ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1267 ลูกมือแก้แค้น
ฉินสือโอวพิจารณาดูเจ้าแมลงตัวอ้วนลับๆ ล่อๆ พวกนี้อย่างละเอียด ตอนแรกเขานึกไม่ออก แต่จู่ๆ ก็นึกได้ว่า เจ้าพวกนี้คือหนอนเรือ
อย่านึกว่าชื่อหนอนฟังดูน่าขยะแขยง ที่จริงพวกมันไม่ใช่แมลง แต่เป็นหอยชนิดหนึ่ง เป็นญาติใกล้ๆ กับหอยตลับที่ท่านชายฉินชื่นชอบ และเป็นญาติห่างๆ ของเพรียงตีนเต่าที่เขารักมากกว่า
ดูจากภายนอกแล้ว พวกมันไม่ต่างจากหนอนพยาธิบางประเภท ถ้าใช้แว่นขยายมาส่องก็จะเห็นว่าที่จริงบนหัวของพวกมันมีเปลือกสีขาวที่ละเอียดมากๆ ค่อนข้างแข็ง พวกมันใช้เปลือกนี้ และขยับเคลื่อนตัวเปลี่ยนตัวเองเป็นสว่านจิ๋ว สุดท้ายก็มุดเข้าไปในไม้
หนอนเรือกินไม้เป็นอาหาร ตั้งแต่พวกมันเกิดก็จะเลือกไม้ท่อนหนึ่ง จากนั้นก็มุดเข้าไปกัดกินและย่อยสลายไม้จึงจะมีชีวิตต่อไปได้
บนบกมีสัตว์ที่กินไม้เป็นอาหารมากมาย แต่ในทะเลกลับมีน้อยมาก จนถึงวันนี้หนอนเรือก็ถูกพบว่าเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่กินไม้ แต่ก็เพราะเจ้าสิ่งเล็กๆ นี้ ความเสียหายในการขนส่งทางทะเลของโลกทุกปีจึงเกินหมื่นล้าน!
อย่างเช่นเมื่อตอนฤดูร้อนปี 2000 ท่าเรือสองสามที่ในรัฐเมนของอเมริกาเกิดถล่มขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เสาไม้โอ๊กที่ค้ำท่าเรือพวกนี้ยาว 9 เมตรกว่า หนา 25 เซนติเมตรกว่าๆ ดูจากภายนอกแล้วดูแข็งแกร่งมั่นคง แต่ข้างในโดนหนอนเรือกินจนพรุนไปหมดแล้ว
เรื่องที่คล้ายๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นที่แคนาดา ปี 1997 จู่ๆ ฐานหนึ่งของท่าเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ก็ถล่มลงมา คนหกคนตกลงไปในน้ำ หลังจากเรื่องนั้นทางตำรวจก็ตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ และพบว่าเป็นฝีมือของพวกหนอนเรือ
แบบนี้ฉินสือโอวก็ได้ไอเดีย ทำไมไม่เพาะเลี้ยงสุดยอดหนอนเรือมาให้พวกญี่ปุ่นแขยงกันสักหน่อยล่ะ?
เขามีความรู้เกี่ยวกับหนอนเรือไม่มาก แต่เคยเห็นโดยบังเอิญตอนที่กำลังพลิกหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ทะเล จึงรู้ว่านี่คือหนอนพยาธิที่ดุดันศัตรูของการประมง
ที่เขาว่าศัตรูของศัตรูคือเพื่อน คนขายเนื้อโลมาแถวอ่าวโตเกียวเป็นศัตรูของเขา หนอนเรือก็เป็นศัตรูของคนขายเนื้อโลมา แบบนี้พวกเขาก็เป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ?
ฉินสือโอวสาบาน หนอนเรือเป็นเพื่อนที่น่าแขยงที่สุดในชีวิตนี้ แต่ก็เป็นเพื่อนที่ช่วยเขาได้มากที่สุดในตอนนี้
เพียงแต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้ เขาก็ยังคงแปลกหน้าอยู่ จึงลุกขึ้นมาหาข้อมูล คิดวิธีจัดการคนขายเนื้อจากอ่าวพวกนี้ได้แล้ว ท่านชายฉินก็ตื่นเต้นไม่มีอะไรเทียบจนอดหัวเราะหึๆ ออกมาไม่ได้
วินนี่ตีเขาทีหนึ่งแล้วพูดอย่างเขินอายปนเคือง “ทำไมยังไม่นอนนิ่งๆ อีก? นอนลงไปดีๆ เพิ่งจะเริ่มนวดเองนะ…”
ฉินสือโอวยื่นมือไปเชยคางวินนี่ด้วยสีหน้าเย้าหยอก แล้วพูดแซว “สาวน้อย ลงไม้ลงมือทำไมกัน พี่อยากฟังดนตรี เป่าขลุ่ยให้ฟังหน่อยสิ!”
“ลูกอยู่นะ น่าเกลียด!” วินนี่คว้าบางอย่างแล้วโยนไปที่ฉินสือโอว เฟอเรทผู้พี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศน้ำตารื้นขึ้นมา ทำไมต้องเป็นฉันที่เจ็บตัวทุกที
ฉินสือโอวเปิดคอมพิวเตอร์หาข้อมูลดูก็พบว่าเพื่อนที่ดูเหมือนจะน่าขยะแขยงนี้ น่าขยะแขยงมากจริงๆ! อีกอย่างใช้พวกมันมาแก้แค้นช่างเหมาะสมเสียนี่กระไร พวกมันนี้เรียกได้ว่าเป็นมือดีในการแก้แค้น!
หนอนเรือกินไม้เป็นอาหาร หรือพูดได้ว่า พวกมันกินเซลลูโลสที่เป็นส่วนประกอบหลักของไม้เป็นอาหาร เซลลูโลสเป็นโพลิเมอร์โมเลกุลน้ำตาล อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย แต่สัตว์ทะเลอื่นไม่สามารถย่อยไม้ได้ เพราะร่างกายของพวกมันขาดสารอย่างหนึ่งก็คือ เซลลูเลส
เอนไซม์ชนิดนี้แกะโมเลกุลน้ำตาลที่ล็อกกันแน่น นี่คือเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้สัตว์บกสามารถย่อยสารอาหารในไม้ได้ ในหมู่สัตว์ทะเลมีเพียงแบคทีเรียบนตัวของหนอนเรือที่หลั่งสารเซลลูเลสได้ เพราะพวกมันมีความสามารถทางร่างกายที่ย่อยไม้ได้
แบบนี้ไม้ในสายตาของพวกมันก็กลายเป็นเค้ก กรุบๆๆๆ เรือไม้ลำหนึ่งก็จมแล้ว กรุบๆๆๆ อีก กรุบๆๆๆ เสาท่าเรือก็หักแล้ว กรุบๆๆๆ ต่อไป กรุบๆๆๆ ท่าเรือก็ถล่มแล้ว!
นอกจากนี้หนอนเรือเป็นผู้แก้แค้นที่เหมาะสมมาก พวกมันมีชีวิตได้เพียงแค่ในไม้ เมื่อก่อนสามารถล่องเรือไม้ไปทั่วโลก ตอนนี้มีเรือไม้ที่ไหน มีแต่เหล็กทั้งนั้น แบบนี้ต่อให้ฉินสือโอวสร้างหนอนเรือที่แกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีโอกาสได้ใช้
นอกจากใครจะเอาไม้ที่มีหนอนเรือไปที่ท่าเรืออื่นหรือว่าพลังโพไซดอนเปลี่ยนให้หนอนเรือสามารถกินเหล็กได้ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็ไม่สามารถไปจากอ่าวโตเกียวได้
คิดจะทำก็ทำเลย หลังจากที่ฉินสือโอวส่งพวกโลมาออกไปจากอ่าวโตเกียวแล้ว เขาก็รวมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่เข้าด้วยกัน แล้วพุ่งออกไปทั้งสี่ทิศเพื่อหาไม้แถวริมฝั่ง ในไม้พวกนั้นล้วนมีหนอนเรืออยู่
เพราะชนิดของไม้ไม่เหมือนกัน ชนิดของหนอนไม้ที่อยู่ข้างในและขนาดก็ต่างกัน ตัวเล็กยาวสองเซนติเมตรถึงสามเซนติเมตร ส่วนตัวใหญ่ยาวได้ถึงหนึ่งเมตร ตัวอ้วนได้ประมาณขนาดแขนของเด็กทารก อย่างกับงู!
ไม่ว่าจะชนิดไหน พอฉินสือโอวหาหนอนเรือเจอก็จะถ่ายพลังโพไซดอนเข้าไป คราวนี้เขาลงทุนมาก ไม่นึกถึงต้นทุนที่ต้องลงเลย ถ่ายได้เท่าไรก็ถ่ายออกไปหมด
จุดประสงค์ของเขาก็แค่ให้หนอนเรือพวกนี้โตไวๆ จากนั้นก็รีบขยายพันธุ์ให้ไวที่สุด ขอแค่พวกหนอนเรือสุดแกร่งขยายพันธุ์ งั้นต่อไปอ่าวโตเกียวจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นอ่าวโตเกียวเหล็กแล้ว
ตามข้อมูลที่ฉินสือโอวหามา ความสามารถในการขยายพันธุ์ของหนอนเรือเดิมทีก็แกร่งมากอยู่แล้ว พวกมันวางไข่เก่งมาก ทุกปีจะสามารถวางไข่ได้ประมาณห้าล้านฟอง
หลังจากที่ตัวอ่อนหนอนเรือฟักออกมา ตอนแรกจะเล็กมาก ใช้ตาเปล่ามองไม่เห็นจึงไม่มีทางรู้ได้ว่ามีพวกมันอยู่ จนตอนที่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ตัวอ่อนหนอนเรือก็มักจะกระจายไปทั่วแล้ว
หลังจากที่ตัวอ่อนว่ายในน้ำไปช่วงหนึ่ง พอเจอไม้ก็จะเข้าไปเกาะ ชีวิตพวกมันมีความสุขมาก ไม้สามารถเป็นทั้งอาหารและที่อยู่ จัดการทั้งสองอย่างได้ในคราวเดียว
ส่วนตัวอ่อนขอแค่เริ่มกินเซลลูโลสก็จะโตค่อนข้างไว ตามสถิติตัวอ่อนหนอนเรือในตอนนี้จะโตร้อยเท่าใน 16 วัน 36 วันโตได้พันเท่า โตไปประมาณเดือนหนึ่งก็จะถึงวัยเจริญพันธุ์ จากนั้นก็เริ่มวางไข่…
ยิ่งทำความเข้าใจ ฉินสือโอวยิ่งรู้สึกว่าเจ้านี้น่ากลัว
พวกเอเลี่ยน ไดโนเสาร์ ปรสิต เจอเจ้านี่เป็นต้องชิดซ้าย ขอแค่ขนาดร่างกายหนอนเรือขยายได้สิบเท่า ขอแค่พวกมันเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ วันสิ้นโลกก็ใกล้มาถึงแล้ว!
อีกอย่างต่อให้ต่อไปคนญี่ปุ่นพบหนอนเรือ พวกเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ เจ้านี่จัดการยาก
ก่อนอื่นพวกมันแฝงอยู่ในไม้ ถ้าอยากจะทำลายพวกมันให้สิ้นซากก็ต้องทำลายไม้รอบข้างนี้ให้หมด แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ?
ที่จริงแล้ว ตัวอ่อนหนอนเรืออึดมาก วิธีทั่วไปไม่สามารถฆ่าพวกมันให้ตายได้ ใช้ไฟเผา? ไม่ได้ หนอนเรืออยู่ในไม้ ถ้าจุดไฟไม้ก็ไปด้วย แช่แข็ง? ได้ แต่จะแช่แข็งท่าเรือไม้ด้วยอุณหภูมิต่ำได้อย่างไรล่ะ?
ต่อให้ใช้เคมีมารับมือก็ยาก ไม้กลายเป็นเกราะปกป้องพวกมัน ถ้าอยากจะทำอะไรหนอนเรือข้างในก็ยากมาก
ตอนนี้วิธีที่ใช้ทั่วไปก็คือการใช้ความดันสูงเพื่ออัดสารเคมีเข้าไปในไม้ ในน้ำทะเล สารเคมีพวกนี้จะค่อยๆ กระจายออกไปแล้วฆ่าหนอนเรือ
แต่แค่ดูก็รู้ว่าการจะใช้วิธีนี้มารับมือหนอนเรือแพงขนาดไหน!
และวิธีการทางเคมีในการกำจัดหนอนเรือยังไม่ใช่ต้นทุนหลัก!
…………………………………………………….