ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 129 การต่อสู้เพื่อผลงานปะการังชิ้นสำคัญ
ฉินสือโอวเลือกใช้การจ่ายเงินเพื่อขอรับคำปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญที่นั่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เพียงไม่นานก็ส่งข้อมูลที่เขาต้องการกลับมา
ข้อมูลทั้งหมดล้วนแต่เป็นภาษาอังกฤษ ด้านบนมีคำศัพท์เฉพาะทางอยู่เยอะมาก ฉินสือโอวเห็นว่าเปลืองแรงเปล่า จึงเรียกชาร์ค นีลเซ็นและซีมอนสเตอร์เข้ามาหา คนหนึ่งกลุ่มช่วยกันค้นคว้า ปรากฏว่าค้นคว้าไปค้นคว้ามา สุดท้ายไม่เห็นจะค้นคว้าเจออะไร
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉินสือโอวก็พาพวกคนที่กล้ามเนื้อพัฒนามากกว่าสมองกลุ่มนี้มาค้นคว้าข้อมูลพวกนี้
ค้นคว้าอยู่หลายวัน ก็นับว่ามีความรู้ขึ้นมาบ้างแล้ว
จะว่าไปแล้ว ระบบ MARS ก็เหมือนกับการต่อของเล่นเลโก้ ตัวต่อหลายอันที่นำมายึดติดกัน สร้างที่อยู่อาศัยของปะการังเทียมขึ้นมา
พวกเรารู้ว่า โดยทั่วไปแล้วปะการังถูกสร้างขึ้นมาจากตัวอ่อนปะการังที่อุดมไปด้วยแคลเซียม จากซากของต้นอ่อนปะการังสู่ที่อยู่อาศัยในอุดมคติ ปกติแล้วต้องรอเวลาให้ผ่านไปหลายร้อยปี
ทว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มลภาวะและการล่าปลาที่มากเกินความเหมาะสม ทำให้แนวปะการังถูกคุกคามอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ พายุขนาดใหญ่และวิธีการการจับปลาโดยใช้ระเบิดหรือการตกปลาที่ทำให้เกิดการทำลายล้าง จะทำลายปะการังภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งโครงสร้างที่มีชีวิตเหลือรอดก็ไม่เหมาะสมพอที่จะก่อตัวเป็นปะการังสำหรับการมีชีวิตรอดของสัตว์ อย่างเช่นต้นอ่อนปะการังและฟองน้ำทะเล
ระบบ MARS สามารถลดเวลาในการก่อตัวได้อย่างมาก เนื่องจากหนึ่งในประโยชน์ของระบบนี้คือสามารถซ่อมแซมปะการังส่วนที่ถูกทำลายได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความรวดเร็วให้กับกระบวนการฟื้นคืนได้ดีอย่างยิ่ง เอาเซรามิกที่กลวงขนมาไว้ตรงที่ที่ต้องการจะติดตั้งก่อน จากนั้นใช้ทรายกับหินและคอนกรีตเสริมเหล็กมาเติมเข้าไปข้างใน
ต้องรู้ว่า โมเดลบล็อกของ MARS สามารถก่อตัวเป็นโครงข่ายที่ซับซ้อนได้ โครงข่ายนี้สามารถเปลี่ยนแปลงกระแสน้ำ ทำให้อนุภาคอาหารหยุดอยู่ที่บริเวณรอบๆนั้น และยังให้ที่อยู่คุ้มครองสำหรับสัตว์น้ำขนาดเล็กอีกด้วย
ต้นอ่อนปะการังจะติดอยู่กับตัวต่อของ MARS การแพร่พันธุ์หนึ่งชั้นจะ สามารถเปลี่ยนเป็นปะการังได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ปะการังก็จะดึงดูดการมาของสัตว์น้ำได้มากยิ่งขึ้น จนประกอบขึ้นเป็นวงจรลักษณะบวก
เมื่อเข้าใจการวิจัยนี้แล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่มีประโยชน์อย่างมาก สิ่งสำคัญที่ใช้ก่อสร้างระบบ MARS ก็คือคอนกรีตเสริมเหล็กที่ต้นอ่อนปะการังเกลียด แต่พื้นผิวภายนอกของคอนกรีตพวกนี้จะถูกปกคลุมด้วยแผ่นเซรามิกที่มีลายเส้นแบบเฉพาะ ลายเส้นบนพื้นผิวของแผ่นเซรามิกมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก สามารถเก็บรักษาอนุภาคอาหารในน้ำไว้ได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แผ่นเซรามิกพวกนี้เป็นของที่ต้องทำขึ้นเป็นพิเศษ มีเศษซากของปะการังรวมอยู่ในวัสดุ เพื่อเพิ่มความเข้ากันได้ให้กับต้นอ่อนปะการัง
ตามสถิติของการทดสอบที่แนบมากับข้อมูล วัสดุแบบใหม่นี้มีแรงดึงดูดต่อต้นอ่อนปะการังเป็นอย่างมาก ความเข้ากันได้ของต้นอ่อนปะการังกับคอนกรีตเสริมเหล็กเพียงอย่างเดียวที่มีรูปทรงเดียวกันมีมากกว่า 55 เท่า มากกว่าก้อนหิน 28 เท่า มากกว่าวัสดุที่ทำมาจากเหล็กกล้าอยู่ 22 เท่า และมากกว่าไม้อยู่ 15 เท่า!
ฉินสือโอวหาเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่อประสานงานต่างประเทศของคณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพและวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยซิดนีย์ เขาสอบถามไปหลายแนวคิด ต้องบอกก่อนว่าแนวคิดพวกนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เป็นเพียงหัวข้อวิทยานิพนธ์กลุ่มเพื่อจบการศึกษาเท่านั้น
นี่ทำให้เขารู้สึกท้อแท้ และที่ทำให้ยิ่งรู้สึกหมดหวังก็คือเจ้าหน้าที่ติดประสานงานคนนั้นบอกกับเขาอย่างไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลยว่า แนวคิดนี้มันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่มีรัฐบาลของประเทศไหน จะทุ่มเงินและแรงงานจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและแผ่นเซรามิกที่ผนึกเข้าด้วยกันพวกนี้
แต่นี่เป็นแผนงานสร้างขยายแนวปะการังที่สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์จริงที่สุดที่เขาหาเจอ เหมาะสมยิ่งกว่าการใช้เรือไม้เสียอีก
“ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องลองดูก่อน” ฉินสือโอวตัดสินใจแน่วแน่ ไม่สามารถเอาแต่ฟังคำพูดของผู้เชี่ยวชาญได้ เชื่อทุกอย่างในหนังสือแย่ยิ่งกว่าไม่มีหนังสือ คำพูดของบรรพบุรุษย่อมต้องมีเหตุผลแน่นอน
ไม่ทันไร เวลาก็ผ่านมาจนถึงวันศุกร์แล้ว ในตอนเที่ยงเด็กๆทั้งสี่คนก็วิ่งกลับมา
ฉินสือโอวเห็นพวกเขาเข้ามาในบ้านแล้ว ก็ถามด้วยความตื่นเต้นว่า “เฮ้ พวกเธอโดดเรียนกันเหรอ?”
ตอนเป็นเด็กฉินสือโอวก็เคยโดดเรียน แต่กลับถูกพ่อตีไปที รสชาติของเข็มขัดหนังที่ฟาดกับเนื้อจนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังจำได้อยู่ ในที่สุดก็มาถึงวันที่เขามีอำนาจบ้างแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกันล่ะ?
“โน วันจันทร์หน้าพวกเราจะมีกิจกรรม วันนี้ก็เลยได้เลิกเรียนเร็วค่ะ” ใบหน้าเล็กๆ ของเชอร์ลี่ย์มีความกังวลอยู่เล็กน้อย เด็กๆอีกสามคนที่เหลือก็เช่นกัน
ฉินสือโอวก็ถามพวกเขาว่า “มีกิจกรรมอะไร ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิ ทำไมพวกเธอถึงดูไม่ค่อยจะมีความสุขเลยล่ะ?”
พาวลิสที่เข้มแข็งอยู่เสมอก็ซึมเศร้าขึ้นมาเหมือนกัน เขาตอบฉินสือโอวไปว่า “ที่โรงเรียนของพวกเรา วันจันทร์หน้าจะต้องทำกิจกรรมการจำลอง นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งถึงปีที่หกต้องเข้าร่วมทุกคน ต้องทำตลาดนัดจำลอง พวกเราทุกคนต้องเป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่ว่าพวกเราจะขายอะไรกันดีล่ะ?”
วันจันทร์หน้าก็คือวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งก็คือวันเด็กนานาชาติ เด็กประถมของแกรนท์จะจัดกิจกรรมขึ้นในวันนั้นของทุกๆปี กิจกรรมของปีนี้คือตลาดนัดจำลอง
กิจกรรมการจำลองแบบนี้พบได้บ่อยมากในแคนาดา ทำนองเดียวกันกับกิจกรรมเลียนแบบสหประชาชาติ มีจุดหมายเพื่อฝึกฝนการเข้าสังคมและการเอาตัวรอดให้กับเด็กๆ ขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กๆได้มีการสื่อสารระหว่างกันมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้วการจัดกิจกรรมตลาดจำลองแบบนี้ เด็กจะเอาพวกของเล่นที่ไม่ชอบ เสื้อผ้าตัวเก่าหรือของที่ไม่ได้ใช้จากที่บ้านมาขาย มาแลกเปลี่ยนรายได้ระหว่างกัน
เกมนี้มีกฎอยู่หนึ่งข้อ คือเด็กๆทุกคนต้องเป็นคนขาย ในตอนเริ่มต้นพวกเขาจะยังไม่มีเงินทุน เงินทุนจะมีที่มาจากข้างนอก เมื่อถึงเวลานั้นผู้ปกครองของเด็กๆจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม ให้เหล่าผู้ปกครองเป็นคนควักเงินซื้อของ เมื่อเงินพวกนี้เข้ามาสู่ตลาดก็จะกลายเป็นทุนหมุนเวียน
แต่พาวลิสและเด็กๆทั้งสี่คนไม่เหมือนกัน พวกเขาไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ตั้งแต่เล็กจนโตพวกเขาค่อยๆสะสมของเล่นและเสื้อผ้าทีละเล็กทีละน้อยจนได้หลายอัน เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจึงเท่ากับว่าพวกเขาขาดแคลนสินค้า
ฉินสือโอวพูดกับพวกเขายิ้มๆว่า “นี่มันง่ายนิดเดียว สุดสัปดาห์เราก็เข้าไปนครเซนต์จอห์นแล้วซื้อมาเยอะๆเลย แล้วพวกเธอค่อยเอาไปขายที่โรงเรียน ที่ประเทศจีนของฉันก็มีพ่อค้าแบบนี้อยู่ เรียกว่าพ่อค้าช่องทางที่สอง (พ่อค้าที่ได้กำไรจากการซื้อของถูกมาขายในราคาที่แพงกว่า)
ชาร์คส่ายหัวเตือนเขาว่า “อย่าทำแบบนั้นเลย บอส กิจกรรมนี้มีไว้เพื่อฝึกฝนความสามารถของเด็กๆ ถ้าคุณทำแบบนั้น ก็มีแต่จะทำให้พวกเขาเข้าหน้ากับเด็กๆคนอื่นไม่ได้”
เมื่อเป็นเช่นนี้ฉินสือโอวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาจึงถามชาร์คกับซีมอนสเตอร์ถึงคำถามที่เกี่ยวกับกิจกรรม ที่แท้กิจกรรมพวกนี้ก็มีความสำคัญกับนักเรียนมาก ทุกครั้งผู้ชนะในกิจกรรมการจำลองแบบนี้ จะกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลในโรงเรียน เหมือนกับนักกีฬาคนดังที่ได้รับการจับจ้อง
นอกจากนี้ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้ว สินค้าของผู้ชนะการขายของกิจกรรมไม่ใช่ของที่ทำสำเร็จรูป แต่มักจะเป็นของชิ้นเล็กๆที่ DIY ขึ้นเอง เป็นงานศิลปะทำมือที่สามารถดึงดูดเงินทุนก้อนแรกจากผู้ใหญ่ได้
ฉินสือโอวลองคิดๆดู เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันจะตั้งใจแล้ว เด็กๆ พวกเธอจะทำตลาดนัดจำลองใช่ไหม? ที่ตลาดนัดก็มักจะมีอาหารขายใช่ไหมล่ะ? มา สุดสัปดาห์นี้ฉันจะสอนให้พวกเธอทำสินค้าอาหารขึ้นชื่อของจีนเอง พอถึงเวลานั้นก็ไปถล่มยอดขายที่โรงเรียนเลย!”
เขาคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ ก็คือการสอนให้เด็กๆหัดทำเกี๊ยว งานนี้ค่อนข้างง่าย ก่อนอื่นต้องทำแป้งและไส้ของเกี๊ยวให้เรียบร้อยก่อน เมื่อถึงเวลาก็ให้เด็กๆรับหน้าที่ห่อเกี๊ยวกับต้มเกี๊ยว
สำหรับไส้ของเกี๊ยว เขาคิดว่าจะเตรียมไส้เกี๊ยวไว้สี่ไส้ ไส้ที่มีเนื้อสัตว์สองอัน กับไส้ที่มีแต่ผักสองอัน ไส้ที่มีเนื้อจะทำเป็นเกี๊ยวไส้เนื้อวัว กับเกี๊ยวไส้ปลา ส่วนเกี๊ยวไส้ผักจะเป็นเกี๊ยวไส้ผักโขมและเกี๊ยวไส้ผักกะหล่ำปลีกับไข่ไก่
ในเช้าวันเสาร์ เขาเอาแป้งรวมกับไข่ขาวแล้วใส่ลงไปในหม้อนึ่ง จากนั้นนำปลาคาร์ฟ ปลาเฉาฮื้อ ปลาซ่งที่อยู่ในตู้เย็นมาต้มน้ำใส รอจนปลาสุก แล้วจึงนำก้างปลาออก นำเนื้อปลาที่เก็บไว้มาสับพร้อมกับต้นหอม ขิง กระเทียมและผักชี
ไส้เนื้อทำได้ง่าย ถ้าซื้อเนื้อวัวจากตลาดจะสามารถให้เขาช่วยบดให้ละเอียดได้ เกี๊ยวไส้ผักที่เหลือก็ทำได้ง่ายมาก ชาร์คและซีมอนสเตอร์รับหน้าที่หั่นผักโขมกับกะหล่ำปลีให้มีชิ้นเล็กๆ
ที่จริงแล้วฉินสือโอวอยากจะทำเกี๊ยวไส้ผักกุ้ยช่ายไข่ ทานคู่กับกุ้งแห้งของนิวฟันด์แลนด์ รสชาติต้องออกมาสมบูรณ์แบบแน่นอน
น่าเสียดายที่กุ้ยช่ายยังไม่โตเต็มที่ นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าชาวแคนาดาอาจจะไม่คุ้นกับรสชาติของผักกุ้ยช่าย ดังนั้นเขาจึงใช้กะหล่ำปลีที่ชาวยุโรปและอเมริกาชอบมากกว่าแทน
ฉินสือโอวนำเอาก้อนแป้งที่ม้วนเสร็จแล้วออกมา หั่นออกหนึ่งชิ้นแล้วรีบนวดให้เป็นรูปทรงกระบอก ใช้มีดหั่นขึ้นลงอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ หั่นจนเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นจึงนำไม้นวดแป้งที่ทำไว้แล้วเมื่อคืนมานวดแป้งให้เนียน เขาทำอาหารพร้อมกับสอนเด็กๆไปด้วย
“ดูนะ ใช้มือคลึงมันให้แผ่นแบนๆ เหมือนจานบินเลยใช่ไหม? ฮ่าฮ่า จากนั้นใช้ไม้กระบองกลมๆหมุนมันสักหน่อย ให้มันแบนกว่าเดิม ระวังเรื่องรูปทรงของแผ่นแป้งด้วยนะ ต้องเป็นรูปวงกลมถึงจะดี”
“นอกจากนี้พวกเธอต้องระวัง เกี๊ยวที่ดีตรงกลางจะหนาส่วนตรงขอบจะบาง ตรงกลางจะหนาเพื่อป้องกันไม่ให้ไส้ไหลออกมา ตรงขอบบางเวลากินลงไปแล้วจะให้รสสัมผัสที่ดี”
เด็กๆทั้งสี่คนจ้องมองตาไม่กะพริบ ขั้นตอนที่ต้องใช้ความตั้งใจพวกนั้น ฉินสือโอวเคยเห็นมาจากตอนที่ดูหนังโรแมนติกแอคชั่นของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกก็เท่านั้น
……………………………………………………….