ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1059 ครบรอบ 2 ปี
หู่จือกับเป้าจือแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ตอนที่พวกมันวิ่ง ดูเหมือนขีปนาวุธสองลูกที่ยิงออกมา เขาเป่านกหวีดพวกมันก็พุ่งออกไป 10 กว่าเมตร ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังมีพลังงานเหลือพอจะไปเร่งความเร็วอีกด้วย!
ฉินสือโอวไล่ตามไปด้วยความร้อนรนอยู่ข้างหลัง เขาไล่ตามไปด้วยแอบด่าว่าโกงอยู่ในใจไปด้วย ทำไมเจ้าตัวเล็กสองตัวนี้ถึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้ ตัวเขาไม่ได้ขับรถ เขาแค่วิ่งและไม่มีทางไล่ทันอย่างแน่นอน…คิดถึงเรื่องนี้ เขาก็แอบด่าอีกครั้งว่า ตัวเองนี่โง่จริงๆ มีรถก็ไม่ขับ วิ่งมาทำไมกัน?
ด้านข้างเป็นรถคาดิลแลคเอ็กซ์แอลเอสของวินนี่ ฉินสือโอวขึ้นไปบนรถและขับไล่ตามไป ผลคือตอนนี้เจ้าตัวน้อยสองตัวนี้ฉลาดขึ้นแล้ว พวกมันขี้เกียจขึ้นมากตามที่เรียนมาจากฉงต้า เมื่อเห็นว่ามีรถไล่ตามมาพวกมันก็หยุดวิ่งและแลบลิ้นกระดิกหางอยู่ริมถนน พวกมันต้องการขึ้นรถนั่นเอง
ฉินสือโอวจำใจต้องเปิดประตูรถให้ เจ้าตัวน้อยสองตัวนั่งเบียดกันอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ พวกมันยื่นหัวไปข้างหน้าและมอง ไปด้วยเห่า ‘โฮ่งๆ’ ไปด้วย
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉินสือโอวเหยียบคันเร่งและพุ่งไปตามถนน
หู่จือกับเป้าจือใช้เสียงเห่าเพื่อบอกทิศทาง ความจริงพวกมันไม่เห่าฉินสือโอวก็รู้ทางเหมือนกัน แลบราดอร์เห่าไปทางตัวเมืองอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าวินนี่และพรรคพวกของเขาไปที่เมือง
เขาเหยียบคันเร่งมาตลอดทางและขับรถไปที่เมือง ทุกอย่างในเมืองเป็นไปตามปกติ สภาพอากาศค่อยๆ ดีขึ้น อุณหภูมิค่อยๆ สูงขึ้น แสงแดดสว่างสดใสและสายลมที่พัดมาอ่อนๆ แสงแดดอบอุ่น แหล่งท่องเที่ยวเปิดอีกครั้ง นักท่องเที่ยวในประเทศเยอะขึ้นอีกครั้ง
ฉินสือโอวจอดรถและโทรหาวินนี่อีกครั้ง เขากำลังกดเบอร์โทรศัพท์ก็มีคนตบไหล่ของเขาจากข้างหลัง เขาหันไปมองด้วยความคาดหวัง ผลคือคนที่เห็นคือชายผิวขาววัยกลางคนคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มให้เขา คนคนนี้เป็นคนรู้จักของเขา นายกเทศมนตรีของเมืองกาบีลาแห่งเกาะน้ำแข็งอัคคี พาลี ลาร์ค
“ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ เพื่อน” พาลีทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น “ได้ยินว่าคุณเป็นพ่อคนแล้วใช่ไหม? เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกว่าชีวิตสวยงามและเต็มไปด้วยความกระวนกระวายอีกครั้งใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวยิ้มอย่างขมขื่น “ตอนนี้ผมมีแค่ความกระวนกระวาย”
เขาไม่รู้ว่าคนของฟาร์มปลาหายไปทุกคนได้อย่างไร
พาลีหัวเราะเสียงดัง “คุณต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันกับลูกและถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ ความจำของคนบางครั้งก็ไม่น่าเชื่อถือ มันอาจจะทำให้คุณลืมภาพที่สวยงามไปเยอะมาก จริงด้วย คุณมาทำอะไรที่เมืองหรือครับ? ผมมาขายของขวัญชิ้นเล็กๆ นอกจากกริชฟันฉลาม เมืองของพวกผมยังพัฒนาของชิ้นเล็กๆ ออกมาอีกจำนวนหนึ่ง ไว้ผมจะเชิญคุณไปรับรองเป็นอย่างไร?”
เขาเพิ่งจะพูดจบ โทรศัพท์ก็ติดต่อได้ในทันที เสียงหวานๆ ของวินนี่ดังขึ้นมา “มาที่ผับดาราประกายสิคะ สุดหล่อ”
ฉินสือโอวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาส่งสัญญาณเชิงขอโทษให้พาลีและถามว่า “ที่รัก ทำไมพวกคุณไปที่ผับในเวลานี้? พระเจ้า พวกคุณรู้ไหมว่าผมกังวลมากแค่ไหน จู่ๆ ในฟาร์มปลาก็ว่างเปล่า ผมยังคิดว่าผมข้ามภพไปแล้วเลย!”
ฉินสือโอวพาหู่จือกับเป้าจือเดินไปที่ผับอย่างเร่งรีบ
ตอนนี้แลบราดอร์กลายเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียง หนึ่งเป็นเพราะการรายงานข่าวของช่องครอสซิ่ง สองคือเมื่อเร็วๆ นี้พวกมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโต้เถียงเรื่องสุนัขบำบัดประจำศาล พวกมันสองตัวก็เป็นตัวเอกของเรื่องทุกตัว ดังนั้น เมื่อเดินอยู่บนถนน ผู้คนก็เข้ามาทักทายพวกมันทีละคนๆ
หู่จือกับเป้าจือฉลาดมาก ฉินสือโอวเดาว่า บางมุมไอคิวของพวกมันคงถึงระดับของเด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไปแล้ว เดิมทีแลบราดอร์ชอบได้รับคำชม ชอบของเล็กๆ ที่แพรวพราว รวมกับไอคิวที่เหนือกว่าแบบนี้ พวกมันยิ่งสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่ผู้คนมีต่อพวกมันด้วย
ดังนั้น เจ้าตัวน้อยทั้งสองตัวจึงไม่ยอมเดินและอวดตัวเองอยู่ที่นั่นอย่างเอื่อยเฉื่อย
ฉินสือโอวเดินไปสองสามก้าวและพบว่าแลบราดอร์ไม่ได้อยู่ข้างๆ เขาหันกลับไปมอง นึกไม่ถึงว่าหู่จือกับเป้าจือจะเงยหน้ายืดอกและตั้งหางตรง ไม่รู้ว่าพวกมันไปเรียนมาจากใคร พวกมันโพสต์ท่าอยู่ตรงนั้น และก็มีนักท่องเที่ยวที่อยู่รอบๆ มาถ่ายรูปพวกมัน
บ้าเอ๊ย เจ้าสองตัวนี้มันหลอกลวง ฉินสือโอวแอบด่าและตะโกนออกไปว่า “ไปเร็ว! ถ้าไม่เดินออกไปจากที่นี่เดี๋ยวก็ถูกคนเอาไปทำเนื้อสุนัขตุ๋นหรอก!”
เมื่อรู้สึกถึงความไม่พอใจของเจ้าของ หู่จือกับเป้าจือที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาในทันที พวกมันลดหางลงและวิ่งเหยาะๆ ไล่ตามเขาไป เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ทำความผิดและคอตก
แลบราดอร์ช่วงวัยเด็กจะเป็นช่วงที่วุฒิภาวะทางจิตกับวุฒิภาวะทางกายไม่เท่ากัน แม้ว่าตอนนี้พวกมันจะดูเหมือนแข็งแรง สูงและล่ำเหมือนสุนัขที่โตเต็มวัย แต่ความจริงความคิดของพวกมันยังไร้เดียงสาอยู่นิดหน่อย การปลูกฝังที่เกี่ยวข้องกับความมั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้
ฉินสือโอวรู้ว่าวินนี่กับคนอื่นไม่ได้เป็นอะไรเขาก็โล่งใจมาก ตอนนี้เขาเห็นหู่จือกับเป้าจือไม่มีความสุข เขาจำใจต้องอุ้มเด็กตัวโตสองตัวไว้ทางซ้ายตัวหนึ่งขวาตัวหนึ่ง และใช้หน้าที่ติดอยู่กับหัวที่ขนดกของพวกมันถูพวกมันเบาๆ
เส้นประสาทของแลบราดอร์ทั้งเส้นใหญ่และอ่อนไหว ฉินสือโอวปลอบพวกมันอย่างนี้ พวกมันก็มีความสุขขึ้นมาในทันทีอย่างโง่เขลา พวกมันแลบลิ้นใหญ่ๆ ออกมาเลียที่ใบหน้าของเขา
เมื่ออุ้มแลบราดอร์มาจนถึงผับ ฉินสือโอวก็ผลักประตูเข้าไป เสียง ‘ปังๆๆ’ ดังขึ้นสองสามครั้ง ราวกับว่ามีคนยิงปืน หู่จือกับเป้าจือตกใจและลุกลี้ลุกลนอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ริบบิ้นหลากสีผืนใหญ่ลอยมาอยู่ตรงหน้า ริบบิ้นที่มีสีสันสดใส ฉินสือโอวที่ถูกหลอกคิดว่ามีคนเอาสีน้ำมันสาดใส่เขา เมื่อเห็นทุกอย่างใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นชิ้นส่วนของริบบิ้น
“เฮ้ เซ็ท คนอย่างพวกนายนี่มัน” ฉินสือโอวยิ้มออกมา “วันนี้มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? พวกเราจะฉลองอะไร?”
วินนี่ที่ยืนอุ้มเสี่ยวเถียนกวาอยู่ข้างๆ ยิ้มหวานในทันที เธอกะพริบตาและถามว่า “คุณจำไม่ได้เหรอคะว่าวันนี้เป็นวันอะไร?”
สมองของฉินสือโอวหมุนอย่างรวดเร็วและตะโกนด้วยความเซอร์ไพรส์ว่า “เฮ้ ผมรู้แล้ว ครบรอบ 2 ปีที่พวกเรารู้จักกัน?”
วินนี่ก็ดูประหลาดใจเหมือนกัน เธอพูดว่า “ว้าว คุณชายที่รัก นึกไม่ถึงว่าคุณจะคิดว่าเป็นเรื่องนี้ ฉันตื้นตันใจจริงๆ ความจริง คุณพูดถูกแค่ครึ่งเดียว แน่นอนว่านี่เป็นวันที่ระลึกครบรอบ 2 ปี แต่ไม่ใช่วันที่ระลึกที่พวกเรารู้จักกัน แต่เป็นวันที่ระลึกที่คุณมาถึงเกาะแฟร์เวล”
ชาร์คเขย่าขวดแชมเปญที่มีความสูงครึ่งหนึ่งของคนจนพุ่งออกมาและหัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้วครับ บอส ยินดีต้องรับสู่เกาะแฟร์เวล ฉลองวันครบรอบ 2 ปีที่คุณอยู่บนเกาะ!”
ชาร์คตะโกนไปด้วยดึงจุกขวดแชมเปญไปด้วย ทันใดนั้นเครื่องดื่มที่ปะทะกับคาร์บอนไดออกไซด์ก็พุ่งออกมา
ฉินสือโอวตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นชาร์คเล็งขวดแชมเปญมาที่ตัวเอง หู่จือกับเป้าจือที่อยู่ในอ้อมแขนก็มาขวางอยู่ด้านหน้าของเขาทันที ทันใดนั้น กระแสน้ำที่พุ่งออกมาก็สาดใส่ร่างของแลบราดอร์ทั้งสองตัว
ตาของแลบราดอร์ถูกแชมเปญพุ่งใส่จนลืมไม่ขึ้น หู่จืออยากจะอ้าปากและเห่าด้วยความไม่พอใจ ในที่สุดตอนนี้มันก็เป็นแลบราดอร์ที่มีชื่อเสียง ถ้าสุนัขของพวกนายตาบอด พวกมันก็จะมองไม่เห็นผู้คนมากมายที่ต้องการถ่ายรูปกับตัวเองใช่ไหม? นายกล้าใช้ปืนฉีดน้ำฉีดใส่แลบราดอร์เหรอไอ้บ้า?
แต่หลังจากที่มันอ้าปาก แชมเปญก็พุ่งเข้าไปในลำคอ มันไอออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นก็อย่าคิดจะโกรธและคำรามเลย
ฉินสือโอวหลบการโจมตีเวฟนี้ได้ เขามีความสุขจนอยากจะหัวเราะ ผลคือเขาเห็นนีลเซ็นเปิดตัวปืนใหญ่ขนาดเล็กและท่อปืนใหญ่สีดำสนิทก็เล็งตรงมาที่เขา เขากลัวจนฉี่จะราดในทันที “ฟัค พวกนายคิดจะฆ่าฉันหรือไง?!”
เขาโยนหู่จือกับเป้าจือทิ้ง ฉินสือโอวเป่านกหวีดและชี้ไปที่นีลเซ็น หูของฉงต้าที่งีบหลับอยู่ตรงมุมห้องกระดิก มันกระโดดขึ้นมาในทันทีและตั้งท่าข่มขู่ท้าทายป่าเขา มันพุ่งไปที่นีลเซ็นและเหวี่ยงก้นใส่ นีลเซ็นลอยออกไปพร้อมกับรถปืนใหญ่…
เมื่อเห็นฉากนี้ฉินสือโอวก็พึงพอใจอย่างมาก ไม่เสียแรงที่เขาเลี้ยงดูเด็กพวกนี้ไว้
…………………………………………………