ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1051 ปรับปรุงเรือฮาวิซท
หลังจากตื่นนอนตอนเช้าตรู่ ฉินสือโอวจะต้องไปดูเสี่ยวเถียนกวา นี่เป็นหลักสูตรบังคับที่เขาทำทุกวัน
เวลานอนของเด็กทารกจะนานมาก แต่ไม่ได้สม่ำเสมอ ดังนั้นพวกพ่อแม่มือใหม่จึงมักจะนอนพลิกไปมาอย่างมีความสุข
เสี่ยวเถียนกวาก็น่ารัก หลังจากตื่นนอนถ้าไม่หิวเธอก็จะไม่ร้องไห้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่พ่อฉินและแม่ฉินให้วินนี่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองเหมือนกัน เพราะเป็นเด็กทารกที่ว่านอนสอนง่าย เลี้ยงดูง่ายและไม่เปลืองแรง
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ฉินสือโอวเอียงตัวไปด้านหน้าเตียงขนาดเล็กเพื่อมองดูเธอ เสี่ยวเถียนกวาตื่นแล้ว มือข้างหนึ่งลูบไล้บางอย่างอยู่ในผ้าห่มผืนเล็ก ร่างน้อยๆ ดิ้นไปมาสองสามครั้งเป็นครั้งคราว เธอพลิกตัวและเล่นกับตัวเอง
ฉินสือโอวดึงผ้าห่มผืนเล็กเปิดดู ราชาเจ้าป่าซิมบ้ากำลังขดตัวนอนดมกลิ่นหอมอยู่ข้างๆ เสี่ยวเถียนกวา มือข้างหนึ่งของเสี่ยวเถียนกวาเกาอยู่บนตัวของมัน แมวป่าไม่สนใจและหลับตานอนกรนเบาๆ เป็นจังหวะ มันยังคงหลับสนิท
เมื่อเห็นฉินสือโอว เสี่ยวเถียนกวาก็ส่งเสียงร้อง ‘แอ้ๆ’ ออกมาสองครั้งและยื่นอุ้งมือน้อยๆ ออกไปเพื่อที่จะจับเขา
ฉินสือโอวอุ้มเธอขึ้นมาและหมุนตัวสองรอบ เสี่ยวเถียนกวาก้มหัวมองราชาเจ้าป่าซิมบ้าที่หลับสนิทและเริ่มสนใจมันขึ้นมาอีกครั้ง เธอยื่นมือชี้ให้วางเธอลงเพื่อกลับไปเล่นกับแมวป่าตัวน้อย
วินนี่ลุกขึ้นมานั่งที่หัวเตียงและยิ้มมองพ่อลูกสองคนเล่นกันเสียงดัง สุดท้ายเธอปรบมือ เสี่ยวเถียนกวาก็เปลี่ยนความสนใจอีกครั้งและตะโกนร้อง ‘แอ้ๆ’ เพื่อจะให้วินนี่มาอุ้ม หลังจากอยู่ในอ้อมกอดของแม่ เธอทิ้งตัวเล่นกับนิ้วของตัวเองและใบหน้าเล็กก็แสดงความพึงพอใจออกมา
ฉินสือโอวเดินลงมาชั้นล่าง มิเชลที่แต่งตัวเรียบร้อยก็เดินตามลงมาเหมือนกัน รายการออกกำลังกายตอนเช้าของเขาเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาเริ่มฝึกฝนทักษะบาสเกตบอลของมิเชลแทน
หลังจากเห็นความสามารถของพวกกองหลังพวกนั้นที่โรงเรียนประถมแกรนท์ ฉินสือโอวก็ไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวพวกเขาอีกและให้มิเชลเพิ่มการฝึกซ้อมการควบคุมบอลกับการสำรองพลังในร่างกาย เขาต้องบุกด้วยตัวเองและอย่างน้อยเขาก็ต้องทั้งบุกทั้งป้องกันได้ จัดการได้ด้วยตัวเอง ทำแต้มได้ด้วยตัวเอง
ฉินสือโอวใช้พลังโพไซดอนเปลี่ยนแปลงสมรรถภาพทางกายของคนรอบข้างมาโดยตลอด รวมทั้งครอบครัวพ่อแม่และพี่สาวที่อยู่ห่างไกลในประเทศจีนด้วย พ่อแม่จะไม่รู้สาเหตุแน่อยู่แล้ว พวกเขาจะพบการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเองและยังคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญหาอะไรจึงรู้สึกตัวเบา จิตใจดีสุขภาพก็ดีไปด้วย
มิเชลอายุ 13 ปี สูง 160 เซนติเมตร ในกลุ่มเด็กผิวขาวยังไม่ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับมันฝรั่งขนาดเล็กตอนที่เขาเพิ่งจะมาฟาร์มปลาเมื่อปีครึ่งที่ผ่านมาก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
รูปร่างของมิเชลค่อนข้างเพรียว หลังจากดูดซับพลังโพไซดอน เขาแสดงให้เห็นถึงสุขภาพที่แข็งแรง ดูเหมือนเสือดาวตัวน้อยตัวหนึ่ง ตอนที่เงียบสงบก็ดูเหมือนคนบอบบางและอ่อนแอ แต่ในกรณีที่ระเบิดออกมา พลัง ความเร็วและความสามารถในการเผชิญหน้า ทุกอย่างจะน่าเกรงขามมาก
ฉินสือโอวให้มิเชลเลี้ยงบอลและวิ่งไปด้วย เขาตะโกนสโลแกนให้เขาปรับเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็ช่วยเขาติดตั้งสิ่งกีดขวางจำนวนหนึ่งและให้เขาเลี้ยงบอลผ่านสิ่งกีดขวางเหล่านั้น
หู่จือ เป้าจือกับหลัวปอที่เริ่มโตสะบัดขนและก้าวเท้าเล็กๆ ตามเข้ามา ฉินสือโอวโบกมือ เจ้าตัวน้อยทั้งสามตัวเข้าไปแย่งลูกบาสที่อยู่ในมือของมิเชล
มิเชลรีบลดสะโพกลงและเปลี่ยนทิศทาง หู่จือเคลื่อนตัวไปด้านหลัง เป้าจือกับหลัวปอวิ่งไล่ตามลูกบาสไป เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนมืออย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนไปเลี้ยงบอลด้านหลังและอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งลูกบอลจากพวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อย
นี่เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก ผ่านไปไม่นาน มิเชลก็เหนื่อยหอบและเหงื่อไหลออกมาทั้งตัว ฉินสือโอวเป่านกหวีดเรียกให้พวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อยหยุด เขาให้มิเชลวิ่งเหยาะๆ เพื่อแบ่งเบาภาระและกลับมาก็ช่วยเขานวดเพื่อปรับให้เข้ากับความเข้มข้นของการออกกำลังกายที่หนักยิ่งขึ้น
หลังจากออกกำลังกายตอนเช้า ความอยากอาหารของมิเชลก็เพิ่มขึ้น กอร์ดอนเพิ่งจะตื่นนอนจึงไม่ค่อยหิว เขาเห็นแซนด์วิช ไข่ดาวกับสเต๊กที่อยู่ในจานจึงกลอกตาและพูดกับมิเชลว่า “เพื่อน ช่วงนี้นายกินเยอะขึ้นนิดหน่อยนะ นายอยากกินเพิ่มอีกไหม?”
นิสัยของมิเชลเป็นคนเก็บตัวอยู่บ้าง ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แต่เทียบกับกอร์ดอนที่ไร้ยางอายยังต่างกันอีกไกลโข เขาตอบโต้กอร์ดอนสองสามประโยค กอร์ดอนถึงกับพูดไม่ออก กอร์ดอนฉวยโอกาสนี้ดันจานอาหารของตัวเองไปไว้ตรงหน้าเขาและให้เขาช่วยตัวเองกินของที่อยู่ในจาน
ฉินสือโอวไอออกมาครั้งหนึ่งและพูดกับกอร์ดอนด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงว่า “ฉันจะบอกอะไรให้นะเจ้าหนู ดูเหมือนว่านายจะยังเป็นหนี้ฉันในการอธิบายเรื่องหนึ่งอยู่ ทำไมตอนนี้นายยังอยู่แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แต่พาวลิสกับเชอร์ลี่ย์ขึ้นไปอยู่ในเกรดสูงแล้วทั้งคู่?”
กอร์ดอนคอตกในทันทีและถอนหายใจ “ทุกคนต้องประณามระบบการทดสอบข้ามระดับชั้นบ้าๆ นี่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทุกครั้งที่ถึงเวลาสอบผมจะปวดท้อง ส่งผลต่อการแสดงความสามารถของผมอย่างร้ายแรง น่ารำคาญจริงๆ!”
มิเชลฉวยโอกาสนี้และพูดว่า “นายไม่รู้สาเหตุเหรอ? มา ฉันจะบอกนายให้ มันเป็นเพราะคนขี้โกงอย่างนายไม่ยอมกินอาหารเช้าให้เรียบร้อย ระบบย่อยอาหารของนายก็เลยผิดปกติ นายรู้บ้างไหม!”
กอร์ดอนจ้องเขม็ง ฉินสือโอวถามว่า “งั้นมีเหตุผลอื่นอีกไหม?”
หลังจากตอบด้วยความหมดอาลัยตายอยาก กอร์ดอนก็ดึงจานกลับมา เขากินไข่ดาวอย่างไม่เต็มใจและพูดว่า “อาจจะเป็นแบบนี้มั้ง งั้นผมกินอาหารเช้าให้เรียบร้อยก็ได้”
ฉินสือโอวเกาส่วนที่เป็นผมสีบลอนด์ของเขาและพูดว่า “ฟังนะ เจ้าหนู เมื่อวานฉันไปสมัครเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนของพวกนายและเริ่มงานตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไปโรงเรียนเพื่อจับตาดูนาย ดังนั้นนายต้องทำตัวให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นนายจะต้องเสียใจ”
กอร์ดอนอ้าปากค้างและไม่อยากอาหารมากยิ่งขึ้นในทันที
ฉินสือโอวไม่สามารถใช้เวลาตลอดทั้งวันในโรงเรียนได้ เขาแค่ไปฝึกซ้อมให้พวกเด็กๆ ตอนหลังเลิกเรียน เวลาปกติเขาก็จะอยู่ในฟาร์มปลา
ตอนนี้งานของเขายังมีอีกมาก เขาตัดสินใจว่าจะต้องจับปลาหัวเมือกให้ได้ ฉินสือโอวให้ชาร์คไปติดต่ออู่ต่อเรือโพไซดอนเพื่อปรับปรุงเรือฮาวิซทสักหน่อยและเปลี่ยนให้เป็นเรือจับปลาหน้าดิน
เรือฮาวิซทเป็นเรือประมงลำแรกของฟาร์มปลา ฉินสือโอวยังคงมีความรู้สึกบางอย่างกับมันอยู่ ดังนั้นก่อนจะปรับปรุง เขาให้นีลเซ็นถ่ายรูปภาพหมู่ของเขากับเรือฮาวิซทเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ผ่านไปหลายปีเมื่อเห็นรูปพวกนี้อีกครั้ง มันจะมีความหมายมากแน่นอน
สุดท้ายเขาได้รูปถ่ายครอบครัวใบหนึ่งที่มีฉินสือโอวกับวินนี่ที่อุ้มเสี่ยวเถียนกวาร่วมกับเรือฮาวิซทมา เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกงงงวยและยังคงกอดราชาเจ้าป่าซิมบ้าที่อยู่ในอ้อมแขน
แขนของเธอยังไม่แข็งแรง เธอทำได้แค่รัดคอของราชาเจ้าป่าซิมบ้าและอาจจะรัดเจ้าตัวน้อยจนเกือบตาย เธอกลอกตาไปมาอยู่หน้ากล้องอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กำลังถ่ายรูป เสียงของแบล็คไนฟ์ก็ดังขึ้นมาจากในอินเตอร์คอม “บอสครับ มีคนมาหาคุณครับ คุณเออร์บักกำลังต้อนรับอยู่ เป็นคนที่มาจากศาลนครเซนต์จอห์น ผมเลยมาเชิญคุณไปพบครับ”
คนของศาลแวะมาหา ฉินสือโอวคิดถึงเรื่องที่ตัวเองทำผิดก่อนตามสัญชาตญาณ แต่คิดไปคิดมาตัวเองก็เป็นเด็กดี เรื่องที่ผิดกฎหมายก่ออาชญากรรมก็ไม่เคยทำ กลับกันตอนที่จ่ายภาษีเขาใช้เล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อย แต่นั่นก็เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า ฉินสือโอวเห็นชายผิวขาววัยกลางคนสองคนนั่งคุยเล่นกับเออร์บักอยู่บนโซฟา ทั้งสองคนนั่งอย่างเคารพ แต่เออร์บักกลับเอนตัวอย่างสบายใจอยู่บนโซฟา ดูเหมือนผู้นำกับผู้ใต้บังคับบัญชานั่งคุยกัน
ดังนั้นฉินสือโอวพิจารณาแล้ว อย่างน้อยสองคนนี้ก็ไม่ได้มาหาเขาเพราะตัวเขาสร้างปัญหา
หลังจากที่เขาเดินเข้ามา เออร์บักจึงลุกขึ้น ชายวัยกลางคนสองคนนั้นก็รีบลุกขึ้นเหมือนกัน ชายชราชี้ไปที่ทั้งสองคนและแนะนำว่า “นี่คือผู้พิพากษาโฮบอท เจย์กับคุณหลุยส์ แมกซี่จากศาลนครเซนต์จอห์นของพวกเรา นี่คือฉิน พวกนายมีเรื่องอะไรก็คุยกันตามสบายเลยนะ”
…………………………………………………