ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1301 เหล่านักล่ารางวัล
เอริก้าแกะถุงอาหารสุนัขอีกสองถุงป้อนให้ฉงต้า มันกินอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมส่งเสียงร้องอาวๆ เพื่อเรียกเพื่อนสนิทต้าป๋ายมากินข้าวด้วยกัน ต้าป๋ายค่อยๆ เดินมาอย่างช้าๆ กินไปสองคำก็หยุดกิน แล้วมองดูฉงต้ากินแทน
ช่างภาพถ่ายภาพไว้ภาพหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างสงสัยแล้วพูดว่า “สายตาของกระรอกตัวนี้แปลกจัง”
ฉินสือโอวลูบหัวเบาๆ เขารู้ว่านั่นเป็นสายตาอะไร สายตาของต้าป๋ายคือสายตาแห่งความเมตตานั่นเอง
ท่าทีที่ฉงต้ามีต่ออาหารสุนัขทำให้พวกของเอริก้าดีใจเป็นอย่างมาก น่าเสียดายดีใจไปก็ไม่มีประโยชน์ที่จะถ่ายโฆษณาคือหู่จือกับเป้าจือ ไม่ใช่ฉงต้า แต่หู่จือกับเป้าจือกลับไม่มีความสนใจในอาหารสุนัขเลยสักนิด
ผู้กำกับผมหางม้าเป็นคนที่มีประสบการณ์มากมาย เขาเริ่มสั่งการให้เอริก้าไปเตรียมอาหารสุนัขของยี่ห้ออื่นมาก่อน เพราะว่ามีโฆษณาอันหนึ่งจะถ่ายแบบการเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นการถ่ายแบบดั้งเดิม ก็คือถ่ายให้เห็นว่าหู่จือกับเป้าจือไม่ชอบกินอาหารของยี่ห้ออื่น ชอบกินแต่ของยี่ห้อแอนนาแมร์เท่านั้น
จุดนี้ง่าย แล้วก็มีคนเอาอาหารสุนัขไปวางอยู่ตรงหน้าหู่จือกับเป้าจืออีก หู่จือก็เตะไปข้างหน้าต่อ เป็นการเตะที่ท่าทางเหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์แชวแชนกอเตะทำประตู พวกมันเตะจนอาหารสุนัขลอยโด่งไปไกล
แล้วต่อไปจะทำอย่างไรต่อล่ะ? เอริก้ากับผู้กำกับผมหางม้าต่างจ้องไปที่ฉินสือโอว
ฉินสือโอวจึงทำได้แต่ต้องไปปลอบหู่จือกับเป้าจือ ให้พวกมันยอมกินอาหารสุนัข
แลบราดอร์ดึงหน้าสุนัขลงไปยาวๆ พวกมันไม่ยอมกิน หลังจากถูกรบเร้าจนเบื่อแล้ว ก็หนีไปเลย สวมแว่นตาดำวิ่งไปกลิ้งไปมาบนสนามหญ้า
เอริก้าร้อนรนขึ้นมา ถามว่า “มีวิธีอื่นที่ทำให้พวกเขายอมกินอาหารสุนัขไหมคะ?”
ผู้ช่วยของเธอก็หมดหนทาง พูดว่า “แลบราดอร์ที่ไม่กินอาหารสุนัข ผมก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก อีกอย่างสุนัขที่ไม่กินอาหารสุนัขยังถือว่าเป็นสุนัขอยู่เหรอครับ?”
ฉินสือโอวปลอบพวกเขาว่า “ไม่เป็นไรครับ พวกคุณพักผ่อนก่อน เรื่องนี้เป็นหน้าที่ผมเอง พอถึงเวลากินข้าวแล้ว พวกมันไม่อยากกินก็ต้องกิน ไม่อย่างนั้นก็ให้พวกมันทนหิวไปเลย!”
พวกกอร์ดอน เชอร์ลี่ย์มองตากันทีหนึ่ง แล้วขยับเข้าไปซุบซิบข้างหูกันว่า “ทำไมฉินถึงใจร้ายกับหู่จือเป้าจือแบบนี้ล่ะ? ค่าพรีเซนเตอร์อ่ะนะ เป็นเพราะเรื่องเงินทั้งนั้น!” “เอ๋ ฉินที่เป็นคนดีขนาดนั้น ได้เปลี่ยนไปแล้วเหรอ!” “จะพ่อหรือจะแม่ก็สู้ดอลลาร์แคนาดาไม่ได้หรอกนะ”
เมื่อเป็นแบบนี้เวลาอาหารค่ำจึงกลายเป็นเวลาที่จะพลิกสถานการณ์ได้ หู่จือกับเป้าจือเห็นว่าไม่มีของให้พวกมันกิน ส่วนฉินสือโอวก็เทอาหารสุนัขของแอนนาแมร์ไว้ในถ้วยพวกมัน
มองดูหู่จือกับเป้าจือกินอาหารสุนัขชื่อดังสูตรพรีเมียมที่ตัวเองภูมิใจอย่างหมดอาลัยตายอยากแล้ว เอริก้าก็รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูกขึ้นมา
อาหารสุนัขของบริษัทตัวเองเป็นถึงยี่ห้อดังในหมู่ยี่ห้อดังเลยนะ และยังได้ตั้งเป้าหมายว่าสูตรพรีเมียมตัวนี้จะกลายเป็นตัวท็อปในตลาดของอาหารสุนัขอีกด้วย ทำไมถึงถูกสุนัขพวกนี้ไม่เหลียวแลได้ล่ะ? หรือว่าอาหารสุนัขของตัวเอง แย่กว่าอาหารของฟาร์มปลาขนาดนั้นเลยเหรอ?
เอริก้าคิดอย่างไม่เข้าใจ จากนั้นก็ใช้มีดสำหรับตัดอาหารตัดเนื้อปลาทะเลตัวแบนมาชิ้นหนาๆ ชิ้นหนึ่งแล้วยัดเข้าปาก ดื่มไอซ์ไวน์ไปอีกอึกหนึ่ง จากนั้นก็ตามด้วยเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ชิ้นขาวเนียนชิ้นหนึ่ง อื้ม รสชาติอร่อยมาก…
ฉินสือโอวรู้สึกว่าหู่จือกับเป้าจือกินอาหารสุนัขสูตรนี้ก็ดีเหมือนกัน จากชื่อก็ดูออกแล้ว อาหารสุนัขจากทะเลน้ำลึกสูตรไร้ข้าวสาลี เป็นอาหารระดับพรีเมียมอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอาหารของสัตว์เลี้ยง แต่เอริก้าบอกว่าอาหารสุนัขของพวกเขาสูตรนี้มีแต่สารกันบูดธรรมชาติ เป็นอาหารออแกนิค ในสูตรนี้อุดมไปด้วยโอเมก้าสามแถมยังเคี้ยวอร่อย เป็นอาหารสุนัขระดับชั้นยอด
เมื่อเป็นแบบนี้ การให้หู่จือกับเป้าจือกินอาหารสุนัข ก็ไม่ถือว่าทำร้ายพวกมัน ฟังจากคำพูดที่เอริก้าพูดแล้ว ฉินสือโอวเองยังอยากกินเลย
การถ่ายทำดำเนินการไปสองวัน หลังจากหู่จือกับเป้าจือกินตอนกินอาหารค่ำแล้ว ตอนหลังจึงเริ่มถ่ายทำง่ายขึ้น ฉินสือโอวใช้แกงตุ๋นปลาลิ้นหมาที่มีพลังโพไซดอน อาหารสุนัขพวกนี้สามารถใส่น้ำแกงเข้าไปกินด้วยได้ การเติมน้ำแกงลงไปนิดหน่อยระหว่างการถ่ายทำ ทำให้หู่จือกับเป้าจือกินกันได้อย่างเอร็ดอร่อย
ส่วนอาหารสุนัขยี่ห้ออื่นเหรอ? ท่าทีของหู่จือกับเป้าจือยังคงเป็นการเตะโด่งออกไปเหมือนเดิม แถมยังมีการพัฒนาไปเป็นการเตะส่งให้กันด้วย สงสัยคงเอาความแค้นที่มีต่อแอนนาแมร์ไปลงกับอาหารสุนัขรากหญ้าพวกนี้แทนแน่เลย
ถ่ายคลิปสั้นๆ เสร็จ งานถ่ายทำก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว ผู้กำกับผมหางม้ามาจับมือกับฉินสือโอวเพื่อบอกลา บอกว่าเขาไม่เคยเจอสุนัขที่ทั้งเชื่องและฉลาดอย่างหู่จือกับเป้าจือมาก่อนเลย ตอนแรกยังวางแผนกันว่าจะต้องถ่ายหนึ่งอาทิตย์ แต่สุดท้ายถ่ายแค่สองวันก็เสร็จแล้ว ประสิทธิภาพแบบนี้ถือว่าสูงจนน่าตกใจเลย
ฉินสือโอวหัวเราะฮ่าๆ อย่างหยิ่งทะนง ผู้กำกับผมหางม้าพูดต่อว่า หากว่าได้ถ่ายหนึ่งอาทิตย์จริงๆ พวกเขายังสามารถหาเงินได้เยอะขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับจบงานในสองวัน ทำให้ได้เงินน้อยเลย…
การถ่ายทำโฆษณาถ่ายทำกันที่ฟาร์มปลา หลังจากพวกของเอริก้ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวจึงไปเก็บกวาดเสียหน่อย กอร์ดอนรีบไปรั้งเขาไว้ แล้วพูดว่า “งานพวกนี้ให้ผมทำเถอะ ให้เท่าไรครับ?”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หนุ่มน้อย นายในตอนนี้มีความคิดที่อันตรายมากนะ ทำไมอะไรก็จะเอาแต่เงินล่ะ? แล้วความสัมพันธ์ล่ะ?”
กอร์ดอนคิดสักพักแล้วก็พยักหน้า แล้วพูดว่า “โอเค เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ลดให้คุณยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
ฉินสือโอวเห็นว่าพวกเด็กๆ เสพติดการทำงานหาเงินค่าขนมแล้ว จึงได้ทีเอางานที่คิดว่าจะทำเองให้พวกเขาทั้งหมด ทุกวันจะมีการจ่ายงาน ให้พวกเขามารับงานกันเอง พอถึงเวลาเขาจะไปตรวจงาน หากตรวจงานแล้วไม่มีปัญหาอะไรจึงจะจ่ายค่าแรงให้พวกเขา
หลังจากได้ยินข้อเสนอนี้แล้ว พวกเด็กๆ ก็พากันให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น ชาร์คน้อยพูดว่า “เท่ไปเลยครับ ฉิน จุดนี้มีส่วนคล้ายกับนักล่ารางวัลในช่วงจักรวรรดินิยมของตะวันตกเลยใช่ไหมครับ? ตอนนี้พวกเราก็คือนักล่ารางวัล”
“งั้นเหยื่อรายแรกของพวกเราคืออะไรครับ?” พวกเด็กๆ ถาม
ฉินสือโอวคิดสักพัก แล้วพูดว่า “งั้นไปเก็บกวาดที่ดินที่ปลูกฟักทองของพวกเราแล้วกัน? จะต้องทำการถอนหญ้า นี่คือภารกิจราคายี่สิบเหรียญ…”
“ผมไป!” กอร์ดอนรีบแย่งพูด
“แล้วยังต้อง เอ่อ พรวนดิน แบบนี้จะได้เป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้ดิน เพื่อเป็นการถ่ายเทออกซิเจน สามารถเร่งการเจริญเติบโตของฟักทองได้ นี่น่ะคือภารกิจยี่สิบห้าเหรียญ”
“ผมรับเอง!” ชาร์คน้อยพูดพลางตบอกตัวเอง
“จากนั้นก็ตามด้วยให้ปุ๋ย ใครจะให้ปุ๋ยล่ะ? นี่คือภารกิจสามสิบเหรียญ”
“เป็นหน้าที่ผมเอง” พาวลิสพูด
“หลังจากให้ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำด้วย แต่เรื่องนี้ฉันทำเองได้” ฉินสือโอวพูด มิเชลกับเชอร์ลี่ย์จ้องไปที่เขาอย่างคาดหวัง “แล้วพวกเราล่ะ?”
“ยังมีงานที่สำคัญกว่ามากอีก นั่นก็คือการตัดแต่งและตอนกิ่ง พวกเธอสองคนทำพวกนี้กัน นี่คืองานสำหรับแปดสิบเหรียญ พวกเธอสองคนแบ่งกันได้คนละสี่สิบเหรียญพอดี” ฉินสือโอวพูดเสร็จ มิเชลกับเชอร์ลี่ย์ก็ร้องเสียงดีใจ ปรบมือยินดีกัน
กอร์ดอนคิดทบทวนพักหนึ่ง สุดท้ายก็รู้สึกว่าไม่ถูก “พระเจ้า ฉิน ทำไมหลังๆ ค่าจ้างถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ละครับ? เงินที่ผมหาได้น้อยที่สุดเลย!”
ฉินสือโอวชูนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วพูดว่า “นี่คือบทเรียนภาคฤดูร้อนบทแรกที่ฉันจะสอนให้พวกเธอ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ควรรีบร้อน ต้องใจเย็น เข้าใจไหม?”
กอร์ดอนถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างหมดหนทาง ทำได้แต่เพียงยอมรับความจริงนี้เท่านั้น
จ่ายงานเสร็จแล้ว ฉินสือโอวพาพวกเขาไปที่แปลงปลูกฟักทอง ต้นกล้าฟักทองที่ปลูกไว้โตแล้ว เถาวัลย์สีเขียวขจีเติบโตยั้วเยี้ยไปทั่วแปลงผัก ทั้งยังเต็มไปด้วยต้นหญ้าและวัชพืชด้วย
งานถอนหญ้าเป็นงานที่เหนื่อยที่สุด แต่ค่าแรงกลับถูกที่สุด กอร์ดอนไม่อยากทำ จึงอืดอาดอยู่ตรงนั้น
ฉินสือโอวชี้ไปที่เขาแล้วพูดว่า “เฮ้ เด็กน้อย รีบทำงาน ตอนนี้พวกเธอก็คือนักล่ารางวัลเข้าใจไหม? รับงานแล้วก็ไม่สามารถคืนได้ พวกเธอต้องมีจรรยาบรรณในอาชีพ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาทำงานนี้!”
…………………………………………………