ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1081 โครงการเพาะพันธุ์รูปแบบใหม่
เมื่อปูดันเจเนสส์มาถึง คนที่ยุ่งที่สุดก็คือศาสตราจารย์แซนเดอร์ส เขาต้องเป็นคนรับผิดชอบปูแสนมีค่าพวกนี้ อย่างที่รู้ว่ามันมีมูลค่าถึงสามแสนสี่หมื่นดอลลาร์แคนาดา ถ้าการเพาะพันธุ์สำเร็จด้วยดี ก็จะเป็นสามล้านสี่แสนดอลลาร์หรืออาจจะมากถึงสามสิบสี่ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว!
เดิมทีฉินสือโอวแค่ให้แซนเดอร์สตั้งชื่อให้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าศาสตราจารย์จะมีวิธีแก้ปัญหานี้จริงๆ จากผลิตผลเฉพาะของแปซิฟิกเหนือกลายเป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปในแอตแลนติกเหนือ
แต่แซนเดอร์สไม่ได้คิดอย่างนั้น หลังจากที่เขาได้รับมอบหมายจากฉินสือโอวก็ตั้งใจกับเรื่องนี้มาก ปกตินอกจากวิจัยเปลือกแข็งของแมลงยักษ์โบราณ เวลาอื่นเขาก็จะครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาการเพาะเลี้ยงปูในทะเลแอตแลนติกเหนือกับผู้เชี่ยวชาญด้านปูดันเจเนสส์
ปัญหาที่กลุ่มวิจัยปูดันเจเนสส์ประสบตลอดมาคือไม่รู้ว่าทำไมปูชนิดนี้ถึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในทะเลแอตแลนติกเหนือได้ พวกเขาทั้งพิจารณาตัวแปรแสง ค่าความเป็นกรด อุณหภูมิ อาหารและคุณภาพน้ำ วิจัยแม้กระทั่งความต่างของจุลธาตุในน้ำทะเลต่างๆ แต่ทว่าก็ยังไม่พบสาเหตุอยู่ดี
อย่างที่เขาว่ากันว่าต้องใช้ยารักษาให้ตรงโรค ในเมื่อไม่รู้อาการต่อให้เป็นปรมาจารย์แพทย์แผนจีน ก็คงสั่งยาให้ไม่ได้
แซนเดอร์สทำได้แค่เพาะพันธุ์แบบอนุรักษนิยมไปก่อน ระหว่างนั้นทีมวิจัยโครงการก็ได้ค้นพบวิธีเพาะพันธุ์ใหม่ นั่นคือ ‘ระบบวิศวกรรมการเพาะพันธุ์’ สำหรับขยายพันธุ์ปูดันเจเนสส์
ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาบริษัทขนส่งได้ส่งชิ้นส่วนคอมโพสิตมาจำนวนมาก คนงานก่อสร้างวิลล่ามาขุดบ่อน้ำสิบกว่าบ่อบนฝั่งชายหาด วุ่นวายกับการสร้างฟาร์มเพาะพันธุ์
บ่อน้ำถูกขุดลึกกว่าสองเมตร โดยใช้ชิ้นส่วนคอมโพสิตทำเป็นบ่อยาว 20 เมตร กว้าง 10 เมตร แล้วให้ปูตัวเมียและลูกปูหนีเข้ามาในบ่อนี้
สีหน้าของฉินสือโอวเต็มไปด้วยความสงสัย ตามที่แซนเดอร์สแนะนำหลังปูดันเจเนสส์มาส่งให้นำไปไว้บนหาดทรายรอบๆ บ่อน้ำพวกนี้ น้ำข้างในก็เอามาจากน้ำที่เรือขนส่งสูบมา
การที่ค่าขนส่งแพงขนาดนี้ ก็เพราะนอกจากขนปูดันเจเนสส์มากับเรือแล้วยังมีน้ำทะเลในนั้นอีก ไม่อย่างนั้นหากปูถูกส่งมาตลอดทางโดยไม่มีน้ำคงตายไปเรียบร้อยแล้ว
พอเรือขนส่งมาถึงจุดหมาย น้ำด้านในก็โดนปล่อยออกมา เมื่อไม่มีปูดันเจเนสส์น้ำทะเลข้างในก็ไร้ค่า แต่แซนเดอร์สไม่ให้พวกเขาปล่อยน้ำทิ้ง กลับย้ายไปใส่ในบ่อน้ำแทน
พอเห็นฉินสือโอวแปลกใจ แซนเดอร์สจึงอธิบายว่า “บอสคุณรู้จักระบบวิศวกรรมการเพาะพันธุ์ไหม? รอบนี้ผมใช้วิธีการเลี้ยงสัตว์น้ำในระบบน้ำหมุนเวียน (Recirculating Aquaculture System) ใช้วิธีการค่อยๆ ปรับตัวทำให้ปูดันเจเนสส์คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมพวกเรา”
บ่อน้ำทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมามีพื้นที่ประมาณสี่ห้าร้อยไร่ตลอดแนวชายฝั่ง ส่วนใหญ่อยู่ตรงฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท
บ่อน้ำสิบกว่าบ่อถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ด้านหนึ่งเป็นแหล่งน้ำสะอาด 100 ไร่จุดแรก และอีกด้านเป็นแหล่งน้ำสะอาด 150 ไร่จุดที่สอง ตรงกลางแหล่งน้ำทั้งสองมีพื้นที่เพาะพันธุ์หลัก 50 ไร่ รวมทั้งหมดเป็นบ่อน้ำหนึ่งร้อยบ่อ โดยใต้บ่อเลี้ยงทุกบ่อได้มีการติดตั้งสายเติมออกซิเจนเอาไว้
พอเห็นบ่อน้ำพวกนี้ ฉินสือโอวก็อดตะลึงไม่ได้ “ทุนของคุณมีเยอะพอสำหรับชิ้นส่วนคอมโพสิตกับเครื่องเติมออกซิเจนมากมายขนาดนี้เชียว คุณได้เงินมาเท่าไรกันเนี่ย?”
พูดจบเขาก็รู้ตัว “เดี๋ยวนะ ศาสตราจารย์ คุณไปเอาทุนวิจัยมาจากไหนกันแน่?”
แซนเดอร์สตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “นี่เป็นของที่ผมเช่ามา ถ้าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์จริง พวกเราค่อยซื้ออุปกรณ์พวกนี้ก็ได้ ถ้าไม่ก็ส่งคืนพวกเขาไป”
ฉินสือโอวพยักหน้า แต่พลันตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “ผมถามคุณว่าไปเอาทุนวิจัยมาจากไหนต่างหาก?”
แซนเดอร์สเอ่ยเฉื่อยๆ “ก็ต้องมาจากการรับรองของคุณแน่นอนอยู่แล้วสิครับบอส”
ฉินสือโอวแทบโมโห “หมายความว่าอย่างไร? ผมไปรับรองให้คุณซื้ออุปกรณ์พวกนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”
แซนเดอร์สตอบ “ไม่ได้ซื้อครับเช่าต่างหาก ตอนที่คุณจ้างผมไม่ใช่คุณให้สมุดเช็คมาเพื่อเบิกค่าทุนวิจัยได้โดยตรงเหรอ?”
“ก็ใช่ ผมให้สิทธิ์ในการเบิกทุนวิจัยได้เสรีกับคุณ แต่…ผมไม่ได้สนใจว่าคุณซื้อหรือเช่ามา ผมแค่อยากรู้ว่ามันเท่าไร?” ฉินสือโอวหงุดหงิดเหลือทน แซนเดอร์สที่ดูเหมือนปัญญาชนผู้ซื่อสัตย์ ทำไมถึงเจ้าเล่ห์อย่างนี้?
แซนเดอร์สตอบ “ไม่เท่าไรหรอก ห้าหมื่นดอลลาร์เอง”
ฉินสือโอวพยักหน้า ก็ไม่เยอะเท่าไรจริงๆ งั้นให้เขาจัดการไปนั่นแหละ
“ซึ่งห้าหมื่นดอลลาร์นั้นเป็นค่าเช่าของหนึ่งอาทิตย์” ศาสตราจารย์กล่าวเสริม
ฉินสือโอวโกรธขึ้นมาทันที “เดือนหนึ่งสองแสนเลยเหรอ? ผมซื้อปูมาตั้งเยอะยังใช้แค่สามแสนเองนะ!”
ศาสตราจารย์พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างมุ่งมั่น “วิสัยทัศน์ครับ บอส วิสัยทัศน์ของคุณต้องกว้างไกล ทำไมรูปแบบของคุณถึงเล็กน้อยอย่างนี้? ก็จริงที่ตอนนี้มีเงินทุนอยู่เยอะ แต่ถ้าทำสำเร็จก็จะได้กำไรถึงสิบหรือร้อยเท่าเลยนะ!”
ฉินสือโอวโมโห นายกล้าเยาะเย้ยรูปแบบของฉันเหรอ? ฝูงปูพวกนี้ยังไงก็รอดอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ไอ้เทคโนโลยีใหม่อะไรนั่นด้วยซ้ำ เขาสามารถรับประกันได้เลยว่าปูดันเจเนสส์อยู่ในทะเลแอตแลนติกเหนือได้แน่ ดังนั้นในเมื่อเป็นอย่างนี้ยังจะเปลืองเงินไปทำไมอีก?
ศาสตราจารย์แซนเดอร์สเข้าใจว่าฉินสือโอวเสียดายเงิน จึงอธิบายเพิ่ม “บอส คุณอย่าคิดว่าระบบการเพาะพันธุ์นี้จะใช้ได้แค่กับปูดันเจเนสส์สิครับ ความจริงยังสามารถทำเป็นการเพาะพันธุ์ร่วมกันโดยสมบูรณ์ได้ด้วย”
“คุณดูฝั่งแหล่งน้ำสะอาดพวกนี้สิ มันยังสามารถนำมาใช้เพาะพันธุ์ผลผลิตทางทะเลที่มีค่าได้อีก อย่างเช่นพวกปลิงทะเล ปลาไหล ล็อบสเตอร์ นอกจากนี้การขยายพันธุ์ในที่แบบนี้ความเร็วในการเจริญเติบโตของสัตว์ทะเลจะเร็วยิ่งกว่าในทะเล และเนื้อฉ่ำกว่าด้วย!”
ส่วนที่สำคัญที่สุดในระบบการเพาะพันธุ์ก็คือพื้นที่เพาะพันธุ์หลักห้าสิบไร่ตรงกลางนั่นเอง ซึ่งน้ำในพื้นที่นั้นเป็นน้ำทะเลจากแปซิฟิกเหนือ เลยนำปูดันเจเนสส์ทั้งหมดมาเบียดเสียดแออัดกันไว้ในนี้
ฉินสือโอวกังวลว่าพวกปูอาจโดนทับตายในนั้น แต่แซนเดอร์สยักไหล่ตอบว่า “ปูดันเจเนสส์ไม่ได้ต้องการพื้นที่มาก สิ่งจำเป็นสำหรับพวกมันคือออกซิเจนที่เพียงพอ และผมก็ติดตั้งสายเติมออกซิเจน รวมถึงใช้ปั๊มน้ำเร่งการหมุนเวียนของน้ำทะเลระหว่างส่วนเพาะพันธุ์กับส่วนน้ำสะอาดไว้ ช่วยรับประกันอัตราการอยู่รอดของปูดันเจเนสส์ได้”
จากนั้นแซนเดอร์สก็แนะนำถึงการวิจัยปูดันเจเนสส์ ทางทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยโทรอนโตเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ปูดันเจเนสส์ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้เมื่อออกจากทะเลแปซิฟิกเหนือไปยังทะเลแอตแลนติกเหนือนั้น อาจเกี่ยวกับปริมาณการกักเก็บออกซิเจนในน้ำทั้งสองแห่งก็เป็นได้
อย่างที่ทราบกันว่าปอดของปูนั้นอยู่ใต้กระดอง และรับออกซิเจนผ่านการกรองน้ำทะเล วิธีการรับออกซิเจนของพวกมันค่อนข้างต่างจากปูทั่วไป เมื่อปริมาณออกซิเจนในน้ำทะเลต่ำกว่าจุดวิกฤติจนไม่สามารถดูดซึมได้เพียงพอ จึงนำไปสู่การล้มตายของปูเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการกักเก็บอากาศในน้ำของทะเลแอตแลนติกเหนือนั้นต่ำกว่าน้ำทะเลแปซิฟิก นี่น่าจะเป็นสาเหตุที่จำกัดการอยู่รอดของปูดันเจเนสส์นั่นเอง แซนเดอร์สจึงเริ่มจากตรงนี้ โดยเสริมความสามารถในการดูดซึมออกซิเจนในน้ำของปูดันเจเนสส์ เพื่อให้พวกมันสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกว่าเดิมได้
……………………………………………