ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1076 คุณสมบัติของผู้นำ
หลังจากได้เห็นฟอสซิล ฉินสือโอวก็รีบตรงกลับบ้านทันที
วินนี่พาเชอร์ลี่ย์และพาวลิสไปเจาะรูต้นชูการ์เมเปิลยักษ์ตรงหน้าประตู ฤดูเก็บน้ำเชื่อมเมเปิลมาถึงอีกแล้ว
ฉงต้ายื่นก้นไปไถรอบๆ ต้นเมเปิล หางที่เหมือนกับก้อนขนนั้นสะบัดรัวไปมา ก่อนดวงตาเล็กๆ ที่มักจะหรี่ลงเป็นขีดจะเบิกกว้าง มันมองน้ำเชื่อมในถังพลางกลืนน้ำลาย
ตอนฉินสือโอวกลับมา ฉงต้าก็รีบวิ่งแจ้นเข้ามาหมอบตัวยื่นอุ้งเท้าอ้วนๆ ไปกอดเขา แล้วส่งเสียงเอ๋งๆ เหมือนจะฟ้อง
พอเห็นดังนั้น ฉินสือโอวก็ยื่นมือไปลูบหัวฟูๆ ของมัน “ใครแกล้งฉงต้าเนี่ย?”
วินนี่ลุกขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ใครแกล้งมันกันคะ? มันอยากมาขโมยน้ำเชื่อมเอง แต่พอกินไม่ได้ก็เลยหงุดหงิดแบบนั้น”
ฉินสือโอวถึงสังเกตเห็นว่าวินนี่ไม่ได้ใช้ถังใบเล็กเก็บน้ำเชื่อมแต่เป็นขวดปากแคบแทน โดยมีท่อส่งไหลเข้าขวดโดยตรง อย่าว่าแต่ฉงต้าจะแอบกินเลย ขนาดขโมยก็ยังยาก
ฉงต้าดันเขาไปใกล้ๆ ขวดปากแคบใบหนึ่ง นั่งลงเรียบร้อยมองฉินสือโอวตาปริบๆ และอ้าปากรอเขาป้อนน้ำเชื่อม
ฉินสือโอวถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ทำได้แค่จุ่มนิ้วให้พอชิมแล้วใส่ปากฉงต้า อีกฝ่ายก็รีบเลียทันที ไขมันบนหน้ากระเพื่อมไหวด้วยความสุข แต่ความสุขก็คงอยู่ไม่กี่วินาทีเพราะฉินสือโอวเดินไปแล้ว
เห็นเพียงวินนี่กับพาวลิส และเชอร์ลี่ย์ที่เก็บน้ำเชื่อม ฉินสือโอวถามอย่างแปลกใจ “กอร์ดอนล่ะ?”
มิเชลกำลังซ้อมอย่างแน่นอน เพราะเขาฝึกเลี้ยงลูกแบบพลิกแพลงที่สนามบาสอยู่
วินนี่ยิ้มจนใจ “เขาก็กำลังซ้อมบาสเหมือนกันน่ะ ดูเหมือนฮิวจ์คนน้องจะพาเขาเข้าทีมบาสเกตบอลด้วย”
ฉินสือโอวเข้าใจว่าสมรรถภาพทางร่างกายของกอร์ดอนนั้นไม่ต่างจากปีศาจน้อย ราวกับเคยได้พลังโพไซดอนช่วยวิวัฒนาการ เพราะปกติเขาชอบเล่นกีฬามาก สุขภาพของเขาเลยดีที่สุด ยิ่งกว่าพาลลิสและมิเชลเสียอีก
ทั้งที่เมื่อก่อนไม่มีใครทำได้ ฉินสือโอวก็เคยอยากชวนกอร์ดอนเข้าทีมบาสเกตบอลเช่นกัน แต่ในเมื่อกอร์ดอนไม่อยาก เขาจึงไม่พูดอะไรมาก ไม่นึกว่าฮิวจ์กลับมาชวนเขาไปเล่น ในที่สุดผู้ช่วยโค้ชคนนี้ก็ได้แสดงคุณค่าเสียที
ว่าแต่กอร์ดอนไปซ้อมตรงไหนกันล่ะ? ฉินสือโอวมองรอบข้างด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยเขา
เชอร์ลี่ย์เตือนเขา “คุณไปหาเขาข้างนอกเหรอคะ? จะไปเจอได้ไง ลองไปดูห้องเขาสิ เจ้าบ้านั้นต้องเล่นเกมอยู่แน่ๆ!”
ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้อง ตามคาดกอร์ดอนกำลังเคาะรัวแป้นพิมพ์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เล่นอย่างเมามันไปตะโกนไปดูจดจ่อเสียจนไม่รู้สึกถึงคนที่เข้ามาในห้อง
“กอร์ดอน ทำไมนายไม่ออกไปช่วยพี่วินนี่ทำงานล่ะ?” ฉินสือโอวถาม
กอร์ดอนยังให้ความเคารพต่อฉินสือโอวมาก รีบหันกลับมาตอบว่า “ฉิน ผมกำลังซ้อมอยู่ โค้ชฮิวจ์เชิญให้ผมเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลด้วย ผมตกลงไป ก็เลยต้องฝึกมากๆ”
ฉินสือโอวละเหี่ยใจ “เล่นเกมคอม เพื่อฝึกเนี่ยนะ?”
กอร์ดอนชี้ไปที่หน้าจอ “นี่คือ NBA-OL ถ้าเล่นเกมนี้ก็เหมือนซ้อมนั่นแหละครับ ที่สนามกีฬาโค้ชฮิวจ์ก็ใช้วิธีนี้ซ้อมเหมือนกัน…ในโทรศัพท์เขามีเกมบาสอย่างเยอะเลย”
แม่งเอ๊ย ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีเอาเสียเลย ฉินสือโอวแอบด่าฮิวจ์ไปประโยคหนึ่ง แล้วตีหน้าขรึมบอกให้กอร์ดอนออกไปฝึกข้างนอก
ถึงกอร์ดอนจะซุกซนช่างก่อเรื่อง แต่เขาไม่ได้มีนิสัยชอบต่อต้าน พอฉินสือโอวสั่งก็ยักไหล่รีบปิดเกม กระโดดโลดเต้นไปหามิเชลทันที
มื้อเย็น ฉินสือโอวไปดูไข่เป็ดเค็ม เขาลองผ่าก็พบว่าการดองเค็มสำเร็จด้วยดี ไข่แดงเป็นสีชมพูนวล พอผ่าครึ่งเสร็จก็หยดน้ำมันสีเหลืองลงไปกลิ้งให้ทั่ว
หลังกินเสร็จ วินนี่แนะนำว่าน่าจะถือโอกาสตอนหิมะละลาย พืชพันธุ์งอกงาม ไปเดินบนเขากันทั้งครอบครัวสุดสัปดาห์นี้ ฉินสือโอวตอบรับตามปกติ พวกเด็กๆ พาวลิสไม่มีความเห็น เรื่องนี้จึงเป็นอันลงมติกันอย่างสบายใจ
เกาะแฟร์เวลนับเป็นสถานที่ที่ฮวงจุ้ยดีมาก แคนาดาเป็นประเทศในเขตละติจูดสูง ส่วนใหญ่จึงมีช่วงน้ำแข็งปกคลุมยาวนาน ทางตอนเหนือของนิวฟันด์แลนด์มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดหกเดือนในหนึ่งปี ทว่าเกาะแฟร์เวลนั้นมีสภาพอากาศคล้ายกับเขตอบอุ่น เพราะความร้อนจากพื้นใต้ทะเลและกระแสน้ำทะเลนั่นเอง
หลังกอร์ดอนเข้าร่วมทีมบาส จำนวนคนเลยเกินมาหนึ่งคน ฉินสือโอวจึงบอกแซมและสมาชิกว่า หนึ่งในพวกเขาต้องมีคนโดนคัดออกคนหนึ่ง เพราะงั้นหากใครไม่ตั้งใจซ้อมก็จะไม่ผ่านการคัดเลือก
ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบการแข่งขัน พวกเด็กๆ พอโดนฉินสือโอวยัดเยียดให้ต้องมาแข่งกันเองก็พากันระเบิดลง โวยวายจะเลิกซ้อมแทน
คราวนี้ไม่ต้องให้ฉินสือโอวออกหน้าเอง กอร์ดอนโมโหทันทีที่เห็นเจ้าพวกนี้คิดจะหยุดซ้อมทั้งที่ตัวเองเพิ่งมาถึง เขาฉวยโอกาสตอนฉินสือโอวไม่อยู่ปาลูกบาสทิ้งพร้อมคำรามว่า “พวกนายทุกคนมานี่ ไอ้พวกแม่งน่ารำคาญทั้งหลาย ลูกพี่กอร์ดอนมีเรื่องจะถาม!”
กอร์ดอนเป็นหัวโจกคนใหม่ในโรงเรียน ตอนที่ยังไม่ทันคุ้นชินกับอะไร เขากับชาร์คจูเนียร์และคราเคนน้อยก็เป็นตัวหลักช่วยกันต่อสู้กับหัวโจกเสียแล้ว
ตอนเขาเพิ่งเข้ามา ขณะที่เชอร์ลี่ย์นั้นเรียบร้อยมาก กอร์ดอนกลับกล้ามีเรื่องวิวาทกับพวกหัวโจกในโรงเรียนแต่แรกเลย ไม่ยอมเสียเปรียบแม้แต่น้อย
เมื่อถูกกอร์ดอนตวาดใส่ พวกแซมก็พากันตัวสั่นค่อยๆ เข้ามารวมตัว
“ฉันได้ยินมาว่าพวกนายไม่อยากเล่นบาสแล้วงั้นเหรอ?” กอร์ดอนเดินมาถามตรงหน้าพวกเขา เขาให้ทุกคนนั่งลง ส่วนตัวเองใช้ประโยชน์จากมุมสูงมองลงมาเพื่อแสดงอำนาจ
โจเป็นเด็กนิสัยดีไม่ต่างจากมิเชล เพราะงั้นเขาถึงถูกเรียกว่าไอ้ขี้ขลาด พอเห็นกอร์ดอนโกรธเขาก็รีบโบกมือปฏิเสธตอบว่า “ไม่เลยไม่เลย ฉันชอบเล่นกีฬาบาสที่สุด จะไม่อยากเล่นแล้วได้อย่างไร?”
พันธมิตรขนาดย่อมเป็นอันพังครืน เดิมพวกเขาตั้งใจจะถอนตัวพร้อมกันเพื่อต่อต้านฉินสือโอว ปรากฏว่าฉินสือโอวไม่ได้โผล่มา แต่กลับกลายเป็นกอร์ดอนที่ไม่เกี่ยวด้วยมามีเรื่องแทน
พอโจแสดงความขี้ขลาดคนอื่นๆ ก็พลอยไม่กล้าทำเป็นกล้าหาญต่อ พร้อมใจส่ายหน้าเป็นพัดลมกันหมด
“เลวมาก ใครมันปล่อยข่าวว่าพวกเราไม่อยากเล่นบาสกัน?”
“บาสเกตบอลไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่มันสูงส่งกว่านั้นมาก!”
“ฉันยินดีอดข้าวดีกว่าไม่ซ้อม ฉันจะตั้งใจฝึกแล้วเป็นผู้ช่วยที่แข็งแกร่งของลูกพี่กอร์ดอนเอง!”
กอร์ดอนพยักหน้าพอใจ ล้วงหยิบห้าสิบดอลลาร์แคนาดาออกมาอย่างสบายใจให้แซม “ไป เอาไปซื้อเครื่องดื่มมาหน่อย ทุกคนอยากกินอะไรบอกมาเลย วันนี้ลูกพี่กอร์ดอนจะเลี้ยงเอง ขอแค่เพื่อนตั้งใจซ้อมให้ดี ตั้งแต่นี้ไปพี่กอร์ดอนจะคุ้มครองพวกนายเอง!”
พวกแซมและเกรย์ต่างตบอกเสียงดังปึกๆ แสดงออกว่าตนจะตั้งใจฝึกซ้อมแน่นอน และสามัคคีร่วมใจจะอยู่เคียงข้างพี่ใหญ่กอร์ดอน
มิเชลมองกอร์ดอนด้วยความอิจฉา ฉินสือโอวตั้งใจจะเพิ่มความมั่นใจและฝึกความเป็นผู้นำให้เขา เขานึกว่าจะยากกว่าการส่งลูกกับการทำสามแต้มเสียอีก แต่กอร์ดอนกลับสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายอย่างเป็นธรรมชาติ กลายเป็นกัปตันทีมตั้งแต่เข้ามาวันแรก
บางอย่างมันก็มีมาโดยกำเนิด กอร์ดอนไม่ได้เป็นชูตติ้งการ์ดแบบมิเชล แต่เขามีนิสัยของผู้นำที่ห้าวหาญเลือดร้อน ไม่จำเป็นต้องมีใครสอนก็รู้ว่าจะนำทีมอย่างไร
สิ่งนี้คนอเมริกันและแคนาดาชอบเรียกว่าคุณสมบัติของความเป็นผู้นำ
…………………………………………………….