ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1175 ไม่ได้ชอบหรอกเหรอ
ดังนั้นฉินสือโอวจึงทำได้แค่เพียงแค่ยิ้มและประจบตลอดทาง ทำให้เจ้าชายรู้สึกสบายใจและหัวเราะอย่างเปิดเผย
พอถึงหน้าประตูวิลล่า ฉินสือโอวตะโกนเรียก “แคลร์!”
แคลร์โผล่มาจากพุ่มไม้ หัวอวบอ้วนโผล่ออกมามองไปทางพวกเขา อินทรีทองน้อยเมื่อกี้โกรธพ่อฉินสือโอวมาก แต่พอพ่อของมันเรียกมัน มันก็ยังวิ่งออกมาหา วิ่งพุ่งไปหาอย่างรวดเร็วราวกับไก่ตัวผู้
ทันใดนั้นรอยยิ้มที่มีความสุขของเจ้าชายพลันสะดุด เขามองไปที่แคลร์ที่กำลังกะพริบตาปริบๆ แล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “นี่คืออินทรีทองเหรอ?!”
เขาเคยเลี้ยงนกพวกนี้ และรู้ว่าเลี้ยงอินทรีทองไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อินทรีทองมักจะมีอารมณ์รุนแรง จึงทำได้เพียงเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กๆ ไม่เช่นนั้นถ้าไปจับอินทรีทองที่โตเต็มวัยมาเลี้ยง พวกมันจะอดอาหารจนตาย ทำแม้กระทั่งทำร้ายตัวเอง!
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นแคลร์ เขาจึงยิ่งดูออกว่าคือนกอะไร
ฉินสือโอวนั่งยองๆ แล้วอุ้มเอาอินทรีทองน้อยตัวอวบอ้วนขึ้นมา เขาหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้วล่ะครับ นี่คืออินทรีทอง เจ้าชายชอบสัตว์ตัวเล็กๆ ถ้าเช่นนั้นผมจะให้พวกมันอยู่กับเจ้าชาย หวังว่าคุณจะอยู่ที่ฟาร์มปลาได้อย่างมีความสุขและสบายนะครับ”
พูดไป เขาก็เริ่มตะโกนเรียก “หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า ต้าป๋าย ซิมบ้า หลัวปอ ปอหลัว มาสเตอร์ มาสเตอร์แกไม่ต้องละ กลับไปก่อน…”
ทั้งหู่จือเป้าจือฉงต้าหลัวปอ แมวป่าน้อย กวางอูฐสีทอง พวกมันกลุ่มใหญ่ต่างก็วิ่งออกมาตามที่ต่างๆ รอบๆ ฟาร์มปลา แล้ววิ่งมาหาฉินสือโอวอย่างมีความสุข
ใช่เลย เจ้าพวกนี้ โตเต็มวัยกันหมดแล้ว อย่างซิมบ้าที่อายุน้อยสุดก็ตัวโตครึ่งหนึ่งของแมวป่าแล้ว
ตอนเห็นสุนัขแลบราดอร์ บอดี้การ์ดต่างยังคงนิ่งสงบได้ แต่พอมีหมาป่าและตามมาด้วยหมีสีน้ำตาลปรากฏตัวขึ้น ด้านหลังของพวกบอดี้การ์ดเริ่มมีเหงื่อเย็นๆ ไหลย้อยออกมา เพียงพริบตาเดียวก็ร้อนรนขึ้นมา!
เนื่องด้วยฐานะของซาลามาห์และฮามานแดนไม่เหมือนใคร เหล่าบอดี้การ์ดจึงพกปืนเป็นอาวุธ แต่นี่อยู่ในเขตฟาร์มปลาของฉินสือโอว พวกเขาคงไม่ใช้อาวุธไปเรื่อยใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็เสียมารยาทเกินไปแล้ว แต่ถ้าไม่ใช้อาวุธ แล้วต้องเผชิญหน้ากับหมาป่าสีขาวที่แข็งแกร่งและหมีสีน้ำตาลที่บึกบึน แล้วสู้ด้วยมือเปล่า พวกเขาคงได้แค่คุกเข่าเท่านั้น!
ยังดีว่าฉินสือโอวก้าวออกไปข้างหน้าก่อน กอดพวกมันทีละตัว อีกทั้งตอนที่พวกมันปรากฏตัวต่างก็ประพฤติตัวดีมาก พวกมันห้อมล้อมอยู่รอบๆ ฉินสือโอว โดยไม่แสดงความก้าวร้าวแม้แต่น้อย
มือข้างหนึ่งของฉินสือโอวโอบฉงต้า อีกข้างหนึ่งหนีบซิมบ้าไว้ ยิ้มพร้อมพูดกับฮามานแดนว่า “นี่เป็นเด็กๆ ของผมทั้งหมดเลยครับ เป็นเจ้าพวกไร้เดียงสา คุณชอบไหมครับ”
สายตาของฮามานแดนจ้องเขม็ง เขาเป็นเจ้าชาย แต่เขาไม่มีของเล่นที่เป็นหัวใจของทะเลทรายอย่างของพวกนี้ เขาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาไม่น้อย แต่ไม่เคยมีแบบที่เชื่องขนาดนี้ ความจริงแล้วก็คือเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีใครเลี้ยงหมาป่าและหมีได้เชื่องขนาดนี้!
ความจริงไม่ใช่ในหนังหรือการ์ตูนแอนิเมชัน เพราะหมาป่าและหมีเป็นสัตว์ดุร้ายยากที่จะสอนและมีความเป็นสัตว์ป่าสูงมากที่สุด คนรวยมักจะเลี้ยงไว้เพื่อเก็บไว้ดู แต่ไม่มีทางที่จะกอดกับพวกมันอย่างสนิทสนมแบบนี้
ดวงตาสีแอปริคอตที่สวยงามของซาลามาห์เบิกกว้าง เธอมองพวกสัตว์ตัวเล็กๆ นี้ด้วยความประหลาดใจ ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปลูบพวกมัน แต่อีกใจก็ไม่กล้า ได้แต่มองไปที่ฉินสือโอวอย่างเขินอายแล้วถามขึ้น “พวกมันกัดคนไหมคะ?”
ฉินสือโอวดันฉงต้าไปข้างหน้าให้เธอลองสัมผัสมันดู ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่เลย พวกมันเชื่องมากๆ”
เจ้าหญิงโลลิต้าลองลูบไปที่อุ้งมืออ้วนๆ ของหมีสีน้ำตาล ฉงต้าอ้าปากเตรียมหาว เพราะเมื่อกี้มันถูกเรียกในขณะที่กำลังหลับอยู่ ตอนนี้จึงยังมึนๆ งงๆ อยู่
พอเห็นหมีสีน้ำตาลอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันแหลมคม เจ้าหญิงโลลิต้าจึงตกใจ พวกบอดี้การ์ดยิ่งเตรียมพร้อมที่จะชักปืนออกมา แต่แล้วฉงต้าก็ปิดปาก จ้องตากลมโตไปที่เจ้าหญิงโลลิต้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่มีเจตนาที่จะโจมตีเลยสักนิด ดังนั้นพวกเขาจึงผ่อนคลายลงมา
เจ้าหญิงโลลิต้าเกาคอด้านหลังของฉงต้าไปมา ฉงต้าบอกว่าพฤติกรรมนี้ทั้งไร้เดียงสาและเป็นพฤติกรรมระดับต่ำ แต่เจ้าฉงต้าก็ไม่ได้ถือสาอะไร ทำอีกหลายรอบก็ได้ เพราะเกาขนมันนั้นให้ความรู้สึกสบาย…
พอแนะนำเจ้าพวกนี้ทีละตัวจนเสร็จ อาฟิฟก็อุทานขึ้นมาว่า “พระเจ้าอัลเลาะห์ น้องฉินสือโอวนี่น่าทึ่งจริงๆ ฟาร์มปลาของคุณกลายเป็นโลกของสัตว์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ ผมเคยเจอสัตว์มามากมาย แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่เทียบกับสัตว์เลี้ยงของคุณที่นี่ได้เลย”
ฉินสือโอวหัวเราะขึ้นมา ลูบไปที่หลังของต้าป๋ายอย่างเอ็นดู “นอกจากตัวที่อยู่ในอ้อมกอดผมแล้วเนี่ย คุณอย่าคิดนะว่าตัวอื่นจะว่านอนสอนง่าย จริงๆ แล้วพวกมันซนมาก โอเค พวกเราเข้าไปในห้องกันเถอะ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมพิธีงานหมั้นของผม”
อาฟิฟและฮามานแดนนั่งอยู่บนโซฟา บอดี้การ์ดแปดคนยืนเรียงอยู่ด้านหลังราวกับคิงคองแปดตัว ฉินสือโอวพอเห็นฉากนี้ ก็ทำให้อดนึกถึงนกยูงรำแพนหางไม่ได้
วินนี่ถามพวกเขาว่าจะดื่มอะไร ฮามานแดนยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “อะไรก็ได้ครับ แต่ให้น้ำเปล่าผมสักแก้วก็ดีครับ ผมคิดว่าเครื่องดื่มที่ดีที่สุดคือน้ำที่ไม่ปรุงแต่งอะไรเพิ่มเลยครับ”
อาฟิฟอยากดื่มกาแฟ ส่วนเจ้าหญิงโลลิต้าไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเอาแค่น้ำบลูเบอร์รี แล้วก็หันกลับไปแหย่เล่นกับเจ้าสัตว์พวกนั้นต่อ เมื่อเทียบกันแล้ว เธอชอบหลัวปอและฉงต้ามากกว่า ท้ายสุดเธอนั่งอยู่ข้างๆ ฉงต้าแล้วอุ้มหลัวปอเล่น
ฉินสือโอว ฮามานแดนและอาฟิฟนั่งคุยเล่นไปเรื่อยๆ โดยหัวข้อที่คุยกันก็เป็นระดับไฮเอนด์ คุยกันถึงเรื่องสถานการณ์ของประเทศต่างๆ บนโลกใบนี้ โดยมีประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันคือรัสเซียและกองกำลังพันธมิตรในยุโรปและอเมริกาจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อยูเครนหรือไม่
พอถึงตอนบ่ายพวกเด็กๆ ก็เลิกเรียนแล้ว พูดไปหัวเราะไปเหยียบบนวงล้อกลับมาที่ฟาร์มปลา ในกลุ่มเด็กจะมีแค่เสี่ยวฮุยกับไวส์ที่ไม่มีวงล้อ ไวส์ไม่ชอบเล่นเจ้าสิ่งนี้ แต่เสี่ยวฮุยชอบมาก พาวลิสเลยให้เขาเล่น แต่เขาก็รู้จักกาลเทศะ เล่นเพียงครู่เดียวก็คืนให้กับพาวลิส
กอร์ดอนเดินกลับไปกลับมาด้วยวงล้อ เดินไปก็ตะโกนเรียกเสี่ยวฮุยไป “เพื่อน ดูนี่สิ ฉันสามารถเพิ่มความเร็วแล้ววิ่งไปข้างหน้า ถอยหลังก็เพิ่มความเร็วได้เช่นกัน ฉันยังลอยได้ด้วยนะ มา ฉันจะลอยให้นายดู เป็นอย่างไรบ้าง เท่ไหม?”
เสี่ยวฮุยมองภาพนี้ด้วยความอิจฉา พาวลิสดูออกว่ากอร์ดอนพยายามจะอวดอยู่ จึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “กอร์ดอน นายอย่าทำแบบนี้สิ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะเอาวงล้อของนายให้กับเสี่ยวฮุย!”
ดังนั้นเสี่ยวฮุยจึงมองไปที่กอร์ดอนอย่างคาดหวัง แล้วถามขึ้นมาว่า “นายนอกจากลอยได้แล้วยังทำอะไรได้อีก? ลองโชว์ให้ดูสักหน่อยสิ!”
กอร์ดอน “…”
พอเห็นว่ากอร์ดอนไม่ติดกับ เสี่ยวฮุยก็ทอดถอนใจอย่างเสียดาย ไวส์พูดปลอบ “ของชิ้นนี้มีดีอะไร?”
เสี่ยวฮุยถามเขาอย่างแปลกๆ “นายไม่ชอบเหรอ? สนุกจะตาย”
ไวส์ส่ายหัวอย่างไม่สนใจแล้วพูดขึ้น “สนุกตรงไหน ฉันสอนวิชาตัวเบาให้นายเอาไหม? พอเป็นแล้ววิชาตัวเบาจะไร้เทียมทานมาก เพราะพวกเราสามารถลอยบนน้ำได้ นายลองดูสิ พวกเขาเหยียบอยู่บนของเล่นห่วยๆ นี่ลอยตัวบนน้ำได้ที่ไหน?”
เสี่ยวฮุยยิ้มฝืนๆ เขาก็เคยหมกมุ่นเกี่ยวกับพวกฝึกวิทยายุทธ์ แต่พอหลังจากเข้าเรียนแล้ว เขาก็รู้ว่าของพวกนี้เป็นเรื่องไม่จริงทั้งนั้น แต่เขาก็ไม่โง่ที่คิดจะไปเถียงกับไวส์ด้วยเรื่องแบบนี้ ตอนเข้าเรียนวันแรก เขาก็ได้ยินมาแล้วว่า ใครที่ดูหมิ่นวิทยายุทธ์ ไวส์จะฆ่าคนคนนั้น
ตอนนี้ไวส์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในโรงเรียนแกรนท์เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่อยู่ในกำมือของเขา ขอเพียงแค่เขาฝึกวิชาสำเร็จ หลังจากนั้น…
หลังจากที่เด็กๆ กลับมา ฉินสือโอวก็แนะนำพวกเขา อายุของเจ้าหญิงซาลามาห์มากกว่าพวกเด็กๆ อยู่นิดหน่อย จึงถือว่าเป็นรุ่นเดียวกัน สามารถเล่นด้วยกันได้
เชอร์ลี่ย์และเจ้าหญิงซาลามาห์เมื่อเจอกันครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาเลย เป็นครั้งแรกที่พวกเธอต่างเจอเด็กสาวที่คุยโม้ด้วยได้
กอร์ดอนก็รู้สึกเช่นกันว่าตัวเองถูกชะตากับเจ้าหญิงซาลามาห์ เขาล้วนถูกชะตากับสาวสวยทุกคนที่เจอกัน แต่น่าเสียดายที่เจ้าหญิงซาลามาห์เพียงครั้งแรกก็มองออกว่าเขาเป็นพวกขี้แพ้ จึงไม่เล่นกับเขา!
……………………………………….