ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1244 กุ้งขาวและปลายอดม่วง
“นั่นก็คือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล ผู้ก่อตั้งการศึกษาทางพันธุกรรมของมหาสมุทรนานาชาติ ศาสตราจารย์มากวิชาด้านการศึกษามหาสมุทรของมหาวิทยาลัยโทรอนโต คุณแซนเดอร์ส วอร์ตัน!”
ท่านชายฉินยื่นมือชี้ไปข้างๆ อย่างชั่วร้าย เพื่อทำการแนะนำผู้เชี่ยวชาญแซนเดอร์สที่รับเคราะห์แทน จากนั้นก็พูดต่อว่า “ผมก็แค่ใช้ความรู้ที่ได้รับจากศาสตราจารย์แซนเดอร์ส ใช้วิธีการเลี้ยงแบบวิทยาศาสตร์เท่านั้น ทุกคนก็สามารถลองได้นะครับ ผมคิดว่าขนาดคนโง่อย่างผมยังสามารถประสบผลสำเร็จได้บ้าง ทุกท่านจะต้องสามารถประสบผลสำเร็จได้เยอะเลยล่ะครับ”
จากนั้นสายตาอันรุ่มร้อนของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็เปลี่ยนไปอยู่ที่ตัวแซนเดอร์สแทน ในใจศาสตราจารย์สูงวัยกำลังระเบิดไม่หยุด เขาอยากจะบอกกับฉินสือโอวคำหนึ่งว่านายประชดกว่านี้ได้อีกไหม? เสียดายที่สถานที่นี้ไม่อำนวยนัก
หลังจบช่วงการปรึกษาหารือแล้ว พนักงานของกรมประมงก็นำสมุดเล่มเล็กราวกับสมุดภาพแจกให้กับทุกคน ฉินสือโอวรับมาเล่มหนึ่งแล้วเปิดดู ข้างในเป็นข้อมูลการเก็บเกี่ยวของเจ้าของฟาร์มปลาที่ได้รับความสนใจ
เมื่อก่อนไม่สามารถจัดงานประมูลประเภทนี้ขึ้นมาได้ นอกจากเรื่องวิสัยทัศน์แล้ว ยังเป็นเพราะการคัดค้านจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาด้วย
ก็เหมือนกับฟาร์มเลี้ยงวัวแพะไก่เป็ด สถิติการตายของฟาร์มแต่ละที่นั่นไม่เหมือนกัน คุณภาพของสัตว์ที่เลี้ยงมาก็ไม่เหมือนกันด้วย ตัวอย่างเช่นคนญี่ปุ่นเก่ง ที่สามารถเลี้ยงวัววากิวที่เป็นสัตว์แย่งเงินออกมาได้
ดังนั้น ฟาร์มปลาที่ประสบความสำเร็จแต่ละที่ก็จะมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นความลับที่พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ การทำกำไรก็ต้องพึ่งเจ้าสิ่งนี้นั่นแหละ และเป็นธรรมดา ที่สิ่งที่เรือขโมยปลาอยากขโมยที่สุดก็คือสินค้าของพวกเขาเหล่านี้
พวกเจ้าของฟาร์มปลาไม่อยากให้สินค้าขึ้นชื่อของตัวเองเปิดเผยออกมา ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนทรัพยากรเหรอ? ช่างเถอะ พวกเขาแค่ปกป้องพื้นที่สามในสิบของพวกเขาไว้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนหรอก
แต่ตอนนี้ไม่หมือนกัน เศรษฐกิจซบเซา ส่วนทางด้านส่งออกก็ตกต่ำลงทุกปี พวกเขาไม่สามารถปิดตัวได้อีกต่อไปแล้ว
อีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฉินสือโอวยินยอมที่จะแบ่งทรัพยากรฟาร์มปลาของเขาให้ เทียบกับฟาร์มปลาต้าฉินที่สามารถยืนหยัดแบรนด์ของตัวเองไว้ได้นั้น ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของพวกเขาเทียบไม่ติดแม้เพียงขี้เล็บเลย
ฉินสือโอวเปิดดูสมุดภาพ ภาพแรกก็เกี่ยวกับฟาร์มปลาของเขาเลย เป็นการแนะนำข้อมูลของปลาลิ้นหมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาลิ้นหมาเกล็ดเงินของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เพราะปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ตรงส่วนหลังมีเกล็ดเงินที่เกาะกลุ่มกันเป็นเส้นสีเงินเพิ่มขึ้นมา ทำให้ได้ชื่อนี้มา
แต่ทว่า ปลาลิ้นหมาชนิดนี้ยังไม่ได้ถือว่าเป็นพันธุ์ใหม่ จากกฎการตั้งสายพันธุ์ใหม่ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาตินั้น การจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ได้จำเป็นต้องมีการแบ่งแยกของการสืบพันธุ์ แน่นอนว่าปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินยังไม่มี
เจ้าของฟาร์มปลาที่นั่งอยู่ด้านหน้าฉินสือโอวพลิกดูสมุดภาพรอบหนึ่ง ก็หันหลังกลับมาถามอย่างตื่นเต้นว่า “เฮ้ ฉิน นายสนใจขายลูกปลาลิ้นหมาเกร็ดเงินบ้างไหม? ฉันยินดีให้ราคาสูงเลยนะ”
โดนัลด์ที่อยู่ข้างๆ เบะปากแล้วพูดว่า “แวร์น นายอย่าฝันหวานไปเลย แม้ว่าฉินยินดีจะแบ่งลูกปลาชนิดนี้ แต่งานประมูลเริ่มพรุ่งนี้นะ ถ้าหากนายอยากซื้อ ก็ไปเตรียมเงินให้พร้อมไว้ดีกว่า”
แวร์นเจ้าของฟาร์มปลาหัวเราะร่าสองทีแล้วหันหน้ากลับไป เปิดดูสมุดภาพต่อ
ภาพที่สองก็ยังคงเกี่ยวกับฟาร์มปลาต้าฉิน ภาพนี้เป็นภาพของปลาทะเลตัวแบนมหาสมุทรแอตแลนติก
ปลาชนิดนี้สามารถโตจนมีขนาดใหญ่ที่มีความยาวสองสามเมตรได้ไม่มีปัญหา พวกมันเป็นปลาน้ำลึก อาศัยอยู่ในหินทรายและโคลนใต้น้ำลึก 50-2000 เมตร กระจายตัวอยู่ตั้งแต่แลบราดอร์ถึงกรีนแลนด์จนถึงเกาะน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และทะเลแบเรนตส์ตอนใต้ไปจนถึงอ่าวบิสเคย์
ปลาทะเลตัวแบนของฟาร์มปลาต้าฉินไม่เพียงแต่ตัวใหญ่ เนื้อก็เยอะและแน่น ซอสปลาลิ้นหมาสำหรับย่างที่กำลังได้รับความนิยมในนิวยอร์กตอนนี้ ก็ใช้ชิ้นเนื้อปลาลิ้นหมาของฟาร์มปลาต้าฉินด้วย ราคาสูง แน่นอนว่ารสชาติก็ดี เปี่ยมไปด้วยสารอาหาร
ฉินสือโอวพลิกดูสักพัก แล้วหาผลิตภัณฑ์ทะเลที่ตัวเองสนใจ
ว่าไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ทะเลของฟาร์มปลาของเขานั้นถือว่าหลากหลายแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ ไม่สามารถทำให้เขาใช้สร้างเป็นแบรนด์สำหรับอาหารทะเลได้
จากความคิดของเขาและบัตเลอร์ แบรนด์อาหารทะเลต้าฉินต้องครอบคลุมไปด้วยผลิตภัณฑ์ทางทะเลอย่างน้อยหนึ่งร้อยชนิดจึงจะใช้ได้ แน่นอนว่ายิ่งเยอะก็ยิ่งดีกว่า
เปิดจนถึงหน้าที่สี่ มีกุ้งชนิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในสายตาของเขา กุ้งกุลาดำฉบับพัฒนาแล้ว
ทั่วโลกมีกุ้งขาวอยู่แค่ 28 ชนิด หนึ่งในนั้นที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของทวีปอเมริกามี 7 ชนิด ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกมี 6 ชนิด มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกมี 14 ชนิด มหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมี 1 ชนิด แอฟริกาตะวันตกมี 1 ชนิด ในทั้งหมดนี้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคือกุ้งขาวของญี่ปุ่น จีนและกุ้งกุลาดำ
กุ้งกุลาดำในสมุดภาพนั้นเป็นกุ้งขาวชนิดที่สามารถโตได้มาก สามารถโตจนมีความยาวได้ถึงสามสิบเซนติเมตร ตัวเดียวก็มีน้ำหนักมากถึงหนึ่งชั่ง
กุ้งชนิดนี้ไม่เพียงแต่สามารถโตจนมีขนาดใหญ่เท่านั้น เนื้อยังสดใหม่ เต็มไปด้วยสารอาหาร เปลือกของพวกมันค่อนข้างแข็งแรง สามารถทนทานต่อการใช้มือจับได้ นอกเหนือจากนี้แล้วความทนทานในการออกจากน้ำแล้วอยู่ในอากาศก็มากอีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้สามารถจำหน่ายกุ้งตัวเป็นๆ ได้
ฉินสือโอวเปิดดูต่ออย่างสนใจ กุ้งขาวชนิดนี้มาจากฟาร์มปลาแห่งหนึ่งในรัฐโนวาสโกเชีย เจ้าของฟาร์มมีชื่อว่านิโค ตู้ ดูจากนามสกุลแล้วน่าจะเป็นชาวจีน ทำให้เขายิ่งสนอกสนใจขึ้นมา
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่สามารถอยู่บนสมุดภาพได้นั้นล้วนแต่เป็นของที่มีจุดขายทั้งนั้น สิ่งที่กุ้งกุลาดำที่พัฒนาแล้วชนิดนี้ต่างจากแบบเก่าก็คือ มันสามารถปรับตัวได้กับน่านน้ำที่ค่อนข้างหนาวเย็น!
แม้ดูเหมือนจุดที่พัฒนาแล้วจุดนี้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างมากในการโปรโมตกุ้งกุลาดำ
กุ้งกุลาดำเป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกุ้งขาว พวกมันสามารถต้านทานโรคได้ดี มีความสามารถในการปรับตัวกับความเค็ม สามารถอยู่ได้ในพื้นที่อุณหภูมิสูงและออกซิเจนต่ำได้ แต่เสียตรงที่ความสามารถในการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำค่อนข้างน้อย โชคร้ายตรงที่อุณหภูมิของน้ำในฤดูหนาวของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนั้นค่อนข้างหนาวเย็น ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของกุ้งกุลาดำ
กรมประมงใส่ใจกับความเป็นส่วนตัวของเหล่าเจ้าของฟาร์มปลามาก บนนั้นจึงมีเพียงการแนะนำข้อดีของกุ้งขาวอย่างคร่าวๆ เท่านั้น ไม่ได้มีข้อมูลที่ละเอียดมาก เพื่อเป็นการรักษาเคล็ดลับในการเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ไว้นั่นเอง
แม้ว่าการรักษาลิขสิทธิ์ของทางแคนาดาจะค่อนข้างเข้มงวด แต่ว่าเคล็ดลับการเพาะเลี้ยงไม่ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในการรักษาลิขสิทธิ์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ญี่ปุ่นเก็บเคล็ดลับการเลี้ยงวัววากิวไว้ในกางเกงตัวเองนั่นเอง เพราะเมื่อเปิดเผยออกมาแล้วก็จะถูกคนอื่นแย่งไปเลียนแบบทันที
ฉินสือโอวยื่นกุ้งกุลาดำให้แซนเดอร์สดู แล้วถามเสียงเบาว่า “พวกเราเพาะเจ้านี้ดีไหมครับ? สามารถทำได้หรือเปล่า?”
เพราะศาสตราจารย์สูงวัยเคยประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปูดันเจเนสส์มาแล้ว ตอนนี้จึงเป็นตอนที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขาศึกษาอยู่สักพักแล้วก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ได้ ไม่มีปัญหา!”
ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็เปิดอ่านต่อไป ไม่นานก็เห็นผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือปลายอดม่วงพันธุ์มินิ
ปลายอดม่วงก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของปลาทะเลตัวแบน บ้านเกิดของฉินสือโอวเรียกมันว่าปลาลิ้น ปลาชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน เนื้อละเอียดรสชาติดี มีประโยชน์แถมยังอร่อย จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ที่ฟาร์มปลาก็มีปลายอดม่วง แถมยังเป็นปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสที่มีค่ามากกว่าเสียด้วย ปลาชนิดนี้มีเนื้อค่อนข้างน้อย ตอนกินให้ความรู้สึกลื่นไหล แม้จะต้มนานเนื้อก็ไม่แก่ ไม่มีกลิ่นคาวและกลิ่นแปลกปลอม จัดว่าเป็นปลาที่มีโปรตีนและคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก
ความหมายอีกอย่างของคำว่ามีค่า ก็คือมีน้อยนั่นเอง
ปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสอร่อยก็จริง แต่ว่าพวกมันกระจัดกระจายอยู่ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ มีจำนวนน้อยมากในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ฉินสือโอวเคยใช้พลังไซดอนพัฒนาปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสแล้ว แต่สุดท้ายก็ทำให้พวกมันอ้วนขึ้น โตไวขึ้นเท่านั้น ความสามารถในการขยายพันธุ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ปลายอดม่วงไซโนกลอสซัสจึงไม่สามารถอยู่ในรายการจัดจำหน่ายทั่วไปได้ เป็นเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกเสียดายไม่น้อยเลย
ปลายอดม่วงพันธุ์มินิชนิดนี้นี่แหละ ที่ทำให้เขามีหวังที่จะขยายการเพาะเลี้ยงออกไปได้
………………………………………