ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1257 ตุ๋นเนื้อแกะในทะเล
บูลสับเนื้อแกะแล้วโยนลงไปต้มในหม้ออัดแรงดันที่อยู่บนเรือยอชต์
ฉินสือโอวกลอกตาอย่างโมโหแล้วถามว่า “ที่บ้านนายทำสเต๊กแกะตุ๋นแบบนี้เหรอ?”
บูลพูดแบบแน่ใจ “แน่นอนว่าไม่ใช่…ที่บ้านแอนนาเป็นคนทำกับข้าว แต่ผมเห็นเธอก็ใช้น้ำต้มแบบนี้ ทำออกมาก็อร่อยดี”
ท่านชายฉินเตะเขาไปแบบไม่ปรานีให้เขาถอยไปแล้วพูดอย่างโกรธๆ “ไอ้ไร้ประโยชน์ ดูฉันทำนี่”
บูลยิ้มแฉ่งแล้วรีบเปิดปากพูด “งั้นบอสทำดีกว่า แน่นอนว่าฝีมือทำอาหารของบอสดีที่สุด”
นีลเซ็นที่พิงประตูอยู่พูดขำๆ “บูล ประจบได้ไม่เลวนี่ เอาอีกสิ ประจบฉันสักที”
“ไอ้เวรนีลเซ็น!” บูลชูนิ้วกลางใส่เขา “ฉันตบหน้านายได้ทีหนึ่ง นายจะเอาไหม?”
คุณภาพเนื้อแกะบูแคนันค่อนข้างดี แต่ปริมาณน้อย ไม่อย่างนั้นคงสามารถครองตลาดตะวันออกของแคนาดาได้เลยทีเดียว
ปกติเวลาฉินสือโอวซื้อเนื้อจะซื้อแบบดีๆ เนื้อแกะบางครั้งก็ซื้อเนื้อจากบูแคนัน พวกชาวประมงต่างก็ว่าเขาฟุ่มเฟือย
คนแคนาดากินเนื้อเป็นหลัก วัวแกะและปศุสัตว์ล้วนเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ซื้อเนื้อแต่ละทีจึงถูกมาก เนื้อแกะปกติปอนด์ล่ะประมาณสี่ห้าดอลลาร์แคนาดา ส่วนเนื้อแกะบูแคนันล่ะ? หนึ่งปอนด์ราคาสิบห้าดอลลาร์แคนาดา แพงขึ้นมาถึงสามสี่เท่า!
แน่นอนว่าฉินสือโอวคิดว่ามันมีคุณค่าของมัน เนื้อชั้นดีของแคนาดาไม่ใช่แค่อร่อยกว่าเนื้อทั่วไป แต่ยังปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย
แม้ว่าหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารของแคนาดาจะบอกตลอดว่าพวกเขาควบคุมการใช้ฮอร์โมนและยาอย่างเคร่งครัด แต่พวกเขาไม่มีทางตรวจดูได้ทุกอย่าง เนื้อที่เข้าสู่ตลาดก็ต้องมีปัญหาบ้าง
ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหารของแคนาดา ตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ประชาชนให้ความสนใจ
เนื้อแกะบูแคนันแทบไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้ฮอร์โมนและยาเกินขนาดเลย เพราะเนื้อที่นี่ตรวจเข้มงวดมาก ในที่สุดยอดขายก็ตกอยู่ในรถเข็นของคนรวย ดังนั้นจึงสามารถกินมันได้อย่างมั่นใจ
ถ้าใช้สเต๊กเนื้อแกะธรรมดามาตุ๋นซุปก็ต้องลวกทิ้งหนึ่งรอบก่อน ไม่อย่างนั้นในเนื้อจะมีไขมันอิ่มตัวและของไม่สะอาด ที่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย สเต๊กเนื้อแกะบูแคนันก็ไม่จำเป็น ตอนที่ใช้น้ำตุ๋นก็ไม่มีไขมันสีขาวลอยอยู่เหนือน้ำ ตุ๋นออกมาก็มีแต่น้ำมันใสๆ
ฉินสือโอวเคยลองแล้ว เนื้อแกะแบบนี้อย่าเพิ่งตุ๋นในทันที ต้องใช้น้ำมันทอดก่อน
ตอนที่เขาตั้งน้ำมันจนเดือดแล้วเอาเนื้อสเต๊กแกะที่สับแล้วลงทอด บูลก็เกาหัวแล้วพูดว่า “โอ้ กัปตัน คุณอยากกินสเต๊กทอดเหรอ? ที่บ้านผมมีเนื้อสเต๊กแกะชิ้นเล็ก อันนั้นเหมาะจะทอดมาก เดี๋ยวผมเอาไปส่งให้”
ฉินสือโอวกลอกตาต่อไปอีก แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะกินเนื้อสเต๊กแกะทอด เนื้อนี้แค่ต้องทอดในน้ำมันจนมีสีเหลืองทองก็เอาออกมาได้แล้ว อีกเดี๋ยวก็เสร็จ
จากนั้นเขาก็หาในตู้เย็น ในนั้นมีเห็ดหอมภูเขาที่เก็บมาตากแห้งตอนฤดูใบไม้ผลิ
แช่ในน้ำร้อนเสร็จ ฉินสือโอวก็เอาเห็ดใส่ลงในหม้อตุ๋น เสร็จแล้วก็เทเหล้าจีนลงไป ตามด้วยต้นหอม ขิงที่หั่นชิ้นใหญ่ไว้ แล้วต้มก่อนสักสองสามนาทีค่อยเอาสเต๊กแกะที่ทอดจนเป็นสีเหลืองทองใส่ลงไป
รอจนซุปในหม้อเริ่มเดือดปุดๆ เขาก็ใส่แครอทที่ฟาร์มปลาปลูกเองลงไปด้วย เนื้อแกะตุ๋นหนึ่งหม้อจึงจะแล้วเสร็จ
บูลมองดูด้วยสายตาอึ้งๆ “แค่ตุ๋นเนื้อแกะต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฉินสือโอวตอบ “ไอ้โง่ นี่ถึงจะเป็นขั้นตอนการทำเนื้อแกะตุ๋นตามปกติ อะไรของนาย? ของกินที่วินนี่ให้หู่จือเป้าจือกินยังดีกว่าของนายซะอีก”
“แต่บ้านผมเขาก็ทำกันแบบนี้ พ่อแม่ผมแต่ก่อนเวลาตุ๋นแกะก็ทำแบบนี้” บูลเถียงอย่างไม่ยอม
ฉินสือโอวยิ้มอย่างจนใจ “ให้ตายสิ บูล นายโตมาขนาดนี้ได้อย่างปลอดภัยนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไอน้ำในหม้อก็ฟุ้งกระจายออกมา ห้องครัวบนเรือยอชต์อบอวลไปด้วยกลิ่นของเนื้อแกะ อีวิลสันเตรียมชามและตะเกียบ มีด ส้อมไว้เรียบร้อย สรุปก็คืออุปกรณ์กินข้าวมีครบหมด ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีนหรือฝรั่งก็สามารถกินได้
อย่างที่บอกว่าอีวิลสันทึ่มโดยธรรมชาติ ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่าไม่ใช่แบบนั้น ดูจากความคิดอ่านเวลากินข้าวก็ฉลาดใช้ได้ อย่างเช่นจนถึงตอนนี้พวกชาวประมงยังไม่มีคนไหนที่รู้จักเตรียมอุปกรณ์กินข้าวให้ครบ เวลากินพวกผัดหมูเส้นกับปลาหรือมันฝรั่งเส้น พวกเขาก็ได้แต่มองดูเฉยๆ
ฉินสือโอวเปิดฝาหม้อดู สเต๊กแกะที่ทอดจนเป็นสีเหลืองทองกลับมาเป็นสีขาวราวหิมะ น้ำซุปก็เปลี่ยนเป็นสีขาวน้ำนม บนผิวซุปมีไขมันที่หนาแต่ไม่เลี่ยนอยู่ กลิ่นหอมเตะจมูก
เอาต้นหอมและผักชีถ้วยหนึ่งที่เตรียมไว้โรยลงไปก็เสร็จ ฉินสือโอวพูดอย่างพอใจ “โอเค กินข้าวกันได้แล้ว”
อีวิลสันรีบยื่นชามใบโตของตัวเองออกไปทันที
บูลเห็นแบบนั้นก็พูดอย่างประหลาดใจ “อีวิลสัน ทำไมนายถึงเอากะละมังอาบน้ำของเสี่ยวเถียนกวามาด้วยล่ะ?”
อีวิลสันส่ายหน้ารัว “ไม่ใช่นะ นี่เป็นชามของอีวิลสัน กะละมังอาบน้ำยังอยู่ที่บ้าน! อีวิลสันไม่ได้เอาไป นั่นของเถียนกวา!”
ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ “บูล นายนี่มันไม่รู้จักจำ อย่าไปแหย่อีวิลสันได้ไหม? ฉันจะบอกให้ ถ้านายแกล้งเขา งั้นฉันก็พูดได้แค่อย่างเดียว”
“พูดว่าอะไรครับ?” นีลเซ็นประชิดเข้ามาถาม
ฉินสือโอวพูดกับอีวิลสันหน้าชื่นตาบาน “ไป อัดบูลซะ อัดเสร็จแล้วค่อยกลับมากิน!”
บูลรีบหันหลังวิ่งหนี อีวิลสันตามมาด้านหลังราวกับลมกรดแล้วยกตัวเขาที่สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าขึ้นมาราวกับกำลังยกไก่ตัวหนึ่ง จากนั้นก็โยนลงไปบนโซฟา แล้วอัดตุบตับอย่างกับตีกลองอยู่
นีลเซ็นไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ เขาเลือกเนื้อกินไปพูดไป “อีวิลสัน ฉินถามว่ากำลังนวดให้บูลอยู่เหรอ? แรงน้อยไปแล้ว”
อีวิลสันพูดอย่างจริงจัง “ไม่ได้นวด อีวิลสันกำลังอัดเขาอยู่”
อีวิลสันไม่เข้าใจคำพูดของเขา บูลกลับเข้าใจเลยร้องโหยหวนออกมา “นีลเซ็น ไอ้เวร! ฉันจะล้างแค้นนายแน่! รีบมาช่วยฉันเร็ว! ไม่อย่างนั้นกลับไปฉันพูดอะไรกับแพรีสไม่รู้ด้วยนะ!”
นีลเซ็นได้ยินแบบนั้นก็รีบยกชามเหล็กของอีวิลสันไปให้พลางพูดว่า “มา เพื่อน ฉินบอกว่ากินข้าวได้แล้ว!”
อาหารเป็นชีวิตของอีวิลสัน เขายกชามอย่างดีใจแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเริ่มกินแจ๊บๆ ด้วยสีหน้ามีความสุข “อร่อยจริงๆ เลย!”
บูลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา ฉินสือโอวยื่นชามให้เขา เขากัดลงไปบนเนื้อแกะก็ต้องร้องออกมาอย่างประหลาดใจ “โอ้โห บอสทำอร่อยจริงๆ ด้วย อืม ทำไมเนื้อแกะถึงหอมขนาดนี้?”
ฉินสือโอวกินไปอธิบายไป “เนื้อแกะชั้นเยี่ยมแบบนี้เนื้อจะนิ่มมาก กินไปแม้เนื้อสัมผัสจะดี แต่ถ้าต้มเลยน้ำข้างในเนื้อก็จะลงไปในซุปหมด เพราะฉะนั้นทอดหนึ่งรอบเพื่อล็อกหนังชั้นนอกไว้ แบบนี้ด้านในจะยังมีน้ำอยู่ส่วนหนึ่ง กลิ่นหอมของเนื้อแกะจะอยู่ในน้ำนั้น”
เนื้อแกะตุ๋นที่เขาทำไม่ใช่แค่หอมเท่านั้น ยังมีรสของผักด้วย เวลาทำเนื้อตุ๋นคนแคนาดาไม่ชอบใส่เครื่องเทศอย่างต้นหอม ขิง กระเทียม ผักชี มีแค่เนื้อก้อนโต กินไปไม่กี่ชิ้นก็ไม่หอมแล้ว ไม่อร่อยเลย
ทั้งสี่คนรุมกินกันจนเนื้อแกะตุ๋นทั้งหม้อหายไปในพริบตา สุดท้ายแม้แต่แครอทก็ไม่เหลือ อีวิลสันกินจนหมด
…………………………………………