ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 115 ซากเรือลำที่สอง
เมื่อทานอาหารเสร็จ ฉินสือโอวตามไปส่งชาร์คและคนอื่นๆกลับบ้าน แล้วจึงขึ้นไปพักข้างบน วินนี่กลับมาถึงโตรอนโตแล้ว เธอส่งข้อความมาทางคอมพิวเตอร์
ฉินสือโอวกดเชื่อมต่อวิดีโอคอล ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก เป็นพาวลิสที่เข้ามาถามว่า “ฉิน คุณช่วยสอนพวกเราใช้คอมพิวเตอร์หน่อยได้ไหม?”
วิดีโอคอลเชื่อมต่อแล้ว เสียงใสๆของวินนี่ก็ดังขึ้นมา “ฮาย ฉิน ช่วงสองวันนี้คุณเป็นยังไงบ้าง? ได้ไปหาสาวสวยในนครเซนต์จอห์นบ้างไหม……”
“เฮ้ย!”เมื่อพาวลิสมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ร้องออกมา แล้วรีบวิ่งหนีไปข้างหลัง พอฉินสือโอวหันไปดูก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ที่แท้วินนี่กำลังมาสก์หน้าอยู่ ทั่วใบหน้าสวยงามมีแผ่นมาสก์หน้าสีขาวทาบทับไว้ อยู่ๆต้องมาเห็นแบบนี้ในตอนกลางคืนก็ทำให้คนตกใจได้มากเหมือนกัน
พาวลิสรีบส่งการตอบสนองกลับไปอย่างรวดเร็ว เขายืนเกาศศีรษะอย่างเก้อเขินแล้วพูดออกมาเสียงอ่อยๆว่า “เมื่อครู่นี้ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ผมนึกว่าคุณกำลังดูหนังผี… เอ่อ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมจะพูดว่า เห็นแบบนี้อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์มันน่ากลัวมากจริงๆ…”
เสียงของเขาก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็เข้าใจว่าตัวเองยิ่งพูดความหมายยิ่งแปลก จึงเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งหนีไป
วินนี่หัวเราะฮิๆ ออกมา เธอแกะเอาแผ่นมากส์หน้าออก ปรากฏให้เห็นใบหน้าหลังล้างเครื่องสำอางที่ยังคงน่ารักสวยงามไม่ต่างจากเดิม เธอหัวเราะแล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “เด็กคนนั้นช่างเชือดเฉือนคนได้เก่งจริงๆ ยิ่งพูดยิ่งโหดร้าย! ใช่แล้ว ฉิน แล้วเด็กๆของฉันละ เรียกให้พวกมันรีบขึ้นมาที”
ฉินสือโอวผิวปากหนึ่งครั้ง หู่จือและเป้าจือที่กำลังเล่นกันอยู่หลังเตียงกับฉงต้าก็วิ่งกระโดดโลดเต้นเข้ามาหา พอมองเห็นวินนี่พวกมันก็กระโดดไปมาอยู่หน้าคอมไม่หยุด
ฉงต้าไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ก็เดินตามเข้ามาอย่างงุนงง เมื่อมองเห็นฉงต้า วินนี่ก็ร้องเสียงแหลมออกมาอย่างประหลาดใจ “ว้าว หมีดำ? เป็นหมีน้อยที่น่ารักจริงๆ!”
“โฮ่งโฮ่ง!”หู่จือกับเป้าจือก็ร้องท้วงขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่พอใจที่วินนี่ได้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่แล้วลืมตัวเก่าอย่างพวกมัน
วินนี่จึงต้องทั้งปลอบหู่จือกับเป้าจือ อีกฝั่งของกล้องมีทั้งเสียงของคนรักทั้งเสียงเรียกจากสัตว์เลี้ยงที่ร้องเรียกออกมา ฉินสือโอวอุ้มเอาสัตว์เลี้ยงทั้งสามตัวไปไว้บนเก้าอี้กว้างตัวหนึ่ง
ฉงต้าก้มตัวต่ำแกว่งขาท่าทางเหมือนเถ้าแก่ ท่าทางเกียจคร้านแบบนั้น ดูราวกับว่ามันกำลังง่วงนอนอยู่ ไม่ได้ไว้หน้าสาวสวยเลยแม้แต่น้อย เหมือนลูกบอลเลย กินได้ไหมนะ?” นี่แหละคือมาตรฐานการตัดสินของฉงต้า
ไม่นานหลังจากนั้น วินนี่ก็เปิดประตูห้องออก แอร์โฮสเตสสาวสวยคนหนึ่งก็เดินเข้ามา หล่อนมองดูวินนี่วิดีโอคอลแล้วพูดแซวเธอขึ้นมาอยู่หลายประโยค จนกระทั่งหล่อนมองเห็นขนสีทองสว่างของหู่จือกับเป้าจือและฉงต้าที่ดูทึ่มๆ จากนั้นก็ส่งเสียงแหลมที่แหลมยิ่งกว่าวินนี่เมื่อตอนก่อนหน้านี้ออกมา
ฉินสือโอวยิ้มแล้วนั่งลงบนเตียง หญิงสาวคนนี้แต่งตัวค่อนข้างโป๊ เมื่อเธอก้มเข้าไปใกล้กับคอมพิวเตอร์ ก็เริ่มเห็นชื่อสายการบินที่เธอทำงานอยู่ได้ชัดขึ้น
สายการบินแอร์แคนาดา มีสาวสวยเยอะกว่าที่เขาเคยคิดไว้มาก เขาไม่เคยโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศแคนาดา มีคนพูดกันว่าส่วนใหญ่จะมีแต่แอร์โฮสเตสรุ่นป้า ทั้งยังมีแต่หุ่นอวบๆอ้วนๆกันทั้งนั้น
ดูเหมือนว่าสิ่งคนหนุ่มสาวพวกนั้นได้บ่นไว้ก็น่าจะเป็นเรื่องจริง แอร์โฮสเตสสวยๆของแอร์แคนาดาคงไปทำงานในเที่ยวบินต่างประเทศกันหมด เหลือไว้แค่พวกแอร์โฮสเตสหน้าขี้ริ้วขี้เหร่ไว้คอยบริการ
ขณะที่วินนี่กำลังวิดีโอคอลอยู่กับเจ้าตัวเล็กทั้งสาม ฉินสือโอวก็สั่งจิตสำนึกโพไซดอนเพื่อไปดูแลโลกใต้ทะเล
ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาคึกคักขึ้นมากแล้ว สาหร่ายทะเลก็อุดมสมบูรณ์ มีพวกสัตว์ประเภทตัวนิ่ม ปู และทุกๆที่ก็เต็มไปด้วยปลาชนิดต่างๆ อีกทั้งฉินสือโอวยังเจอฉลามอีกตั้งห้าหกตัว!
ฉลามพวกนี้ยังเล็กอยู่มาก เพิ่งจะยาวได้ประมาณครึ่งเมตรเท่านั้น บนตัวของมันมีลายเส้นน้ำตาลเข้มพาดอยู่ ดูแล้วดุดันมาก น่าเสียดายที่มันยังเล็กอยู่มาก ขนาดปลาค็อดที่ตัวใหญ่หน่อยก็ยังไม่สนใจพวกมันเลย
ฉินสือโอวมองครั้งเดียวก็แยกออก นี่คือฉลามปล้องอ้อย (ฉลามแมว) เป็นฉลามชนิดที่ตอนนี้ค่อนข้างจะพบได้ยากแล้ว
ฉลามพันธุ์นี้ตัวไม่ใหญ่นัก ตัวที่โตที่สุดจะใหญ่ประมาณเจ็ดสิบแปดสิบเซนติเมตร ที่ใต้ทะเลพวกมันไม่ได้มีกำลังเอาตัวรอดอะไรนัก อีกทั้งถึงแม้ว่าเนื้อของพวกมันจะกินได้แต่ก็ไม่ได้อร่อยมาก ดังนั้นจึงไม่นับว่าเป็นพันธุ์ปลาเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีฟาร์มเพาะพันธุ์
ฉลามแมวไม่กี่ตัวพวกนี้น่าจะปนอยู่กับฝูงปลาทูน่าครีบเหลืองที่ล่าอาหารอยู่ในฝูงปลาแซลมอนโคโฮ สุดท้ายจึงถูกจิตสำนึกโพไซดอนพากลับมาที่ฟาร์มปลา
ที่จริงแล้วฉลามแมวมีความเชื่อมโยงทางสายพันธุ์กับฉลามทั่วไปอยู่ ลักษณะนิสัยก็ดุร้ายรุนแรงอยู่มาก พวกมันไล่ตามปลาค็อด และปลาซาบะในฟาร์มจนว่ายหนีแตกกระเจิงไปทั่ว ดูแล้วยโสโอหังอย่างยิ่ง!
สำหรับพวกมันแล้ว ฟาร์มปลาแห่งนี้ก็คือสวรรค์ของพวกมันนั่นเอง ที่นี่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังปลอดภัย ดังนั้นเมื่อมันมาถึงที่นี่ก็ไม่คิดจะจากไปแล้ว
ฉลามแมวตัวหนึ่งไล่ตามปลาค็อดไปจนถึงเขตแนวปะการัง ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือก็ว่ายออกมา มันว่ายเอื่อยๆผ่านทางด้านข้างของพวกฉลามแมวไป ดูท่าทางสบายอกสบายใจยิ่งนัก
ฉลามแมวเหมือนถูกยั่วให้โมโห ไอ้เวรเอ้ย ทำไมยังไม่ทำความเคารพพวกข้าอีก นี่แกรู้หรือเปล่าว่าลูกพี่ที่อยู่ตรงหน้าแกพวกนี้เป็นใคร? พวกข้าคือฉลาม ฉลามโหดๆแบบพวกข้านี่แหละ ข้างหลังยังมีอีกหกตัวแน่ะ!
อย่างนั้นก็ได้ แกทำอวดดีไปเถอะ ข้าจะจัดการแกเอง! เจ้าฉลามแมวตัดสินใจแล้ว ต่อให้เจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือไม่ทำยโสโอหังมันก็จะยังจัดการกับเจ้าปลาทูน่าอยู่ดี เพราะสมองเล็กๆของมันรู้อย่างแน่ชัดว่า ปลาตัวนี้อ้วนพียิ่งกว่า อีกทั้งรสชาติยังอร่อยยิ่งกว่า
แต่ปรากฏว่าเมื่อฉลามแมวกำลังจะลงมือ ก็มีเงาหนึ่งเข้ามาปกคลุมมันไว้ เจ้าเด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองอย่าสับสนงงงวย ก็เห็นเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือขนาดใหญ่กว่าสองเมตรอยู่บนหัวของมัน จ้องมองมาที่มันด้วยเจตนาไม่ดี
ถึงแม้ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือจะอยู่ในรายการอาหารสำหรับมนุษย์ แต่มันก็เป็นสัตว์ที่โตมาจากการกินเนื้อสัตว์ด้วยกันเอง ไม่เพียงแต่กินปลา มันยังกินสัตว์จำพวกหอยและปูในกระแสน้ำเป็นอาหารอีกด้วย ในคราวที่เจอเข้ากับฉลามขาวตัวใหญ่ หรือฉลามเสือพวกมันทำได้เพียงแค่หนีเอาชีวิตรอด แต่ถ้าหากพบเข้ากับฉลามแมวน่ะเหรอ?
เหอะๆ ดูที่ชื่อเรียกสิ ฉลามเสือก็คือ ‘เสือแห่งมหาสมุทร’ ส่วนฉลามแมวน่ะเหรอ ก็เป็นแค่ ‘แมวแห่งมหาสมุทร’ ไงล่ะ
เจ้าฉลามแมวตัวน้อยก็เข้าใจข้อเท็จจริงได้อย่างชัดเจน มันหันหัวหันท้ายของมันกำลังจะว่ายหนีไปให้ไกลๆ แทบจะอ้อนวอนปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัวใหญ่ แล้วจึงเร่งรีบเพิ่มความเร็วเตรียมจะหนี
แต่มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ? อัตราความเร็วของการพุ่งตัวของปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือเร็วกว่าแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเฉพาะเจ้าสองตัวนี้ที่ถูกจิตสำนึกโพไซดอนปรับแก้มาแล้ว เช่นนั้นแรงโจมตีของมันก็ยิ่งรุนแรงและรวดเร็ว เพียงการพุ่งตัวไปในน้ำแค่ครั้งเดียวก็ปิดเส้นทางของฉลามแมวเอาไว้ได้
ฉลามแมวตกใจจนแทบจะฉี่ราด มันว่ายหนีสะเปะสะปะเหมือนแมลงที่ไม่มีหัว โชคดียังดี บรรดาพี่น้องของมันรีบว่ายตามมาด้วยท่าทางดุดัน
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือสองพ่อลูกไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย มันอ้าปากออกปรากฏให้เห็นเป็นซี่ฟันแหลมคม ในสายตาของพวกมัน ฉลามแมวพวกนี้ไม่ได้มาเพื่อรุกราน แต่มาเพื่อส่งเสบียงอาหารต่างหาก
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามชัดๆ ฉลามแมวที่เพิ่งจะว่ายมาถึงนั้นก็หันหัวกลับไปอย่างเงียบๆ มาจากทางไหนก็ไสก้นกลับไปทางนั้น
ฉินสือโอวมองดูอย่างสนุกสนาน ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือสองพ่อลูกนี่ร้ายกาจเกินไปแล้ว พวกมันมักจะแกล้งทำเป็นเสือห่มขนแกะ ให้ลูกปลาตัวเล็กล่อเหยื่ออยู่ด้านนอก ส่วนพ่อมันก็หลบเพื่อรอโจมตี เมื่อเจอเหยื่อก็ออกมาฆ่า ทำเช่นนี้หลายครั้งอย่างไม่เคยพลาด
ครั้งนี้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือสองพ่อลูกตั้งใจจะจัดการฉลามแมวทั้งเจ็ดตัว ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่าเจ้าปลาน้อยพวกนี้ค่อนข้างน่าสนใจ จึงใช้จิตสำนึกโพไซดอนออกคำสั่งให้ปลาทูน่าปล่อยพวกมันไป ยังไงก็ยังมีปลาค็อดอยู่อีกน่า
เขาคิดดูแล้ว เขาจะตั้งชื่อให้กับสมาชิกใหม่ หอยนมสาวทะเลยักษ์ให้ชื่อว่า ‘ภูเขาไฟ’ พ่อลูกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือชื่อว่า น้ำเงินใหญ่กับน้ำเงินเล็ก ฉลามแมวเจ็ดตัวนี้ก็เรียกว่าน้ำเต้าเด็กทั้งเจ็ด ปลาทูน่าครีบเหลืองก็เรียกว่าเจ้าดำใหญ่แล้วกัน…
ความจริงแล้วชื่อพวกนี้ไม่น่าฟังเลยจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิลปะในการตั้งชื่อเลย แต่ถามว่าฉินสือโอวสนใจความคิดเห็นของพวกมันไหม? ถ้ากล้ามีความเห็นก็จับกินซะ!
เมื่อนึกถึงปลาทูน่าครีบเหลืองขึ้นมา ฉินสือโอวก็นึกได้ว่าเจ้าปลาตัวนี้ไม่ได้ไปที่ฟาร์มปลาอีก จึงเร่งรีบใช้จิตสำนึกโพไซดอนตามติดขึ้นไป เพื่อไม่ให้มันว่ายไปลึกจนถูกฉลามกิน
ตอนนี้ปลาทูน่าครีบเหลืองกำลังว่ายน้ำลอยไปลอยมาอยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทร แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะไปไหนต่ออีก ระดับความลึกก็มากกว่าสองร้อยเมตรแล้ว น้ำทะเลรอบด้านล้วนแต่มืดทึบ ถ้าใช้ตาเปล่ามองก็คงมองอะไรได้ไม่ชัด
ทว่า จิตสำนึกโพไซดอนไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์ ดังนั้นไม่ว่าจะลึกจะมืดสักเท่าไร ฉินสือโอวก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งนั้น
อย่างเช่นในตอนนี้ ปลาทูน่าครีบเหลืองกำลังว่ายวนไปรอบสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มหึมา ด้านหน้าของมันคือหมึกยักษ์ที่มีหนวดยาวราวๆหกสิบเจ็ดสิบเซนติเมตร เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้เสียขวัญจนหนีเตลิด แต่ดูจากท่าทางแล้วคงจะหนีไม่พ้นปากของปลาทูน่าครีบเหลืองตัวนี้หรอก เพราะพละกำลังการโจมตีของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากจริงๆ
จิตสำนึกโพไซดอนขยายกว้างออกไป ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ต้องตะลึงงันไปชั่วขณะ เนื่องจากสิ่งที่พวกมันกำลังวนรอบอยู่ตอนนี้คือซากเรือลำหนึ่ง!
ตัวหนึ่งว่ายหนี ตัวหนึ่งไล่ตาม เจ้าหมึกยักษ์พาปลาทูน่าปลาครีบเหลืองว่ายวนอยู่รอบวงหนึ่ง อีกทั้งในรอบวงนั้นยังมีของสำคัญอย่างซากเรือยนต์ที่ทำจากเหล็กกล้ายาวขนาดห้าสิบเมตรอยู่หนึ่งลำ!
“แม่เจ้า ในที่สุดก็เจอซากเรืออับปางอีกลำ ครั้งนี้คงไม่ใช่เรือเปล่าๆหรอกใช่ไหม?” ฉินสือโอวเห็นซากเรือยนต์ลำนี้ก็เกิดหลายความรู้สึกผสมรวมกัน เขาไม่ได้เคลื่อนย้ายจิตสำนึกโพไซดอนเพื่อเข้าไปดูภายในเรือทันที แต่ขอร้องอ้อนวอนปู่ย่าตายายกราบไหว้เทพยดาบนฟ้าเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยมองเข้าไปที่เรือยนต์…
………………………………………..