ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1290 การเจรจาธุรกิจประสบผลสำเร็จ
วินนี่พูดความคิดของเธอออกมา ฉินสือโอวฉุกคิดขึ้นมาได้ในฉับพลัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความต้องการในการขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวในเมือง
หลังฟังคำพูดของวินนี่แล้ว พอลลี่กลับไม่ได้แปลกใจมากนัก เขาหัวเราะขืนๆ ออกมาทีหนึ่ง แล้วถามว่า “คุณนายฉิน คุณแน่ใจว่าเรื่องนี้สามารถทำได้ไหมครับ? ผมไม่ได้อยากจะกดดันคุณนะครับ แต่ผมหวังว่าคุณควรเช็กดูก่อนว่าเซนต์จอห์นอนุญาตให้ใช้รถม้านำเที่ยวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหรือเปล่านะครับ”
เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ พอลลี่จึงอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยติดต่อกับบริษัทท่องเที่ยวมาบ้าง เพื่อจะถามพวกเขาว่าต้องการที่จะใช้ม้าในการท่องเที่ยวบ้างไหม แต่พวกเขาล้วนไม่ต้องการ ตอนนี้มีหลายเมืองที่ได้ยกเลิกโปรแกรมรถม้าชมเมืองไปแล้วครับ”
“เพราะอะไรครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความสงสัย
พอลลี่ตอบอย่างลำบากใจว่า “เพราะสมาคมคุ้มครองและป้องกันการทุณสัตว์ของแต่ละเมืองเห็นว่า การบังคับให้ม้าลากคนเพื่อการท่องเที่ยวนั้นไร้มนุษยธรรม การกระทำแบบนี้ควรที่จะถูกยกเลิกไป!”
เหมาเหว่ยหลงตาโตขึ้นมาแล้วพูดว่า “ชิท มีเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ? งั้นแล้วทำไมไม่ยกเลิกโปรแกรมแข่งม้าล่ะครับ อัตราการตายของม้าพันธุ์เธอร์รัพเบรตในแต่ละปีไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งร้อยตัวใช่ไหม?”
พอลลี่ปัดมือ แล้วบอกว่าจะมีใครสนใจกัน? อย่างไรเสียตอนนี้ในทุกๆ ที่ต่างก็พากันยกเลิกโปรแกรมรถม้าชมเมืองกันหมดแล้ว
ฉินสือโอวลองค้นดูในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่ามีเรื่องนี้จริงๆ ด้วย และปีที่แล้วนี่เองก็มีเรื่องการคัดค้านแนวนี้เกิดขึ้นมา เรื่องเกิดจากเหตุการณ์สองเรื่องที่เกิดในฤดูร้อนของปีที่แล้ว มอนทรีออลและแวนคูเวอร์ต่างก็มีม้าตัวหนึ่งที่เกิดล้มเสียชีวิตขณะกำลังลากผู้โดยสารอยู่ หลังจากสัตวแพทย์มาตรวจแล้วคาดว่าสาเหตุเกิดจากความเหนื่อยล้า
จากนั้นทางสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ของมอนทรีออลจึงทำการสืบสวนเรื่องนี้ แล้วพบว่าม้าที่ใช้ในโปรแกรมการท่องเที่ยวนั้นมักจะทำการลากผู้โดยสารอาทิตย์ละเจ็ดวัน และทำงาน 9 ชั่วโมงต่อวันทุกวัน ในฤดูร้อนต้องทนกับอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าว ฤดูหนาวก็ต้องทนกับความหนาวเย็น แล้วยังต้องเผชิญกับไอเสียและเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์อีก
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทางสมาคมคุ้มครองและปกป้องการทารุณสัตว์ของทุกที่จึงเริ่มออกโรงกัน พวกเขาคิดว่าม้าพวกนี้ถูกบังคับให้ใช้แรงงานในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด อยู่กับเสียงดังเอะอะตลอด และเพราะพวกมันเดินอยู่บนถนนพื้นยางมะตอยเป็นเวลานาน ทำให้กีบเท้าได้รับความเสียหาย และหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้วก็ยังถูกล่ามไว้กับที่ จนแทบไม่สามารถขยับตัวได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมเป็นอย่างมาก
ในอเมริกาเหนือ มีสมาคมท้องถิ่นอยู่สองแห่งที่เก่งกาจเอามากๆ หนึ่งก็คือสมาคมปกป้องเยาวชนและสตรี ส่วนอีกหนึ่งสมาคมก็คือสมาคมปกป้องสัตว์
การต่อต้านโปรแกรมรถม้าชมเมืองนี้ได้เข้าไปถึงหูของนายกเทศมนตรีของมอนทรีออล เดนนิส เคอร์เดลล์ เขาให้สัญญาว่าจะทำการออกข้อบังคับใช้ให้กับอุตสาหกรรมรถม้าโดยเฉพาะ ก็คือจะทำการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์การไม่แสวงหาผลกำไรมาให้คำแนะนำว่าจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมของม้าให้ดีขึ้นอย่างไร เพื่อที่ทางสภานายกเทศมนตรีจะนำไปใช้ในการเพิ่มข้อบังคับนี้
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคือหนึ่งในรายได้หลักของมอนทรีออล จุดขายของพวกเขาก็คือการมาสัมผัสกับกลิ่นอายเมืองเก่า และแต่ไหนแต่ไรรถม้าชมเมืองก็เป็นโปรแกรมหลักของที่นี่มาโดยตลอด ทางรัฐบาลไม่สามารถยกเลิกอย่างง่ายดายได้ จึงทำการปรับปรุงเรื่องนี้แทน
สำหรับเมืองอื่นๆ แล้ว รถม้าชมเมืองนั้นไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไร ดังนั้นจึงทำการยกเลิกโปรแกรมนี้ไปในทันที ทำเอาม้าจำนวนมากถูกส่งเข้าไปในตลาดรอง
ตอนที่รัฐบาลของเมืองแฟร์เวลตัดสินใจแบบนี้ไม่ได้มีการตรวจเช็กกฎข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การตัดสินใจของพวกเขาในเรื่องนี้ไม่ได้ผ่านการคิดจากสมองเลย พวกเขาคิดเพียงแค่ว่าโปรแกรมนี้สามารถทำกำไรได้แค่นั้น
ตอนนี้พอได้พอลลี่พูดเตือนแล้ว วินนี่จึงรีบโทรศัพท์หากรมการท่องเที่ยวของเมืองเซนต์จอห์น เพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
จากจุดนี้แล้ว มองออกว่าพอลลี่เป็นคนซื่อสัตย์คนหนึ่ง เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดเรื่องพวกนี้เลย เพราะพูดออกมาแล้วอาจส่งผลให้การมาเจรจาในครั้งนี้ไม่สำเร็จก็ได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงพูดออกมา การประพฤติตัวดีแบบนี้ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกชื่นชมมาก
วินนี่วางสายแล้วก็พูดว่า “ไม่มีปัญหาค่ะ กรมการท่องเที่ยวของเซนต์จอห์นไม่ได้มีการวางแผนพัฒนาโปรแกรมม้าลาก ทำให้ไม่มีข้อบังคับในด้านนี้ เมืองแฟร์เวลสามารถทำได้ค่ะ”
พอลลี่ดีใจสุดขีด พูดว่า “งั้นนี่ก็หมายความว่าพวกคุณสามารถทำการซื้อม้าของผมได้แล้ว ใช่ไหมครับ?”
วินนี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ และจำนวนที่พวกเราต้องการก็ค่อนข้างมากด้วย หากคุณเตรียมที่จะมาขายม้า 8 ตัวแล้วล่ะก็ งั้นเมืองของเราก็รับไว้ได้ทั้งหมดค่ะ”
เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำให้รายรับของการคลังของเมืองแฟร์เวลเพิ่มขึ้นอย่างมาก การจะซื้อม้าไม่กี่ตัวนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย
พอลลี่พาวินนี่กลับไปดูม้าเลยในทันที เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉินสือโอว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปด้วย จึงรออยู่ที่นี่กับเหมาเหว่ยหลง ดื่มเครื่องดื่มและคุยกับเขาแทน
ตอนวินนี่กลับมาได้นำผ้าพันคอคาวบอยมาด้วยสองผืน เหมาเหว่ยหลงยิ้มแล้วพูดว่า “ตกลงธุรกิจกันได้แล้วเหรอครับ?”
ฉินสือโอวถามว่า “ทำไมแกถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
เหมาเหว่ยหลงชี้ไปที่ผ้าพันคอคาวบอยในมือของวินนี่แล้วพูดว่า “ดูนั่นสิ นี่เป็นของที่พอลลี่ให้เธอมา ในการเจรจาธุรกิจของฟาร์มม้าในชนบท หากว่าทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมงานกันแล้ว ผู้ขายก็จะมอบผ้าพันคอคาวบอยให้เป็นของขวัญ”
อย่านึกว่าผ้าพันคอคาวบอยเป็นแค่ของธรรมดาเชียว ความจริงแล้วเจ้าสิ่งนี้เป็นถึงหนึ่งในเอกลักษณ์ของการแต่งตัวแบบคาวบอยเลย สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และยังเป็นตัวแทนของหลายๆ ความหมายอีกด้วย
อย่างเช่น ผ้าพันคอคาวบอยสามารถนำมาเช็ดเหงื่อได้ สามารถนำมากรองน้ำเพื่อดื่มได้ และยังสามารถใช้มาปิดจมูกเพื่อกันฝุ่นละออง แถมยังสามารถนำมาใช้เป็นผ้าพันแผลในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อีกด้วย
เมื่อก่อนพวกคาวบอยจะต้องต้อนสัตว์ไปกินหญ้าต่างถิ่นบ่อยๆ ผ้าพันคอคาวบอยสามารถช่วยเหลือในการใช้ชีวิตได้มากมาย เป็นผู้ช่วยในการดำเนินชีวิตของคาวบอย มีคาวบอยหลายคนที่หลังจากเสียชีวิตแล้วผู้คนจะนำผ้าพันคอที่เขาชอบมากขณะยังมีชีวิตไปคลุมไว้บนหน้า เพื่อให้การเดินทางในดินแดนที่เปล่าเปลี่ยวของเขานั้นยังคงมีเพื่อนที่ซื่อสัตย์คนหนึ่งอยู่ด้วย
วินนี่ให้ฉินสือโอวผืนหนึ่ง บอกว่านี่เป็นของขวัญเล็กน้อยที่พอลลี่ให้พวกเขา ฉินสือโอวถามว่า “ตกลงธุรกิจกันได้แล้วเหรอ? คุณไม่ต้องกลับไปหารือกับพวกฮานี่ย์ก่อนเหรอ?”
วินนี่บอกว่า “ฉันเป็นนายกเทศมนตรี อำนาจเล็กน้อยแบบนี้ฉันยังมีอยู่ค่ะ แน่นอนว่า ความจริงการเจรจาของเราครั้งนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ตอนนี้ก็แค่เลือกม้าให้เสร็จ ตกลงราคากัน กลับไปก็ยังต้องหาสัตวแพทย์มาตรวจเช็กอีก หลังจากแน่ใจแล้วว่าม้าพวกนี้ไม่มีปัญหาสุขภาพจึงจะถือว่าการเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้นค่ะ”
ฉินสือโอวถามด้วยความสงสัยว่า “ม้าตัวละเท่าไรครับ?”
วินนี่ยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นราคาส่งค่ะ ม้าทั้งแปดตัวราคาประมาณสองหมื่นห้าพันเหรียญค่ะ”
เหมาเหว่ยหลงพยักหน้า แล้วพูดว่า “ราคานี้ค่อนข้างสมเหตุสมผล ปีก่อนฉันไปสืบมาแล้ว ม้าควอเตอร์ชั้นดีตัวหนึ่งราคาอยู่ที่ระหว่างสามพันสี่ร้อยถึงสี่พันดอลลาร์แคนาดา แค่เวลาครึ่งปีกว่าราคาลดลงไปขนาดนี้เลย”
ตกดึกพอลลี่ได้เชิญพวกฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงไปที่เป็นแขกที่ฟาร์มของตัวเอง บอกว่าเขาได้ฆ่าวัวตัวเล็กตัวหนึ่งเพื่อต้อนรับพวกเขาโดยเฉพาะ จึงเชิญให้ฉินสือโอวและวินนี่ไปลิ้มรสเนื้อวัวตัวเล็กแฮมิลตันแบบต้นตำรับที่สุด
จริงตามนั้น เนื้อวัวที่พอลลี่เลี้ยงเองนั้นดีจริงๆ ด้วย เนื้อนุ่มลื่นน้ำก็เยอะ ปกติฉินสือโอวกินสเต๊กเนื้อวัวได้มากสุดแค่ครึ่งชั่งเท่านั้นก็เลี่ยนแล้ว แต่ครั้งนี้ทั้งสเต๊กทั้งเนื้อตุ๋น ถึงกับกินไปสองจานใหญ่ คาดว่าน่าจะเกินกว่าหนึ่งชั่งครึ่งเสียด้วย
เสี่ยวเถียนกวาก็เริ่มกินเนื้อได้แล้ว คุณนายพอลลี่ทำเนื้อตุ๋นให้เธอ ข้างในใส่น้ำผึ้งลงไป หอมหวานอบอวลมาก
ฉินสือโอวรู้สึกว่าลูกสาวอายุยังน้อย เริ่มกินเนื้อเร็วเกินไป ควรกินพวกผักผลไม้จะดีกว่า คุณนายพอลลี่บอกว่าไม่มีปัญหา เนื้อตุ๋นของพวกเขาย่อยง่าย เด็กอายุสี่เดือนก็สามารถกินได้แล้ว
จริงตามนั้น วินนี่ป้อนให้เสี่ยวเถียนกวาลองชิมก่อน ยัยตัวน้อยแจ๊บปากไปมาทานอย่างเอร็ดอร่อย เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้ได้เข้าสู่วัยที่กินเนื้อได้แล้ว
พวกเขาอยู่เที่ยวกันที่ฟาร์มของเหมาเหว่ยหลงต่ออีกสองวัน เช้าวันจันทร์จึงจะนั่งเครื่องบินกลับกัน เหมาเหว่ยหลงรู้สึกยังไม่พอใจ เขาบอกว่าการมาหาครั้งนี้ยังไม่ค่อยเต็มที่ ครั้งหน้าต้องหาวันหยุดมาเที่ยวกันให้เต็มที่กว่านี้
การมาเที่ยวในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจแบบปุบปับของฉินสือโอว วินนี่ต้องทำงาน เขาเองก็มีงานต้องทำ เรือของบัตเลอร์ได้เข้าสู่น่านน้ำแคนาดาแล้ว อีกไม่นานโลมาพิการสี่สิบกว่าตัวนั้นก็จะมาถึงแล้ว
……………………………………………………….