่งก้อนโลหะที่เป็นสีขาวกับสีดำอย่างละครึ่งให้กับฉินสือโอว โลหะก้อนนี้ดูเหมือนจะมีสภาพครบสมบูรณ์ แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่า ส่วนที่เป็นสีขาวมีขนาดเล็กกว่าส่วนที่เป็นสีดำอยู่เล็กน้อย ราวกับว่าเป็นโลหะคนละก้อนที่ถูกติดไว้ด้วยกัน
ฉินสือโอวมองไปที่แซนเดอร์สอย่างหยั่งเชิง เขาเข้าใจถึงข้อสงสัยของฉินสือโอว จึงพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้วครับ นี่เป็นเหล็กคนละก้อนกัน ผมใช้กาวน้ำที่ผ่านการสกัดจนบริสุทธิ์แล้วเล็กน้อย หลังจากทาลงไปบนก้อนเหล็ก พวกมันก็กลายเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน ผมเคยขอให้เพื่อนเก่าแก่ของผมลองทดสอบดูแล้ว พลังการยึดเกาะของกาวมีมากกว่า 180,000 ปอนด์ สามารถเรียกได้ว่าเป็นสถิติโลกเลย!”
“แล้วยังไงต่อเหรอครับ?” ฉินสือโอวถาม
แซนเดอร์สไหวไหล่แล้วตอบเขาว่า “กาวยึดเกาะที่ดีที่สุดในตอนนี้คือกาวชนิดแห้งเร็ว SCotch-Weld ที่วิจัยโดยบริษัท 3M ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่าง แอปเปิล ฮิวเล็ต-แพกการ์ด ไฮเออร์และบริษัทชั้นนำระดับโลกทุกแห่ง ต่างก็ใช้กาวน้ำชนิดนี้ในการยึดติดทั้งนั้น ตามที่ผมรู้มา ของพวกนี้มีราคาแพงมากๆ”
“มันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ด้วยเหรอครับ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” แซนเดอร์สพูดด้วยความมั่นใจว่า “ขอเพียงคุณอนุญาต ผมก็จะส่งกาวชนิดนี้ไปให้เพื่อนเก่าของผมบางส่วนที่สถาบันวิจัยเคมีในโทรอนโต เพื่อให้พวกเขาช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของกาวชนิดนี้ ขอแค่สามารถหาสารเคมีที่แสดงประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้เจอ หลังจากนั้นถ้าสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนให้เป็นเงินได้แล้ว ทำเงินได้อย่างดีเลย”
ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สอดมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เขาวางสมุดบันทึกลงแล้วพูดว่า “จัดการได้ตามสบายเลยครับ ศาสตราจารย์ ผมจะสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่!”
………………………………………………