ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1184 กิจกรรมสุดป่าเถื่อนของชาวประมง
เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆ และจิตสำนึกทั้งสี่ก็แยกออกเพื่อเริ่มสำรวจทั่วทุกทิศทาง ฉินสือโอวเห็นปลากระโทงสีน้ำเงินหลายร้อยตัวว่ายไปมาอย่างรวดเร็วอยู่ใกล้ๆ ด้วยความตกตะลึง
ปลาเหล่านี้อาศัยอยู่ในน้ำที่มีระดับความลึกสี่สิบถึงห้าสิบเมตร โดยหางอันแข็งแรงและทรงพลังของพวกมันจะแกว่งไปมาเหมือนกับลูกธนูแหลมคมในน้ำที่มีความรวดเร็วมาก
ไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อไร ที่จู่ๆ ก็มีปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติกจำนวนมากในฟาร์มปลา ฉินสือโอวควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนรีบสำรวจอย่างรวดเร็วและพบว่ามีปลาขนาดใหญ่หลายร้อยตัวที่ยาวกว่าสองเมตรและยังมีปลาขนาดเล็กอื่นๆ อีก ซึ่งมีจำนวนมากกว่า!
เรื่องนี้ทำให้ฉินสือโอวประหลาดใจมาก เพราะเขาไม่เคยอพยพฝูงปลากระโทงสีน้ำเงินมาที่ฟาร์มปลามาก่อนเลย เขาเพียงแค่นำปลาตัวใหญ่มาจากชายหาดน้ำตื้นจอร์จมาเมื่อปีก่อนเท่านั้น ปลาเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ปลากระโทงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ที่ถูกดึงมา เพราะปลาทั้งสองชนิดนี้ไม่ได้สนใจกันและปลากระโทงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ก็เคลื่อนไหวอยู่ในทะเลลึกกว่าแปดร้อยเมตร
ขนาดของปลากระโทงสีน้ำเงินไม่สำคัญ พวกมันเป็นนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาสมุทร แค่ตัวเล็กๆ ของพวกมันก็สามารถล่าเหยื่อได้ไม่ว่าจะเป็นปลากุ้งและปู หรือแม้แต่เต่าขนาดเล็กพวกมันก็ยังสามารถกินเป็นอาหารได้อีกด้วย!
นอกจากนี้เนื่องจากปลากระโทงสีน้ำเงินว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วและชอบตระเวนไปทั่วทุกหนแห่ง ดังนั้นพวกมันจึงใช้พลังงานหมดไปอย่างรวดเร็วและจำเป็นจะต้องกินเหยื่อเพื่อเสริมพลังงานอยู่ตลอดเวลา
หลังจากปลากระโทงสีน้ำเงินเหล่านี้เข้ามาในฟาร์มปลา พวกมันจึงล่าปลาคาพีลินที่เหลืออยู่ รวมทั้งปลาแฮร์ริ่งและปลาซาบะอีกจำนวนมาก แม้แต่ปลาค็อดที่ตัวยังไม่ใหญ่พอก็ไม่สามารถหลบหนีได้ ถ้าไม่ระวังแม้แต่นิดเดียวก็จะถูกพวกมันจ้องและจับไปเป็นอาหาร
ปลากระโทงสีน้ำเงินเป็นหนึ่งในปลาที่ไม่เป็นที่ต้อนรับมากที่สุดในฟาร์มปลาส่วนตัว คุณภาพเนื้อของพวกมันธรรมดามาก สามารถใช้เป็นปลาอาหารได้ แต่เป็นปลาอาหารที่หาได้ทั่วไป คุณค่าส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความยาว ในฐานะนักตกปลา การจับปลากระโทงสีน้ำเงินได้จะทำให้ผู้คนรู้สึกมีเกียรติมาก
ในนิยายที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “เฒ่าผจญทะเล” ปลาตัวใหญ่สุดที่ชายชราจับได้คือปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติก ชายคนนี้สามารถจับปลาที่มีความยาวที่สุดและมีความยาวถึงหกหรือเจ็ดเมตรได้ ในปี 2013 นักตกปลาชาวอังกฤษชื่อเควิน การ์ดเนอร์ จับปลากระโทงสีน้ำเงินขนาดยักษ์ยาวหกเมตรครึ่งและหนักประมาณหกร้อยกิโลกรัมในมหาสมุทรแอตแลนติกได้!
ซึ่งในฟาร์มปลาต้าฉินก็ไม่มีปลาที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ ฉินสือโอวจึงลองค้นหาดูและเห็นปลาตัวใหญ่สองตัวมีความยาวอย่างน้อยที่สุดประมาณห้าเมตร ซึ่งความยาวของปลาตัวนี้เป็นที่น่าประทับใจมากทีเดียว เพราะฉลามส่วนใหญ่จะไม่มีความยาวได้ถึงขนาดนี้
ฮามานแดนเป็นนักตกปลามือฉมัง หลังจากที่ตกปลากระโทงสีน้ำเงินได้ เขาก็เริ่มต่อสู้กับมันอย่างอดทน เขากัดริมฝีปากล่างของตัวเองพร้อมกับรวบรวมพลังและปล่อยสายเบ็ดออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันจะทำให้กำลังของปลาหมดลงได้ง่าย
ฉินสือโอวจึงเข้าไปช่วยจับปลาตัวนี้เหมือนกับจับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ซึ่งมันต้องใช้ฉมวก เมื่อจะดึงปลาขึ้นเหนือน้ำให้เข้าใกล้เรือประมงจะต้องใช้คราดลากมัน ไม่อย่างนั้นสุดท้ายมันจะดิ้นหลุดได้ หลังจากที่มันตกใจมันอาจระเบิดพลังอันรุนแรงออกมาเพื่อทำลายสายเบ็ดและหลบหนีไป
เจ้าชายน้อยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเต็มในการดึงปลาตัวใหญ่เข้ามาใกล้เรือยอชต์
เมื่อปลาลักษณะทรงกระบอกตัวนี้โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ฮามานแดนจึงตัดสินใจทิ้งตัวมันลงไปและพูดด้วยความผิดหวังว่า “ไม่ใช่ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน นี่คือปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติก!”
แน่นอนว่าปลากระโทงสีน้ำเงินมีมูลค่าไม่สู้ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
“ว้าว ขนาดของปลาตัวนี้ใหญ่พอสมควรเลยนะ ถือเป็นปลาตัวใหญ่เลยล่ะ!” ฉินสือโอวจึงพูดปลอบเขา
สำหรับนักตกปลาแล้ว การที่จับปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติกได้ก็ถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่งเช่นกัน ทันทีหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น เขากัดฟันพร้อมกับลากปลาขึ้นเรือ แล้วบ่นพึมพำว่า “โอเค จับเจ้าตัวนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวนะ! นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี รอปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาอีกสักตัว ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ!”
ปลากระโทงสีน้ำเงินอยู่ห่างจากเรือประมงประมาณหกถึงเจ็ดเมตร ซึ่งนี่ไม่ใช่ระยะห่างที่เหมาะสมในการขว้างฉมวก เพราะมันเป็นระยะที่ไกลเกินไป
แต่ฉินสือโอวไม่ได้พูดอะไร สายตาเขาจ้องไปที่ปลาตัวใหญ่ที่กำลังลากขึ้นมา ในระหว่างนั้นกล้ามเนื้อแขนก็มีแรงขึ้นมา ร่างกายยืดออกราวกับพระจันทร์เต็มดวงและเขาก็โยนฉมวกออกไป!
เสียง ‘ฮะ’ ดังขึ้น ฉมวกได้พุ่งผ่านอากาศแล้วสอดเข้าไปที่หลังของปลาตัวใหญ่อย่างแม่นยำ
ปลากระโทงสีน้ำเงินพยายามดิ้นต่อสู้ ฮามานแดนจึงปล่อยลงรอกตกปลาและปล่อยให้มันดึงสายเบ็ด จากนั้นก็ให้มันมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักพักก่อนจะตาย จากนั้นจึงหันไปมองที่ฉินสือโอวอย่างชื่นชมและพูดชมเชยว่า “เจ๋งมากพี่ฉินสือโอว ครั้งนี้แทงได้แม่นมาก คุณล้มมันได้แล้ว!”
เขารู้ว่าปลาตัวนี้ไม่สามารถหนีไปได้ ตราบใดที่มันยังถูกฉมวกแทงอยู่ เพราะแม้แต่ฉลามยังอันตรายถึงชีวิต แล้วนับประสาอะไรกับปลากระโทงสีน้ำเงิน
ปลากระโทงสีน้ำเงินเป็นปลาที่ไม่ยอมบาดเจ็บในน้ำที่สุด พวกมันต้องว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังปลาอันเรียบเนียนของมันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อไรที่ได้รับบาดเจ็บพวกมันจะไม่สามารถว่ายน้ำอย่างรวดเร็วได้ ซึ่งจะทำให้พวกมันรับอาหารและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาก
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่า “สำหรับนักตกปลาแล้ว นี่เป็นขั้นพื้นฐานที่สุด”
แลนซ์ที่เดินทางตามเรือมาด้วยจึงยิ้มและพูดว่า “ในความเป็นจริงมีชาวประมงเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถแทงปลาในระดับเดียวกับบอสได้ ถ้ายังมีเกมการแข่งขันแทงปลากระโทงสีน้ำเงินอยู่ ผมพนันได้เลยว่าบอสสามารถคว้าแชมป์ได้แน่นอน”
“เกมการแข่งขันแทงปลากระโทงสีน้ำเงินมันคืออะไรกัน?” ฉินสือโอวถามด้วยความสนใจ
แลนซ์ยังไม่ทันได้อธิบาย ฮามานแดนที่กำลังยุ่งกับการลากปลากระโทงสีน้ำเงินขึ้นเรืออยู่นั้นก็หันหน้ากลับมาพูดว่า “คุณไม่รู้จักกิจกรรมดั้งเดิมพวกนี้ของแอตแลนติกเหรอ? เท่าที่ผมรู้ ชาวประมงบนเกาะที่อุดมสมบูรณ์ของพวกคุณก็ชอบทำแบบนี้เช่นกัน นี่เป็นวิธีที่เมื่อก่อนชาวประมงชอบใช้มากกว่าการต่อสู้ซะอีก”
ฉินสือโอวไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เพราะเขาไม่ได้ร่ำรวยมีเงินทองและมีอิสระเหมือนเจ้าชายน้อยที่จะสามารถเดินทางข้ามโลกได้
แลนซ์จึงอธิบายให้เขาฟังเพิ่มเติมว่ากิจกรรมแทงปลากระโทงสีน้ำเงิน แค่เห็นชื่อก็รู้ได้เลยว่าคือการใช้ฉมวกแทงเพื่อจับปลากระโทงสีน้ำเงิน ซึ่งนี่เป็นกิจกรรมที่พัฒนามาจากกิจกรรมการแทงปลามาร์ลิน
สิ่งที่ฮามานแดนพูดนั้นไม่ถูกต้องทั้งหมด ในช่วงปีแรกๆ สาเหตุที่ชาวประมงต้องการแทงปลากระโทงสีน้ำเงิน ไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่จะสามารถทดสอบความกล้าหาญและความสามารถที่แท้จริงของลูกผู้ชายเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะปลามาร์ลินที่แทงจับมาได้นั้นเลือดจะไม่แข็งตัว ไม่มีกลิ่นคาวในตัว อีกทั้งเนื้อปลาจะยิ่งสดอร่อยและมีคุณค่ามากขึ้น
ปลากระโทงสีน้ำเงินไม่รวมอยู่ในลิสต์จำกัดการจับปลาของแคนาดา เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จึงทำให้ยากที่จะตกปลาขนาดใหญ่ได้และยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตต่อทรัพยากรธรรมชาติของพวกมัน จึงไม่จำเป็นต้องป้องกันจากมนุษย์
นับตั้งแต่สถิติการเก็บเกี่ยวของอาชีพชาวประมงทั่วโลกที่เริ่มขึ้นกลางทศวรรษ 1960 ปริมาณการผลิตปลากระโทงสีน้ำเงินต่อปีจึงอยู่คงที่ประมาณหนึ่งหมื่นสามพันตันถึงหนึ่งหมื่นห้าพันตัน จนถึงขณะนี้มีเพียงปี 1970 และ 1973 เท่านั้นที่มากถึง 20,000 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรทางชาติพันธุ์ของพวกมันไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อรู้จักกีฬาชนิดนี้แล้ว ฉินสือโอวก็มีแผนในใจ ปลากระโทงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ในฟาร์มปลามีจำนวนมากและถ้าเขาหาพวกมันเจอได้หลายร้อยตัวในพื้นที่ทะเลแห่งนี้อีก ก็จะสามารถจัดกิจกรรมล่าปลากระโทงสีน้ำเงินในฟาร์มปลาได้
หลังจากกลับถึงฝั่ง เขาจึงเรียกชาวประมงมารวมตัวประชุมและบอกว่าจากการสังเกตโดยใช้เทคนิคลับของครอบครัวเขาและการตรวจจับของเครื่องหาปลาแล้ว พบว่ามีปลากระโทงสีน้ำเงินจำนวนมากในฟาร์มปลา ดังนั้นจึงอยากจะจัดกิจกรรมแทงปลากระโทงสีน้ำเงินขึ้นกันดีไหม
ชาวประมงตอบรับอย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขาอ้างว่าเป็นลูกหลานของโจรสลัดไวกิ้ง จึงต้องการพิสูจน์ตัวเองว่ามีความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของบรรพบุรุษ
การแทงปลากระโทงสีน้ำเงินเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุดอย่างเห็นได้ชัด ลองคิดดูสิว่าผู้ชายทุกคนนั่งเรือประมง ฝ่าคลื่นอันน่ากลัว ไม่สวมเสื้อถือหอกยาวอันหนักหน่วง เมื่อถึงเวลามีปลากระโทงสีน้ำเงินกระโดดขึ้นจากน้ำก็จะต้องแทงออกไปเพื่อจับปลาที่มีความยาวสามถึงสี่เมตรอีก ยังมีอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชายมากกว่านี้อีกเหรอ?
…………………………………………………………..