ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1102 เป็นหรือตาย
ที่กำลังลอยอยู่บนผิวน้ำนั้นคือเรือยอชต์ธุรกิจ
เรือยอชต์ชนิดนี้ถึงแม้จะสลักตัวอักษร ‘ธุรกิจ’ สองคำนี้ไว้ แต่ก็นำมาใช้ส่วนบุคคลอยู่ดี จะมีก็แค่บางครั้งที่บริษัทนำมาใช้ต้อนรับแขกธุรกิจ ส่วนการตกแต่งด้านในก็ตกแต่งสไตล์ครอบครัวเป็นหลัก ส่วนโซนพักผ่อนบนดาดฟ้าเรือ โซนล็อบบี้และโซนห้องอาหารจะสวยงามหรูหราโอ่อ่าที่สุด
นอกจากพนักงานขับเรือแล้ว ยังมีหนุ่มสาววัยรุ่นอีกเจ็ดแปดคนบนเรือยอชต์ที่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน วัยรุ่นพวกนี้ต่างก็เป็นชนผิวขาวกันทั้งนั้น แม้แต่ในวันที่หนาวเย็นพวกเขาก็ใส่เพียงแค่กางเกงว่ายน้ำหรือบิกินีรับลมอยู่บนดาดฟ้าเรือ เผยให้เห็นถึงเรือนร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม
ฉินสือโอวมองดูจากตาของฉลามหางยาว ก็เห็นชื่อของเรือยอชต์ลำนี้ ชื่อว่าเรือบิ๊กแซม 107
จากนั้นเขาทำการล็อกอินเข้าสู่เว็บไซต์เรือของแคนาดาอย่างเงียบๆ เพื่อหาข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรือลำนี้ เรือยอชต์บิ๊กแซม 107 พร้อมกับติดชื่อเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ลินตัน วอเทอเรนซ์ นี่คือเรือยอชต์รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวโดยบริษัทเฟอเรตตี้ หมายเลขทางราชการคือ 660
ความยาวของเรือยอชต์ลำนี้คือ 24 เมตร ความกว้าง 6 เมตร 24 เซนติเมตร ส่วนประกอบอื่นๆ ปริมาณการขับน้ำของเรือ40 ตัน สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 22 คน เสริมด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแมน 809 kw สองเครื่อง พร้อมกับการทำงานร่วมกันของพลังงานฟืนและไฟฟ้า ความเร็วสูงสุดในการเดินเรือสามารถเร็วได้ถึง 31 นอต และความเร็วในการเดินเรือตรวจการณ์คือ 27 นอต ราคาในแคนาดาคือ สี่ล้านสี่แสนดอลลาร์แคนาดา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่พวกวัยรุ่นล่ายิงวาฬกับฉลามก็เพียงเพื่อความสนุกเท่านั้น อีกอย่างคนที่สามารถขับเรือยอชต์แบบนี้ได้คงไม่ต้องมาเป็นทุกข์กับชีวิต พวกเขาไม่ได้ล่าฉลามเพื่อเอาหูมันไปขายหรือล่าวาฬเพื่อเอาเนื้อมัน
แต่การกระทำเช่นนี้ในมุมมองของฉินสือโอวเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก เลวร้ายเหมือนกับตอนที่พวกวัยรุ่นสองสามคนนั้นขับเรือดำน้ำมาชนเฮยป้าหวัง…
พูดถึงเรื่องของเฮยป้าหวัง ฉินสือโอวก็นึกขึ้นได้ ตอนนั้นก็เป็นพวกลูกคนรวยสองสามคนนี้แหละที่ขับเรือดำน้ำชนเฮยป้าหวัง จะใช่วัยรุ่นพวกนี้ไหมนะ?
จากนั้นเขาก็รีบกลับไปค้นเรือลำอื่นๆ ภายใต้ชื่อวอร์ตัน แต่น่าเสียดายที่ไม่เจออะไรเลย เพราะเขาไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเรือทุกลำที่อยู่ภายใต้ชื่อของคนคนเดียวได้ ทำได้เพียงตรวจสอบสภาพการณ์ของเจ้าของต่อเรือหนึ่งลำเท่านั้น
พอหาข้อมูลเสร็จ ฉินสือโอวก็เดินยิ้มเย็นยะเยือกออกไปจากวิลล่า พลางหันไปตะโกนหาเบิร์ดที่กำลังขัดเงาอุปกรณ์ตกปลาอยู่ “เพื่อน ออกเครื่อง ไปดูเรือที่บุกรุกเข้ามาในฟาร์มปลาของเราสักหน่อยว่ามันเป็นอะไรกันแน่ อ้อ พกปืนไปด้วยนะ”
จากนั้นวินนี่ที่พาเสี่ยวเถียนกวามานั่งเล่นที่สนามหญ้าเกิดใหม่ ก็พูดปลอบเขาว่า “คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ ชาร์คก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเป็นแค่เรือยอชต์ลำหนึ่งเท่านั้น? ใครจะขับเรือยอชต์มาขโมยปลากัน? ดังนั้น ไม่ต้องพกปืนไปก็ได้มั้ง?”
ฉินสือโอวจูบไปที่หน้าผากของวินนี่แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องห่วง ที่รัก ผมก็แค่ป้องกันไว้ก่อน คุณก็รู้จักการควบคุมตัวเองของผมไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างที่ผมกังวลไม่ใช่ที่พวกเขาจะมาขโมยปลา แต่กังวลว่าจะมาตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินหรือไม่ก็มาหยดยาพิษใส่น่ะสิ!”
“แม่ง แล้วถ้ามีคนมาหยดยาพิษใส่ฟาร์มปลาของพวกเราจริงๆ นะ ผมจะทำให้ตูดมันแหกเลย!” นีลเซ็นที่เดินถือปืนออกมา พร้อมกับพูดด้วยความโกรธ
พอเฮลิคอปเตอร์ออกตัว ฉินสือโอวก็ใช้วิทยุไร้สายวอร์บอกคนที่อยู่บนเรือกำปั่นทะเลฝั่งใต้ ให้พวกเขาขับเรือตามมา
เนื่องจากไม่มีเรือมาขโมยปลามานานแล้ว ฉินสือโอวจึงเรียกเรือกำปั่นทะเลทั้งสี่กลับมารวมตัว
เฮลิคอปเตอร์รุ่นเอซี 310 เอ็น ค่อนข้างช้า ฉินสือโอวเลยเตรียมที่จะเปลี่ยนลำ
อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินครองร้านอาหารระดับกลางไปถึงระดับสูงทั้งในไมอามีและนิวยอร์ก จนเกือบจะถึงขั้นผูกขาด แต่ผลกำไรที่ได้มาก็ดูดีในระดับหนึ่ง โดยสามารถทำเงินให้ฉินสือโอวในแต่ละไตรมาสได้ถึงสิบกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวกำไรก็จะไม่ต่ำกว่าสองล้านดอลลาร์สหรัฐ!
ตอนนี้ในบัญชีของฉินสือโอวมีเงินสดอยู่ร้อยกว่าล้านดอลลาร์แคนาดา และเงินจากการประมูลไข่มุกดำ เครื่องเสาหัวเรือ และปลาทูน่ายังไม่ได้ให้เขา ถ้าถึงมือเขาตอนไหนล่ะก็ เขาก็จะมีเงินเพิ่มเข้าไปในบัญชีอีกหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา
ดังนั้นสถานภาพของเขาตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาวะกดดันทางการเงินแต่อย่างใด แค่เพิ่มฮาร์ดแวร์ราคาแพงให้ฟาร์มปลาก็เท่านั้น
นอกจากนั้น ถ้าสกัดหินแร่ทองคำที่อยู่ก้นทะเลและขายได้สำเร็จ เขาก็จะได้อีกสองร้อยล้านกว่าดอลลาร์สหรัฐเลย
จากประสบการณ์เผชิญหน้ากับโจรสลัดที่โซมาเลีย เขาก็มีความกังวลต่อหินแร่ทองคำนิดหน่อย จึงส่งคราเคนและกองกำลังทหารงูทะเลไปใหม่อีกครั้ง ให้พวกเขาคอยเฝ้ารักษาหินแร่ทองคำอยู่บริเวณเรืออับปาง จากนั้นในขณะที่ทำการกู้ขึ้นมาและขนส่ง หากเจอเรือโจรสลัดอีก ก็ให้คราเคนจัดการพวกมันได้เลย
ที่คราเคนกลัวก็คือเรือดำน้ำและเรือรบที่มีความสามารถโจมตีใต้น้ำ สำหรับโจรสลัดที่ไม่ได้ติดตั้งแม้แต่ตอร์ปิโดไว้ก็เป็นเหมือนวัชพืช เพราะพวกเขาไม่มีทางสู้คราเคนได้
ตรงสะพานลอยของเรือบิ๊กแซม 107 มีหนุ่มวัยรุ่นสองคนกำลังหยอกล้ออยู่กับหญิงสาวสามสี่คน พร้อมกับเพลิดเพลินในการอาบแดดอย่างสบาย
เรือยอชต์รุ่นนี้ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทเฟอเรตตี้ที่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งตรงสะพานลอยกับดาดฟ้าเรือก็ยังมีโซนอาบแดดขนาดใหญ่มาก สามารถจุคนได้ถึงสิบคนในเวลาเดียวกัน ส่วนด้านข้างสะพานลอย ก็มีโต๊ะตัวหนึ่งที่เป็นแบบยืดออกได้ ล้อมรอบด้วยโซฟารูปตัวยู ข้างๆ บันไดก็จัดตู้เย็นและที่ปิ้งย่างเอาไว้อำนวยความสะดวกให้คนข้างบนกินและดื่มได้ตลอดเวลา
จากนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะผอมสูงผมสีไวน์แดง ยกน้ำผึ้งราดเชอร์รี่มาสองจาน บวกกับในปากของเธอที่กำลังเลียลูกหนึ่งอย่างยั่วยุ ทันใดนั้นหนุ่มหนึ่งคนในนั้นก็โผเข้าหาเธอพลางร้องเสียงโหยหวนเหมือนหมาป่า
ชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ที่แคมเรือในมือของเขาก็ถือธนูยาวอังกฤษพลางเล็งใส่ผิวน้ำ แต่พอไม่เจอวาฬกับฉลามเขาก็ไม่ค่อยพอใจ เลยหันไปตะโกนว่า “ลินตัน เลิกเล่นได้แล้ว ไอ้เลวนี่! แกบอกว่าตรงนี้วาฬกับฉลามเยอะไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมฉันไม่เห็นวาฬแม่งสักตัวเลยวะ?”
ลินตันที่กำลังกอดกับสาวสวยเป็นหนุ่มผอมบางคนหนึ่ง หัวก็โกนจนไม่เหลือผมสักเส้น เผยให้เห็นถึงหนังหัวที่เป็นสีเขียวอึมครึมที่ดูแล้วเหมือนเป็นคนกล้าหาญ บนตัวก็เต็มไปด้วยลายสักสีต่างๆ เหมือนกับสวมเสื้อคลุมลายครามไว้
เมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของเพื่อน ลินตันที่กำลังนัวเนียกับสาวอยู่เลยตอบออกไปแบบส่งๆ “แล้วใครจะไปรู้ล่ะ? ยังไงซะที่ก็มีวาฬและฉลามมากมายแน่นอน แล้วใครบอกล่ะว่าพวกเราเจอแค่วาฬตัวเดียว? ไม่ใช่ว่ามีฉลามอีกตัวเหรอ?”
“ใช่แล้ว อัลแมน เมื่อกี้ก็เพิ่งเจอฉลามหางยาวไป ก็นายเองนั่นแหละที่ยิง จะมาโทษพวกเราไม่ได้นะ ใช่ไหมที่รัก?” หนุ่มสาวอีกคนหนึ่งที่นอนอาบแดดกับลินตันพูดหยอก
แล้วอัลแมนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันก็บอกไปแล้วนี่ แม่งเอ๊ย ว่าเมื่อกี้ไม่ได้ยิงพลาดแน่ๆ ฉันไม่ใช่ไอ้โง่แบบพวกแกที่แม้แต่จะดึงคันศรยังทำไม่ได้ เมื่อกี้ลูกยิงโดนหัวหรือไม่ก็ครีบของมันแน่นอน!”
“งั้นแล้วศพของมันล่ะ? อย่าบอกนะว่าดินปืนที่สามารถระเบิดวาฬจนหัวแบะได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรฉลามหางยาวได้”
“อาจจะโดนระเบิดจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ?” อัลแมนพูดขึ้นด้วยความโกรธเคือง
ลินตันมองสองคนที่กำลังเถียงกันอยู่พูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะๆ พวก ใจเย็นกันก่อนนะ ทำไมพวกเราไม่อดทนกันหน่อยล่ะ? พวกเรารอยู่กลางทะเลแบบนี้หลายวันหน่อย มีเวลาอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเจอฉลามและวาฬมากพอไม่ใช่หรือไง? กลัวแต่ตอนนั้นนายจะเล่นจนเบื่อไปเลยน่ะสิ”
เรือยอชต์ลำนี้ผ่านการแก้ไขมา จากเดิมมีห้องนอนทั้งหมดสามห้อง แต่ลินตันแก้ให้เป็นหกห้อง สามารถให้คนนอนได้สูงสุดสิบสองถึงสิบห้าคน และเมื่อรวมคนขับเรือสองคนไปด้วยก็ยังไม่เกินสิบสองคนอยู่ดี พวกเขาเลยสามารถพักบนเรือได้หลายวัน
………………………………………………