ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1074 ฮิวจ์คนน้องกับบทบาทที่ยิ่งใหญ่
ยุคแห่งการอยู่รอดของซิปแฮคตินัสคือปลายยุคครีเทเชียส ซึ่งนักล่าอันดับต้นๆ ในยุคนี้มีเยอะมาก ปลาตัวใหญ่สายพันธุ์นี้ในเรื่องของพลังต่อสู้ก็เป็นแค่ไก่อ่อนเท่านั้น แต่พวกมันกลับมีนิสัยดุร้ายที่ไม่ได้เข้ากันกับพลังต่อสู้เลย
ในความหมายบางอย่าง ซิปแฮคตินัสจะคิดว่ามันเป็นบรรพบุรุษของปลากระโทงดาบ จนกระทั่งตอนนี้ปลากระโทงดาบยังเคยชินกับการล่องไปใต้น้ำของมหาสมุทรเพื่อล่าอาหาร และมันยังกล้าที่จะต่อสู้กับฉลามอีกด้วย
และตอนนี้ปลากระโทงดาบที่ใหญ่ที่สุดก็มีความยาวถึง 2 เมตร เมื่อ 80 ล้านปีก่อน ซิปแฮคตินัสในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษ มันมีความยาวไม่น้อยกว่า 6 เมตร!
ตอนที่ซิปแฮคตินัสจำนวนมากว่ายอยู่ในทะเลก็แทบจะเป็นฝันร้าย พวกมันถึงขั้นกล้าที่จะท้าทายฉลามครัวสีทองกับโมซาซอรัสขนาดเล็ก ซึ่งเหมือนกับฝูงโจรที่มาดักปล้น เสียงคำรามดังขึ้นมาและวิ่งออกไป อย่างไร้เทียมทาน
แพตตันถามถึงความเข้าใจของฉินสือโอวเกี่ยวกับซิปแฮคตินัส และเขาก็ตอบแบบนี้ นี่คือข้อมูลที่เขาค้นเจอบนอินเทอร์เน็ตหลังจากค้นพบฟอสซิลในตอนนั้น
หลังจากฟังการแนะนำของเขา แพตตันก็พยักหน้า “ถูกต้อง ปลาสายพันธุ์นี้ดุร้ายมาก นายรู้ไหมว่าจุดที่สามารถสะท้อนความดุร้ายของพวกมันได้ดีที่สุดคือจุดไหน? ตามฉันมาที่นี่สิ และดูว่านี่คืออะไร?”
คนกลุ่มนี้เดินไปที่เต็นท์ข้างๆ ด้านในมีฟอสซิลปลาขนาดใหญ่ยาว 6 เมตรสองตัวรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็คือฟอสซิลของซิปแฮคตินัสตามธรรมชาติ
ภายในร่างกายของปลา 2 ตัวนี้มีฟอสซิลของปลาสายพันธุ์อื่นอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่แปลกเลย ซิปแฮคตินัสเป็นปลาสายนักล่า ฟอสซิลที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกผู้เชี่ยวชาญค้นพบเหยื่ออย่างน้อย 12 สายพันธุ์ในท้องของมัน
แพตตันแนะนำให้พวกเขารู้จักกับซิปแฮคตินัส ฟอสซิลของปลาในท้องของมันนั้นมีขนาดใหญ่มาก และมีความยาวถึง 2 เมตร “จากการค้นคว้าและการคาดเดาของพวกเรา ในเวลานั้นปลาตัวนี้ ตรงเข้าไปกินปลากิลล์ในฝูงด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นปลากิลล์ที่มีความยาว 2 เมตร! ตอนนี้พวกนายเข้าใจหรือยังว่าพวกมันน่ากลัวขนาดไหน?”
บิลลี่ผิวปากและพูดว่า “ถ้าพวกเราสามารถข้ามไปถึงจุดสิ้นสุดของยุคครีเทเชียสได้ งั้นอยู่ห่างจากพวกมันก็ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันยอมถูกไทแรนโนซอรัสกัดตายและกินเป็นอาหารก็ได้ แต่ฉันไม่อยากถูกปลากลืนทั้งตัวลงไปในท้อง หลังจากนั้นก็ขาดอากาศหายใจและตาย ก่อนที่จะตายฉันยังต้องเห็นผิวหนังของตัวเองถูกกรดในกระเพาะอาหารกัดกร่อนอีกต่างหาก!”
ฉินสือโอวเบะปาก สิ่งที่ชายคนนี้บิลลี่พูดน่าขยะแขยงมากจริงๆ
ฟอสซิลที่อยู่ในเต็นท์นั้นมีขนาดที่แตกต่างกัน เมื่อดูจากโครงร่างแล้ว เกือบทั้งหมดเป็นซิปแฮคตินัส แต่กลับมีสองสามตัวที่ความยาวไม่ถึงครึ่งเมตร
และสิ่งที่แพตตันแนะนำอย่างเน้นย้ำก็คือฟอสซิลของปลาพวกนี้ “นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับพวกเรา ความรู้ที่พวกเรามีเกี่ยวกับซิปแฮคตินัสนั้นไม่น้อยเลย แต่ก็จำกัดไว้แค่ปลาที่โตเต็มวัยเท่านั้น ความจริงลูกปลาของปลาสายพันธุ์นี้มีลักษณะอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร พวกเราไม่เคยค้นพบฟอสซิลมาก่อน”
“แต่ตอนนี้ ประวัติศาสตร์กำลังจะเปลี่ยนไป เพื่อนๆ ดูเจ้าตัวน้อยที่น่ารักพวกนี้สิ พวกเราสามารถรวบรวมฟอสซิลลูกปลาของซิปแฮคตินัสมาได้แล้ว!”
แฮมเล็ตและคนอื่นๆ แสดงสีหน้าที่เซอร์ไพรส์ออกมา ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่านี่มีอะไรที่น่าดีใจขนาดนั้น ลูกปลามีอะไรดีให้ค้นคว้า?
แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตามกระแส ดังนั้นเขาจึงทำสีหน้าที่เซอร์ไพรส์ออกมาเหมือนกัน แม้ว่าในความเป็นจริงเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเซอร์ไพรส์อะไรก็ตาม
แพตตันพึงพอใจกับปฏิกิริยาของทุกคนมาก หลังจากแนะนำลูกปลาของซิปแฮคตินัส เขาก็พาพวกเขาไปโซนผสมต่อ
โซนนี้แสดงให้เห็นถึงการล่าเหยื่อที่ดุร้าย ซึ่งมีฟอสซิลไม่เยอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ไหน ภายในร่างกายก็มีฟอสซิลของสายพันธุ์อื่นทุกตัว ในท้องของโมซาซอรัสมีฉลามครัวสีทอง ในท้องของฉลามครัวสีทองมีซิปแฮคตินัส ในท้องของซิปแฮคตินัสมีปลากิลล์และอื่นๆ
ฉินสือโอวและพรรคพวกวิ่งไปดูฟอสซิล แต่ฮิวจ์คนน้องยังคงฝึกซ้อมให้พวกเด็กๆ
นี่เป็นงานที่ทรมานมาก ไม่ใช่เพราะน่าเบื่อ แต่เพราะไม่มีทางเลือก นอกเหนือจากมิเชล เทคนิคของเด็กคนอื่นแย่เกินไป ความจริงไม่ใช่แค่เทคนิคที่แย่ สมรรถภาพทางกายของพวกเขาก็แย่เหมือนกัน ฮิวจ์คนน้องไม่รู้สึกถึงเสน่ห์ของกีฬาบาสเกตบอลจากตัวของพวกเขาเลย
สำหรับคนที่ชื่นชอบบาสเกตบอล เรื่องที่ทรมานที่สุดก็คือการฝึกฝนคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกกำหนดให้ไม่สามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ได้ ฮิวจ์คนน้องถึงขั้นคาดว่า ผ่านไปอีก 3 ถึง 4 ปี หลังจากเด็กพวกนี้ขึ้นชั้นมัธยมปลาย พวกเขาก็จะทิ้งบาสเกตบอลไป และหันไปเป็นโอตาคุที่ชั่วร้ายแทน
แรงจูงใจในการฝึกซ้อมของพวกเด็กๆ ไม่ใช่ความรักที่มีต่อบาสเกตบอล แต่เป็นความโลภในของรางวัลที่ฉินสือโอวกำหนดไว้
ฉินสือโอวกำหนดไว้ว่า การฝึกซ้อมของสัปดาห์นี้คนที่ขยันที่สุดจะได้เอกซ์บอกซ์ 360 นี่เป็นของที่เขาซื้อมาตอนที่ไปตกกุ้งล็อบสเตอร์ที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ค่อยได้เล่นมันอีก ฉินสือโอวก็แค่ใช้ประโยชน์จากของที่ไม่ได้ใช้แล้ว
สำหรับพวกเด็กๆ เอกซ์บอกซ์ 360 ยังคงเป็นของที่มีแรงดึงดูดอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ส่วนผลของการฝึกซ้อมจะเป็นอย่างไรน่ะเหรอ? ใครสนล่ะ?
ฮิวจ์คนน้องทนดูต่อไปไม่ได้จริงๆ เขาวิ่งออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกโรงยิมและฉวยโอกาสที่สูบบุหรี่นั่งมองท้องฟ้ากับก้อนเมฆสีขาวอยู่ด้านนอก
การมองท้องฟ้ากับก้อนเมฆสีขาว เขาก็ยังรู้สึกดีกว่าการเผชิญหน้ากับกลุ่มนักบาสมือใหม่มาก ซึ่งมันน่าเบื่อนิดหน่อย
ขณะที่เขากำลังเบื่อหน่ายกับฝั่งนี้ เด็กหลายคนก็วิ่งทะเลาะกันผ่านไป เด็กที่วิ่งอยู่หน้าสุดในกลุ่มนั้น ราวกับม้าป่าที่แข็งแรง เสียงลมดังขึ้นในขณะที่วิ่งอยู่ เด็กคนอื่นล้อมรอบ ไล่ตามและสกัดแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
“บ้าเอ๊ย กอร์ดอน แกไอ้ลูกหมา รีบเอามือถือของฉันคืนมาเลยนะ!”
“โอ้ อ็อกลีย์ หุบปากเน่าๆ ของแกไปไอ้เวร! อย่าคิดจะเอาโทรศัพท์คืน แกต้องให้ฉันดูก่อนว่าแกส่งข้อความอะไรให้ลี่ลี่ ว้าว น่าขยะแขยง ฉันจะอ่านมันออกมาเสียงดังๆ!”
“ฟัคยู มาให้ฉันฆ่าเดี๋ยวนี้ ไอ้เลวนี่!”
“แฮกๆ อ็อกลีย์ พวกเราไล่ตามมันไม่ทัน! แฮกๆ กอร์ดอนมันวิ่งเร็วกว่าหมาอีก จะไล่ทันได้อย่างไร?!”
เดิมทีฮิวจ์คนน้องแค่ถูกการทะเลาะกันของพวกเด็กๆ ดึงดูด เขาเดาว่าคงจะมีเด็กคนหนึ่งใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความบอกรักให้เด็กผู้หญิง และผลคือถูกกอร์ดอนแย่งโทรศัพท์มือถือไป ความจริงก็คงเป็นแบบนี้แน่นอน ไม่อย่างนั้นเด็กกลุ่มนี้จะไม่ไล่ตามกอร์ดอนอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้
แต่เร็วมาก ความสนใจของฮิวจ์คนน้องเปลี่ยนไปแล้ว สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กอร์ดอนที่วิ่งอยู่หน้าสุดอย่างแน่วแน่
กอร์ดอนวิ่งไปด้วยตะโกนเสียงดังไปด้วย อย่างที่ทุกคนรู้ การวิ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนที่ของหัวใจกับปอด หัวใจจะควบคุมจังหวะ ส่วนปอดจะดูดซับออกซิเจนเพื่อให้มีพลังงาน ช่วงที่ออกกำลังกายอย่าอ้าปากจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
แต่นี่แทบจะไม่มีผลกระทบต่อกอร์ดอนเลย ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อความเร็วของเขา แต่ถึงอย่างนั้น ความเร็วของเด็กคนนี้ก็ยังคงเร็วอย่างน่าอัศจรรย์!
ไม่เพียงแค่ความเร็วที่เร็วเท่านั้น กอร์ดอนยังมีความคล่องตัวมากเป็นพิเศษอีกด้วย เด็กห้าหกคนทั้งไล่ตามและสกัดก็ยังไม่สามารถหยุดเขาได้ นอกจากนี้พลังทะลวงของเขาก็น่ากลัวเหมือนกัน บางครั้งเขากำลังจะถูกไล่ทันในไม่ช้า ‘ฟึบ’ เขาเร่งความเร็วขึ้นอีกในทันที และสลัดเด็กที่อยู่ด้านหลังไปได้อีกครั้ง…
ฮิวจ์คนน้องยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ระหว่างนั้นจู่ๆ เขาก็กระโดดขึ้นมาและตะโกนว่า “ฉิน แกไอ้เลว! ใครบอกว่าฉันไม่มีประโยชน์? ใครบอกว่าผู้ช่วยโค้ชต้องรับผิดชอบการฝึกซ้อม? มูลค่าของฉันจะสะท้อนออกมาให้เห็นเอง!”
จู่ๆ เขาก็กระโดดขึ้นมาและตะโกนออกมาอย่างนี้ ทำให้พวกเด็กๆ รู้สึกกลัวจนตัวสั่นและไม่ไปไล่ตามกอร์ดอนต่อด้วยซ้ำ พวกเขามองไปที่ฮิวจ์คนน้องเหมือนกับที่มองคนโง่
ฮิวจ์คนน้องไม่สนใจ เขาโบกมือให้กอร์ดอนและตะโกนว่า “เด็กน้อย มาหาฉันตรงนี้ซิ มาเร็ว ฉันมีงานดีๆ จะให้นายทำ!”
ประจวบเหมาะกับที่กอร์ดอนก็แกล้งอ็อกลีย์กับพรรคพวกพอแล้วเหมือนกัน เขาโยนโทรศัพท์มือถือคืนให้เด็กคนหนึ่ง เด็กคนนั้นเหลือบมองหน้าจอและถอนหายใจออกมา “เพื่อน กอร์ดอนไม่ได้อ่านข้อความของนาย และเขาปิดโทรศัพท์ให้นายแล้ว”
กอร์ดอนถอยหลังเดินและพูดจาดูถูกว่า “ฉันไม่อ่านแน่นอน สมัยนี้ยังมีคนเขียนจดหมายรักอีกเหรอ? ไอคิวของนายคงจะบกพร่อง อย่าเลิกรักษานะอ็อกลีย์!”
……………………………………………………