ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1239 งานประมูลลูกปลา
จำนวนหอยทากที่จับได้ในหนึ่งวันนั้นไม่น้อยเลย อ่างน้ำสี่อันกับถังน้ำสองอันที่เอามาด้วยถูกใส่จนเต็มหมดแล้ว
ฉินสือโอวยกไปอ่างหนึ่ง ที่เหลือให้พวกชาวประมงกับทหารแบ่งกันเอง ชาร์คบอกว่า “หรือว่า บอส คืนนี้พวกเรามาย่างหอยทากกินด้วยกันดีไหมครับ?”
บูลเลียริมฝีปากยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีเลย ฉันชอบความคิดนี้ของนาย ชาร์ค ฉันไม่ได้กินหอยทากย่างมานานแล้ว คิดถึงรสชาติของเจ้าพวกนี้จริงๆ”
ฉินสือโอวพยักหน้าบอกว่าได้ ความจริงเขาอยากถามว่าเจ้าพวกนี้สามารถเอามาย่างกินได้ด้วยเหรอ? แต่มาคิดอีกทีพวกชาวประมงของนิวฟันแลนด์ย่างได้ทุกอย่างนั่นแหละ เหมือนกับบ้านเกิดของโหวจื่อเซวียน ที่ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถเอามาย่างเป็นมื้ออาหารได้ ถ้าหากว่ามี ก็คือเก็บไว้ทำมื้อที่สองนั่นเอง
วินนี่เริ่มรับงานต่อจากคนรักษาการณ์ของนายกเทศมนตรีแล้ว เธอมีเวลาปรับตัวหนึ่งฤดูกาล สองเดือนแรกเธอต้องเป็นผู้ช่วยนายกเทศมนตรีฮานี่ย์ แรมโบ้ก่อน แต่หนึ่งเดือนหลังจากนั้นจะตรงกันข้าม ฮานี่ย์ต้องมาเป็นผู้ช่วยของเธอแทน
จากนั้นพอวินนี่เริ่มเป็นงานแล้ว ฮานี่ย์จะมีสองทางเลือก ถ้าวินนี่เห็นด้วยตัวเขาเองก็ยินดี งั้นก็สามารถอยู่ต่อเป็นรองนายกได้ แต่หากวินนี่ไม่เห็นด้วยหรือตัวเขาไม่ยินยอม อย่างนั้นทางสภาผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำการย้ายงานให้เขา ปกติแล้วต้องไปทำงานที่สภาผู้ว่าราชการจังหวัดแทน
ความโปร่งใสของรัฐบาลแคนาดานั้นสูงมาก แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับรัฐบาลระดับสูงอย่างฟินแลนด์ แต่ก็มีชื่อเสียงมากในโลก ไม่ว่าจะสภาผู้ว่าราชการจังหวัดหรือว่าข้าราชการผู้น้อยต่างก็โปร่งใสไม่ต่างกันเลย
ดังนั้นคนส่วนมากจึงยินดีที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกในเมืองต่อ เพื่อช่วยเหลือนายกจัดการงานทั่วไป เงินบำนาญไม่ได้น้อยลง เงินประกันได้เท่ากัน แต่งานน้อยกว่ามาก ความสัมพันธ์กับคนก็จริงใจกว่าด้วย
ชาร์คนำเตาย่างออกมา แซ็กพาคนเอาหอยทากร้อยต่อกันเป็นพวงๆ แล้วใส่ไว้ในน้ำสะอาด หากว่าไม่ใช้น้ำจืดแช่เจ้าพวกนี้แล้วล่ะก็ รสชาติที่ได้หลังย่างเสร็จจะค่อนข้างเค็ม
ฉินสือโอวแบกเฟอเรทผู้พี่ไว้บนไหล่ซ้าย เฟอเรทผู้น้องเอาไว้บนไหล่ขวาแล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าประตู ตามองไปที่ประตูฟาร์มปลาเป็นพักๆ รถคาดิลแลคของวินนี่ก็ยังคงไม่ปรากฏให้เห็น เขาเริ่มรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แมคคาลลียนที่นั่งพักอยู่ข้างๆ สังเกตเห็นจุดนี้ จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณรอวินนี่อยู่เหรอคะ?”
ฉินสือโอวยอมรับออกไปอย่างง่ายดาย แล้วพูดว่า “ใช่ครับ ตั้งแต่ผมกับวินนี่อยู่ด้วยกันมา เธอก็เป็นแม่บ้านมาตลอด ผมเคยชินกับเวลาที่ถ้าผมอยู่บ้านเธอก็จะอยู่ข้างๆ ตอนนี้เธอไม่อยู่ ผมรู้สึกไม่ค่อยชินครับ”
สิ่งสำคัญคือพอวินนี่ไม่อยู่บ้าน หน้าที่ดูแลเด็กๆ ก็ตกเป็นของท่านชายฉินด้วย ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่างกายของเสี่ยวเถียนกวาก็โตขึ้นด้วย เธอคลานได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ และไกลขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉินสือโอวต้องจับตาดูเธอไว้ตลอด
คุยกับแมคคาลลียนเพียงครู่เดียว ฉินสือโอวก้มหน้าลงมามองก็พบว่าลูกสาวไม่อยู่เสียแล้ว เขารีบผิวปาก ก็มีเสียงของหู่จือและเป้าจือตอบกลับมาแต่ไกล พวกมันกำลังจับตาดูเสี่ยวเถียนกวาอยู่
ฉินสือโอววิ่งไปตามเสียง เสี่ยวเถียนกวาเจอเข้ากับไข่ห่านใบใหญ่สองใบในพงหญ้า เธออยากจะเอากลับมาด้วย แต่น่าเสียหาย ที่แขนขาทั้งสี่ของเธอต้องใช้สำหรับคลาน การจะเอาไข่ห่านใบใหญ่กลับไปด้วยจึงยากเกินไปสำหรับเธอ
ฉินสือโอวอยากจะพาเธอกลับไป แต่ว่าเสี่ยวเถียนกวาชี้ไปที่ไข่ห่านอย่างไม่พอใจแล้วร้องออกมา จากนั้นก็อ้าปากอย่างเจ้าเล่ห์แล้วร้อง ‘ปะป๊า’ ออกมาไม่ขาดคำ
หู่จือกับเป้าจือค่อนข้างอ่อนไหวกับคำว่า ‘ปะป๊า’ พอเสี่ยวเถียนกวาร้องออกมาเท่านั้น ทั้งสองตัวก็ดีใจจนร้องโฮ่งๆ ไม่หยุด ทำเอาฉินสือโอวเซ็งไปเลย
ไม่มีทางเลือก คงทำได้แค่เอาไข่ห่านสองใบกลับไปด้วย หลังจากเขานำกลับไปด้วยแล้วเสี่ยวเถียนกวาก็ไม่สนใจอีกเลย เธอคลานไปคลานมาต่อ ไม่รู้ว่าคิดจะไปไหน
ท่านชายฉินจนปัญญาแล้ว เขาจับเสี่ยวเถียนกวาใส่ไว้ในรถเข็นเด็ก เธอก็ปีนอยู่ในนั้นไม่หยุด นี่อันตรายมาก เพราะว่าเธออาจปีนออกมาแล้วหกล้มได้
เมื่อเห็นว่าวิธีนี้ก็ไม่ได้ผล เขาจึงไปหาเชือกมาเส้นหนึ่ง แล้วมัดเสี่ยวเถียนกวาไว้ข้างตัวแทน แบบนี้แม้ว่าเสี่ยวเถียนกวาจะคลานอีกก็คลานไปได้ไม่ไกล วนเวียนไปมาได้แค่บริเวณนี้ ถือว่าเป็นการปลดปล่อยฉินสือโอวกับหู่จือเป้าจือแล้ว
พ่อของฉินสือโอวที่นำเครื่องเทศออกมาให้เห็นเข้าก็ร้อนใจขึ้นมาทันที เขารีบเข้าไปตีฉินสือโอวทีหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า “นี่แกเป็นพ่อภาษาอะไรกัน? ทำอะไรเนี่ย? นี่เป็นลูกสาวหรือหมาแมวที่เลี้ยงกันแน่?”
เชือกถูกปลดออกแล้ว เสี่ยวเถียนกวาก็รีบคลานออกไปยังที่ไกลๆ อีก ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงตื่นตัวขึ้นมาแล้วตามอยู่ข้างหลัง
ผ่านไปสักพัก มือถือของเขาดังขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นหัวหน้ากรมประมงแมทธิว จินนั่นเอง ฉินสือโอวจึงรีบรับสายแล้วถามว่า “เฮ้ ท่านประธานจิน ทำไมถึงมีเวลาโทรหาผมได้ล่ะครับ? บอกมาเลยครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เสียงของแมทธิว จินดังขึ้น “คืออย่างนี้นะ ฉิน พวกผมกำลังเตรียมจัดงานประมูลลูกปลากุ้งปูตามแนวชายฝั่งของฟาร์มปลานิวฟันแลนด์กัน งานเริ่มขึ้นประมาณอีกสิบวันให้หลัง คุณเตรียมตัวไว้นะครับ เอาสินค้ามาด้วย”
ฉินสือโอวอึ้งไปพักหนึ่ง ของจำพวกลูกปลากับลูกกุ้งก็เอามาประมูลได้ด้วยเหรอ? คนแคนาดานี่ช่างคิดเสียจริง
แมทธิว จินพูดต่อว่า “กรมประมงได้ทำการตรวจสอบบ่อเลี้ยงปลาอนุบาลทุกที่แล้ว ฟาร์มปลาของใครที่มีปลาและกุ้งชั้นดีก็จะถูกบันทึกไว้ ฟาร์มปลาของคุณมีของชั้นดีเยอะที่สุด ว่าอย่างไร คุณมีความคิดที่จะขายลูกปลาไหมครับ?”
การเติบโตของฟาร์มปลานั้นมีหลายวิธี การจำหน่ายปลาที่เลี้ยงไว้นั้นเป็นสิ่งที่พื้นฐานที่สุด จากนั้นยังมีการทำเป็นการท่องเที่ยวกับทำบ่อเลี้ยงลูกปลาด้วย ซึ่งก็มีให้เห็นกันทั่วไป อย่างเช่นก่อนหน้านี้มีฟาร์มปลาที่ฉินสือโอวคิดจะเอาไว้เลี้ยงปลาค็อดมหาสมุทรแอตแลนติก ก็คือที่ที่จะเอาไว้เลี้ยงลูกปลาขายโดยเฉพาะนั่นเอง
ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดว่า “เคยมีความคิดประมาณนี้อยู่บ้างครับ งั้นเดี๋ยวผมขอจัดการกับจำนวนปลาที่ฟาร์มปลาผลิตได้ก่อน แล้วค่อยไปดูที่งานอีกทีนะครับ”
แมทธิว จินบอกว่าดีมาก จากนั้นทั้งสองก็คุยเรื่อยเปื่อยกันต่ออีกสักพัก ประธานกรมประมงถามเขาถึงชีวิตหลังงานหมั้นของเขา แล้วก็ยินดีกับวินนี่ที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี
ฉินสือโอวกลอกตาไปมา คำยินดีนี้มาได้เร็วเหลือเกิน ตอนนี้คงแทบทั่วแคนาดาแล้วที่รู้ว่าวินนี่ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวล เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเขาคิดไปเองแต่อย่างไร ข่าวของวินนี่บนอินเทอร์เน็ตนั้นเยอะจริงๆ เยอะถึงขั้นเขายังสงสัยว่ามีคนจ้างให้ทำข่าวเรื่องวินนี่เลยทีเดียว
จากนั้นเขาถามแมทธิว จินว่าทำไมถึงคิดจะจัดงานประมูลลูกปลานี้ ประธานจินบอกกับเขาว่า เขาในตอนนี้กำลังจัดงานพูดคุยแลกเปลี่ยนระดับสูงเกี่ยวกับการเกษตรและการประมงในอเมริกา แล้วพบว่าฟาร์มปศุสัตว์ของอเมริกาหลายที่ล้วนมีการจัดงานประมูลวัวแกะม้ากันทั้งนั้น ทำให้เขาเกิดไอเดียนี้ขึ้นมา
หลังวางสาย ฉินสือโอวหนีบเสี่ยวเถียนกวากลับไป ตอนนี้วินนี่กลับมาแล้ว เธอยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อสูทผู้หญิง รองเท้าส้นสูงที่เป็นการแต่งตัวที่ดูมืออาชีพมาก นอกเหนือจากนั้นเสื้อสูทของเธอยังเป็นสีไวน์แดงอีก ทำให้เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง
“เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยไหม?” ฉินสือโอวเดินเข้าไปถาม แล้วรีบรับกระเป๋ามาจากวินนี่
วินนี่ส่ายหัว พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เป็นงานที่ง่ายมากค่ะ ก็เป็นเมืองเล็กๆ นี่คะ จะมีงานสักแค่ไหนกันเชียว? พวกคุณทำอะไรกันคะ จะย่างเนื้อกินกันอีกแล้วเหรอ?”
ฉินสือโอวอยากให้วินนี่ลองชิมหอยทากย่างดู แต่ว่าชาร์คยังไม่ได้จุดไฟในเตา เขาจึงนำเตาเผาฟืนของตัวเองออกมา ใส่ถ่านแทนฟืน เปลวไฟไม่ใหญ่ไม่เล็ก เหมาะกับการนำมาย่างพอดี
นำหอยทากสองเส้นมาทาด้วยน้ำมันถั่วลิสง ฉินสือโอวพัดไฟไปมาด้านบนเตาย่าง แล้วสาดมะแข่นกับพริกผงลงไปเป็นพักๆ ระหว่างนั้นก็ทาน้ำมันด้วยไม่หยุด ไม่นานก็ย่างเสร็จแล้ว
หอยทากอุดมไปด้วยโปรตีน ทำให้ย่างสุกได้ง่าย แต่เพราะขาดไขมัน ตอนย่างจึงต้องใช้น้ำมันจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นจะทำให้ไหม้ได้ง่าย
…………………………………………