ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1135 มีคนมาแล้ว
การท้าทายประสบความสำเร็จ พวกชาวประมงพากันปรบมือและกอดกันเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความยินดี ฉินสือโอวกับแซนเดอร์สรู้สึกยินดีอย่างแท้จริง นี่หมายความว่ากาวชีวภาพได้รับชื่อเสียงเกียรติยศขั้นแรกมาแล้ว นั่นหมายความว่ากำลังจะมีเงินเข้ากระเป๋าพวกเขาแล้ว!
ไม่ต้องสงสัยเลย ฉินสือโอวไม่มีทางลงทุนเปิดบริษัทเพื่อดำเนินการผลิตกาวชีวภาพด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เขาวางแผนไว้ว่าหลังจากจดทะเบียนสิทธิบัตรให้ของสิ่งนี้เขาก็จะขายมันให้กับบริษัทอื่นๆ อย่างบริษัท 3M ด้วยวิธีนี้บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ก็จะเป็นประโยชน์กับพวกเขาแล้ว
ทั้งสองคนกอดกันหนึ่งครั้ง ฉินสือโอวตบหลังศาสตราจารย์สูงวัยอย่างแรง พร้อมพูดกับเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ทำได้ดีมากครับ ศาสตราจารย์ ถือว่าคุณได้รับความสำเร็จที่งดงามไปหนึ่งอย่างแล้ว! ดีมาก ดีมาก ผมขอแนะนำให้คุณรีบวิจัยเปลือกแมลงสีดำที่ผมให้คุณไปสักหน่อยดีกว่า ผมคิดว่าของสิ่งนั้นจะทำให้คุณประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเดิม!”
แซนเดอร์สกลับนึกว่าตัวเองถูกสบประมาท “ไม่ บอส นี่ไม่ใช่ความสำเร็จที่ดีที่สุดของผม ความสำเร็จที่ดีที่สุดของผมขึ้นอยู่กับปูดันเจเนสส์! ขอแค่ปูพวกนี้มีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลา ชื่อเสียงในด้านวิธีการเพาะพันธุ์ของพวกเรา ก็จะดังก้องไปทั่วโลก!”
พอพูดถึงปูดันเจเนสส์ฉินสือโอวก็อยากจะเฆี่ยนตัวเองสักที ตอนนั้นเขาทำอะไรลงไป แอบขนปูล็อตนั้นมาโยนไว้ในฟาร์มปลาเฉยๆ ก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วพอถึงเวลาจับไปขาย ก็บอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง ใครจะสนใจว่าปูดันเจเนสส์พวกนี้มีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลาได้อย่างไร?
ดีเลยทีนี้ แซนเดอร์สยึดติดกับมันไปแล้ว
รอจนฉินสือโอวกับแซนเดอร์สฉลองกันเสร็จแล้ว เคลลีก็มอบเหรียญรางวัลกับประกาศนียบัตรให้เขาหนึ่งฉบับ “นี่ไม่ใช่ใบประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการนะครับ เนื่องจากพวกเราไม่รู้ว่าคุณจะสามารถท้าทายสถิติได้สำเร็จไหม ดังนั้นจึงยังไม่ได้ทำประกาศนียบัตรฉบับจริงออกมา นี่เป็นฉบับเริ่มต้น ซึ่งเราให้ไว้เป็นของที่ระลึก สำหรับใบประกาศนียบัตรบันทึกสถิติโลกอย่างเป็นทางการ พอกลับไปแล้วพวกเราถึงจะทำแล้วส่งเป็นพัสดุมาให้คุณ”
ฉินสือโอวพูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะรอให้ถึงวันนั้นแล้วกันครับ”
เหรียญรางวัลอันนี้ทำมาจากทองเหลือง ข้างบนประทับโลโก้ของบริษัทกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดจำกัดเอาไว้ พร้อมกับคำประกาศอย่างเป็นทางการบางส่วน ซึ่งน่าจะเป็นของที่มอบให้โดยปกติ
ใบประกาศนียบัตรถูกห่อหุ้มด้วยหน้าปกสีแดงสด เนื้อหาที่อยู่ด้านในก็คือข้อความที่เคลลีเพิ่งจะเขียนขึ้นมาเมื่อกี้ และยังมีเลขหมายของเกียรติบัตรอยู่ด้วย ซึ่งนั่นก็คือเลขประจำลำดับสถิติโลกของพวกเขานั่นเอง
การท้าทายสถิติบรรลุผลแล้ว พวกเคลลีก็พากันนั่งเรือออกจากเกาะแฟร์เวลไปที่นครเซนต์จอห์นแล้ว ฉินสือโอวเชิญพวกเขาอยู่ที่นี่ต่อเพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ฉลองความสำเร็จจากการท้าทายสถิติด้วยกันก่อน แต่เคลลีปฏิเสธเขา โดยเขาพูดรอยยิ้มว่า “รอให้ได้ประกาศนียบัตรฉบับทางการมาก่อนแล้วค่อยจัดปาร์ตี้ดีกว่าครับ น่าเสียดายมาก ที่พวกเราไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะยังมีงานที่ต้องทำอยู่”
มาเป็นประจักษ์พยานในการท้าทายสถิติ นี่เป็นงานของพวกเขา
ตลอดฤดูหนาว ที่ฟาร์มปลาไม่ได้จัดงานปาร์ตี้เลยสักครั้ง คราวนี้ถือโอกาสที่ท้าทายบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ได้สำเร็จ เป็นโอกาสในการจัดงานปาร์ตี้ได้พอดี และอีกไม่กี่วันครอบครัวของวินนี่ก็จะมาถึงที่นี่แล้ว จะได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่มาจากแดนไกลด้วย
วันที่ 16 เดือนพฤษภาคม อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง ครอบครัวของวินนี่มาถึงที่นี่แล้ว
ฉินสือโอวตั้งใจเปลี่ยนเสื้อผ้าไปใส่ชุดถังจวงสีขาวบริสุทธิ์ เขามีรูปร่างสูงลำตัวตรง หุ่นดีได้สัดส่วน รวมกับนิสัยเฉพาะตัวในเวลาปกติที่ถูกปลูกฝังให้ชอบการอ่านประวัติศาสตร์และวรรณกรรมคลาสสิคของจีน ชุดถังจวงสีขาวจึงดูเข้ากับเขาได้เป็นอย่างดี
วินนี่ช่วยเขาจัดคอเสื้อกับแถบด้านหน้าของเสื้อคลุมจีน จัดระเบียบชุดถังจวงเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็เดินไปสำรวจตัวเองอยู่ที่หน้ากระจก หลังจากนั้นก็ถอยไปข้างหลังแล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาพร้อมกับนั่งย่อทำท่ายืนม้า ปากก็ส่งร้องเสียงประหลาดๆ ออกมาว่า ‘อะจ๊าก’ เหมือนหลี่เสี่ยวหลงสุดๆ ไปเลย!
“แม่งเอ๊ยโคตรเท่เลย!” ท่านชายฉินพูดกับกระจกอย่างทอดถอนใจ “นี่มันหล่อไม่เกรงใจหลักธรรมแห่งสวรรค์เลย ต้องถูกคนอื่นตีแน่ๆ”
พอไวส์มองเห็นการแต่งตัวของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับตะโกนว่า “ฟังฉันให้ดี พวกเราคนจีนไม่ใช่พวกขี้โรคแห่งเอเชีย! อะจ๊าก อะจ๊าก!”
วินนี่ดึงเขาไว้ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “อยู่นิ่งๆ หน่อย เด็กน้อย นายเป็นคนอเมริกา ไม่ใช่คนจีน”
ไวส์จึงพูดว่า “ผมเป็นคนอเมริกา แต่เป็นจอมยุทธของประเทศจีน! จอมยุทธของอเมริกาชอบเอาแต่พึ่งพาการกลายพันธุ์กับเทคโนโลยีไฮเทค ไม่น่าสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว กังฟูยังมีพลังร้ายกาจกว่าอีก ฉันจะใช้พลังดัชนีชี้แกให้ตาย กอร์ดอน!”
กอร์ดอนเพิ่งเดินลงมาจากข้างบน พอมองเห็นไวส์ตั้งท่าต่อสู้ใส่ตัวเอง เขาก็พูดอย่างจนปัญญาว่า “ไวส์ ถ้าไม่ได้เห็นแก่ความโง่ของนาย ฉันคงฟาดนายจนพ่อแม่นายจำนายไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว!”
ไวส์หันไปฟ้องฉินสือโอวว่า “อาจารย์ กอร์ดอนข่มขู่ผม แถมเขายังดูถูกสำนักของพวกเราอีกต่างหาก ท่านต้องตัดสินความยุติธรรมให้กับศิษย์นะขอรับ!”
ฉินสือโอวตบหัวเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันรู้ ไวส์ แต่อาจารย์จะลงไม้ลงมือกับเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกผู้คนในยุทธภพหัวเราะเยาะหาว่ารังแกคนอ่อนแอเอาได้ เจ้าตั้งใจฝึกกังฟูให้ดี หลังจากฝึกฝนสำเร็จแล้วค่อยไปแก้แค้น โอเคไหม?”
ไวส์พยักหน้ารับ แล้วพูดด้วยความมั่นใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม “ถ้าอย่างนั้นผมจะไว้ชีวิตเขาไปก่อน อีกสิบปีหลังจากนี้ ผมจะทำให้เขาเสียใจที่กล้ามายุแหย่ผมในวันนี้!”
วินนี่จับเสี่ยวเถียนกวาโบกมือ เรียกให้ฉินสือโอวรีบมาหา ไวส์วิ่งมาอยู่ข้างๆ ตัวเธอ หลังจากนั้นก็เงยหน้าพูดว่า “อาจารย์หญิง วันนี้ท่านงดงามมากจริงๆ!”
คาดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะฟอกส์กับสามีจะมาที่นี่ วินนี่ถึงจัดการกับตัวเองโดยพลัน เธอที่ชอบความเป็นธรรมชาติถึงกับยอมแต่งหน้าอ่อนๆ ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมง สะบัดเครื่องสำอางสารพัดอย่างลงไปบนใบหน้า จนทำให้ฉินสือโอวอดทอดถอนใจเมื่อเห็นเธอไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ช่างใจร้ายกับเขาจริงๆ!
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ เดิมทีฉินสือโอวแนะนำให้วินนี่สวมชุดกี่เพ้า แต่วินนี่ปฏิเสธไป เพราะสวมชุดกี่เพ้าแล้วอุ้มลูกได้ไม่สะดวก เสี่ยวเถียนกวาชอบดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอ ถ้าชุดกี่เพ้ายับก็คงจะดูน่าเกลียด
เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจึงสวมเสื้อโค้ตเข้ารูปสีฟ้าสดใสสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งก็คือเสื้อผ้าที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าวาโกในย่านกินซ่าประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วในราคาสองล้านหกแสนเยนตัวนั้นนั่นเอง ตั้งแต่ซื้อมาเธอยังไม่เคยใส่เลย
เสื้อโค้ตเข้ารูปมีคอปกที่คมชัด ใช้การตัดเย็บแบบสามมิติ ร่างแบบคอปกออกมาได้อย่างงดงามประณีต สำหรับเสื้อผ้าของผู้หญิงนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากกระดูกไหปลาร้ากับแนวไหล่เป็นส่วนสำคัญที่เผยเสน่ห์ของพวกเธอออกมา
ชายเสื้อโค้ตด้านล่างมีลักษณะพิเศษที่โดดเด่นมาก มันเป็นเหมือนกระโปรงพลีทที่บานออก ดูน่ารักและมีชีวิตชีวาทั้งยังช่วยเสริมให้รอบเอวดูสวยขึ้นอีกด้วย เมื่อใส่คู่กันกับถุงน่องซีทรูโปร่งบางเหมือนคริสทัลใส ก็ยิ่งทำให้วินนี่มีทั้งความสวยบริสุทธิ์และความงดงามอ่อนหวานของหญิงสาวดูมีชีวิตชีวาเหมือนสาวน้อย ดึงดูดสายตาได้ดีมาก
พอได้ยินคำชมของไวส์ วินนี่ก็ยิ้มหวานพราวเสน่ห์ เธอยื่นมือออกไป แกล้งทำท่าจะดีดหัวเขาพร้อมกับพูดด้วยความไม่พอใจว่า “ท่านอาจารย์ของนายสอนให้นายพูดจากกะล่อนปลิ้นปล้อนด้วยเหรอ?”
ไวส์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ กอร์ดอนที่อยู่ข้างๆ กันก็พูดขึ้นมาว่า “จริงๆ นะครับ พี่วินนี่ วันนี้พี่สวยมากจริงๆ ผมยังเคยคิดว่าพอคลอดลูกแล้วพี่จะกลายเป็นแม่มดเฒ่าแล้วเสียอีก ที่แท้ผมก็เดาผิด…”
วินนี่หมดปัญญา เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือว่าควรจะโกรธดี
นีลเซ็นสตาร์ทเครื่องยนต์เรือแฟร์เวล ฉินสือโอวกับวินนี่พากันตรงไปที่นครเซนต์จอห์น ฉินสือโอวกำลังอุ้มเสี่ยวเถียนกวาเอาไว้ ส่วนวินนี่ก็กำลังอุ้มต้าป๋าย ระดับการดูแลเอาใจใส่ของวินนี่ที่มีต่อต้าป๋าย ตอนนี้มันมากกว่าที่เธอมีต่อเสี่ยวเถียนกวาเสียอีก
มาถึงสนามบินแล้ว พวกเขารออยู่ประมาณสิบนาทีกว่าๆ พวกมาริโอ้ก็เดินลากกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ออกมาแล้ว
ฉินสือโอวรีบส่งลูกให้กับคุณย่าของวินนี่ แล้วช่วยยกของให้คนชราทั้งสองคน พูดกับพวกเขาซ้ำๆ ว่า “ยินดีต้อนรับสู่นครเซนต์จอห์นครับ คุณปู่คุณย่า ระหว่างทางพวกคุณคงจะเหนื่อยมากๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ?”
ชายชราหัวเราะฮ่าๆ พูดว่า “ไม่เป็นไร นั่งเครื่องบินแค่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ไม่เหนื่อยเลยสักนิด เดินเถอะ พวกเราอยากเห็นฟาร์มปลาของนาย มาริโอ้กับมิแรนดากลับมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าฟาร์มปลาของนายดีอย่างนั้นอย่างนี้ ในที่สุดคนแก่อย่างพวกเราสองคนก็มีโอกาสมาดูบ้างแล้ว”
…………………………………………….