ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1220 เรือสำรวจ
นิสัยการกินอาหารของเฟอเรทค่อนข้างหลากหลาย พวกมันสามารถกินเนื้อสัตว์จำพวกสัตว์ปีกได้ทั้งหมด ฉินสือโอวจึงหั่นเนื้อไก่ให้พวกมันสองสามชิ้น เฟอเรทผู้น้องกินอาหารด้วยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก เฟอเรทผู้พี่ดมเนื้อไก่สองสามที จากนั้นก็เดินถอยหลังไปสองก้าว
เนื้อไก่นี้เป็นของลูกไก่ตัวผู้ เฟอเรทแบลคฟุตเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสต่อกลิ่นค่อนข้างไว พวกมันจึงสามารถแยกแยะได้ เพราะว่าสาเหตุมาจากการต่อสู้กับไก่ เฟอเรทผู้พี่จึงไม่กล้าที่จะกินเนื้อไก่ตัวผู้อีก
ฉินสือโอวไม่เข้าใจสาเหตุของมัน เขาหั่นเนื้อแกะออกมานิดหน่อย แบบนั้นเฟอเรทผู้พี่จึงรีบเข้ามากิน พวกมันเคี้ยวอาหารจนเต็มปาก
วินนี่เตรียมน้ำเย็นไว้ให้พวกมัน หลังจากนั้นที่พวกมันทั้งสองตัวกินเสร็จแล้วก็มาดื่มน้ำ ไม่นานท้องเล็กๆ ของพวกมันก็พองขึ้น หลังจากนั้นพวกมันก็เงยหน้าขึ้นกะพริบตาปริบๆ พวกมันหมุนตัวแล้วนอนลงบนพรม เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน
ตั้งแต่ออกมาจากเรือขนสินค้า พวกมันก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอเลยแม้แต่น้อย สองวันก่อนหน้านี้พวกมันทั้งหิวทั้งเหนื่อยและก็หวาดกลัว ทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้
ฉินสือโอวไปหาหมอนขนห่านมา จากนั้นก็ฉีกหมอนออกเพื่อทำเป็นรังให้เฟอเรทแบลคฟุตทั้งสองตัว วินนี่บอกว่าอีกไม่นานอากาศก็จะเปลี่ยนเป็นร้อนแล้ว พวกมันจะนอนหลับในที่ที่ร้อนขนาดนี้ได้อย่างไร? ปรากฏว่าหลังจากที่เห็นหมอนใบนี้ เฟอเรทสองพี่น้องก็พุ่งตัวเข้าไปอย่างดีใจ หลังจากที่หาท่านอนที่สบายได้แล้วพวกมันก็เริ่มเคลิ้มหลับไป
คนบนเรือขนสินค้าไม่ได้สนใจพวกมันสองตัว เฟอเรทน้อยตัวอ้วนกลม ส่ายหางที่มีขนสีดำไปมาเบาๆ ท้องของพวกมันกระเพื่อมไปมาเป็นจังหวะ หลังจากที่หลับไปแล้วพวกมันก็กรนออกมา
พวกกระรอกดินแสดงท่าทางไม่พอใจออกมา เจ้าโง่สองตัวนี้ยังคิดที่จะกินพวกมันอีก ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้!
สองวันถัดมาหมอกยังคงลงหนักอย่างต่อเนื่อง ที่นครเซนต์จอห์นไม่มีลมมืดครึ้ม แต่ก็ไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์ เนื่องจากหมอกที่ยังคงอยู่เป็นเวลานาน ทำให้สนามบินภายในนครเซนต์จอห์น ท่าเรือและถนนหนทางหยุดการคมนาคมชั่วคราวทั้งหมด ทั่วทั้งเมืองเกือบจะเป็นอัมพาต
ในช่วงที่หมอกลงหนามากที่สุด จะไม่สามารถมองเห็นสัญญาณจราจรบนถนนได้เลย ในตอนแรกการคมนาคมของนครเซนต์จอห์นยังคงมีการเตรียมการให้ตำรวจจราจรมาจัดการ ปรากฏว่าผ่านไปครึ่งวันมีนายตำรวจห้านายได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พวกเขาทำได้เพียงให้พวกตำรวจจราจรกลับไป และปิดทางแยกทั้งหมด
ท่าเรือถูกปิดเช่นกัน แต่ว่าบนทะเลยังคงมีเรือจำนวนไม่น้อยอยู่ที่ฟาร์มปลาต่างๆ
โดนัลด์และชาวประมงคนอื่นๆ พากันโทรหาฉินสือโอวอย่างไม่ขาดสาย พวกเขาถามว่าในฟาร์มปลามีการขโมยปลาหรือไม่ โดนัลด์พูดออกมาด้วยความโมโหว่า “ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาของผมมีแต่เรือขโมยปลา น่าฆ่าให้ตายเสียจริง ขอให้พระเจ้าสาปแช่งพวกมัน ทำไมพวกมันไม่ชนกันเองไปเลยล่ะเนี่ย?”
ฉินสือโอวพูดปลอบใจว่า “นี่เป็นเรื่องปกติ เพื่อน ฟาร์มปลาของฉันก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ความสูญเสียของพวกเราตอนนี้ไม่ใช่น้อยๆ แต่ชีวิตก็เป็นแบบนี้ อย่าไปสนใจนักเลย”
เจ้าของฟาร์มปลาต่างพากันโทรมาเพราะความโกรธ แต่นั่นกลับทำให้ฉินสือโอวมีวิธีการจัดการแบบใหม่ เมื่อก่อนเขาไม่กล้าปล่อยให้เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ปรากฏตัวที่น่านน้ำของฟาร์มปลาต้าฉินมากจนเกินไป นั่นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าสนใจของผู้คน ตอนนี้ที่ทะเลมีหมอกลงจัดขนาดนี้ อีกอย่างฟาร์มปลาของเขาก็มีเรือขโมยปลาเข้ามาจำนวนไม่น้อย ทำถึงไม่ปล่อยให้เรือผีโจมตีเสียล่ะ?
เรือผีจำเป็นที่จะต้องปรากฏตัวที่น่านน้ำอื่นๆ ด้วย เพื่อสร้างผลลัพธ์อันลึกลับและคาดการณ์ไม่ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็ให้บีบีซวงและออสเปรเตรียมตัวออกไป เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์กำลังจะออกเดินทางอีกครั้ง
ดังนั้น เมื่อหมอกค่อยๆ จางลง ตำนานของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือจึงถูกกล่าวขานขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้นอกจากเรือผีแล้ว ยังมีร่องรอยของคราเคนปีศาจยักษ์แห่งมหาสมุทรทางตอนเหนืออีกด้วย
ภายในสองวันครึ่ง เรือประมงแปดลำเข้ามาใกล้น่านน้ำของฟาร์มปลาต้าฉินอย่างต่อเนื่อง ฉินสือโอวทำได้เพียงถอนหายใจ ฟาร์มปลาของเขายังคงมีชื่อเสียงอยู่จึงดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายขนาดนี้
เรือประมงสองลำจากแปดลำเข้ามาใกล้เขตการตกปลาของฟาร์มปลา ฉินสือโอวไม่ได้สนใจพวกเขา เรือประมงที่เหลืออีกหกลำได้แล่นผ่านคราเคนไปแล้วสี่ลำ อีกสองลำที่เหลืออยู่ก็ถูกขับไล่โดยเฮลิคอปเตอร์
เรือสี่ลำที่เจอเข้ากับคราเคน ทำให้ตำนานที่เกี่ยวกับเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปได้ ไม่นานข่าวการปรากฏตัวของคราเคนที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือก็ได้แพร่กระจายไปยังท่าเรือหลายแห่งทั่วแคนาดาตะวันออก
ข่าวแบบนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกบนแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้นก็ถูกส่งต่อไปยังเว็บไซต์หลายแห่ง และทำให้หนังสือพิมพ์และนิตยสารบางฉบับเริ่มรายงานข่าวนี้อีกครั้ง
สถานีโทรทัศน์เซนต์จอห์นยังมีการนำเสนอรายการพิเศษเพื่อแนะนำคราเคนแห่งมหาสมุทรทางตอนเหนือนี้โดยเฉพาะ ตามตำนานเก่าแก่ คราเคนแห่งมหาสมุทรตอนเหนือเป็นสัตว์ร้ายที่มีขนาดยาวหลายร้อยเมตร ในตอนที่พวกมันโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ กะลาสีบางคนเข้าใจผิดว่ามันเป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง และคิดแม้กระทั่งว่าจะขึ้น ‘เกาะเล็กๆ’ เกาะนี้ พวกเขาตั้งแคมป์บนตัวของมัน ปรากฏว่าเมื่อมันดำลงทะเลไปศพของทุกคนก็ลงสู่ท้องทะเลไปด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทางทะเลที่ถูกรับเชิญมาในรายการพูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยันว่า “คราเคนแห่งมหาสมุทรตอนเหนือเป็นเพียงตำนานเท่านั้น มันไม่มีอยู่จริง! เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น! แม้ว่าจะเป็นราชาปลาหมึกก็เป็นไปไม่ได้ ผมไม่ได้บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีราชาปลาหมึกตัวใหญ่ขนาดนี้ แต่ถ้ามีแล้วมันจะเป็นอย่างไรล่ะ? พวกเราต่างก็รู้ว่าสัตว์ตัวใหญ่ที่มีร่างกายอ่อนนิ่มจะสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ที่มีความดันสูงเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกมันจะสามารถขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วโจมตีผู้คนได้เลย พวกมันสามารถอยู่บนผิวน้ำโดยที่พวกมันไม่ตายก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว!”
ชาร์คที่ดูรายการโทรทัศน์ด้วยกันส่ายหัวอย่างดูถูก พลางพูดขึ้นว่า “ช่างงี่เง่าจริงๆ ตัวเองไม่เคยเจอก็เลยคิดว่ามันไม่มีอยู่จริงเหรอ? น่าหัวเราะจริงๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญของประเทศเราแต่ละคนเป็นอะไรกันไปหมด”
ฉินสือโอวมองเขาด้วยความตกใจ แล้วพูดขึ้นว่า “นายเชื่อเรื่องคราเคนแห่งมหาสมุทรตอนเหนือเหรอ?”
ชาร์คยังคงส่ายหัวต่อไป เขาตอบว่า “ไม่ ผมไม่เชื่ออยู่แล้ว มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ!”
ฉินสือโอวถูกชาร์คทำให้สับสน เขาพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อยว่า “งั้นความเห็นของนายกับผู้เชี่ยวชาญก็เหมือนกันน่ะสิ ในเมื่อนายไม่เชื่อ แล้วนายไปตัดสินความคิดเห็นของเขาทำไม?”
ชาร์คตอบกลับว่า “ความเห็นของผมไม่เหมือนกับเขา ผมไม่เชื่อเรื่องคราเคนแห่งมหาสมุทรตอนเหนือ สิ่งที่เขาไม่เชื่อคือเรื่องที่ชาวประมงเจอเข้ากับสัตว์ประหลาดตัวนี้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่เชื่อว่ามีคราเคนอยู่ แต่ผมเชื่อว่ามีใครบางคนสร้างสัตว์ประหลาดที่คล้ายกับคราเคนขึ้นมา”
ในใจของฉินสือโอวมีสัญญาณเตือนดังขึ้นมา เขาไม่สามารถทำเหมือนว่าทุกคนบนโลกนี้โง่ได้ แม้แต่ชาร์คยังมีการคาดเดาแบบนี้ เขากลัวว่าคนอื่นๆ ก็จะคิดแบบเดียวกัน ต่อไปเขาต้องไม่ใช่คราเคนปรากฏตัวออกมาสักพัก
บลูก็พยักหน้าพลางพูดว่า “ใช่แล้ว เพื่อน ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน อีกอย่างฉันยังคิดว่า เรื่องคราเคนแห่งมหาสมุทรตอนเหนือในครั้งนี้ น่าจะเป็นการทดสอบอุปกรณ์ของโซเวียต เหมือนกับสัตว์ประหลาดในทะเลก่อนหน้านี้!”
“ยังมีชาวโซเวียตอยู่อีกเหรอ! สหภาพโซเวียตล่มสลายไปตั้งนานแล้ว!” ชาร์คพูดออกมาด้วยความรำคาญ “นายเดาได้ไม่ใกล้เคียงเลย ฉันเดาว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว! นายดูสิ หมอกหนาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่สมเหตุสมผลเลยว่าไหม? ฉันกล้าพนันเลยว่า เป็นมนุษย์ต่างดาวที่สร้างหมอกขึ้นมาเพื่อปิดบังตัวตน”
ฉินสือโอวก้มหัวลงเงียบๆ เขารู้สึกว่าตัวเขาต้องประเมินพวกชาร์คให้สูงกว่านี้ แบบนี้ไม่ได้เป็นการดูถูกวีรบุรุษของโลก แต่เป็นการประเมินพวกขี้ขลาดสูงขึ้น
หลังจากที่อากาศปลอดโปร่ง ทันใดนั้นเรือหลายลำก็ปรากฏขึ้นที่ฟาร์มปลานิวฟันแลนด์ ฟาร์มปลาต้าฉินก็มีเรือประมงปรากฏขึ้นเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกเรือท่องเที่ยวลำเล็กๆ ไม่เหมือนเรือขโมยปลาพวกนั้น
ฉินสือโอวและเบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์เข้าไปใกล้ๆ พวกเขาพบว่านักท่องเที่ยวบนเรือเหล่านั้นกำลังถือกล้องถ่ายรูปหรือกล้องบันทึกวิดีโอพวกนั้น ราวกับมาที่นี่เพื่อทัศนศึกษาก็ไม่ปาน
ผู้คนในเมืองยังคงล่องเรือมายังฟาร์มปลาอยู่บ่อยครั้ง ฉินสือโอวถามพวกเขาว่ามาทำอะไรด้วยความสงสัย มีคนหัวเราะหึหึออกมาแล้วตอบว่า “ตอนนี้คุณไม่ได้บอกเหรอว่าที่น่านน้ำของคุณมีทั้งเรือผีและก็สัตว์ประหลาดอยู่? นักท่องเที่ยวสนใจมากเลยนะ พวกเราได้พัฒนาโครงการการท่องเที่ยวใหม่แล้ว การสำรวจทะเลลึก!”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวจริงๆ!”
…………………………………………….