ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1265 จุดชมวาฬ
ตอนที่วินนี่บอกว่าเธอจะเข้าร่วมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีแทนฉินสือโอว ฉินสือโอวก็เริ่มพิจารณาถึงปัญหาบางอย่างอย่างเช่น หลังจากที่วินนี่เป็นนายกเทศมนตรี เมืองควรจะพัฒนาอย่างไร
สองปีก่อนเศรษฐกิจเมืองเล็กแห่งนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากฟาร์มปลาต้าฉิน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเฉลี่ยต่อคนเทียบกับเมื่อสองปีก่อนเกิน 500% ถ้าเพิ่มฟาร์มปลาต้าฉินเข้าไปก็เทียบยากแล้ว ฟาร์มปลาต้าฉินนำพาประโยชน์มากมายมาให้จนน่ากลัว
ตั้งแต่ช่วงขึ้นปีใหม่ ตอนที่วินนี่บอกว่าอยากเข้าร่วมเลือกตั้ง ฉินสือโอวก็ไม่ได้ขยายทรัพยากรฟาร์มปลาอีก เพียงแค่ขายอาหารทะเลที่มีอยู่ภายใต้แบรนด์อาหารทะเลต้าฉิน
หลังจากที่วินนี่ได้รับเลือก เขาก็ทำการขยายฟาร์มปลาครั้งที่สอง ครั้งนี้ที่ขยายไม่ใช่เนื้อที่ฟาร์ม แต่เป็นชนิดและคุณภาพของอาหารทะเล ฉะนั้นในงานประมูลการประมง เขาจึงชูป้ายบ่อยเพื่อประมูลปลาชนิดใหม่ๆ มากมาย
ยิ่งชนิดของอาหารทะเลมีมาก ผลิตได้มากเท่าไร ฟาร์มปลาก็ยิ่งจ่ายภาษีเยอะ ผลิตภัณฑ์มวลรวมเมืองก็จะสูงขึ้นโดยปริยาย
รอจนลูกปลาที่เขาซื้อมาโตจนสามารถเอาออกขายได้ ในตอนนั้นก็จะเห็นความแตกต่างของผลิตภัณฑ์มวลรวมเมืองระหว่างก่อนและหลังที่วินนี่รับตำแหน่ง
นี่เป็นแผนระยะยาวของฉินสือโอว แต่ก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้ อย่างที่วินนี่บอก ขึ้นตำแหน่งใหม่ไฟกำลังแรง แต่ตอนนี้เธอกำลังขาดจุดเริ่มต้น
ฉินสือโอวก็คิดไว้แล้ว
ความคิดนี้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางทะเลเมื่อต้นปี เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ โตฟิโนจุดชมวาฬในเกาะเมืองแวนคูเวอร์เกิดอุบัติเหตุทางทะเลร้ายแรง เรือชมวาฬที่บรรทุกผู้โดยสารมา 27 คนอับปางลง ทำให้มีชาวอังกฤษห้าคนเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 22 คน
ในตอนนั้นออกข่าวกันดังไปทั่ว แต่เพราะวินนี่ใกล้คลอด ฉินสือโอวเลยไม่ได้สนใจเท่าไร แต่ตอนที่เขาดูข่าวก็สังเกตเห็นข้อมูลหนึ่ง
การท่องเที่ยวกำลังเฟื่องฟูในจังหวัดชายฝั่งทะเลทางฝั่งตะวันตกของแคนาดา สี่ปีที่ผ่านมารัฐบริติชโคลัมเบียจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาเกินหมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาทุกปี แต่ปีที่แล้วยิ่งกว่านี้อีก รายได้จากการท่องเที่ยวและอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องสูงถึง 15 พันล้านดอลลาร์!
ในหมู่การท่องเที่ยวของรัฐบริติชโคลัมเบีย การชมวาฬเป็นหนึ่งในรายการท่องเที่ยวหลัก ทุกปีจะดึงดูดคนรักวาฬมาร่วมกลุ่มชมวาฬได้ไม่น้อย
โตฟิโนที่เกิดอุบัติเหตุดังในด้านชมวาฬ เคยได้รับเลือกโดยนิตยสารTravel+Leisureให้เป็นสถานที่ชมปลาวาฬที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือในปี 2010
ฉินสือโอวจึงเกิดแรงบันดาลใจ การท่องเที่ยวของเมืองเริ่มไปถึงทางตัน ทำไมไม่ทำจุดชมวาฬสักที่ล่ะ?
ที่ไม่ได้ทำโครงการนี้เสียทีก็เพราะมีเพียงฉินสือโอวที่รู้ว่าฟาร์มปลาของตัวเองมีวาฬกี่ตัว ฉลามกี่ตัว โลมากี่ตัว
ในหมู่เจ้าพวกนี้ มีแค่วาฬที่โผล่เหนือน้ำบ่อยๆ แต่ส่วนมากพวกมันจะโผล่ขึ้นมาตอนกลางคืน คนในเมืองรู้ว่ามีพวกมัน แต่ไม่รู้ว่ามีอยู่เท่าไร
ฉินสือโอวรู้ เพราะนโยบายการคุ้มครองของเขา เขตน่านน้ำลึกของฟาร์มมีวาฬหลายชนิด จำนวนก็เยอะ อย่างวาฬเบลูกา วาฬหลังค่อม วาฬสีน้ำเงิน วาฬสีเทา วาฬฟิน เป็นต้น มีหมดทุกอย่าง ปีนี้ยังดึงดูดวาฬจมูกขวดและวาฬไรท์ที่มีจำนวนน้อยมาได้ด้วย
เขตทะเลฟาร์มปลาต้าฉินสามารถเปิดกิจการท่องเที่ยวชมวาฬได้เลย
แน่นอนว่าเวลาปกติวาฬพวกนี้จะอยู่ในทะเล ถ้าไม่ถึงเวลาหายใจก็จะไม่โผล่ขึ้นมา พูดถึงก็เศร้า นี่ไม่ใช่ธรรมชาติของวาฬ ที่จริงวาฬเป็นสัตว์ที่ชอบอาบแดดมาก
แต่เพราะการไล่ฆ่าของคน วาฬที่ไม่โง่ก็เรียนรู้ที่จะโผล่เหนือน้ำให้น้อยที่สุด ต่อให้จะโผล่ขึ้นน้ำก็ต้องเป็นกลางคืนไม่ใช่กลางวัน ตอนนี้วาฬก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม ต่อไปจำนวนครั้งที่คนจะได้เห็นวาฬโผล่เหนือน้ำก็จะน้อยลงเรื่อยๆ
ฉินสือโอวสามารถเปลี่ยนจุดนี้ได้ หัวใจโพไซดอนมีพลังอีกอย่าง นั่นก็คือออกคำสั่งกับสัตว์ทะเล ด้วยปัญญาของวาฬ ฉลาม และโลมา สามารถเข้าใจคำสั่งของเขาได้ง่ายๆ
สำหรับปัญหาความปลอดภัยของพวกวาฬกับฉลาม เขาจะจัดการเอง เขารู้ว่าการให้พวกวาฬและฉลามปรากฏตัวแบบโจ่งแจ้งจะดึงดูดสายตาพวกเรือจับวาฬ พวกเขาไม่กล้าลงมือในฟาร์มของฉินสือโอว แต่จะจับวาฬในเขตทะเลสาธารณะ
วาฬส่วนมากจะว่ายเป็นวงกว้างในมหาสมุทร พวกมันจะไม่หยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน ในหนึ่งปีจะวนจากเส้นศูนย์สูตรไปอาร์กติกรอบหนึ่ง แบบนี้ก็เลี่ยงการเข้าสู่ทะเลสาธารณะยาก เป็นการเปิดโอกาสให้เรือจับวาฬ
ฉินสือโอวไม่กลัว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาสามารถควบคุมเส้นทางเดินทางของวาฬ ต่อให้โดนจับขึ้นไปแล้วก็ยังมีคราเคนอยู่ไม่ใช่เหรอ?
เขาแกล้งทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ก็ปรบมือแล้วพูดว่า “คุณทำโครงการท่องเที่ยวได้นี่ ชมวาฬกลางทะเลเป็นไง?”
วินนี่พูดอย่างจนใจ “ก่อนอื่นจะต้องมีวาฬ…”
“มีสิ” ฉินสือโอวพูดต่อ “ตั้งแต่ปีที่แล้ว ฟาร์มเราก็มีวาฬ ฉลามมาเยอะแยะ คุณไม่รู้เหรอ? ปีนี้เยอะกว่าเดิมอีก ทุกครั้งที่ออกทะเลผมก็เห็นพวกมันจากเครื่องหาปลา”
วินนี่พูดด้วยความประหลาดใจ “จริงเหรอคะ? ฟาร์มปลามีวาฬกับฉลามเยอะเลย?”
ฉินสือโอวพยักหน้าว่า “แน่นอน คุณไปถามพวกชาวประมงดูก็ได้ พวกเขารู้หมด อีกอย่างเจ้าพวกนี้หลอกขึ้นมาง่ายจะตาย แค่เอาปลาซาร์ดีนไปด้วย ใช้เครื่องหาปลาหาแล้วปล่อยปลาซาร์ดีน พวกมันก็จะขึ้นมากินอาหาร”
วินนี่ดีใจ เข้าไปโอบกอดฉินสือโอวแล้วจูบเขาทีหนึ่ง ฉินสือโอวก็ดีใจ ตอนที่กำลังกอดเธออย่างหวานแหวว เถียนกวาที่กำลังเล่นกับเฟอเรทแบลคฟุตและแมวป่าก็ร้องเรียก ‘มะม๊า มะม๊า’ ขึ้นมา
วินนี่รีบเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาทันที เด็กน้อยยื่นปากออกมาจูบ จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอิ่มใจ
ฉินสือโอวก็ยื่นหน้าเข้าไปให้ลูกสาวจุ๊บ เสี่ยวเถียนกวายื่นมืออวบออกมาคว้าแก้มเข้าไว้แล้วหัวเราะคิกคักในขณะที่บีบดึงไปด้วย…
“ฟัค ฟัคยู” ฉินสือโอวเจ็บมาก เจ้าตัวน้อยนี่ตัวเล็กก็จริง แต่แรงเยอะมาก ปรากฏว่าพอเขาพูดออกไปก็ตระหนักได้ว่าซวยแล้ว วินนี่เบิกตาโพลงในทันที เขาเลยรีบเติมไปอีกคำหนึ่ง “มะม๊า!”
วินนี่โกรธมาก เธอพูดด้วยความไม่พอใจ “อย่าพูดคำหยาบ! อย่า! พูด! คำ! หยาบ!”
ฉินสือโอวพูดด้วยท่าทีน่าสงสาร “เปล่า ผมไม่ได้พูดคำหยาบ ผมแค่พูดถึงความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้นเอง”
วินนี่ “…”
ตกกลางคืนหลังกิจกรรมบนเตียงสิ้นสุดลง ฉินสือโอวก็ปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปสี่สาย เริ่มค้นหาวาฬและโลมา
หนึ่งในนั้นถูกส่งไปอ่าวโตเกียว ที่นั่นมีที่หนึ่งที่เรียกว่าอ่าวไทจิ มีชื่อเสียงมาก ทุกปีในเดือนกันยายนที่นี่ก็จะเริ่มเทศกาลล่าโลมาอันเสื่อมเสีย
ตั้งแต่ต้นปีที่แล้วฉินสือโอวก็จะไปวนบ้างตอนมีเวลา แล้วพาวาฬกับโลมาที่เข้าไปในอ่าวโตเกียวออกมา ปีนี้ก็ไม่ต่างกัน
ตอนนี้ห่างกับวันเริ่มเทศกาลล่าโลมาเพียงเดือนกว่าเท่านั้น ในอ่าวกักโลมาไว้มากมาย มีเป็นหลักร้อยตัว ในนั้นมีโลมาปากขวดที่ฉลาดเฉลียวด้วย
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนแล่นผ่านไปในอ่าวอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวเจอโลมาก็พาไปทันที แต่พอหาไปได้ครึ่งหนึ่ง บางสิ่งที่เจอก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมา
…………………………………………….