ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1224 ปลากระทะ
ท่านชายฉินคิดว่าตัวเองมีจิตวิญญาณของนักวิชาการที่สามารถรู้ถึงต้นตอของมันได้ เขาเรียนมัธยมมาจากโรงเรียนชนบทใช้ความคิดนี้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกและมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศได้ เนื่องจากเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าฟองน้ำทะเลนี้เกิดขึ้นได้อย่าไงร เขาจึงต้องศึกษามันอย่างรอบคอบ
หลังจากที่ศึกษาอยู่ได้ไม่ได้ เขาก็หลับตานอนหลับได้สำเร็จ….
วินนี่ขึ้นมาเรียกฉินสือโอวมาทานข้าว เมื่อเปิดประตู เธอก็เห็นว่าผู้ชายของตัวเองกำลังนอนฝันหวานราวกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีโอพอสซัมเวอร์จิเนียตัวอ้วนอยู่ในอ้อมกอด พอสซัมวางหัวที่มีขนยาวอยู่ที่คอของฉินสือโอว บางครั้งก็ขยับหัวถูคางเขาเป็นครั้งคราว เหมือนเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่
วินนี่ยิ้มหวานออกมา เธอหยิบกระดาษขึ้นมาฉีกเป็นสองสามเส้น จากนั้นก็มานั่งบนเตียง พลางมองไปยังฉินสือโอวด้วยความอ่อนโยน
ท่านชายฉินรู้สักคันใบหน้าเล็กน้อย เขาปัดมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าวินนี่กำลังใช้เส้นผมแกล้งเขา ฉินสือโอวสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเงยหน้าขึ้นเบิกตากว้างพลางพูดออกมาว่า “ว้าก…”
เขาคิดอยากจะกัดวินนี่สักที
แต่ว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นใบหน้าซีดเผือดที่อยู่ด้านหน้า ไม่มีอวัยวะบนใบหน้าทั้งห้า มีเพียงหลุมสองสามหลุม แล้วผมที่กระเซอะกระเซิงที่อยู่ตรงหน้าเขา
“โว้ว!” ขุนนางฉินเห็นของเล่นชิ้นนี้ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา เดิมทีเขาอยากทำให้วินนี่ตกใจจนตัวลอย ในขณะเดียวกันเขาก็โยนต้าป๋ายออกไป ส่วนตัวเองก็ถอยหลังไป
วินนี่โยนกระดาษที่บังหน้าเหล่านั้นทิ้งแล้วหัวเราะออกมา ต้าป๋ายกลิ้งไปมาบนพื้น มันลืมตาขึ้นมางัวเงียแล้วมองไปยังคนทั้งสอง มันจำได้ชัดเจนว่าตัวเองนั้นนอนหลับอยู่บนเตียง แล้วทำไมจู่ๆ ถึงลงมาอยู่ที่พื้นได้ล่ะ?
ฉินสือโอวมองไปยังใบหน้าที่กำลังพึงพอใจของวินนี่ เขาก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที เขากะว่าจะทำให้วินนี่ตกใจกลัว ทำไมเขาถึงโดนทำให้ตกใจเสียเองล่ะ?
หากเป็นปกติ ของแบบนี้ไม่สามารถหลอกเขาได้ แต่วินนี่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ถึงสามารถทำให้เขาตกใจตื่นในขณะที่นอนหลับได้ ตอนนี้สมองของฉินสือโอวกำลังสับสน ปฏิกิริยาทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว สมองของเขาไม่สามารถตอบสนองได้
ฉินสือโอวกำลังตกใจอยู่ ส่วนวินนี่หัวเราะแล้วลุกขึ้นจากนั้นก็วิ่งออกไป เธอรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ฉินสือโอวสวมชุดนอนแล้วไล่ตามวินนี่ไป วินนี่วิ่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากลงไปชั้นล่าง หลังจากนั้นเธอก็หยุดวิ่ง เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “พ่อแม่กำลังนอนหลับอยู่ หากคุณทำอะไรฉัน ฉันจะตะโกนจนทำให้พวกเขาตื่นเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินสือโอวตื่นตกใจขึ้นมาทันที “แล้วอาหารกลางวันก็ยังทำไม่เสร็จใช่ไหม? คุณก็ไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่ดี หลักสามปฏิบัติสี่คุณธรรมล่ะ? ช่วยเหลือสามีสั่งสอนบุตรล่ะ?”
วินนี่ผลักเขาไปที่ห้องครัว “อยู่ในกระทะหมดแล้วค่ะ คุณเปิดดูสิคะ”
ฉินสือโอวเปิดกระทะออก ข้างในเป็นปลาที่ถูกล้างอย่างสะอาด เขาเกาหัวแล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะทำปลากระทะ เขาปล่อยวินนี่ไปก่อน จากนั้นก็เตรียมตัวทำอาหาร
ก่อนจะเริ่ม เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตะโกนเรียก ซีมอนสเตอร์ แบล็คไนฟ์ ชาร์คและบลู ให้เข้ามา
ชายร่างใหญ่ห้าคนวิ่งเข้ามาในห้องครัวด้วยความมึนงง ฉินสือโอวชี้ไปยังหม้อและปลาที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องถาม เมนูง่ายๆ เมนูหนึ่ง ตอนนี้ฉันจะทำให้พวกนายดู พวกนายดูให้ดีล่ะ”
มีหลายพื้นที่ที่ทำปลากระทะ ที่บ้านเกิดของฉินสือโอวมีแม่น้ำหลายสาย ปลาในแม่น้ำไม่ได้ตัวใหญ่ นำมาทำอาหารทั้งตัวไม่อร่อย และหากต้องการทอดล่ะก็ เนื่องจากเมื่อก่อนมีแป้งมีน้ำมันน้อย ทำให้ออกมาไม่อร่อย ดังนั้นทุกครอบครัวจึงจับปลาในแม่น้ำ แล้วเอามาทำเป็นปลากระทะทานกัน
ตอนเด็กๆ ฉินสือโอวมักจะไปนำอวนตกปลาของตัวเองไปจับปลากับพวกฉินเผิงบ่อยๆ ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง พวกเขาจะนำกระทะของตัวเองไป มีหมั่นโถวไปด้วยจำนวนหนึ่ง หลังจากจับลูกปลาในแม่น้ำแล้วพวกเขาก็จะจุดไฟทำปลากระทะกินกันที่ริมแม่น้ำ
พอตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นมา เขาก็ไม่ได้กินอีกเลย ตอนนี้ปลาในแม่น้ำมีน้อยมากแล้ว และมีที่เลี้ยงมากมายในฟาร์มปลาที่วางจำหน่ายในตลาด มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามจะทำอาหารเมนูนี้
วินนี่รู้ว่าบ้านเกิดของพวกเขาทำปลาเพียงอย่างไรคร่าวๆ ปลาเล็กๆ พวกนั้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่จะล้างท้องและตัดหัวปลาออกเท่านั้น แต่เธอยังบั้งปลาบนตัวไว้แล้วด้วย แล้วใช้ไวน์ขาวและน้ำส้มสายชูหมักไว้อย่างง่ายๆ
แบบนี้ฉินสือโอวก็ทำอาหารได้ทันที มันง่ายมากเลย เขาตั้งกระทะจนร้อนแล้วเทน้ำมันมะกอกลงไป หลังจากที่น้ำมันเดือดเขาก็ใส่หมูสามชั้นลงไป หลังจากผัดเนื้อหมูจนมีกลิ่นหอมก็ใส่หอมหัวใหญ่ ขิง กระเทียม และพริกลงไปแล้วผัดเข้าด้วยกัน
หลังจากผัดเครื่องเทศจนมีกลิ่นหอมแล้ว เขาก็เทซอสถั่วเหลืองลงไป จากนั้นก็เทน้ำลงไปและเริ่มเคี่ยว สุดท้ายเขาก็ต้มไวน์ขาวและน้ำตาลลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่มลงไปอีก รสชาติของปลาทะเลนั้นสดใหม่อร่อย กุญแจสำคัญของอาหารเมนูนี้คือความร้อนไม่ใช่ปริมาณของเครื่องปรุง ดังนั้นเมื่อทานก็จะได้รับรสชาติสดใหม่ของปลา
ในขณะที่กำลังตุ๋นปลา ฉินสือโอวก็นำเส้นบะหมี่มาละลายในน้ำอุ่นจากนั้นก็นวดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นแผ่นแพนเค้กแผ่นเล็กๆ เขานำแพนเค้กเข้าเตาอบเพียงครู่หนึ่ง เมื่อได้ที่แล้วเขาก็หยิบมันออกมา จากนั้นก็เอาด้านหนึ่งทาน้ำมันแล้วนำไปย่างบนกระทะ
ปลากระทะเมนูนี้ต้องทานคู่กับแพนเค้กธัญพืชถึงจะอร่อย เดิมทีการทานแบบนี้เป็นที่นิยมในยุคเจ็ดสิบและช่วงแปดสิบ ณ ตอนนั้นอาหารหลักของบ้านเกิดฉินสือโอวเป็นพวกเค้กข้าว ข้าวเกาเหลียง
แต่ทานกับแพนเค้กทำให้มีรสชาติที่ดีกว่า ซุปปลาที่กำลังเดือดส่งเสียงดังปุดๆ ออกมา แพนเค้กชนิดนี้ดูดซับน้ำได้ดี มันจะดูดซับน้ำซุปปลามาบางส่วน สุดท้ายเมื่อแพนเค้กพวกนั้นถูกย่างจนได้ที่ น้ำซุปจากปลาก็คงจะเหลือจำนวนไม่มากแล้ว พอถึงตอนนั้นก็ถือว่าอาหารจานนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ฉินสือโอวถามเหล่าชายหนุ่มที่อยู่รอบๆ ว่า “ทำกันได้หมดแล้วใช่ไหม?”
ทุกคนพากันพยักหน้า ชาร์คยิ้มพลางถามว่า “วันนี้ผมได้เรียนรู้เรื่องหนึ่ง ว่าเดิมทีแล้วปลาตัวเล็กก็สามารถเอามาทำอาหารแบบนี้ได้”
ฉินสือโอวถามออกมาว่า “แล้วปกติพวกนายทำอย่างไรกันล่ะ?”
ชาร์คตอบว่า “ง่ายมาก แค่ตุ๋นกับน้ำก็ใช้ได้แล้ว”
ฉินสือโอวพูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจว่า “ใช้น้ำเปล่าต้มปลาเหรอ? แบบนั้นอาหารจะอร่อยเหรอ?”
ชาร์คยักไหล่แล้วตอบว่า “ผมก็ไม่รู้ อีกอย่างของพวกนี้ก็ให้หมาที่บ้านกิน มันคงไม่สนว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรหรอก?”
ฉินสือโอว “…”
ในขณะที่บลูกระทุ้งแขนเข้าที่ด้านหลังเขา ฉินสือโอวก็เลือกแพนเค้กสีเหลืองทองอันหนึ่งขึ้นมาจุ่มน้ำซุปแล้วส่งให้วินนี่ วินนี่ลองชิมแล้วยิ้มออกมาพลางพูดว่า “อือ อร่อยมากเลย ต่อไปทำอาหารให้ฉันทานบ่อยๆ เลยดีไหมคะ?”
เมื่อพูดจบ เธอก็เกิดอาการกังวลขึ้นมาทันที “ที่รัก ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่คลอดลูกความอยากอาหารของฉันก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นมาก พอทานไปแล้ว คุณว่าฉันจะเปลี่ยนมาอ้วนเหมือนหมูไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา เขาหันไปบีบคางวินนี่อย่างอ่อนโยน แล้วใช้น้ำเสียงนุ่มนวลพูดปลอบใจเธอว่า “จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ที่รัก ไม่ว่าคุณจะอ้วนขนาดไหน คุณก็มีเพียงขาสองขาเท่านั้น!”
ตอนที่ได้ยินประโยคนี้วินนี่กำลังจะยิ้มหวานออกมา แต่เมื่อได้ฟังประโยคหลังก็ทำเอาเธอขนลุกขึ้นมาทันที สุดท้ายเธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังพวกชาร์คและพูดออกมาอย่างเศร้าๆ ว่า “เอาล่ะ เห็นแก่คุณแล้วกัน คืนนี้ลองพิมพ์คำว่าฉันรักคุณร้อยครั้ง ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ”
หลังจากที่วินนี่เดินออกไป ชาร์คและคนอื่นๆ ก็มองมาไปยังฉินสือโอวด้วยความอิจฉา “หัวหน้า นี่คือโทษของความสุขจริงๆ สินะ”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “พวกนายลองคุกเข่าลงบนแป้นพิมพ์แล้วใช้เข่าพิมพ์คำว่า ‘ฉันรักคุณ’ สักร้อยครั้งดูสิ ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าพวกนายจะมีความสุขหรือเปล่า!”
พวกชาวประมง “…”
แบล็คไนฟ์พูดเปลี่ยนประเด็นขึ้นมาว่า “งั้นพวกเรากินข้าวกันได้แล้วใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “แน่นอน กินได้ตามสบาย แต่ว่าไม่ใช่ที่นี่ พวกนายต้องทำเอง ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกพวกนายมาทำไมกันล่ะ?”
พวกชาวประมง “…”
………………………………………………